ราคาทองคำปรับขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน
คืนนี้สหรัฐจะประกาศการอนุญาตก่อสร้างการเริ่มสร้างบ้าน
แนวโน้มราคาทองคำเป็นขาขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1,845-1,850ดอลลาร์ได้ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับที่สูงโดยเฉพาะในเอเชีย ทำให้สิงคโปร์และไต้หวันต้องออกมาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการการแพร่ระบาดของโควิด-19นอกจากนี้ดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนพ.ค.ลดลงสู่ระดับ 24.3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 25.0 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ซื้อทองคำ 7.57 ตันหลังจากซื้อทองคำ3.21 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะประกาศการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.77 ล้านยูนิต จาก1.76ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. และการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย.ตลาดคาดจะลดลงเป็น1.71ล้านยูนิต จาก1.74 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำเป็นขาขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หลังจากที่ปรับขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1,845-1,850 ดอลลาร์ได้ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ ทองคำมีแนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,840 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 1,866.50 | +24.4 | 1,850/1,840 | 1,875/1,880 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 27,550 | +250 | 27,500/27,400 | 27,850/27,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
| Close | chg | Support | Resistance |
| 27,980 | +310 | 27,670/27,530 | 27,980/28,050 |
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run)การเข้าซื้อเก็งกำไรรอบใหม่แนะนำเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,850ดอลลาร์ (GF27,670บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840ดอลลาร์ (GF 27,530บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
| Close | chg | Support | Resistance |
| 1,866.70 | +16.30 | 1,852/1,842 | 1,877/1,882 |
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run)การเข้าซื้อเก็งกำไรรอบใหม่แนะนำเมื่อราคาGOM21 ปรับลงมาที่1,852ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,842ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนพ.ค. ลดลงสู่ระดับ 24.3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 25.0 สำหรับเงินบาทยังได้รับผลกระทบทางลบจากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศสำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนหลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.ซบเซาจับตารายงานประชุมเฟด
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ที่ลดลงสู่ระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.17% สู่ระดับ 90.1661
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง $29.5 รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-ดอลล์อ่อนหนุนตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์นอกจากนี้นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 29.5 ดอลลาร์หรือ 1.6% ปิดที่ 1,867.6 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564 สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 90.9 เซนต์หรือ 3.32% ปิดที่ 28.274 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 90 เซนต์คาดยุโรปเปิดศก.หนุนดีมานด์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากหลายประเทศในยุโรปเริ่มเปิดเศรษฐกิจนอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อสัญญาน้ำมันดิบสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์หรือ 1.4% ปิดที่ 66.27 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2562 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 54.34 จุดเหตุวิตกเงินเฟ้อฉุดหุ้นเทคโนฯร่วง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐได้กดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกซึ่งรวมถึงบริษัทวอลมาร์ทดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,327.79 จุดลดลง 54.34 จุดหรือ -0.16% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,163.29 จุดลดลง 10.56 จุดหรือ -0.25% และดัชนีNasdaqปิดที่ 13,379.05 จุดลดลง 50.93 จุดหรือ -0.38
