ผ่านพ้นครึ่งทางของไตรมาสที่ 3 ‘ทองคำ’ ยังคงสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนจำนวนมาก
เนื่องจากราคาทองคำ ได้กลับมาอยู่ในช่วงขาลงอย่างรวดเร็ว หลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ ได้ แต่ Carsten Fritsch, precious metals analyst at Commerzbank ธนาคารจากประเทศเยอรมัน ได้ระบุในรายงานว่า
แม้ว่าทองคำจะต้องต่อสู้กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ราคาทองคำทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก
ทั้งนี้ Carsten Fritsch ประเมินว่า แนวรับสำคัญยังอยู่แถว 1,700 ดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
โดยจนถึงขณะนี้ เฟด ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 2.25% ผลักดันให้เรียลยีลด์สูงขึ้น และทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
Carsten Fritsch กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าการเคลื่อนไหวของทองคำอาจจะไม่ถูกใจนักลงทุนหลายคน แต่ก็ไม่ควรลืมว่า ‘ทองคำ’ ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ
โดยปัจจุบันราคาทองคำได้ลดลง 4.5% จากราคาต้นปี แต่หากไปดูตลาดตราสารทุน ได้ลดลงไปประมาณ 14% ขณะที่ราคา Bitcoin ลดลงมากกว่า 50%
อย่างไรก็ดี Commerzbank ได้ปรับลดประมาณการราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปี
โดยคาดว่า ราคาทองคำจะจบปีที่ประมาณ 1,800 ดอลลาร์ ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ที่ 2,000 ดอลลาร์
โดยระยะสั้น ทองคำจะถูกกดดันอีกครั้ง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงสิ้นปี
แต่ทั้งนี้ Commerzbank มองว่า ราคาทองคำจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2566 เนื่องจากวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังจะสิ้นสุดลง
ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำก็จะเริ่มสูงขึ้น โดยอาจจะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 4 และ คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำสิ้นสุดปี 2566 ที่ 1,900 ดอลลาร์ แต่ก็ยังลดลงจากประมาณการครั้งก่อนหน้า ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์
ที่มา : Kitco.com
