หมวดหมู่: Gold Podcast

ทองคำเป็นทรัพยากรมีค่า และเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในวงกว้าง เป็นที่รู้จักในการปกป้องค่าเงินและเป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกความมั่นคงทางการเงินของมนุษย์มาตั้งแต่อดีตโบราณ

วันนี้ “Gold Around Podcast” ได้รวมข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับราคาทองคำและมุมมองที่คุณควรรู้ในการลงทุนในทองคำไว้ที่นี่เพื่อช่วยให้คุณทำความเข้าใจในโลกของการลงทุนในทองคำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ใน “Gold Around Podcast” เราจะนำเสนอข่าวสารและวิเคราะห์ที่เป็นรายวันเกี่ยวกับราคาทองคำที่ปรากฏบนตลาดโลก รวมถึงการแสดงความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินและการลงทุน คุณจะได้รับข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจในการลงทุนในทองคำอย่างมีเสถียรภาพและมั่นคง

เราเข้าใจว่าการติดตามข่าวสารและเข้าใจวิเคราะห์ทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ข้อมูลเหล่านี้เข้าถึงคุณอย่างง่ายดายและแนะนำวิธีการลงทุนในทองคำที่ถูกต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม

ขอขอบคุณที่มาเยี่ยมชม “Gold Around Podcast” และเราหวังว่าคุณจะพบข้อมูลที่มีค่าและแนะนำที่คุณต้องการเพื่อการลงทุนในทองคำที่ประสบความสำเร็จและมั่นคง โปรดติดตามเราต่อไปเพื่อข้อมูลที่อัปเดตและวิเคราะห์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมในโลกของทองคำ!

ขอบคุณอีกครั้งที่มาเยี่ยมชม “Gold Around Podcast” ของเรา และขอให้คุณมีประสบการณ์ที่น่าทึ่งและทรงคุณค่าทุกครั้งที่เข้ามาที่นี่

ราคาทองคำ Goldaround.com LoGo

  • ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้า 10-14 มี.ค.68 คุณวิโรสินี สดากร บจ.ชายน์นิ่งโกลด์

    ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้า 10-14 มี.ค.68 คุณวิโรสินี สดากร บจ.ชายน์นิ่งโกลด์

    gold spot รอทะลุกรอบ Diamond Pattern หากผ่าน $2,945 ลุ้นขึ้นไปแตะ $3,000 แต่หากหลุด $2,865 อาจพักตัวลงลึก

    คุณวิโรสินี สดากร ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าวกับ GoldAround ว่า

    สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot พยายามจะรีบาวด์แต่ผ่าน 2,934 ดอลลาร์ ไม่ได้ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญของสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-7 มี.ค.) และจะเป็นแนวต้านแรกที่สำคัญของสัปดาห์นี้ (10-14 มี.ค.)

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เมื่อราคาทิ้งตัวลงมาจะมีแรงซื้อกลับตลอดเวลา จนสร้าง Diamond Pattern ซึ่งจะมี 2 แบบ ก็คือ Bullish Diamond Pattern และ Bearish Diamond Pattern หากเป็น Bearish Diamond Pattern จะยืนยันเมื่อราคาทิ้งตัวหลุด 2,880 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 2,865 ดอลลาร์ หากยังเอาไม่อยู่อาจจะลงไปแถว 2,800 ดอลลาร์ ต้น ๆ

    แต่หากราคามีการดีดกลับ ก็จะยังไม่สูงเพราะลงไปลึก แต่หากลงไปแค่ 2,880 ดอลลาร์ ยังมีโอกาสที่จะกลับมาทดสอบ 2,934 ดอลลาร์ และหากทะลุไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ที่ 2,945 ดอลลาร์

    ทั้งนี้ การปิดกราฟแท่งเทียนรายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดเป็น Mother Bar กับ Inside Bar การจะทะลุกรอบ Inside Bar ได้ อย่างน้อยราคาทองคำต้องผ่าน 2,940 ดอลลาร์ และถ้าผ่าน 2,945 ดอลลาร์ ไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปถึง 3,000 ดอลลาร์

    ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้ามีหลายปัจจัยที่จะสามารถกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา ถ้าเป็นข่าวในตาราง ก็จะเป็นเรื่องนโยบายกำแพงภาษี ที่สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป อีก 25% ในวันที่ 12 มี.ค.

    ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ คือดัชนีเงินเฟ้อ CPI เมื่อเทียบเป็นรายปี คาดการณ์ว่าจะลดลงจาก 3% เหลือ 2.9% นอกจากนั้นต้องจับตาเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมีรายงานว่าจะมีการเจรจากับอีกครั้งที่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย หากว่าการเจรจายุติลงได้อาจจะเป็นแรงกดดันสำคัญต่อราคาทองคำ

    ส่วนกลยุทธ์การลงทุน มองว่าตอนนี้ indicator ตึงตัว ดังนั้นมีโอกาสที่ราคาทองคำจะย่อตัวปรับ indicator เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน อย่างเช่น ทั้งเรื่องนโยบายภาษี การเจรจาสันติภาพ และการพิจารณากฎหมายเพื่อรองรับปัญหา government shutdown ในวันที่ 15 มี.ค. เพราะฉะนั้นราคาทองคำควรจะย่อก่อน โดยอาจจะไปรอซื้อแถว 2,905 ดอลลาร์ หรือจะรอไปเข้าแถว 2,885-2,880 ดอลลาร์

