หมวดหมู่: ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ทิศทางทองคำ-ดัชนี ก.ย.67 ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ

    ทิศทางทองคำ-ดัชนี ก.ย.67 ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ

    เกาะติดทิศทางราคาทองคำและดัชนีทองคำ ก.ย.67

    สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ

    เงินบาทแข็งค่าแรงทำราคาทองไทยฝืด แต่นักลงทุนพร้อมเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว ด้าน gold spot ทะยานต่อคาดทะลุ $2,600

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    .

    รับชมคลิป ทิศทางทองคำ-ดัชนี

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน กันยายน 2567

    ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 68.97 ลดลง 4.01 จุด หรือคิดเป็น 5.49% จากเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 72.98 จุด ซึ่งเดือนนี้เป็นครั้งแรกที่นักลงทุนคาดการณ์ผิดคาด หลังจากทำนายถูกมาก 13 เดือนติดต่อกันสาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของเงินบาท และ ความกังวลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

    ขณะที่มุมมองของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน กันยายน 2567 จะเพิ่มขึ้น อีก 5 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าจะลดลง ที่เหลือ 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน สิงหาคม 2567

    พร้อมคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน กันยายน 2567 โดยราคาทองคำตลาดโลก หรือ gold spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 2,456 – 2,566 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ราคาได้ทะลุขึ้นแล้ว โดยคาดว่าแนวต้านถัดไปจะอยู่แถว 2,600 และ 2,650 ดอลลาร์

    ขณะที่แนวรับจะอยู่แถว 2,535 และ 2,500 ดอลลาร์ ทั้งนี้ต้องมารอดูผลการประชุมของเฟดในเดือน ก.ย.ว่า สุดท้ายแล้ว จะเลือกลดดอกเบี้ยในระดับใดระหว่าง 0.25 หรือ 0.50%

    “ทั้งนี้มองภาพการลงทุนทองคำในเดือนกันยายน หากราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบ หรือทรงตัวเพื่อรักษาระดับของราคาทองไว้ ประเมินว่าราคาทองคำจะมีโอกาสค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านสำคัญ หากราคาทองไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ ก็อาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาได้ ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องติดตามสถานการณ์ และปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองอย่างใกล้ชิด” ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ กล่าว

    ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ถูกกดดันจากค่าเงินบาทอย่างหนัก โดยเงินบาทเคยอ่อนค่าไปแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ แต่ล่าสุดได้แข็งค่ามาแตะใกล้ระดับ 33 บาท แข็งค่าสุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทำให้ราคาทองคำไทยปรับขึ้นน้อยกว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำ gold spot โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาได้ลงไปแตะระดับ 39,900 บาท ซึ่งเป็นหมายของหลาย ๆ คน ก่อนจะขยับขึ้นมาแถว 40,500-40,600 บาท

    ทั้งนี้อาจจะแบ่งขายทำกำไรออกไปบางส่วนและไปรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวไปแถว 40,000 บาทหรือต่ำกว่านั้น ขณะที่แนวต้านอยู่แถว 41,000-41,500 บาท

    ส่วนการซื้อขายทองคำของผู้ประกอบการร้านค้าทองคำในประเทศ ในช่วงที่ราคาทองคำแท่งปรับลดมาแถว 39,900 หรือ 40,000 บาท ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามา แสดงห้เห็นว่านักลงทุนยังพร้อมจะเข้าซื้อเมื่อราคาลดต่ำลงมา โดยมองว่าในระยะยาวราคาทองคำยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ ในทางตรงกันข้ามการซื้อขายทองรูปพรรณ ยังคงเงียบเหงา หลังราคาปรับขึ้นแรง และกำลังซื้อของประชาชนยังไม่มีมากพอ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 6-10 ก.พ.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 6-10 ก.พ.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-10 ก.พ.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 337 ราย ในจำนวนนี้มี 138 ราย หรือเทียบเป็น 41% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 142 ราย หรือเทียบเป็น 42% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 57 ราย หรือเทียบเป็น 17% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,700 – 30,250 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,700 บาท ต่อบาททองคำ ปรับลดลง 250 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,950 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. สถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น อาจทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

    2. การแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส ในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยจับตาทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย รวมทั้งการทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

    3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือน กุมภาพันธ์ 2566 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 306 ราย ในจำนวนนี้มี 173 ราย หรือเทียบเป็น 57% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 96 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 37 ราย หรือเทียบเป็น 12% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,850 – 30,100 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,950 บาท ต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น 100 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,850 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในระหว่างวันที่ 31 มกราคม -1 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้ง ถ้อยแถลงของ นาย เจอโรม พาวเวล ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED โดยคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

