ING | photo ing.com

ING คาด หลัง FED เริ่มลดดอกเบี้ยเมื่อพ้นไตรมาส 2 ปีหน้า จะดันราคาทองคำยืนเหนือ $1,850 ได้

ING ธนาคารชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ เผยมุมมองราคาทองคำในปี 2566 ว่ายังมีแนวโน้มที่สดใส หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายในปีหน้า

ING ธนาคารชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ เผยมุมมองราคาทองคำในปี 2566 ว่ายังมีแนวโน้มที่สดใส หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายในปีหน้า

แม้ว่าในระยะสั้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง หลังจากขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ ไม่ได้

Ewa Manthey commodities strategist ของ ING กล่าวว่า

ING คาดว่า ทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่เฟดยังใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อพิจารณาในปีหน้า สิ่งต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนไป สำหรับทองคำหลังปีนี้ถูกดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าในปีนี้ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น

Manthey กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะสั้นอาจเห็นราคาทองคำที่ยังคงปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเข้มงวดทางการเงิน และคำให้สัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่เฟด เกี่ยวกับการผ่อนปรนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดยมองว่า เฟดพร้อมที่จะเปลี่ยนนโยบายการเงินก็ต่อเมื่อ อัตราเงินเฟ้อได้ส่งสัญญาณปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

โดยคาดว่า น่าจะเห็นอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมากในปี 2566 และจะเป็นการเปิดประตูให้เฟดเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

และเมื่อเฟดเริ่มผ่อนปรนนโยบายการเงินในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ราคาทองคำจะเพิ่มสูงขึ้น และรักษาระดับกำไรไว้อย่างมั่นคง โดย ING มองว่า ทองคำจะขยับขึ้นเป็น 1,850 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 4 ของปีหน้า

นอกจากนั้น ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากปัญหาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารต่าง ๆ หันไปใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง

โดยข้อมูลล่าสุดจาก World Gold Council (WGC) แสดงให้เห็นว่า ในไตรมาสที่ 3 ธนาคารกลางซื้อทองคำ 399 ตัน เพิ่มขึ้น 341 % เมื่อเทียบเป็นรายปี และเป็นสถิติสูงสุดรายไตรมาสด้วย และมากสุดนับตั้งแต่ปี 2510

ไม่เพียงแค่นั้น ทองคำยังได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำของประเทศจีน ที่คาดว่าจะดีขึ้น แต่ทิศทางราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับกระแสการลงทุนมากกว่า แม้ว่าแนวโน้มเรื่องของการลงทุนทองคำในขณะนี้จะยังไม่ดีนัก

โดยในไตรมาสที่ 3 ความต้องการทองคำในภาคลงทุนลดลง 47% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยนักลงทุนยังคงเทขายออกมา เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า แต่แนวโน้มเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา : Kitco.com

GOLD BULLION
GOLD BULLION