    แต่ถ้าเกิดหลุดจุดนั้น ให้ชะลอการลงทุนก่อน เพราะมีความเสี่ยงที่ราคาจะลงมาแถว 2,868 ดอลลาร์ และหากว่าราคาไม่หลุดแนวดังกล่าว อาจจะกลับไปทดสอบ 2,934 ดอลลาร์ และถ้าผ่านได้ อาจจะไปทดสอบต้าน 2,945 ดอลลาร์ และอาจจะใช่กลยุทธ์ follow buy

    สัปดาห์ที่ผ่านมา Shining Gold แนะกลยุทธ์การลงทุนเป็นลักษณะรอราคาเด้งตัวแล้วเปิด sell ลงมา แต่เป็นการ sell แค่ระยะสั้น แต่สัปดาห์นี้ อาศัยจังหวะที่ราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบน บนหลายรอบแล้วไม่ผ่าน จึงมีโอกาสที่ราคาจะย่อลงมาก่อนแล้วไม่หลุดแนวรับ อาจจะขึ้นไปทดสอบด้านบน และรอบนี้จะผ่านไปได้

    แต่จากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ มีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ฝั่ง ต้องรอติดตามการเคลื่อนไหวด้านข่าวสารและทางเทคนิคใกล้ชิด รอสังเกตุว่าหากตอนเช้าตลาดเปิดมาแล้วราคาย่อตัวลงไปก่อน เพราะต้องการปรับ Indicator เพื่อรอการรีบาวด์

    แต่หากว่าราคาเลือกจะปรับขึ้นไปก่อน ให้เลือกฝั่ง sell แถว 2,920 หรือ 2,934 ดอลลาร์ แต่จะเป็นการ sell ระยะสั้น กรอบทำกำไรประมาณ 20-30 ดอลลาร์ เพื่อรอจังหวะราคาย่อตัวแล้วค่อย buy กลับมาใหม่แถว 2,905 และ 2,885-2,880 ดอลลาร์ และราคาไม่ควรหลุด 2,880 ดอลลาร์ เพราะจะทำให้การกลับไปทะลุ 2,945 ดอลลาร์ จะยากขึ้น

    ส่วนราคาทองคำไทย ยังเคลื่อนไหวกรอบแคบ การลงทุนจะเป็นลักษณะการซื้อเล่นรอบ มีจุดเข้าแถว 26,450-26,350 บาท เป็นจุดแรก เผื่อถัวเฉลี่ยที่ 46,050 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 46,650 และ 46,850 บาท เมื่อราคาขึ้นปถึงอาจจะย่อลงมาใหม่

    รับชมคลิป

  • ทิศทางทองคำวันนี้ 7 มี.ค.68 คุยกับคุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ ออสสิริส

    ทิศทางทองคำวันนี้ 7 มี.ค.68 คุยกับคุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ ออสสิริส

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 7 มี.ค.25

    gold spot ยังขยับกรอบ $2,890-2,930 รอดู NFP จุดจะดันทะลุ หรือจะทุบร่วง พร้อมจับตา เม็กซิโก เตรียมตอบโต้สหรัฐ

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    คุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิเคราะห์การลงทุน บจ.ออสสิริส กล่าวกับ goldaround ว่า

    เมื่อวานนี้ราคาทองคำ gold spot ปิดลดลง มาแถว 2,911 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน

    อย่างไรก็ดีราคายังคงเคลื่อนไหว ไซด์เวย์ในกรอบ 2,890-2,930 ดอลลาร์ เพื่อรอข่าวหรือตัวเลขเศรษฐกิจ มาหนุนหรือกดดัน ทำให้ราคาเลือกทางไปฝั่งดฝั่งหนึ่ง

    โดยเฉพาะนช่วงค่ำวันนี้ ( 07 มี.ค.) จะมีการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) เดือนก.พ. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงาน เดือนก.พ.จะทรงตัวที่ระดับ 4.0% หากเป็นไปตามคาดดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่า และกลับมากดดันตลาดทองคำ ในตรงกันข้ามหากตัวเลขการจ้างงานลดลง ทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

    อย่างไรก็ตามเมื่อดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือน ก.พ. เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2567 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 141,000 ตำแหน่ง ต้องมาดูว่า ตัวเลข NFP จะออกมาลดลงตามด้วยหรือไม่

    สิ่งที่นักลงทุนยังกังวลก็คือการทำสงครามการค้าของสหรัฐ แม้สหรัฐตัดสินใจเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน แต่ยังคงมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีจำนวนมาก และการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดาและเม็กซิโก ส่งผลให้จีนและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน

    ขณะเดียวกันต้องรอดูการประกาศมาตรการตอบโต้สหรัฐของเม็กซิโกในวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค. นี้ ต้องดูมาจะรุนแรงเพียงไร

    นอกจากนั้นต้องจับตากรณีที่สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.

