ทองปรับขึ้นสูงสุดรอบ 1 เดือน จากความตึงเครียดสหรัฐและจีน
ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. โดย ISM
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงเล็กน้อย
- ราคาทองคำ spot เมื่อวานที่ผ่านมาปรับขึ้นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน จากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่จีนอย่างมาก โดยจีนมองว่าการที่นางเพโลซีเยือนไต้หวันเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ส่งผลให้จีนประกาศว่าจะทำการทดสอบขีปนาวุธและจัดการซ้อมรบในบริเวณใกล้กับช่องแคบไต้หวัน ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 2.9 ตันจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 53.5 จาก 55.3 ในเดือนมิ.ย. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% จากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงเล็กน้อย โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,750 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,740 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,759.30 | 1,750/1,740 | 1,780/1,790 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
30,350 | 30,200/30,100 | 30,500/30,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
30,350 | 30,250/30,130 | 30,470/30,590 |
สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาปรับลงมาบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ (GF 30,250 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740 ดอลลาร์ (GF 30,130 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,771.50 | 1,752/1,742 | 1,782/1,792 |
สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรเมื่อราคา GOU22 ปรับลงมาบริเวณที่ 1,752 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,742 ดอลลาร์
ค่าเงิน
เมื่อวานที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทคาดว่าแข็งค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.65 มีแนวรับที่ 35.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 36.70 บาท/ดอลลาร์
News
ทูตจีนเตือน “เพโลซี” เยือนไต้หวันบั่นทอนความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน
นายจาง จวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นางเพโลซีวางแผนเยือนไต้หวัน และจะพบปะกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันในวันพรุ่งนี้ ขณะที่สหรัฐประกาศว่าไม่หวั่นเกรงต่อคำเตือนของจีน แม้จีนขู่ว่าจะไม่ยอมนิ่งเฉยหากนางเพโลซีเยือนไต้หวันจริง “เห็นได้ชัดว่า การเดินทางเยือนไต้หวันเช่นนี้เป็นเรื่องอันตรายและการยั่วยุอย่างยิ่ง โดยหากนางเพโลซีเยือนไต้หวันจริงก็ถือเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ” นายจางกล่าวในการแถลงข่าววานนี้ซึ่งเป็นช่วงที่จีนเริ่มต้นเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประจำเดือนส.ค. นายจางระบุด้วยว่า การเยือนไต้หวันของนางเพโลซีไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกับการเดินทางเยือนไต้หวันครั้งที่แล้วของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในปี 2540 “ความผิดพลาดครั้งก่อนไม่อาจใช้เป็นเหตุผลอันชอบธรรมในการทำผิดซ้ำเดิม ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ในไต้หวันก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยการสนับสนุนจากกองกำลังภายนอก ไต้หวันมุ่งมั่นที่จะประกาศตนเป็นเอกราชมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากเราไม่ดำเนินการอย่างเหมาะสมและเด็ดขาดเพื่อยับยั้ง สถานการณ์ก็อาจหลุดจากการควบคุมได้” นายจางกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในนิวยอร์ก นอกจากนี้ นายจางได้เรียกร้องให้สหรัฐเคารพต่อพันธสัญญาที่จะยึดมั่นต่อหลักการจีนเดียว โดยเขาระบุว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ย้ำพันธสัญญาดังกล่าวในการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สหรัฐเผยตาลีบันละเมิดข้อตกลง ให้ที่กบดานผู้นำอัลกออิดะห์ก่อนถูกสังหาร
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มตาลีบันได้ละเมิดข้อตกลงโดฮา (Doha Agreement) ด้วยการให้ที่พักพิงและแหล่งกบดานแก่นายอัยมาน อัล-ซอวาฮิรี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มอัลกออิดะห์ “ในขณะที่เผชิญกับความไม่เต็มใจของกลุ่มตาลีบัน และการที่พวกเขาไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ เราก็จะยังคงสนับสนุนชาวอัฟกานิสถานต่อไป โดยการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและปกป้องสิทธิมนุษยชนของชาวอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิของเด็กและสตรี” นายบลิงเกนกล่าว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ออกแถลงการณ์ในช่วงเช้านี้วันนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า กองทัพสหรัฐได้ใช้โดรนสังหารนายอัล-ซอวาฮิรีที่กรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งถือเป็นการกวาดล้างกลุ่มอัลกออิดะห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กองทัพสหรัฐได้สังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัลกออิดะห์ในปี 2554
สหรัฐตำหนิรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครนเป็นโล่กำบังการโจมตี
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหาว่า รัสเซียใช้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน เพื่อเป็นโล่กำบังการโจมตีจากกองทัพยูเครน และตำหนิว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก “สหรัฐมีความกังวลอย่างยิ่งที่รัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวเป็นฐานที่มั่นทางทหาร และยิงปืนใหญ่ใส่กองทัพยูเครนจากพื้นที่ดังกล่าว” นายบลิงเกนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังการหารือว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ในนิวยอร์ก “แน่นอนว่ายูเครนไม่สามารถยิงตอบโต้ไปที่นั่นได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์” โดยนายบลิงเกินพูดต่อไปว่า “การกระทำของรัสเซียเกินกว่าจะใช้คำว่า โล่มนุษย์ ต้องเรียกว่าเป็น โล่นิวเคลียร์” ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนได้กล่าวหาว่า รัสเซียซ่องสุมกองกำลังและเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารไว้ในชั้นใต้ดินของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียถูกกล่าวหาว่ายิงปืนใหญ่ใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซียเมื่อดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่กองกำลังรัสเซียได้เข้ายึดครองในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ที่บุกยึดยูเครน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.