YLG ชี้แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐลดต่ำดันราคาทองพุ่ง แต่ต้องจับตา FED ใกล้ชิด
หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ ได้เผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) สหรัฐ เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.3% หากเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 5.3% (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเวลาต่อมา
“แม้อัตราเงินเฟ้อจะออกมาต่ำกว่าคาด พร้อมกับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน แต่ภาพรวมอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดังนั้นทิศทางราคาทองคำหลังจากนี้ยังคงต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟด จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมนโยบายการเงินของเฟด (FOMC )ในวันที่ 21-22 กันยายนนี้ ”
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com
ส่วนการประเมินการเคลื่อนไหวของราคาราคาทองคำในระยะสั้น YLG มองว่ามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น หลังจากราคาทองคำสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับบริเวณ 1,782-1,775 ดอลลาร์ และทะลุขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ที่เป็นแนวต้านจิตวิทยาและเส้นค่าเฉลี่ย 10, 21 และ 50 วันได้

อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway down ในระยะกลาง และยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวบริเวณ 100 และ 200 วัน อีกทั้งยังคงเกิดสัญญาณ Death Cross โดยแนวโน้มดังกล่าวเกิดจาก“เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น(SMA 50) ตัดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว(SMA 200)” ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่แสดงสภาวะของตลาดว่ากำลังมีแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“แม้ทิศทางในระยะสั้นจะเป็นบวก แต่ YLG แนะนำเช่นเดิมว่าควรจะขายทำกำไรในทุกครั้งที่ราคาทดสอบแนวต้าน แล้วรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงเท่านั้น เนื่องจากภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังมีความไม่แน่นอน”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว
สำหรับผู้ที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง บริเวณแนวต้าน 1,816-1,833 ดอลลาร์ แต่หากผ่าน 1,833 ดอลลาร์ไปได้แนะนำถือต่อ เพราะการผ่านจุดดังกล่าว จะส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำเป็นบวกมากยิ่งขึ้น และจะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,849-1,864 ดอลลาร์
ส่วนผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในมือ ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ แต่แนะนำให้เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นหลัก โดยหาจังหวะสะสมทองคำบริเวณแนวรับ 1,789-1,775 ดอลลาร์ และจำเป็นต้องตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,775 ดอลลาร์ เนื่องจากการปรับฐานจะเป็นไปในรูปแบบที่ลึกมากขึ้นหากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว
ขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ จำกัด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.