    เมื่อมาดูข้อมูลเทคนิค ภาพรวมใหญ่ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นราคายังเคลื่อนตัวอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย โดยที่ผ่านมาราคาได้ย่อตัวสลับลงมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันแต่ไม่หลุด

    อย่างไรก็ตามทองยังไม่สามารถเบรกทะลุแนวต้าน 2,930 ดอลลาร์ เพื่อสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ทำให้ทองคำเผชิญแรงเทขายสลับออกมา โดยจะให้จับตาโซนแนวรับบริเวณ 2,895 หากยืนเหนือโซนดังกล่าวไม่ได้ทองเสี่ยงพักตัวต่อ

    ทั้งนี้ให้แนวรับราคาทองคำ gold spot ที่ 2,895/2,877 และ 2,860 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,930/2,940 และ 2,955 ดอลลาร์

    ส่วนราคาทองคำไทยยังขยับตามราคา ราคาทองคำ gold spot ทั้งนี้ให้แนวรับที่ 46,300/46,100 และ 46,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,600/46,700 และ 46,800 บาท

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 7 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 7 มี.ค.68 GoldAround

    goldspot เริ่มแผ่วหลังทะลุ $2,930 ไม่ได้ หลัง “ทรัมป์” เลื่อนเก็บภาษี “เม็กซิโก-แคนาดา” คืนนี้รอดู NFP จะหนุนทองคำให้กลับมาได้หรือไม่

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 7 มี.ค.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงเวลา 14.00 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขึ้นลงแล้วรวม 6 ครั้ง

    ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.67 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศ ยังคงได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า

    แนะนำรอซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวรับที่ 45,900 และ 45,650 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 46,450 และ 46,650 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 6 มี.ค.) เริ่มปรับลดลง แต่ยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 2,897-2,913 ดอลลาร์ โดยราคายัง Sideway อยู่โซนบน และยังไม่เลือกทาง แม้ว่าภาพในทางเทคนิคราคาจะทํา Low และ High ต่ำลงจากวันก่อนหน้า

    อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังพยายามทรงตัวรักษาระดับ เนื่องจากยังมีปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากมาตรการภาษี ของปธน.ทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ว่าจะผ่อนปรนการเก็บภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโกไปอีกนานเท่าใด หลังล่าสุดเลื่อนไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งจะเป็นวันเดียวกับการเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีจากสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ทองคำยังถูกกดดันจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ลดลงมาที่ระดับ 221,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ระดับ 234,000 ตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่ง ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.65% และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6

    คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการเผยตัวเลข Non-Farm เดือนก.พ.ซึ่งมักจะส่งผลกระทบต่อราคาทองอย่างมีนัยสำคัญ คาดจะอยู่ที่159,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 143,000 ราย และในช่วงดังกล่าวยังมีการเผยอัตราการว่างงาน คาดจะคงที่ ที่ระดับ 4.0% และรายได้เฉลี่ยรายชั่วโมงคาดจะลดลงแตะ 0.3% จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.5 %

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย Shining Gold  กล่าวว่า

    สัญญาณทางเทคนิควานนี้ที่ราคาไม่สามารถทะลุ 2,934 ดอลลาร์ได้ เช่นเดียวกับการคาดการณ์ตัวเลข Nonfarm เดือนก.พ.ที่จะประกาศค่ำวันนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 143,000 ราย เป็น 159,000 ราย ถือเป็นการคาดการณ์เชิงลบ

    ทั้งนี้ราคาจะพลิกกลับเป็นบวกได้อีกครั้งต้องทะลุ 2,934 ดอลลาร์ จึงควรระมัดระวังปัจจัยข่าวระหว่างวันอย่างใกล้ชิด
    กลยุทธ์การลงทุน รอราคารีบาวน์ Open Short ที่ 2,908 และ2919-22 ดอลลาร์ เคร่งครัด Stoploss ที่ 2,932 ดอลลาร์ มีเป้าหมายที่ 2,886/2,878 และ2,867ดอลลาร์

    ขณะที่ YLG Bullion แนะนำ

    วันนี้ดูกรอบ 2,931-2,892 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ไปได้จะขึ้นต่อโดยมีแนวต้านสำคัญในระยะกลางที่ 2,955 ดอลลาร์ ซึ่งหากยืน 2,892 ดอลลาร์ได้จะยังไม่เสียทรงในระยะสั้น แต่กรณีหลุด 2,892 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัวลึกขึ้น แต่พักเพื่อขึ้นต่อในระยะกลางไม่หลุดแนวรับสำคัญ 2,832 ดอลลาร์

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะเสี่ยงซื้อหากไม่หลุด 2,892 ดอลลาร์ หากหลุด 2,892 ดอลลาร์ รอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,881-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ไปได้ ชะลอขายไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์

    ด้าน T.D.C. Gold ระบุว่า

    ถึงแม้ปธน.ทรัมป์จะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน แต่ตลาดกลับตอบรับในเชิงลบ และทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี่ ขณะที่ราคาทองคำยังทรงตัวตัวอยู่ในกรอบแคบๆ คาดว่านักลงทุนรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งตัวเลขคาดการณ์จะออกมาดี แต่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าที่คาด จึงต้องใช้ความระมัดระวัง

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้มีแนวรับรายวันที่ 2,887 และ2,862 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,937 และ 2,962 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 6 มี.ค.68 พูดคุยกับ คุณวรุต รุ่งขำ YLG

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 6 มี.ค.68 พูดคุยกับ คุณวรุต รุ่งขำ YLG

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 6 มี.ค.68

    สัมภาษณ์พิเศษ คุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG)

    หาก gold spot ยืนเหนือ $2,930 ไม่ได้ อาจลงไปแก่วงตัว Sideway รอปัจจัยใหม่ ทองคำไทยยังขยับน้อยเงินบาทกลับมาแข็งค่า

