ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้า 3-7 มี.ค.68 คุณภัทริน วชิรคพรรณ เล่งหงษ์ฯ
gold spot พักตัวแรงร่วม $100 แต่ยังไม่หลุด $2,855 ยังได้ลุ้นดีดกลับ จับตาผลพวงหารือ”สหรัฐ-ยูเครน” – สงครามการค้า
คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนแรง โดยช่วงต้นสัปดาห์ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาล AllTimeHigh ( ATH ) ที่ 2,956 ดอลลาร์
จากนั้นราคาได้ทิ้งตัวแรงลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 2,832 ดอลลาร์ ลงมา 124 ดอลลาร์ ก่อนได้แรงซื้อในช่วงท้ายตลาดวกมาปิดตลาดที่ 2,856 ดอลลาร์ โดยรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงไป 78 ดอลลาร์
ทั้งนี้ราคาทองคำได้รับแรงกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากนโยบายกำแพงภาษีของปธน. ทรัมป์ ที่ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและภาคการผลิตของสหรัฐฯ
นอกจากนั้นเตรียมจัดเก็ยภาษีสินค้าจากทางฝั่งยุโรปด้วย ซึ่งต้องมาดูว่าในวันที่ 4 มี.ค. สหรัฐจะจัดเก็ยภาษีตามที่ประกาศไว้หรือไม่
ทั้งนี้ประกาศต่าง ๆ ที่ถูกจัดเก็บภาษี ก็พร้อมที่จะมีมาตรการตอบโต้เช่นกัน โดยทางฝั่งยุโรปยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เจรจา และจะหามาตรการตอบโต้ รวมถึงจีนประกาศตอบโต้สหรัฐฯ หากจำเป็นพร้อมเรียกร้องสหรัฐฯ แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างเหมาะสมโดยเร็วที่สุดผ่านการเจรจาบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน
ซึ่งประเด็นการเก็บภาษีเพิ่มทางนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่าที่ข้อมูลการค้าของสหรัฐฯ ระบุไว้
โดยเฉพาะอาจจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำในร่วงลงมา ในทางกลับกันเรื่องของสงครามการค้าก็ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเป็นแรงพยุงราคาทองคำไว้ไม่ให้ปรับลดลงมาก
ขณะเดียวกันต้องจับตาผลพวงการหารือระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา หลังการเจรจาประสบความล้มเหลวโดยไม่ได้ลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุ หลังจากที่การหารือเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับรัสเซียกลายเป็นการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตึงเครียดที่ไม่ค่อยพบเห็นในแวดวงการทูต และอาจทำให้ความพยายามในการยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยาวนาน 3 ปี ยากลำบากขึ้น และอาจส่งผลกระทบในวงกว้างในระยะถัดไป
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้าก็คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) เดือนก.พ. ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 156,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 143,000 ราย
มาดูมุมมองทางเทคนิค ภาพรวมราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวกลับลงมากว่า 100 ดอลลาร์ภายในสัปดาห์หลังจากที่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในช่วงต้นสัปดาห์
สัปดาห์นี้ (3 -7 มี.ค.) หากรีบาวน์ไม่ผ่าน 2,900 ดอลลาร์ มีโอกาสปรับฐานลงต่อเนื่อง และรอติดตามผลตัวเลข NFP ภายในสัปดาห์
โดยให้โซนแนวต้านสำคัญที่ 2,880-2,890 ดอลลาร์ และ 2,920-2,930 ดอลลาร์ รอดูว่าราคาจะรีบาวน์กลับขึ้นมาชนโซนแนวต้านและทะลุผ่านกลับขึ้นไปได้หรือไม่ อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน ณ โซนดังกล่าว
ส่วนโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,800-2,790 ดอลลาร์ และ 2,740-2,730 ดอลลาร์ ทั้งนี้โซน 2,790 ดอลลาร์ ถือเป็นจุดสูงสุดเก่าในอดีต ซึ่งอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาหากราคาลงไปถึง รวมถึงโซน 2,730 ดอลลาร์ เช่นกันที่สามารถเข้าเพื่อรอจังหวะรีบาวน์ได้
ส่วนราคาทองคำไทยยังปรับตัวลงไม่มากแม้ว่าราคาทองคำ gold spot จะพักตัวแรง เนื่องจากเงินบาทกลับมาอ่อนค่าทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่ามาก และกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเงินบาทอาจทดสอบระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และอาจไปแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2
ส่วนภาพรวมราคาทองคำไทยในเดือน ก.พ. ได้ขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาล (ATH) เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ระดับ 47,450 บาท และภาพรวมเดือน ก.พ.ปรับขึ้นมา 1,700 บาท ส่วนการเคลื่อนไหวเมื่อวันเสาร์ ที่ 1 มี.ค. สมาคมค้าทองคำประกาศปรับขึ้นอีก 100 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,400 บาท ราคารับซื้อ 46,300 บาท คำนวนจากเงินบาทที่ 34.29 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนแนวรับทองคำไทยนสัปดาห์หน้า อยู่ที่ 46,000-45,800 บาท และ 45,600-45,500 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,500-46,600 บาท และ 46,900-47,000 บาท
รับชมคลิป
Comments are closed.