สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 10 ต.ค.67
gold spot ปรับลดลง 6 วันติดต่อกัน หลังตลาดมอง FED ชะลอลดดอกเบี้ย ทองไทยขยับลดตามมาอยู่แถว 41,400 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกวันนี้ ( 10 ต.ค.) เท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้
ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 41,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,300 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,553.00 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.49 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าจากตลาดวานนี้เล็กน้อย เป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค หลังดอลลาร์แข็งค่าหลังได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงขึ้น ตามการปรับลดความคาดหวังของนักลงทุนต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ เฟด ตลาดจึง มองว่าเฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย และคาดการณ์ว่ามีโอกาส 20% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือน พ.ย.
ส่วนวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.45 – 33.65 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่ง เกิดสัญญาณขายจาก Modified Stochastic โดยราคาทองคำแท่งปรับตัวลงจากราคาทองโลกปรับตัวลง และเงินบาทชะลอการอ่อนค่า และเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัว จับตาบริเวณแนวรับสำคัญที่ 40,900-41,000 บาท
แนะนำ Wait&see โดยให้แนวรับที่ 41,300 และ 41,200 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 41,600 และ 41,650 บาท
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เมื่อวานนี้ ( 9 ต.ค.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ร่วม 55 ดอลลาร์ โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ปิดตลาดลดลงอีก 14 ดอลลาร์ แตะจุดต่ำสุดที่ 2,605 ดอลลาร์ ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้มีแรงรีบาวด์ขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 2615 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ดีดตัวขึ้น 0.37% มาแตะที่ระดับ 102.92 หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยกรรมการเฟดเห็นว่าในอนาคตเฟดไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50%
จากข้อมูลล่าสุดจาก Fed Watch tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ย. และให้น้ำหนัก 21% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ทองคำถูกแรงเทขาย หลังจากมีแนวโน้มว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ส่วนคืนนี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปีหลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือน ส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% เช่นกันในเดือน ส.ค.
โดย Shining Gold มองว่า
ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Downtrend Channel โดยยังอยู่ในโซนขอบล่างของกรอบ พยายามเลี้ยงตัวรักษาแนวฐานเหนือ 2,600 ดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ คืนนี้
โดย Bloomberg คาดการณ์ว่า ตัวเลข CPI จะออกมาลดลงจาก 2.5% เป็น 2.3% ถ้าออกมาตามคาดจริงจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำให้มีการเด้งตัวหนีจากขอบแนวฐานราคาขึ้นมาได้
แต่หากประกาศจริงพลิกล็อคสูงกว่าการคาดการณ์ หรือสูงกว่ารอบที่ผ่านมาจะถือเป็นปัจจัยเชิงลบอาจทำให้เกิดการทิ้งตัวของราคาให้หลุดกรอบ Downtrend Channel และปรับฐานต่อเนื่องอย่างรวดเร็วได้
ดังนั้นการเข้าลงทุนวันนี้เป็นการ BET กับผลของตัวเลขอย่างมาก จึงไม่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยจนถึงปานกลาง และนักลงทุนที่ไม่ชอบความผันผวนที่ไม่แน่นอน
กลยุทธ์การลงทุน นี้เหมาะสำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูง รอราคาย่อตัวให้ Open Long ที่ 2,602-2,597 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,590 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,612-2,615 / 2,631 และ2,540 ดอลลาร์
ด้าน YLG Bullion มองว่า
หลังจากราคาทิ้งตัวลง แต่ยังสามารถทรงตัวรักษาระดับได้ โดยราคาไม่สร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า บ่งชี้ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาเอาไว้ ดังนั้นหากราคาทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ต่อ มีโอกาสที่ราคาอาจฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น
แนะนำเปิดสถานะซื้อหากไม่หลุดแนวรับ 2,604-2,587 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,587 ดอลลาร์ แบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,631-2,640 ดอลลาร์ แต่หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ
ขณะที่ SCT Gold มองว่า
เมื่อวานนี้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำให้ย่อลงอีกรอบแต่ยังยืนเหนือ 2,600 ดอลลาร์ได้ หลังดึก ๆ รายงานประชุมเฟดรายงานว่าการลดดอกเบี้ย 0.5% เดือนที่ผ่านมามีเสียงแตกบางส่วน โดยการลดดอกเบี้ยปริมาณสูงเนื่องจากกังวลการจ้างงานที่ต่ำ แสดงว่าเฟดกังวลเศรษฐกิจมากกว่าเงินเฟ้อ
ภาพรวมราคาทองคำพยายามฟื้นตัว ตราบใดที่ราคาไม่ปิดต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์ ยังมีลุ้นการรีบาวด์ระยะสั้น เป้าหมายแรก 2,630-2,635 และ2,650 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามถ้าราคาทองไม่สามารถยืน 2,650 ดอลลาร์ได้ ราคาทองคำยังเสี่ยงต่อการพักฐานใหญ่ไป 2,550 ดอลลาร์ โดยตัวแปรเรื่องสงครามยังไม่มีผลกับราคาทองคำมากนัก แม้ว่าล่าสุดอิหร่านขู่จะยิงจรวดนับพันลูกใส่อิสราเอลถ้าเริ่มโจมตีจุดสำคัญของอิหร่าน
ทั้งนี้มองแนวรับที่ 2,600 และ 2,585 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,630 และ 2,700 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับราคา goldspot ที่ 2,600 และ 2,588 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,624 และ 2,637 ดอลลาร์
รับชมคลิป