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    คุณ วรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวกับ GoldAround ว่า

    วานนี้ราคาทองคำ gold spot ปิดเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ต่ำกว่าคาด และต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

    ขณะที่ นโยบาย ปธน.ทรัมป์ ที่ประกาศออกมาไม่ได้ส่งผลบวกกับดอลลาร์เพียงบางครั้งอาจจะส่งผลบวกกับราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    โดยเฉพาะประเด็นที่ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่า ที่เดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าและบริการกับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    แต่ก็เป็นปัจจัยไปหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าในช่วงสั้น เพราะทำให้สหรัฐ มีรายได้จากภาษีเพิ่มสถานะทางการคลัง แต่ในระยะยาวพบว่ากลุ่มประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการตอบโต้ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอยหรือชะลอตัวลง

    ดังนั้นจะต้องตามดูว่าการทำสงครามการค้าของสหรัฐ ตลาดจะมีการประเมินออกมาในลักษณะใด ถ้าประเมินในช่วงแรกว่าปัจจัยหนุนดอลลาร์ หนุนตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะนโยบายดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐดีในช่วงแรก ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ

    แต่ในระยะถัดไปถ้ามีการตอบโต้จากประเทศต่างๆ สหรัฐฯ อาจจะเผชิญกับภาพของเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวลง และจะเป็นแรงกดดันดอลลาร์ และกลับมากระตุ้นทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    มาดูมุมมองทางเทคนิคหลังราคาทองคำได้พักตัวลง และฟื้นตัวกลับมาแต่ยังยืนเหนือ 2,930 ดอลลาร์ไม่ได้ ทำให้ภาพในระยะกลางเป็นการแกว่งตัวในกรอบไซด์เวย์

    เนื่องจากระดับ 2,955 ดอลลาร์ ที่เป็น ATH ราคาทองคำได้ทดสอบเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาและยังผ่านไปไม่ได้ ประกอบกับสัปดาห์นี้ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านย่อย2,931 ดอลลาร์ไปได้

    มองว่าหากราคาอ่อนตัวลงอาจจะเป็นการย่อตัวลงมาเพื่อสะสมกำลังหรือหรือสะสมแรงซื้อ โดยมองกรอบแนวรับด้านล่างใกล้ๆ กับ 2,900/2,895 และ 2,881 ดอลลาร์ และหากยืนได้ น่าจะเห็นจังหวะของการฟื้นตัวกลับหรือการติดตัวกลับของราคาในช่วงสั้น

    ทั้งนี้อยากให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป และตัวเลขตลาดแรงงานในฝั่งสหรัฐ ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ในคืนนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ก็จะเป็นปัจจัยที่กลับมาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

    ส่วนกลยุทธ์การลงทุน YLG มองว่าทองคำยังแกว่งตัวในกรอบไซต์เวย์ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งซื้อและขาย แต่เน้นเป็นการทำกำไรระยะสั้น โดยวานนี้ราคาไม่สามารถทะลุผ่าน 2,931 ดอลลาร์ ทำให้เกิดการพักตัวสะสมกำลัง แต่หากวันนี้ราคายืน 2,895 ดอลลาร์ได้ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน กรณีหลุด 2,895 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัวลึกขึ้น แต่พักเพื่อขึ้นต่อในระยะกลางจะไม่หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 2,832 ดอลลาร์

    ทั้งนี้แนะนำเสี่ยงซื้อหากไม่หลุด 2,895 ดอลลาร์ หากหลุด 2,895 ดอลลาร์ รอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,881-2,870 ดอลลาร์ และให้แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์แต่หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ไปได้ ให้ชะลอขายไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870ดอลลาร์

    สำหรับทองคำไทยอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะว่าค่าเงินบาทมีภาพหรือมีโมเมนตั้มที่เป็นลักษณะการแข็งค่า และมีความผันผวนค่อนข้างมาก

    โดยให้แนวต้านที่ 46,650/46,850 และ 47,050 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 46,050/45,800 และ 45,650 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.57 บาทต่อดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 มี.ค.68 GoldAround

    แนวโน้มขาขึ้นทองคำยังดูดี หากปิดเหนือ $2,930 ได้พร้อมไปต่อ ส่วนทองไทยยังเกาะแนว 46,500 บาท

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 6 มี.ค.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,500 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,400 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,300 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,570.96 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.58 บาทต่อดอลลาร์

    โดย Shining Gold  มองว่า

    ราคาทองคำไทยพยายามทำ Technical Rebound โดยได้แรงหนุนจากการรีบาวน์ของ ราคาทองคำ gold spot ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงไม่มากนัก ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวเริ่มบีบแคบเพียง 46,000–46,850 บาท

    อาศัยจังหวะย่อตัวเข้าซื้อเล่นรอบในกรอบไปก่อน โดยให้แนวรับที่ 46,300/46,000-45,900 และ 45,500 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,470/46,620 และ 47,800 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 5 มี.ค.)ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 35 ดอลลาร์ โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,929 ดอลลาร์ ก่อจะถูกเทลงมาปิดตลาดที่ 2,918 ดอลลาร์โดยรวมปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2 ดอลลาร์

    โดยทองคำยังได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2567 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 141,000 ตำแหน่ง แต่ดัชนี PMI ภาคบริการของ ISM เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 53.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 52.5