    2. การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งจะประกาศการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยโดยคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

    3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP, ดัชนี ISM ภาคการผลิตและบริการ เดือน มกราคม 2566, และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 23-27 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 23-27 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ม.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 325 ราย ในจำนวนนี้มี 164 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 94 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 67 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,800 – 30,000 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,850 บาท ต่อบาททองคำ ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,850 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. ปริมาณการซื้อขายในตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำของจีนอาจเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน

    2. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566 ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% แต่ด้วยสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจมีแนวโน้มเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำภายในประเทศ

    3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านใหม่, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, อัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจาก PCE/Core PCE Price Indices, ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือน มกราคม 2566 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 16-20 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 16-20 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 302 ราย ในจำนวนนี้มี 173 ราย หรือเทียบเป็น 57% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 76 ราย หรือเทียบเป็น 25% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 53 ราย หรือเทียบเป็น 18% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,650 – 29,850 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,850 บาท ต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น 100 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,750 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. ปริมาณการซื้อขายทองคำในสหรัฐฯ อาจเบาบางลง เนื่องจากตลาดเงิน และตลาดทุนของสหรัฐฯ ปิดทำการในวัน Martin Luther King Day (16 มกราคม 2566)

    2. สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯชะลอตัวลง และคาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย, ผลสำรวจภาคการผลิตของ FED สาขานิวยอร์ก และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของ FED สาขาฟิลาเดลเฟีย ประจำเดือน มกราคม 2566 รวมทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 9-13 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 9-13 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 9-13 ม.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 42% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 323 ราย ในจำนวนนี้มี 171 ราย หรือเทียบเป็น 53% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 110 ราย หรือเทียบเป็น 34% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 42 ราย หรือเทียบเป็น 13% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,650 – 30,000 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,750 บาท ต่อบาททองคำ ปรับลดลง 100 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,850 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. ทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะยังจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่จะเป็นลักษณะทยอยปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากความหวังเรื่องการเปิดประเทศของจีนด้วยเช่นกัน

    2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ (CPI) เมื่อเดือน ธันวาคม 2565, ดัชนีความเชื่อมั่น และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมของผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน มกราคม 2566 รวมถึงรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 2-6 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 2-6 ม.ค.66 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-6 ม.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 8 ราย หรือเทียบเป็น 58% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 313 ราย ในจำนวนนี้มี 200 ราย หรือเทียบเป็น 64% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 73 ราย หรือเทียบเป็น 23% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 40 ราย หรือเทียบเป็น 13% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,600 – 29,850 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,850 บาท ต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น 250 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,600 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. การเกิด January Effect ในตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นช่วงเดือน มกราคม เป็นทฤษฎีที่อิงมาจากพฤติกรรมของนักลงทุน ซึ่งในช่วงสิ้นปีมักจะมีการปรับพอร์ตเพื่อขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาว และกลับมาซื้อใหม่ในช่วงต้นปี โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น หากภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้น ๆ ยังขยายตัวได้ดี ไม่มีปัจจัยถ่วงมากดดัน โอกาสที่จะเกิด January Effect ก็มีมากขึ้น

    2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการ, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานเดือน ธันวาคม 2565 และบันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 26-30 ธ.ค.65 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 26-30 ธ.ค.65 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26-30 ธ.ค.65 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 338 ราย ในจำนวนนี้มี 161 ราย หรือเทียบเป็น 48% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 117 ราย หรือเทียบเป็น 34% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 60 ราย หรือเทียบเป็น 18% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,550 – 29,850 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,600 บาท ต่อบาททองคำ ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,600 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการเข้าตลาดก่อนช่วงวันหยุดปลายปี สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้อาจจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก โดยในหลายประเทศหยุดทำการยาวต่อเนื่องทั้ง Christmas Eve, Christmas Day และ Boxing Day ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมักจะแคบลงหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงเทศกาลปีใหม่

    2. ความกังวลต่อการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ในจีน ซึ่งกำลังเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกจับตามอง ท่ามกลางความกังวลว่าวิกฤตโรคระบาดในชาติที่มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน อาจบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปีหน้า

    3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, ดัชนีราคาบ้าน รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

  • ทิศทางราคาทองคำ 2566 – Gold Outlook 2023 EP2 : ฟังมุมมองจาก ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ (คลิป)

    ทิศทางราคาทองคำ 2566 – Gold Outlook 2023 EP2 : ฟังมุมมองจาก ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ (คลิป)

    ทิศทางราคาทองคำ 2566 – Gold Outlook 2023 EP2

    สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ

    ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ปี 2023 ทองคำยังร้อนแรง จับตาปัญหาเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

    .

