คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย 1,959-1,966

จุดทำกำไร     ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,932-1,915

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,966

แนวรับ : 1,932 1,915 1,897  แนวต้าน : 1,966 1,981 2,002

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงไปทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,936.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวลดช่วงติดลบโดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ Buy the Dip และแรงซื้อทางเทคนิคหลังจากเกิดสัญญาณ RSI Bullish Divergence ที่บ่งชี้ว่าแรงขายเริ่มชะลอความแข็งแกร่งลง ประกอบกับสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา “แย่เกินคาด”

อาทิ ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกจากเฟดฟิลาเดลเฟียที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 17.6 ในเดือนเม.ย. ส่วนตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ระดับ 184,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 182,000 ราย ปัจจัยดังกล่าวสร้างแรงหนุนให้แก่ราคาทองคำเพิ่ม ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวลดช่วงติดลบลง อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด

เนื่องจากเผชิญกับปัจจัยกดดันสำคัญ ได้แก่ ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 99.819 ปิดแข็งค่าขึ้น 0.28% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดบริเวณ 2.82% สู่ระดับที่ 2.900% หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้

ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุวานนี้ว่าอาจจำเป็นต้องปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจลงอีก เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ สถานการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่สกัดช่วงบวกของทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.61 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 368.03 จุด หลังพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดบ. 0.5% ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,792.76 จุด ลดลง 368.03 จุด หรือ -1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,393.66 จุด ลดลง 65.79 จุด หรือ -1.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,174.65 จุด ลดลง 278.41 จุด หรือ -2.07%

• (+) “เยลเลน” ชี้ IMF, เวิลด์แบงก์ไม่ได้ถูกออกแบบให้รับมือวิกฤตซ้ำซ้อน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับมือกับวิกฤตการณ์ซ้ำซ้อนที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้แก่ ผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน และการแพร่ระบาดของโควิด-19 “เรากำลังเผชิญกับความท้าทายซึ่งจำเป็นต้องมีการลงทุนจำนวนมากซึ่งสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถรับมือได้เพียงลำพัง เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้วงเงินสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์” นางเยลเลนกล่าวในการประชุม IMF และธนาคารโลก

• (+) เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ลดลงสู่ระดับ 17.6 ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 21.9 จากระดับ 18.6 ในเดือนมี.ค.

• (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 184,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 182,000 ราย

• (+) น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.6 รับข่าว EU เล็งคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) หลังมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 103.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 108.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

• (+) “มาครง” จ่อนั่งเก้าอี้ผู้นำฝรั่งเศสสมัย 2 หลังโพลล์ชี้ชนะดีเบต “เลอเปน” ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองในวันอาทิตย์นี้ หลังผลการสำรวจพบว่า ปธน.มาครงเป็นฝ่ายชนะการประชันวิสัยทัศน์กับนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรคขวาจัด ในการดีเบตที่จัดขึ้นวานนี้ ทั้งนี้ ผลสำรวจของ BFM TV พบว่า ผู้ชมการถ่ายทอดสดจำนวน 59% ให้ปธน.มาครงเป็นฝ่ายชนะการดีเบตการประชันวิสัยทัศน์กับนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรคขวาจัด ในการดีเบตที่จัดขึ้นวานนี้

• (+) “เซเลนสกี” ลั่นไม่เดินทางไปเจรจา “ปูติน” ที่มอสโก ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดินทางไปยังกรุงมอสโกเพื่อเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อยุติสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย

• (+) ไบเดน ประกาศเพิ่มงบช่วยเหลือยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์-เปิดรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพิ่ม ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครนเพิ่มอีก 800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ รัฐบาลกรุงวอชิงตันพร้อมปรับเปลี่ยนการทำงานด้านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรับผู้อพยพลี้ภัยชาวยูเครนเพิ่มด้วย ปธน.ไบเดน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวการเพิ่มความช่วยเหลือแก่ยูเครนที่ทำเนียบขาวว่า “งบประมาณนี้รวมความถึง อาวุธปืนใหญ่พลังโจมตีสูง ปืนใหญ่ ‘เฮาวิทเซอร์’’ พร้อมกระสุนจำนวน 144,000 นัด ด้วย”

• (-) ดอลล์แข็งค่า รับพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดบ. 0.5% เดือนหน้า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 100.5780 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 128.27 เยน จากระดับ 127.80 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9531 ฟรังก์ จากระดับ 0.9488 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2582 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2504 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0841 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0845 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3028 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3056 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7369 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7441 ดอลลาร์สหรัฐ

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)