หมวดหมู่: Editor’s Picks

GoldAround นำเสนอข่าวสารและวิเคราะห์ที่เป็นรายวันเกี่ยวกับราคาทองคำที่ปรากฏบนตลาดโลก รวมถึงการแสดงความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินและการลงทุน คุณจะได้รับข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจในการลงทุนในทองคำอย่างมีเสถียรภาพและมั่นคง

  • ราคาทองคำยังวิ่งกรอบแคบ จับตาการแถลงของ ปธ.เฟดคืนนี้ (GT Gold)

    ราคาทองคำยังวิ่งกรอบแคบ จับตาการแถลงของ ปธ.เฟดคืนนี้ (GT Gold)

    19-05-20

    หลังจากที่เมื่อช่วงกลางวันวานนี้ (18 พ.ค.) ราคาทองคำได้ขึ้นทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ในรอบปีนี้ และถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี ที่ระดับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ในช่วงค่ำจะถูกเทขาย จนทำให้ราคาลดลงมาแนวระดับราคา 1,730 ดอลลาร์ จนทำให้ในช่วงเช้าวันนี้สมาคมค้าทองคำได้ประกาศราคาทองคำลดลงถึงบาทละ 300 บาท

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com ว่า

    ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ มีความต่างค่อนข้างมาก แม้ว่าในด้านเทคนิคของราคามีแนวโน้มที่จะขึ้นไปแตะระดับ 1,775-1,780 ดอลลาร์ แต่เมื่อมีข่าวเรื่องของการพบวัคซีนที่อาจจะเข้ามาป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ราคาร่วงลงมาเคลื่อนไหวระดับ 1,730-1,728 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในแนวระดับราคานี้อีกระยะ เพื่อรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามากำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาต่อไป

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
    GT GOLD BULLION
    GT GOLD BULLION

    การแถลงของประธานเฟดต่อสภาพครองเกสในช่วงเวลาประมาณสามทุ่มครึ่งคืนนี้ เกี่ยวกับมาตรการกู้วิกฤต ศก.ของสหรัฐฯ ที่เกิดจากไวรัส โควิด-19 น่าจะเป็นจุดสำคัญที่จะต้องติดตาม เพราะที่ผ่านมา ปธ.เฟด ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ตามข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ฯ พร้อมให้รัฐบาลใช้นโยบายด้านอื่นเข้ามาช่วยเหลือบ้าง แทนที่จะใช้นโยบายด้านการเงินเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน เฟดก็พร้อมที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด (Unlimited) เพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อราคาทองคำพอสมควร

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

    หากมองภาพรวมของปัจจัยที่จะมีผลต่อทองคำ ในขณะนี้มีทั้งบวกและลบ ในด้านลบก็จะมีเรื่องของการค้นพบวัคซีน ที่จะเข้ามาป้องกันไวรัส โควิด-19 และ เรื่องของมาตรการคลายล็อคดาวน์ ขณะที่ ปัจจัยในเชิงบวก ก็ยังมีเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องจากเฟด เป็นได้ทั้งสองฝั่ง ขึ้นอยู่กับว่าผลการแถลงจะออกมาเช่นไร

    ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้น หลังจากที่ราคาได้ลงกลับมาเคลื่อนไหวแถว 1,730 – 1,728 ดอลลาร์ ขณะนี้ ต้องรอดูปัจจัยความเคลื่อนไหวของข่าวสารที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหากจะมองเพียงทางด้านเทคนิคแล้ว ราคาอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นชัดเจนมาก ทั้งนี้ ในฝั่งขาขึ้นคงจะต้องมาดูว่า ราคาจะผ่านแนวต้านที่ 1,745 ดอลลาร์ได้หรือไม่ หากผ่านไปได้ ก็พร้อมที่จะไปต่อ ในทางกลับกัน ต้องมาดูว่า ฐานแนวรับตรงระดับ 1,728 ดอลลาร์ จะยังรับไหวหรือไม่ หากเอาไม่อยู่ ราคาอาจจะร่วงมาระดับ 1,710 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้น

    ขอขอบคุณ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

    GT GOLD BULLION
    GT GOLD BULLION
  • จับตาราคาทองคำทะยานทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,790$ แนะให้เข้าซื้อหากราคาย่อ (InterGold)

    จับตาราคาทองคำทะยานทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,790$ แนะให้เข้าซื้อหากราคาย่อ (InterGold)