    นอกจากนั้นทองคำยังได้แรงหนุนจากความกังวลสงครามการค้าโลกลดลง ทำให้มีแรงเทขายทองคำ หลังสหรัฐอาจเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งได้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% แต่ล่าสุด ปธน. ทรัมป์ กำลังพิจารณายกเว้นภาษีสินค้าเกษตรบางส่วนที่กำหนดไว้ในแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึงภาษีภาษีรถยนต์กับ 2 ประเทศนี้ออกไปด้วย

    ประเด็นที่ต้องจับตาคืนนี้ ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะมีการประกาศดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจปรับลดลงจาก 2.90% ลงเหลือ 2.65% ขณะที่ทางด้านสหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD แนะนำว่า

    ผู้ที่ซื้อทองคำ gold spot ในระดับต่ำกว่า 2,880 ดอลลาร์ ควรถือต่อไปได้เลย ส่วนผู้ที่ยังไม่มีทองคำในมือตอนนี้สามารถซื้อได้บ้าง แต่ควรเผื่อใจหากมีการเจรจาเรื่องสงครามการค้าในอนาคต

    ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากจนต้องกังวล เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ค่อยถัวแก้ในภายหลังได้ โดยให้แนวรับที่ 2,880 ดอลลาร์ และ 46,400 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,950 ดอลลาร์ และ 47,000 บาท

    ด้าน Ausiris มองว่า

    ราคาทองคำ gold spot ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายในกราฟราย 4ชั่วโมง บ่งบอกว่ายังเป็นโน้มขาขึ้นสะท้อน กลยุทธฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด โดยมีเป้าหมายที่ 2,930 ดอลลาร์ ที่ต้องเบรกเพื่อสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

    โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2,940-2,955 ดอลลาร์ ในตรงกันข้ามหากยังไม่สามารถเบรคโซนดังกล่าว ทองเสี่ยงเผชิญแรงเทขายระยะสั้นสลับออกมา โดยมีแนวรับที่ 2,915/2,895 และ 2,877 ดอลลาร์

    ขณะที่ MTS Gold

    มองในเชิงเทคนิคว่า ราคาทองคํากลับมาเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้นต่อ หลังจากที่มีการปรับฐานเพียงเล็กน้อยเมื่อ 4 วันก่อน และสิ้นสุดการปรับฐานแถวบริเวณ 2,832 ดอลลาร์ ทําให้ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคําดูค่อนข้างแข็งแกร่งขึ้น โดย Indicators ต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่สมดุลมากขึ้นทั้ง MACD และ RSI

    อย่างไรก็ดีวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดยมีแนวรับที่ระดับ 2,910 ดอลลาร์ และแนวต้านหลักที่ระดับ 2,945 ดอลลาร์

    ส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 46,100 บาท และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 46,700 บาท โดยราคาทองไทยยังคงถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทําให้ราคาทองไทยปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก

    ปิดท้ายที่ GCAP Gold

    แนะ รอซื้อ 2,902 ดอลลาร์ มีแนวรับที่ 2,902/2,896 และ 2,890 ดอลลาร์ stoploss ที่ 2,885 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,932/2,937 และ 2,942 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • ทิศทางทองคำ 5 มี.ค.68 พูดคุยกับคุณสุรศักดิ์ นิรมลพิศาล อินเตอร์โกลด์

    ทิศทางทองคำ 5 มี.ค.68 พูดคุยกับคุณสุรศักดิ์ นิรมลพิศาล อินเตอร์โกลด์

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 5 มี.ค.68

    พูดคุยกับ คุณสุรศักดิ์ นิรมลพิศาล (เจมส์) เทรดเดอร์อินเตอร์โกลด์ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด (InterGOLD)

    ทองคำกลับมามีโมเมนตั้งเชิงบวก หลังสหรัฐเดินหน้าสงครามการค้าเต็มตัว รอบนี้หากย่อไม่หลุด $2,880 ลุ้นไป $3,000

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    คุณสุรศักดิ์ นิรมลพิศาล เทรดเดอร์ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด กล่าวกับ goldaround ว่า

    ราคาทองคำ gold spot กลับมาดีดตัวแรง 2 วันติด โดยเมื่อวานนี้ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,927 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงมา

    โดยได้แรงหนุนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากเมื่อวานนี้สหรัฐฯ ได้บังคับใช้ภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก ในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ตามคำที่ประกาศไว้ก่อนหน้า

    นอกจากนี้สหรัฐฯ ประกาศจะเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับทุกประเทศเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.

    ขณะเดียวกันมีการตอบโต้กลับจากแคนาดาที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 25% โดยให้มีผลทันที และจีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 15% ครอบคลุมสินค้าเกษตรเป็นหลัก มีผลวันที่ 10 มี.ค. พร้อมทั้งจำกัดการส่งออกไปยังบริษัทสหรัฐฯ จำนวน 15 แห่ง

    ส่วนผู้นำเม็กซิโกระบุจะประกาศมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค.

