ราคาทอง 4 ธ.ค.66
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในคืนวันศุกร์ราคาทองคำปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 2,075 เหรียญ ก่อนลงมาปิดที่ระดับ 2,070 เหรียญ ซึ่งปรับขึ้นจากระดับปิดวันพฤหัสบดีประมาณ 35 เหรียญ หลังนาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดสหรัฐฯ แถลงถึงแนวโน้มที่เฟดอาจยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยตลาดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่เดือนมีนาคม
ด้านกองทุนทองคำ SPDR ในวันศุกร์ซื้อเข้า 2.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.82 ตัน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัวลง ท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังคงตึงเครียดมากขึ้น โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพอิสราเอลได้กลับมาเปิดปฏิบัติการสู้รบในฉนวนกาซาอีกครั้ง โดยขยายขอบเขตไปยังฉนวนกาซาซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ทำให้ตลาดคาดว่าสงครามมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำเช้านี้ขยับขึ้นไปที่ระดับประมาณ 2,143 เหรียญ โดยขึ้นมากว่า 60 เหรียญ ซึ่งถือเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) อีกครั้ง ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรกลับลงมา อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเป็นหลัก ซึ่งน่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และเริ่มเข้าสู่ภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 2,070 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 2,100 เหรียญ สำหรับกลยุทธ์ยังคงแนะนำให้เข้าซื้อขายตามแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และไม่แนะนำให้เปิดสถานะขาย โดยแนะนำให้ปิดสถานะขายให้มากที่สุด
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,080 เหรียญ และแนวต้าน 2,110 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,070 เหรียญ และแนวต้าน 2,100 เหรียญ ในส่วนของราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 34,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 34,400 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Open Long เทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทยอยปิดสถานะตามกรอบแนวรับเมื่อราคาลงมา ลดความเสี่ยงของพอร์ต ยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะเพิ่ม และควรกำหนดจุด Stop Loss