    18-05-20

    ราคาทองคำวันนี้ ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าได้พุ่งไปแตะที่แนวระดับราคา 1,760 ดอลลาร์ ซึ่งทำลายสถิติเมื่อเดือน เม.ย.ของปีนี้ ที่ระดับ 1,747 ดอลลาร์ ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ราคาได้ไปพุ่งแตะที่ระดับ 1,763 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย

    หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำน่าจะทำ Breakout ที่ระดับ 1,720 ดอลลาร์ ( บทสัมภาษณ์ : เกาะติดทองคำใกล้ชิด สัญญาณเทคนิคเตรียม Breakout ) และในคืนนั้นก็ทำได้จริง ๆ ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นต่อเนื่อง จนทำลายสถิติ ซึ่งเมื่อมองทางด้านเทคนิค ราคาอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นชัดเจนมาก โดยเป้าหมายหลัก ก็คือ ขึ้นไปแตะที่แถว 1,790 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว และถือเป็นแนวต้านที่สำคัญและแข็งแกร่งมาก ก่อนที่จะดูว่าจะผ่านไปถึงระดับ 1,800 ดอลลาร์หรือไม่

    นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
    GOLD BULLION INTERGOLD
    GOLD BULLION INTERGOLD

    อย่างไรก็ดี ในช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่าราคาจะชะลอตัว และวิ่งอยู่ในแนว 1,760 ดอลลาร์ หรืออาจจะลงมาบ้างเล็กน้อย โดยมองว่า หากราคาลงมาถึงระดับ 1,755-1,750 ดอลลาร์ ก็จะเป็นจุดที่น่าเข้าซื้ออย่างมาก เพราะคิดว่า ราคาจะไม่ลงไปลึกกว่านี้แล้ว และคาดว่าน่าจะทำกำไรได้ไม่ยาก เนื่องจาก ขณะนี้ช่องว่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับเสนอขายก็แคบลงแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ปกติเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็จะช่วยให้นักลงทุนทำกำไรได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยดันราคาทองคำให้พุ่งไปข้างหน้า

    ส่วนการปรับตัวขึ้นลงของราคานั้น แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่ายังกว้าง แต่หากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากฐานราคา ถือว่าไม่มาก เพราะขณะนี้ราคาทองคำได้เพิ่มมาแตะกว่าบาทละ 26,000 บาท ดังนั้น หากราคาจะแกว่งตัวในหลัก 200-300 บาทต่อวัน ก็เป็นเรื่องปกติ และเชื่อว่าในช่วงนี้ ราคาอาจจะแกว่งตัวกว้างขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินบาทนั้น ในช่วงนี้ ถือว่ายังนิ่งและคงจะไม่ส่งผลกับราคาทองคำมากนัก

    ขอขอบคุณ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

  • ปัญหา COVID-19 ดีขึ้น กดดันราคาทองคำ (GRC)

    ปัญหา COVID-19 ดีขึ้น กดดันราคาทองคำ (GRC)

    หลังจากที่ GoldAround.com ได้นำเสนอ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤษภาคม 2563 ไป ซึ่งในภาพรวมพบว่าดัชนีดีขึ้นต่อเนื่อง โดยนักลงทุนเห็นว่า สถานการณ์การแพ่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จะน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง และจะทำให้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ดีภายในเนื้อหาของรายงานดังกล่าวยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ

    ดร.พิบูลฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ
    ดร.พิบูลฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจับทองคำ ได้กล่าวกับ GoldAround.com ว่า เมื่อย้อนไปดูคะแนนดิบจะพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นได้ว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าราคาจะลดลง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก เพราะหลายคนมองว่าอาวุธที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด นำมาใช้น่าจะเพียงพอในการกู้วิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะไม่กินเวลายาวนานมาก และมาตรการคลายล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามไม่กังวลถึงผลการพร่ระบาดในเวฟ 2 และ 3 เท่าใดนัก

    ในทางกลับกับกลุ่มผู้ค้าทองคำรายใหญ่ของไทย กลับให้จับตามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการคลายล็อคดาวน์ โดยเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงเรื่องของสภาพเศรษฐกิจว่าจะดีขึ้นจริงหรือไม่ ผลการอัดฉีดเม็ดเงินของเฟด และธนาคารกลางของชาติต่าง ๆ จะได้ผลเพียงไร