    นอกจากนั้นยังต้องจับตาการจัดภาษีศุลกากรต่อสินค้ากลุ่มยานยนต์และผลิตภัณฑ์ยาในเดือนหน้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และเอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสหภาพยุโรปก็ประกาศพร้อมจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐเช่นกัน

    มาดูกลยุทธ์การลงทุนหลังจากที่ทองคำ gold spot ดีดตัวกลับมา ยืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ ได้อีกครั้งหลังปรับฐานโดยการย่อลงไปถึงประมาณ 2,840 ดอลลาร์ ทำให้โดยภาพรวมทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

    ทำให้มีโอกาสทุกเมื่อที่ทองคำจะพุ่งขึ้นไปได้อีก และเป้าหมายสำคัญคือที่ 3,000 ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์นี้ต้องติดตามผลกระทบจากสงครามการค้า และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ

    ทั้งนี้ให้แนวต้านที่ 2,920 ดอลลาร์ หรือ 46,500 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ หรือ 46,300 บาท

    รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้


    .

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 มี.ค.68 GoldAround

    สงครามการค้าโลกระอุ สหรัฐลุยเก็บภาษีคู่ค้าแต่ถูกโต้ทันควัน ดัน gold spot พุ่งแตะ $2,927

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันลดลง 200 บาท

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท

    ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.76 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า

    แนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับแรกที่ 46,200 และ 45,900 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,900 บาท มีเป้าทำกำไรที่ 46,700 และ 47,000 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 4 มี.ค.)ราคาทองปรับขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,927 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดที่ 2,916 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์

    โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ประกอบกับมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade War ระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าหลังจากสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน

    ขณะเดียวกันมีการตอบโต้กลับจากแคนาดาที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 25% มีผลทันที จีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 15% ครอบคลุมสินค้าเกษตรเป็นหลัก มีผลวันที่ 10 มี.ค. นอกจากนี้สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับทุกประเทศเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.

    วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น ปธน.ทรัมป์ จะแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ซึ่งอาจมีการกล่าวถึงมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นภาษีที่ยังมีโอกาสถูกเลื่อนออกไปหากมีเงื่อนไขบางประการ

    ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการประกาศ PMI ภาคการบริการ เดือนก.พ. และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.พ. จาก ADP คาดลงลงแตะ 141,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 183,000 ราย

    มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

    วานนี้ราคาทองคำมีทั้งจังหวะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 2,926 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงมา 2,899 ดอลลาร์ ถือว่าทิ้งตัวเกือบ 30 ดอลลาร์ แสดงถึงราคามีทั้งจังหวะดีดตัว และจังหวะทิ้งตัวในเวลาเดียวกัน แต่แรงซื้อก็ยังคงมีอยู่มากเลยทีเดียว

    หลังจากนี้จะเป็นการสู้กันระหว่างแรงขายกับแรงซื้อ ซึ่งถือเป็นรอยต่อสำคัญสำหรับการเปลี่ยนเทรนด์ รายเดือนให้ขึ้นอย่างรุนแรง กับการเปลี่ยนเทรนด์รายเดือนให้กลับมาพักตัวระยะสั้นถึงกลาง แล้วค่อยกลับตัวขึ้นมาใหม่เพื่อลดทอน Indicators

    ดังนั้นการเคลื่อนไหวทุก ๆ วันในสัปดาห์นี้มีโอกาสพลิกผันเปลี่ยนเทรนด์ได้เสมอจึงควรพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญ และเสริมด้วยปัจจัยข่าวนอกตามตารางอีกที

    กลยุทธ์การลงทุน พิจารณาแนวต้าน 2,921 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านแนวดังกล่าวสามารถเปิด Short ได้ไม้แรก แต่หากผ่านให้ขยับแนว Short เป็น 2,931-35 ดอลลาร์ จะปลอดภัยกว่า มีจุด SLที่ 2,938ดอลลาร์ ส่วนเป้าหมายอยู่ที่ 2,910/2,903 และ2,892 ดอลลาร์

    YLG Bullion มองว่า

    วานนี้ราคาปรับตัวผ่าน 2,913 ดอลลาร์ ทำให้มุมมองเชิงลบในระยะกลางลดลง แนวรับแรกอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ หากยืนได้ยังขึ้นต่อ หากหลุด 2,900 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัว แต่หากราคาเริ่ม Higher Low เหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 2,832 ดอลลาร์จะเริ่มกลับมามีมุมมองเชิงบวกในระยะกลางอีกครั้ง

    กลยุทธ์การลงทุนรอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,884-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ให้ชะลอการซื้อคืนไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์

    ขณะที่ SCT Gold มองว่า

    ราคาทองคำพุ่งทะลุแนวต้าน 2,900 ดอลลาร์ หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ากับทุกประเทศตามแผนเดิมสร้างแรงกดดันต่อตลาดการค้าโลก ส่งผลให้ทองคำทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,900 – 2,910 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ

    ภาพรวมราคาทองคำยังดูเป็นขาขึ้น แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า 2,880 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายและพักฐานต่อ อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ตลาดยังต้องจับตาตัวแปรสำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

    กลยุทธ์การลงทุน ย่อซื้อ–ขึ้นขายเป็นหลัก แนะนำให้เล่นสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูงปรับพอร์ตให้สมดุลเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด Gold Spot โดยให้แนวรับที่ 2,875 และ 2,850 ดอลลาร์ แนวต้านที่ 2,930 และ 2,950 ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,887 และ 2,862 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,924 และ 2,937 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • ทิศทางทองคำวันนี้ 4 มี.ค.68 พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร ชายน์นิ่งโกลด์

    ทิศทางทองคำวันนี้ 4 มี.ค.68 พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร ชายน์นิ่งโกลด์