    .

    รับชมคลิป

    รับชมเพิ่มเติม Playlists for GOLD OUTLOOK 2023

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยกับ GoldAround ว่า ปี 2022 ที่ผ่าน เชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่นักลงุทนสามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำได้หลายรอบ

    เริ่มจากในช่วงไตรมาสแรก มีโอกาสขายทองคำในราคา 32,000 บาท หลังรัสเซียได้ทำสงครามกับยูเครน จนทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติใหม่ แม้ว่า gold spot จะยังไปไม่ถึงสถิติเดิม

    จากนั้น ในช่วงไตรมาส 2 สามารถลงมาซื้อทองคำที่ระดับได้ 28,000-29,000 บาท หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และสามารถเล่นรอบในช่วงการประชุมแต่ละครั้ง

    ถ้านักลงทุนคนไหนสามารถจับจังหวะการซื้อขายได้ จะสามารถทำกำไรจากการปรับเปลี่ยนราคาในรอบย่อย ๆ ระดับ 700-1,000 บาท อีกไม่ต่ำกว่า 3 รอบ เพราะฉะนั้น ดูแล้วปีนี้น่าจะเป็นปีที่นักลงทุนมีความสุข

    “ทั้งนี้ สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำรายเดือน ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยทองคำ ซึ่งปีนี้ นักลงทุนทำนายทิศทางราคาทองคำถูกเกือบ 100 %“ ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว

    ส่วนปี 2023 ยังคงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำอย่างใกล้ชิด เพราะเฟดได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก แม้จะเป็นอัตราที่ลดลง และจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป เพื่อดึงให้ตัวเลขเงินเฟ้อลงกลับตามที่ต้องการ  

    อย่างไรก็ดี การที่เฟดตรึงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน ไม่น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการลงทุนโดยรวม

    หากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงต้นปีออกมาแย่ ต้องมาดูว่า เฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากยังประกาศว่าจะยังคงดอกเบี้ยระดับสูงอยู่ เชื่อว่าราคาทองคำก็อาจจะไปไหนไกล เพราะราคาทองคำกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงเป็นเรื่องที่ตรงข้ามกัน

    เพราะฉะนั้น นักลงทุนยังสามารถลงทุนในกรอบแคบ ๆ ไปก่อน อย่างไรก็ดี จากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำในช่วงไตรมาสแรกจะปรับเพิ่มขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำในด้านกายภาพ เพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลเฉลิมฉลองในหลายประเทศจำนวนมาก

    หากมองปัจจัยต่าง ๆ ในขณะนี้แล้ว ยังมองว่า มีโอกาสที่ทำให้ราคาทองคำกลับไปยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ ได้ โดยเฉพาะในการประชุมเฟดครั้งแรกของปี 2023 หากมีการประกาศชะลอเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน

    ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูอัตราเงินเฟ้อ หรือ ดัชนี CPI ทั่วไปด้วยว่าจะเป็นอย่างไร แต่การที่จะให้ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 2,075 ดอลลาร์ ก็อาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ต้องหาโมเมนตั้มใหม่ ๆ ที่จะผลักดันขึ้นไปให้ได้ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอะไร แต่หากมองในทางเทคนิคราคาแล้ว ยังมีความเป็นไปได้

    รับชมเพิ่มเติม Playlists for GOLD OUTLOOK 2023

  • ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 19-23 ธ.ค.65 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ รายสัปดาห์ วันที่ 19-23 ธ.ค.65 | GRC Gold Survey

    ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 19-23 ธ.ค.65 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

    14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 28% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 325 ราย ในจำนวนนี้มี 160 ราย หรือเทียบเป็น 49% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 94 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 71 ราย หรือเทียบเป็น 22% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สถานการณ์ราคาทองคำ

    ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,400 – 29,700 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,600 บาท ต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น 50 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 29,550 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

    ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    1. การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระหว่างวันที่ 19 – 20 ธันวาคม 2565 คาดว่าจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อเนื่อง หลังจาก นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยว่า ไม่ต้องการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของ COVID – 19

    2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธันวาคม 2565, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน, ยอดขายบ้านมือสอง, ยอดขายบ้านใหม่, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ข้อมูลรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