ราคาทองคำ ก้าวขึ้นมาอีกขั้น จ่อแตะ 2,000 ดอลลาร์ แต่ยังต้องรอแรงหนุน เพราะเป็นแนวต้านจิตวิทยาที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี ยังต้องระวังปัจจัยลบจากความเห็นเจ้าหน้าที่เฟดที่ออกมาจี้ให้ ปธ.เฟด ขึ้นดอกเบี้ยแรง เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ดัชนีดอลลาร์ และ บอนด์ยีลด์ 10 ปี พุ่งทำลายสถิติใหม่ และทำให้ราคา gold spot อ่อนตัวลงมา แต่ยังยืนเหนือ 1970 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่ราคาทองคำไทย เช้านี้อ่อนตัวลง 100 บาท
ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ 1978 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากวิกฤติในยูเครนได้ทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อกองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังยูเครนและเป้าหมายทางการทหารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังได้เริ่มการโจมตีเมืองลวีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในภาคตะวันตกของยูเครน
นอกจากนั้น ทองคำได้แรงหนุนจากเรื่องเงินเฟ้อ
ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ที่ 1,998 ดอลลาร์
ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรงจากแรงขายทำกำไร และแรงขายทางเทคนิค หลังจากราคาเข้าสู่ภาวะ Overbought และ เกิด RSI Bearish Divergence
ประกอบกับนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรง เพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อนจาก Fed funds futures ที่บ่งชี้โอกาส 96% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมเดือน พ.ค. ทำให้ดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 100.864
ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ที่ระดับ 2.884%
นอกจากนั้น ราคาทองคำยังถูกกดดันจากกรณีที่ นายเจมส์ บูลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุย ให้ความเห็นว่า เฟดจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3.5% ในปีนี้ ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% หลายครั้ง และไม่ควรตัดโอกาสการขึ้น 0.75%
ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานเฟด กล่าวว่า 0.5% มีความเป็นไปได้ในการประชุมเฟด 3-4 พ.ค. นี้ แต่ไม่เคยกล่าวถึง 0.75% แต่อย่างใด ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็จะมีประธานหลายสาขาออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน จึงควรระมัดระวังนัยเชิงตัวเลขเป็นพิเศษ
ด้าน Ausiris มองว่า
ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กดดันทองคำ ยิ่งใกล้การประชุม FOMC มาทุกที กับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.5% และการลดงบดุล 9.5 หมื่นล้านต่อเดือน เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนมี.ค. แตะ 8.54% ที่สะสมราคาอาหารเพิ่มขึ้น 8.8% และราคาพลังงานขึ้น 32% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำในระยะต่อไป
นอกจากนั้น ธนาคารโลกได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.2% จากเดิมที่ระดับ 4.1% โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
คำแนะนำ : ให้ซื้อ 1,970-1,975 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไร 1,985-1,995 ดอลลาร์ โดยมี จุด stoploss ที่ 1,956 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% : ซื้อที่ 31,435-31,510 บาท เป้าทำกำไร 31,670-31,830 บาท โดยมี จุด stoploss 31,210 บาท
ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
เช้านี้ (19 เม.ย.) ปรับตัวลดลง 100 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.30 น.) อยู่ที่ 31,600 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 31,500 บาท
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม 0.87 ตัน
สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น