    สัมภาษณ์พิเศษ คุณวิโรสินี สดากร AISA ผจก.ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    gold spot ทะลุต้านสำคัญ $2,902 ไม่ได้ วันนี้สหรัฐดีเดย์ เก็บภาษี “เม็กซิโก-แคนนาดา-จีน” ชี้ตลาดรับข่าวไปแล้วอาจกดราคาพักฐานต่อได้

    คุณวิโรสินี สดากร ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าวกับ GoldAround ว่า

    เมื่อวานนี้ราคาทองคำ gold spot รีบาวด์ขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญแต่ยังผ่านไปไม่ได้ และวันนี้ (4 มีนาคม) เป็นกำหนด Deadline เดิมที่สหรัฐฯ จะเริ่มจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้ากับแคนาดา และ เม็กซิโกที่ 25%

    ยกเว้นภาษีนำเข้าพลังงานที่จะลดปริมาณการจัดเก็บลงมาเหลือ 10% เท่านั้น ส่วนประเทศจีนต้องมารอดูว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีก 10 % หรือไม่

    ประเด็นดังกล่าวให้น้ำหนักเชิงบวกต่อราคาทองคำได้ แต่ก็ไม่มากนักเพราะตลาดมีการับรู้ข่าวมาก่อนล่วงหน้าแล้ว เว้นแต่เม็กซิโก และแคนาดา จะมีมาตรการภาษีโต้กลับในทันที หรือภายใน 1-2 วันนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดและเป็นแรงหนุนต่อทองคำได้อย่างต่อเนื่อง

    ในทางกลับกันหากไม่เกิดการจัดเก็บและไม่เกิดการโต้กลับของภาษี การรีบาวน์ของราคาทองคำจะไม่ยั่งยืน ก็จะเกิดแรงเทขายให้ราคาสามารถพักฐานต่อหลังจากจบรอบรีบาวน์ช่วงนี้ไป

    กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น เฉพาะ gold spot พิจารณาราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2,900-2,902 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านแนวดังกล่าวสามารถเปิด Short ได้ไม้แรก แต่หากผ่านให้ขยับแนว Short เป็น 2,922-2,926 ดอลลาร์ จะปลอดภัยกว่า มีจุด SL ที่ 2,932 ดอลลาร์ ส่วนเป้าหมายอยู่ที่ 2,886/2,875 และ 2,858 ดอลลาร์

    ส่วนราคาทองคำไทยพยายามทำ Technical Rebound โดยได้แรงหนุนจากการรีบาวน์ของ gold spot ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงไม่มากนัก ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไทยเริ่มบีบแคบเพียง 46,000 – 46,850 บาท ระยะปัจจุบันคือระยะตรงกลางที่จะรีบาวน์ไปทดสอบแนวต้าน 46,600 และ 46,800 บาท

    หากไม่ผ่านต้านหนึ่งต้านใด ราคาจะย่อลงมาให้เข้าซื้อบริเวณเดิม นักลงทุนที่เข้าซื้อกันมาแล้วก่อนหน้า ทยอยทำกำไรตามแนวต่าน เพื่อรอย่อตัวเข้าซื้อใหม่ ทั้งนี้ให้แนวต้าน ที่ 46,600/46,800 และ 47,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 46,400/46,000-45,900 และ 45,500 บาท

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 4 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 4 มี.ค.68 GoldAround

    gold spot รีบาวด์กลับแรง จ่อแตะ $2,900 วันนี้จับตาผลกระทบสหรัฐลุยเก็บภาษีเพิ่ม จาก “เม็กซิโก-แคนนาดาและจีน”

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศยังคงได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า แนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับแรกที่ 45,650 และ 45,400 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,400 บาท มีเป้าทำกำไรที่ 46,450 และ 46,650 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 3 มี.ค.) กลับมาปิดบวกแรง 34 ดอลลาร์ โดยราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,895 ดอลลาร์

    โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ ดิ่งลงกว่า 1% ประกอบกับมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย จากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐ หลัง ปธน.ทรัมป์ยืนยัน จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% โดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค.ตามกำหนด พร้อมระบุว่าทั้ง 2 ประเทศไม่มีช่องทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีได้อีก

    นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

    ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลง สู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ FedWatch Tool ของ CME Group คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเริ่มในเดือนมิ.ย

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

    ราคายังคงอยู่ในชุดดีดแต่ต้องระวังว่าเป็นการดีดเพื่อลง โดยมีเป้าดีดที่ 2,895-2,913 ดอลลาร์ ตามลำดับ ระหว่างวันอาจเกิดการย่อตัวแนวรับวันนี้จะอยู่บริเวณ 2,871-2,859 ดอลลาร์ แต่หากการย่อตัวหลุด 2,832 ดอลลาร์ แสดงว่าชุดดีดจบแล้วและราคาจะลงต่อ

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เปิดสถานะขายทองคำหากราคาดีดตัวไม่ผ่าน 2,895-2,913 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาทะลุ 2,913ดอลลาร์ ซื้อคืนหากราคาย่อไม่หลุด 2,871-2,859 ดอลลาร์ หลุด 2,859 ดอลลาร์ ชะลอการซื้อคืนไปที่รับถัดไป

