สัมภาษณ์พิเศษ คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด ( InterGOLD )
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ทองคำยุค “ทรัมป์ 2.0” ไม่ร้อนแรง เหตุปัจจัยไม่เอื้อ ลุ้นไม่ให้พักฐานแรง
ปีที่ผ่านมา ทองคำปรับตัวขึ้นร้อนแรงจนทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง ก่อนจะส่งสัญญาณชะลอตัวแรงหลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. ที่จะถึงนี้
แม้ว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของปีนี้ ราคาจะปรับขึ้นแรง หลังตลาดกังวลหลายนโยบายของทรัมป์ ทำมุมมองต่อตลาดทองคำในปีนี้ยังคงมีความหลากหลาย
คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด กล่าวกับ GoldAroud ว่า หากจะมองย้อนไปในช่วงที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรอบแรก เมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยในช่วง 4 ปีที่ครองตำแหน่ง เป็นช่วงที่ราคาทองคำไม่สู้ดี
โดยในช่วง 2 ปีแรก ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแค่ 5% แต่จะมาดีช่วงท้าย เพราะได้แรงหนุนจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
ทั้งนี้ เรื่องของสงครามการค้าที่เจ้าตัวได้ประกาศไว้ในช่วงหาเสียงสมัยแรก ก็เริ่มมาเห็นผลในปีที่ 2 เพราะกว่าที่กฎหมายต่าง ๆ จะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ต้องใช้เวลา และทำให้การเข้ามารับตำแหน่งในรอบนี้ ก็ยังมองว่ากว่าที่สงครามการค้าจะเห็นผล ก็น่าจะเข้าช่วงปีที่ 2 ของการรับตำแหน่งเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง มองว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น และต้องจับตาการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ใกล้ชิด ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนโยกเงินจากทองคำไปยังสินทรัพย์ทั้ง 2 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำโดยตรง ทำให้มองว่าโอกาสของทองคำในปีนี้จะลดลง
ส่วนสภาพแวดล้อมระหว่างการดำรงตำแหน่งครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ในเรื่องเงินเฟ้อ ถือว่าต่างกันมาก ปัจจุบันเงินเฟ้อได้อยู่ในระดับสูงมาก และคิดว่าคงไม่ปรับขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับลดดอกเบี้ย และทองคำไม่ชอบสภาวะการณ์เช่นนี้
ส่วนเรื่องของสงคราม ยังมองว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน น่าจะจบลงได้ตามที่เจ้าตัวประกาศไว้ เพราะในอดีต โดนัลด์ ทรัมป์ และ ปธน.ปูตินฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
หากสหรัฐฯ จะยุติการสนับสนุนยูเครน เชื่อว่าความขัดแย้งจะยุติลง ส่วนความขัดแย้งในฝั่งตะวันออกกลาง ยังมองว่าอิหร่านยังไม่พร้อมที่จะเดินหน้าสงครามต่อ ก็อาจจะทำให้สงครามสงบไปอีกระยะ ซึ่งจุดนี้จะกดดันราคาทองคำเช่นกัน
ส่วนนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมองว่า ส่วนใหญ่จะหนุนให้ตลาดเงินตลาดทุน และตลาดหุ้นขยายตัว ซึ่งก็จะทำให้เกิดการโยกย้ายเงินทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปยังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หรือโยกเงินไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลดีต่อราคาทองคำเช่นกัน
“ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้น ทำให้มองว่าราคาทองคำปีนี้อาจจะไม่สดใสเหมือนกับปีที่ผ่านมา ยกเว้นว่าจะเกิดเหตุเหนือความคาดหมาย ก็อาจจะดันราคาให้พุ่งแรงได้ แต่หากว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ ราคาทองคำอาจจะมีการพักฐาน และการเคลื่อนไหวของราคาจะผันผวน” กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด กล่าว
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้เครื่องมือฟิโบนัชชี่ มองว่า เป้าที่ราคา gold spot จะปรับลดลงมาได้ แนวรับแรกอยู่แถว 2,556 ดอลลาร์ และ 2,515 ดอลลาร์ แนวรับลึกสุดอาจไปได้ถึง 2,340 ดอลลาร์ โดย 2 เป้าหมายแรกมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะเคยลงมาทดสอบเมื่อ เดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมาก่อนจะดีดกลับขึ้นไป
ส่วนแนวต้านแรกมองไว้แถว 2,720 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ ที่ราคาได้ขึ้นมาทดสอบแล้ว 2 ครั้ง มองว่ายังเป็นแนวต้านที่ผ่านมาได้ยาก แต่หากไปได้ มองแนวต้านที่ 2 แถว 2,790 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสูงสุดตลอดกาล และหากยังผ่านไปได้อีก ราคาจะไม่มีแนวต้าน และอาจจะขึ้นไปแตะระดับ 2,900-3,000 ดอลลาร์ ตามที่นักวิเคราะห์จากต่างชาติมองไว้
สำหรับราคาทองคำไทย ในช่วงต้นปีมีการปรับขึ้นแรง ได้แรงหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าแรง หลังเงินดอลลาร์แข็งค่า พร้อมราคาทองคำโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่ปกติเหมือนกับในช่วงที่เกิดสงคราม
ซึ่งมองว่า ในสภาวะในลักษณะนี้จะอยู่ไม่นาน ดังนั้น หากนักลงทุนมีกำไรยังมองว่าให้ขายออกมาก่อนเพื่อมารอซื้อเมื่อราคาปรับลดลง
ทั้งนี้ มองแนวต้านอยู่ที่ 44,250 บาท หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านสำคัญแถว 44,550 บาท โดยมองว่าปีนี้อาจจะไม่ได้เห็นสถิติสูงสุดใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูค่าเงินบาทว่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่ามากน้อยเพียงไร แต่มุมมองส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะอ่อนค่ามาก
ขณะที่ แนวรับยังมองไปแถว 42,000 บาท และมีโอกาสจะลงไปแถว 40,000-41,000 บาท แต่มองว่าไม่น่าจะหลุด 40,000 บาทลงไป แต่หากมีแรงหนุนพิเศษที่ดันราคาทองคำ gold spot ไปแตะ 2,900-3,000 ดอลลาร์ ก็อาจจะเห็นราคาทองคำไทยดีดไปแตะระดับ 47,000 บาท ได้
รับชมคลิป ทิศทางราคาทองคำ ปี 2568 – Gold Outlook 2025
VIDEO 
