สงครามการค้าโลกระอุ สหรัฐลุยเก็บภาษีคู่ค้าแต่ถูกโต้ทันควัน ดัน gold spot พุ่งแตะ $2,927
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันลดลง 200 บาท
ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.76 บาทต่อดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำในประเทศยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า
แนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับแรกที่ 46,200 และ 45,900 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,900 บาท มีเป้าทำกำไรที่ 46,700 และ 47,000 บาท
ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 4 มี.ค.)ราคาทองปรับขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,927 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดที่ 2,916 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์
โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ประกอบกับมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade War ระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าหลังจากสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน
ขณะเดียวกันมีการตอบโต้กลับจากแคนาดาที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 25% มีผลทันที จีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 15% ครอบคลุมสินค้าเกษตรเป็นหลัก มีผลวันที่ 10 มี.ค. นอกจากนี้สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับทุกประเทศเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น ปธน.ทรัมป์ จะแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ซึ่งอาจมีการกล่าวถึงมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นภาษีที่ยังมีโอกาสถูกเลื่อนออกไปหากมีเงื่อนไขบางประการ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการประกาศ PMI ภาคการบริการ เดือนก.พ. และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.พ. จาก ADP คาดลงลงแตะ 141,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 183,000 ราย
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า
วานนี้ราคาทองคำมีทั้งจังหวะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 2,926 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงมา 2,899 ดอลลาร์ ถือว่าทิ้งตัวเกือบ 30 ดอลลาร์ แสดงถึงราคามีทั้งจังหวะดีดตัว และจังหวะทิ้งตัวในเวลาเดียวกัน แต่แรงซื้อก็ยังคงมีอยู่มากเลยทีเดียว
หลังจากนี้จะเป็นการสู้กันระหว่างแรงขายกับแรงซื้อ ซึ่งถือเป็นรอยต่อสำคัญสำหรับการเปลี่ยนเทรนด์ รายเดือนให้ขึ้นอย่างรุนแรง กับการเปลี่ยนเทรนด์รายเดือนให้กลับมาพักตัวระยะสั้นถึงกลาง แล้วค่อยกลับตัวขึ้นมาใหม่เพื่อลดทอน Indicators
ดังนั้นการเคลื่อนไหวทุก ๆ วันในสัปดาห์นี้มีโอกาสพลิกผันเปลี่ยนเทรนด์ได้เสมอจึงควรพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญ และเสริมด้วยปัจจัยข่าวนอกตามตารางอีกที
กลยุทธ์การลงทุน พิจารณาแนวต้าน 2,921 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านแนวดังกล่าวสามารถเปิด Short ได้ไม้แรก แต่หากผ่านให้ขยับแนว Short เป็น 2,931-35 ดอลลาร์ จะปลอดภัยกว่า มีจุด SLที่ 2,938ดอลลาร์ ส่วนเป้าหมายอยู่ที่ 2,910/2,903 และ2,892 ดอลลาร์
YLG Bullion มองว่า
วานนี้ราคาปรับตัวผ่าน 2,913 ดอลลาร์ ทำให้มุมมองเชิงลบในระยะกลางลดลง แนวรับแรกอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ หากยืนได้ยังขึ้นต่อ หากหลุด 2,900 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัว แต่หากราคาเริ่ม Higher Low เหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 2,832 ดอลลาร์จะเริ่มกลับมามีมุมมองเชิงบวกในระยะกลางอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุนรอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,884-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ให้ชะลอการซื้อคืนไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์
ขณะที่ SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำพุ่งทะลุแนวต้าน 2,900 ดอลลาร์ หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ากับทุกประเทศตามแผนเดิมสร้างแรงกดดันต่อตลาดการค้าโลก ส่งผลให้ทองคำทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,900 – 2,910 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ
ภาพรวมราคาทองคำยังดูเป็นขาขึ้น แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า 2,880 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายและพักฐานต่อ อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ตลาดยังต้องจับตาตัวแปรสำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน ย่อซื้อ–ขึ้นขายเป็นหลัก แนะนำให้เล่นสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูงปรับพอร์ตให้สมดุลเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด Gold Spot โดยให้แนวรับที่ 2,875 และ 2,850 ดอลลาร์ แนวต้านที่ 2,930 และ 2,950 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวันที่ 2,887 และ 2,862 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,924 และ 2,937 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.