    ขณะที่ Ausiris มองว่า

    ราคาทองคำสามารถรีบาวน์กลับขึ้นมาค่อนข้างรุนแรง หลัง RSI อินดิเคเตอร์เร่งตัวเข้าเขตขายมาก หนุนแรงซื้อกลับมาหนุนตลาด หากสามารถกลับไปยืนเหนือ 2,909 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายทำหน้าที่เป็นแนวต้านได้ในกราฟราย 4 ชั่วโมง โมเมนตั้มขาขึ้นจะมีน้ำหนักมากขึ้น

    ในตรงกันข้ามหากยังเบรกโซนนี้ไม่ผ่านจะแสดงถึงการพักตัวที่ไม่จบและยังมีโอกาสทดสอบโซน 2,850ดอลลาร์ได้ โดยให้แนวรับ 2,875/2,850 และ 2,830 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 2,895/2,909 และ 2,925 ดอลลาร์

    ด้าน ARR Goldtrading มองว่า

    ราคาทองคำดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจนมาถึงแนวต้านสำคัญบริเวณ 2,890 ดอลลาร์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ก่อนช่วงเย็นจะมีโอกาสปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้ง

    นักลงทุนพิจารณารอซื้อเมื่ออ่อนตัว หรือเข้าซื้อบางส่วนแนวรับ 2,880 / 2,870 และ 2,860 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,860 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อ หรือที่แนวต้าน 2,900 / 2,910 และ 2,920ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,862 และ 2,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,899 และ 2,912 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • ทิศทางราคาทองคำวันนี้ 3 มี.ค.68 คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ SCT GOLD

    ทิศทางราคาทองคำวันนี้ 3 มี.ค.68 คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ SCT GOLD

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 3 มี.ค.68

    พูดคุยกับ คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บจ.ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด หรือ SCT GOLD

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    สัปดาห์นี้คาดราคาทองคำยังผันผวนหนัก หลายสถานการณ์กำลังสุกงอม gold spot หากยืน $2,900-10 ไม่ได้ลงต่อ

    คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บจ.ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด กล่าวกับ GoldAround ว่า

    ราคาทองคำ gold spot โดนเทขายทำกำไรติดต่อกันหลายวันจนยืน 2,900 ดอลลาร์ ไม่ได้ ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำพักฐานแรง และจากแรงเทขายอย่างต่อเนื่องทำให้ลงมาแตะ 2,832 ดอลลาร์

    ก่อนจะมีแรงรีบาวด์สั้นๆ ในช่วงดึกวันศุกร์ และยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจนถึงเช้านี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนหลายเรื่องผลจากการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ กับ ปธน.เซเลนสกีของยูเครนล้มเหลว

    ทำให้ประเทศในยุโรปต้องมาช่วยเหลือยูเครนโดยเตรียมเสนอยุทธศาสตร์สันติภาพ ยูเครน-รัสเซีย ต่อสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สหรัฐมีความได้เปรียบมากขึ้น จนกลับมากระตุ้นแรงซื้อคืนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    นอกจากนั้นต้องจับตาการประกาศตั้งกองทุนสำรองคริปโตฯ ของ ปธน.ทรัมป์ ที่ทำให้ราคาบิทคอยน์พุ่งแรง ซึ่งประเด็นนี้ยังต้องจับตาไปถึงการนับทองคำในคลังที่อาจจะนำมาใช้เป็นเงินทุนสำรองของเงินดิจิตัลในอนาคตด้วย

    นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตานโยบายภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่า จะดำเนินการตามแผนในวันที่ 4 มีนาคม แม้ว่าทั้ง แคนนาดา-เม็กซิโก ก็วิ่งพยายามเอาใจสหรัฐฯ ก็ตาม

    ทั้งนี้หากว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็อาจจะเห็นทองคำขยับกลับไปในโซนสูงต่อไป แต่หากว่าแผนการดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป ก็จะเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคาทองคำ

    สำหรับสัปดาห์นี้ราคาจะผันผวนต่อ เพราะนอกเหนือจากความคืบหน้าสถานการณ์ต่างๆ จะเห็นว่าโลกกำลังอยู่ในจุดเปราะบาง เพราะทรัมป์ไม่แคร์ใครเลย ยังมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเด้งไปมาแรง หรือผันผวนตลอดทั้งเดือน

    โดยกลยุทธ์การลงทุนเมื่อราคาย่อแรงใกล้ 2,800-20 ดอลลาร์ จะเป็นช่วงทยอยเก็บ และเมื่อราคาเด้งขึ้นมาให้ขายทำกำไรทำรอบไปก่อน หากสถานการณ์แย่จากผู้นำสหรัฐฯราคาทองคำก็จะเด้งอีกชุด

    แนะนำเล่นซื้อตอนรีบาวด์ตราบใดที่ไม่หลุด 2,810 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวต้านแข็งๆ ที่ 2,900-2,910 ดอลลาร์ หากการเด้งไม่แรงจะลงต่อ โดยเฉพาะถ้าสหรัฐฯเลื่อนการเก็บภาษี และการนับสต็อคทองคำออกมาครบถ้วน

    ส่วนราคาทองคำไทย ยังเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงของราคาทองคำ Spot อย่างไรก็ตาม แนวรับสำคัญของทองคำไทยยังอยู่ที่ 46,100 – 45,900 บาท หากยืนเหนือระดับนี้อาจสามารถเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาเพื่อทดสอบแนวต้านที่ 46,700 – 46,900 บาท อีกครั้ง

    รับชมคลิป