สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 21 ต.ค.67

ทองไทย-gold spot ทำ ATH ต่อเนื่อง gold spot ทดสอบ $2,730 สถานีถัดไป $2,750 ทองไทยเช้านี้บวก 250 บาท จ่อ 43,000 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทย โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกวันนี้ ( 21 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 200 บาท

ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น.อยู่ที่ 42,800 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,700 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,300 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,932.56 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.17 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ราคาทองไทยยังขยับบวกอย่างร้อนแรง โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาบวกมา 900 บาท หากนับรวมกับวันนี้บวกมาแล้ว 1,150 บาท

โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ตามแนวโน้มราคาทองคำโลกที่ปรับตัวขึ้นทำ All-Time high และอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD เช่นกัน
ยังคงแนะนำ Let Profit Run โดยฮั่วเซ่งเฮง ให้แนวรับที่ 42,400 และ 42,200 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 42,750 และ 42,850 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ All Time High หรือ ATH ที่ 2,722 ดอลลาร์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดบวก 66 ดอลลาร์

หากจะดูเฉพาะวันอังคารจนถึงวันศุกร์ ปิดเพิ่มขึ้นมา 75 ดอลลาร์ และหากจะดูใน timefame รายสัปดาห์ ราคาได้ปรับขึ้นมาแล้6 สัปดาห์ติดต่อกันร่วม 220 ดอลลาร์

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ราคาได้ขึ้นไปทำ ATH ใหม่แถว 2,730 ดอลลาร์ ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องทำ All-time high โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง โดยสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังรุนแรงขึ้น และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ส่วนในสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอีกหลายตัว อาทิ ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ย.

โดย conference Board ,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ,ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของม.มิชิแกน

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ระบุว่า

ทิศทางราคา gold spot ภาพรวมราคาปรับตัวขึ้นรุนแรงต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มที่เฟดอาจลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง สัปดาห์นี้รอลุ้นราคาจะไปหยุดที่โซนไหน

โดยให้โซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,690-2,685 ดอลลาร์ และ 2,670-2,660 ดอลลาร์ พิจารณาเข้าซื้อ ณ จุดดังกล่าวหากราคาปรับฐานกลับลงมา เพื่อ Follow ภาพใหญ่ของ Trend ต่อไป โดยราคาไม่ควรหลุดต่ำกว่า 2,640 ดอลลาร์

โซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,730-2,740 ดอลลาร์ และ 2,750-2,760 ดอลลาร์ พิจารณาขายทำกำ ไร ณ โซนดังกล่าว หากเกิดสัญญาณกลับตัว

ขณะที่ InterGOLD มองว่า

ราคาทองคำไทยและราคาทองคำ goldSpot ทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ ทั้งปัจจัยทางเทคนิคและพื้นฐานยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของทองคำอย่างแข็งแกร่ง และในเดือนตุลาคมไม่มีข่าวหรือปัจจัยใดที่ดูจะสามารถฉุดราคาทองคำได้อีกแล้ว ตอนนี้ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศเข้าสู่โหมดไร้แนวต้านโดยสมบูรณ์ รอลุ้นกันต่อไปว่าทองคำจะสามารถทะลุแนวต้านถัดไปที่ 2,800 ดอลลาร์ได้หรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน หากถือทองคำในพอร์ตเป็นจำนวนมากและได้กำไรอยู่แล้ว สามารถแบ่งขายทำกำไรได้ก่อนสิ้นเดือนหรือก่อนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ช่วงต้นเดือนพ.ย. โดยอาจขายเพียงบางส่วน เหลือทองไว้ในพอร์ตประมาณ 30-50% เพราะหลังจากการเลือกตั้ง ทิศทางของทองคำอาจเปลี่ยนไป ราคาทองคำอาจปรับตัวลงแรงได้

อย่างไรก็ตาม หากยังไม่ขายก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะแนวโน้มทองคำยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป หากราคาทองมีการย่อตัวลงมาในช่วง 2,680 – 2,700 ดอลลาร์น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเพิ่มเติม ตอนนี้เพียงรอดูว่าผลการเลือกตั้งจะส่งผลต่อตลาดอย่างไร

ด้าน บจ.ออสสิริส มองว่า

ราคาทองคำโลกพุ่งทำสถิติใหม่อีกในเช้าวันนี้ โดยด้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง,รัฐเซีย-ยูเครน,จีน-ไต้หวัน ยังหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยต่อเนื่อง

นอกจากนี้ทองคำยังได้แรงหนุนจากตลาดที่คาดการณ์ว่า เฟด จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือน พ.ย.และธ.ค. ซึ่งยังจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในภาพรวมระยะยาว รวมถึงตลาดได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย แนวโน้มเคลื่อนไหว Sideway up สะท้อนฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด แต่อาจเพิ่มความระมัดระวังการเทขายทำกำไรหลังราคาทองเข้าใกล้เขตซื้อสูง Super Overbought ใน RSI อินดิเคเตอร์ ทั้งนี้ให้แนวต้าน 2,730 และ 2,750 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,710 และ 2,692 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

ยังคงไม่มีสัญญาณการปรับตัวที่เด่นชัด ราคาทองจึงมีโอกาสขึ้นต่อไปตามกรอบแนวโน้มเดิม แต่ควรระวังแรงขายทำกำไรตามแนวต้าน นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น

โดยพิจารณาแบ่งเงินเข้าซื้อบางส่วนหรือรอซื้อตามแนวรับ 2,715/2,710 และ 2,700 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์ ขายทำกำไรเมื่อดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อ หรือที่แนวต้าน 2,730/ 2,740 และ 2,750 ดอลลาร์

รับชมคลิป