ทองร่วงแรง 3 สัปดาห์ติด และอาจลงถึง $1,900-1,896 หลังแนวโน้ม FED ขึ้นดอกเบี้ยเริ่มมีมากขึ้น
ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสัปดาห์ล่าสุดลดลงไปอีก 31 ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์
และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีโอกาสที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน มิ.ย.
Bart Melek global head of commodity strategy ของ TD Securities กล่าวกับ Kitco News ว่า
ตัวเลขเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะดัชนี PCE ล้วนอยู่เหนือความคาดหมาย
โดยดัชนี PCE หลักเดือน เม.ย. ขึ้นไปที่ 4.7% ซึ่งอัตราเงินเฟ้อใกล้ 5% อาจจะสูงเกินที่จะทำให้ FED หยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือน มิ.ย. โดยตลาดให้น้ำหนักถึง 60% ที่ FED จะปรับขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.
ยิ่งไปกว่านั้น ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในทิศทางการแข็งค่า และราคาทองคำก็ตอบรับด้วยการขยับลง
โดย Bart Melekมองว่า ภาพรวมราคาทองคำในไตรมาสนี้จะอ่อนตัวลง หลังตลาดคาดการณ์เรื่องนโยบายของ FED ผิดไป
Melek กล่าวว่า แนวรับถัดไปสำหรับทองคำอยู่ที่ 1,940 ดอลลาร์ หากหลุดลงไป อาจจะไปถึง 1,915 และ 1,900 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญจะอยู่แถว 1,900-1,896 ดอลลาร์
Frank Cholly senior market strategist ของ RJO Futures กล่าวกับ Kitco News
ยังเร็วเกินไปจะระบุว่า ตอนนี้ทองคำลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากร่วงลงมากกว่า 125 ดอลลาร์ นับตั้งแต่การทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตลาดกำลังบอกว่า จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน มิ.ย. และอาจจะขึ้นอีกครั้งหนึ่งในเดือน ก.ค. ซึ่งทองคำไม่ชอบสิ่งนั้น
สำหรับข้อมูลที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า
วันอังคาร จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ จาก CB วันพุธจะมีตำแหน่งงานว่างของ U.S. JOLTs
ขณะที่ วันพฤหัสบดี จะมีตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ, การจ้างงานนอกภาคเกษตรของ ADP และ PMI ภาคการผลิตของ ISM
วันศุกร์จะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และอัตราการว่างงาน
ที่มา: Kitco.com
Comments are closed.