มาดูการเคลื่อนไหวของ ราคาทองคำ ได้ sideway ขาลง ในกรอบ 1,910-1,935 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ซึ่ง Fed funds futures บ่งชี้ว่า มีโอกาสมากกว่า 80% ที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเพิ่มขึ้นอีก 1.5% สู่ระดับ 2%-2.25% ภายในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดวันที่ 26-27 พ.ค. ทำให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งแรงแตะ 101.736 สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงแตะ 2.806%
ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลก ลดลงแตะ 96.59 ดอลลาร์ ต่อบาเรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานาน และการที่เฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ประเด็นที่กล่าวมานี้จึงเป็นปัจจัยลบได้
ทั้งนี้ YLG ให้มุมมองว่า
เป็นโอกาสในการเสี่ยงเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,915 ดอลลาร์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,940-1,958 ดอลลาร์
ขณะที่ InterGold ระบุว่า
ราคาลงทะลุแนวรับ 1,940 ดอลลาร์ ลงมา อาจเริ่มเข้าสู่กรอบใหม่ที่ 1,915-1,940 ดอลลาร์ โดยโซน 1,915 ดอลลาร์ นั้นถือเป็นแนวรับท้าย ๆ แล้ว ก่อนที่ราคาอาจจะลงทะลุ 1,900 ดอลลาร์ ได้
อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1,915 ดอลลาร์ ถูกใช้เป็นแนวรับมาอย่างหลายครั้ง หากลงมาอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีแรงดีด หรือแรงซื้อกลับเข้ามา โดยโซนขายระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,940 ดอลลาร์ แนวรับเก่าที่กลายเป็นแนวต้านใหม่
สาเหตุที่ทำให้ทองคำและสินทรัพย์อื่น ๆ ปรับตัวลงนั้น เป็นเพราะการยืนยันของประธานเฟด ถึงมาตราการยาแรงที่จะยับยั้งเงินเฟ้อ โดยการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือ เงินเฟ้อ หลังจากตลาดเริ่มซึมซับสักพัก คาดว่าทองคำจะเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง
ขณะที่ Julius Baer analyst Carsten Menke กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ดูเหมือนว่าความกลัวเรื่องเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือน พ.ค. และอาจจะขึ้นในอัตราเดียวกันในเดือนถัดไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อ กำลังกดดันราคาทองคำ
ซึ่งทองคำมีความอ่อนไหวสูงต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น รวมถึงเงินดอลลาร์ ที่มักถูกมองว่าเป็นอีกสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง
ทั้งนี้ Menke มองว่า ราคาทองคำจะลดลง เหลือ 1,850 ดอลลาร์ ใน 3 เดือนข้างหน้า โดยราคาปัจจุบันค่อนข้างแพงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะมองว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังจะคลี่คลาย
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น