สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 18 พ.ย.67
gold spot รีบาวด์หลัง“รัสเซีย-ยูเครน” กลับมาเดือด อาจเป็นการทิ้งทวนก่อน”ไบเดน”ลงจากตำแหน่ง แต่ทางเทคนิคทองคำระยะสั้น-กลางยังเป็นขาลง
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ราคาทองคำไทย วันนี้ (18 พ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 200 บาท
ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับขึ้นอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 42,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,500 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,735.48 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.75 บาทต่อดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
แนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศอาจชะลอการปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม หากยืนเหนือบริเวณแนวรับ 42,000-42,050 บาท ได้ระยะหนึ่ง แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสมบริเวณแนวรับ 42,000-42,050 บาท ซึ่งคาดว่าบริเวณดังกล่าวราคาทองคำแท่งอาจมีการฟื้นขึ้น โดยให้แนวรับที่ 42,150 และ 42,050 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 42,500 และ 42,700 บาท
ไปดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงแรง 120 ดอลลาร์ หรือ 4.5% เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าหลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งปธน.แล้วอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
ตลาดจึงกังวลว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานเฟดได้ส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย
แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้รีบาวด์ขึ้นมาทดสอบโซน 2,600 ดอลลาร์อีกรอบ หลังความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มทวีความรุนแรง เมื่อมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย โดยยูเครนมีแผนจะดำเนินการโจมตีจากระยะไกลครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการ
อย่างไรก็ดีสำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของทางการรัสเซียได้อ้างคำกล่าวของ รองประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาสูงรัสเซีย ที่ระบุว่ารัสเซียจะตอบโต้ทันที และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่านั้นมาก ซึ่งคงจะต้องติดตามความก้าวหน้าเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ , ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board
ขณะที่วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน มีตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นต้นเดือน พ.ย.จาก S&P Global
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Shining Gold มองว่า
สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลอดข่าวการเคลื่อนไหวของราคาทองคำส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับภาพรวมทางเทคนิค หรือปัจจัยข่าวนอกตารางที่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่
การปิดของกราฟรายสัปดาห์ที่ประกอบรวมกันเป็น Three Black Crown มักจะทำให้เกิดการรีบาวด์ในแท่งที่ 4 ถือเป็นเรื่องปกติ แต่การรีบาวด์จะมากหรือน้อยนั้นยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด ขึ้นอยู่กับการสร้าง Pattern ภายในความเป็น Mather Bar และ Inside bar ในแท่งเทียนรายวัน
ขณะที่ภาพรวมรายเดือนยังคงเสียเทรนด์ขาขึ้นอยู่ แต่เพื่อความปลอดภัยยังเลือกโซนรีบาวด์กลางเป็นแนวเปิดสถานะ เว้นแต่จะเกิด Pattern ภายในที่แน่ชัดก่อน จึงค่อยปรับ Strategy ลงมาให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเฉพาะ gold spot รอราคา Rebound ให้ Open Short ที่ 2,600 และ 2,620 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,628 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,560/2,545 และ 2,528 ดอลลาร์
ขณะที่ InterGOLD มองว่า
ช่วงนี้ตลาดคาดการณ์มากเกินไป ทั้งประเด็นที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า รวมถึงนโยบายของทรัมป์เรื่องการเพิ่มอัตราภาษี และความตึงเครียดทำให้สามารถบ่งบอกได้ว่าเงินเฟ้ออาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือตลาดมีการคาดการณ์ล่วงหน้าไปแล้ว เนื่องจากยังไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นจริง หากผลกระทบจากนโยบายของ ”ทรัมป์” ไม่รุนแรงต่อเงินเฟ้อเท่าที่ตลาดคาดการณ์ แน่นอนว่าอาจได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น และอาจทำให้ทองคำเริ่มปรับตัวดีดขึ้นมาได้
สิ่งที่น่าจับตามองในปีหน้าคือนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งน่าจะผลักดันตลาดทุนและเศรษฐกิจค่อนข้างมาก กระแสเงินสดอาจวิ่งเข้าสู่ตลาดที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าเดิม ดังนั้น ราคาทองคำอาจโดนกดดันได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่อาจหนุนทองคำคือ January Effect ในช่วง 22 ธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม ประกอบกับ 2 ประเด็นสำคัญ คือความตื่นตัว (FOMO) ในตลาดเสี่ยงอาจเริ่มจบลงทำให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงได้
ใครที่อยากลงทุนระยะสั้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ ราคาทองคำที่ปรับตัวลงมามากแล้วกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน ผู้ที่เล่นระยะสั้นในลักษณะ Sideway อาจได้รับประโยชน์ เนื่องจากทองคำเริ่มปรับฐานและเกิดการ Sideway ในระยะสั้นได้
สำหรับผู้ที่อยากลงทุนระยะยาวขึ้น สามารถเริ่มสะสมได้ในช่วงนี้ เพราะเป็นราคาที่ดีมากแล้ว และสามารถรอขายในช่วงปลายปีได้
ด้าน SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำปรับลงต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์ จากมุมมองเกมการเมืองสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนไป ตลอดจนกระแสมุมมองการลดดอกเบี้ยเฟดเปลี่ยนทำให้ไม่มีข่าวดีสำหรับทองคำ และทำให้กราฟเสียทรงขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญใหญ่ที่ 2,500 ดอลลาร์ และมีโซนแนวต้านแรกที่ 2,590 และ 2,600-2,620 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ภาพรวมราคาทองคำระยะสั้นยังอยู่ในแนวโน้มขาลงแต่จะมีรีบาวด์สั้น ๆ สลับฉาก ส่วนระยะกลางยังเป็นการลงไป 2,500 หรือ 2,400 ดอลลาร์ และจะไม่ข้าม 2,740 ดอลลาร์ หรือทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ ยกเว้นข่าวสงครามใหญ่กลับมา โดยเม็ดเงินยังไหลจากทองคำไปสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น – คริปโตฯ และค่าเงินสหรัฐฯ ยิ่งในเดือนหน้าถ้าเฟดไม่ลดดอกเบี้ย ราคาทองคำจะปรับลงต่อ
ดังนั้นตอนนี้เล่นเทรดทองคำแค่ช้อนรีบาวด์ หรือเล่นเสียบเร็วช่วงแกว่งไปมาในกรอบเล็ก คนติดสถานะสูง ๆ ต้องรอข้ามปีลุ้นข่าวใหม่ อาจซื้อถัวตอนราคาลงมาแถว 2,500 ดอลลาร์อีกที แล้วค่อยรอการรีบาวด์แรงช่วงก่อนปีใหม่ก่อนขายเหมา
กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้แนะซื้อเพื่อลุ้นรีบาวด์ชุดเล็ก
โดยตั้งจุดหนี 2,545 ดอลลาร์ กรณีราคาทองคำยืน 2,550 ดอลลาร์ ไม่ได้เตรียมลงต่อไป 2,500 ดอลลาร์เดือนนี้ ให้จับตาค่าเงินสหรัฐฯ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลักเพราะทั้ง 2 สิ่งจะตรงข้ามกับราคาทองคำในตอนนี้
ปิดท้ายที่ Ausiris มองว่า
ราคาทองคำ gold spot เริ่มกลับมายืนเหนือบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน แถว 2,558 ดอลลาร์ และเริ่มมีแรงซื้อหลังราคาเข้าเขต oversold ทำให้มีแนวโน้มรีบาวน์ระยะสั้นโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,580 และ 2,600 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,558 และ 2,545 ดอลลาร์
รับชมคลิป