เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นแรง โดยกระโดดขึ้นจากระดับ 1,869 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะ 1,892 ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาได้ร่วงลงหนัก จาก 1,906 ดอลลาร์ มาแตะ 1,865 ดอลลาร์ หลังตัวเลขศก.สหรัฐดีขึ้นทุกตัว ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาจะลงไปแตะต่ำสุดที่ระดับ 1,856 ดอลลาร์
สาเหตุที่ราคาทองคำดีดแรง เนื่องมาจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เดือน พ.ค. ที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ที่ระดับ 670,000 ตำแหน่ง โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่งเท่านั้น ส่วนอัตราการว่างงานเดือนพ.ค.ลดลงสู่ระดับ 5.8% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.9% หลังจากเดือนเม.ย.แตะระดับ 6.1%
นอกจากนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือน มี.ค. เป็นเพิ่มขึ้น 785,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 770,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือน เม.ย. เป็น 278,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่ง
ส่วนการจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 492,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 67,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ลดลงสู่ระดับ 61.6%
มีรายงานว่าหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยล่าสุด (21.15 น.) อยู่ที่ 1.576 % ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงเช่นกัน ล่าสุดแตะ 90.068
ทั้งนี้นักลงทุนมองว่าการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนพ.ค.ที่ต่ำกว่าคาด และเป็นการต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2 เดือนติดกัน จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่มีแนวโน้มที่จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT กล่าวกับ GoldAround.com ว่า หากตัวเลข NFP ออกมาดี แต่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ จะทำให้ราคาทองคำรีบาวด์ได้ และต้องไปดูว่าจะสามารถกลับไปยืนเหนือ 1890 ดอลลาร์ได้หรือไม่ หากยืนได้อย่างแข็งแกร่งยังมองว่ายังเป็นขาขึ้นทองราคาทองคำ และราคาอาจจะขึ้นไปแตะระดับ 1950 ดอลลาร์ได้ (อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม หรือ ฟังคลิปการสัมภาษณ์ทางยูทูป )
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้ายังคงต้องดูตัวเลข CPI ซึ่งคาดว่าจะออกมาสูงเพราะตัวเลขเงินเฟ้อสูงมาก และหากตัวเลขทั้ง 2 ทำให้ ปธ.เฟด ยังคงนโยบายเดิม ทั้งวงเงิน QE และใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เชื่อว่าจะยิ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำ แต่ส่วนตัวยังมองว่าราคาจะไม่ไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 2,065 ดอลลาร์ ยกเว้นว่าจะเกิดสถานการณ์รุนแรง หรือตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งแรงเข้ามาหนุน
ความคิดเห็นถูกปิด