    แต่ประเด็นที่กลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ค่อยข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ สงครามการค้าสหรัฐกับจีน ซึ่งทางฝั่งผู้นำของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวอีกครั้ง ในทางกลับกัน ทางฝั่งจีนกลับมีท่าทีที่อ่อนลง ซึ่งประเด็นนี้พอจะเข้าใจได้ว่า ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการจะสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนั้น กลุ่มผู้ค้ายังให้จับตามมองการเคลื่อนไหวของกลุ่ม SPDR ที่ซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะต้องมีการเทขายเพื่อทำกำไรบ้าง ซึ่งนักลงทุนจะต้องระมัดระวังให้มาก

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจับทองคำ

    ส่วนปัจจัยที่จะต้องจับตามองหลังจากนี้ แม้ว่าปัญหาของ COVID-19 จะเบาบางลงไปแต่ก็ยังคงให้น้ำหนักมากอยู่ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงมาตรการต่างของเฟดที่จะนำมาใช้เพิ่มเติม แม้ว่าล่าสุดทางประธานเฟด จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการในรูปแบบอื่นบ้างนอกเหนือจากมาตรการทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางด้านภาษี เพราะที่ผ่านมาก็ลดดอกเบี้ยไปมากแล้ว

    นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของค่าเงินบาทที่ในระยะหลังได้แข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลมาจากความสำเร็จของรัฐบาบไทยการควบคุมการแพร่ระวาดของไวรัส โควิด-19 เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ค่าเงินของประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือเกาหลี ซึ่งประสบความสำเร็จในการควบคุมปัญหาไวรัส โควิดข19 ก็ต่างแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจะเป็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติให้ความเชื่อมั่นหลังประเทศได้ มีมาตรการการดูแลเรื่อโควิดทำให้ดี

  • ดัชนีทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน กูรูแนะจับตาผลการคลายล็อคดาวน์ทั่วโลก (GRC)

    ดัชนีทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน กูรูแนะจับตาผลการคลายล็อคดาวน์ทั่วโลก (GRC)

    ศูนย์วิจัยทองคำ ได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤษภาคม 2563 พบว่าปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน เมษายน 2563 ที่ผ่านมา 0.40 จุด จากระดับ 67.93 จุด มาอยู่ที่ระดับ 68.33 จุด คิดเป็น 0.59% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ
    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ

    ส่วนความต้องการซื้อทองคำช่วงเดือน พฤษภาคม 2563 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 303 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 40.93 ยังไม่ตัดสินใจซื้อทองคำ ร้อยละ 37.29 ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ และร้อยละ 21.78 คาดว่าจะซื้อทองคำ

    ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงกับราคาทองคำ 10 ราย 5 ราย เชื่อว่าราคาทองคำในนี้จะเพิ่มขึ้น 3 รายคาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา ที่เหลือคาดว่าราคาทองคำจะลดลง

    ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีมุมมองราคาทองคำในเดือน พฤษภาคม 2563 ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,646 – 1,761 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณบาทละ 25,200 – 26,700 บาท ขณะที่ค่าเงินบาทจะอยู่ในกรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.06 – 32.85 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

    ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ ให้ความเห็นว่าราคาทองคำในเดือนที่ผ่านมาสร้างสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่ง แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ยังคงพยายามรักษาระดับไว้ พร้อมแนะให้ติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หลังการพิจารณาผ่อนปรนเกณฑ์ต่าง ๆ ของมาตรการปิดเมือง (Lock Down) หากนโยบายการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง สามารถดำเนินการอย่างราบรื่น จะทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น แต่หากไม่เป็นไปตามคาดการณ์ รวมทั้งเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้น ตลาดเงิน และตลาดทุน รวมทั้งตลาดทองคำอาจเกิดความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

  • เกาะติดสถานการณ์ทองคำใกล้ชิด หลังสัญญาณเทคนิคเตรียม Breakout

    เกาะติดสถานการณ์ทองคำใกล้ชิด หลังสัญญาณเทคนิคเตรียม Breakout

    มาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าราคายังวิ่งอยู่ในกรอบ 1,690-1,720 ดอลลาร์ และการขึ้นลงของราคาจะอยู่ในกรอบแคบ ๆ

    โดยราคาทองคำได้เคลื่อนไหวในลักษณะนี้เป็นมาตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. ซึ่ง นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด ให้ความเห็นกับ GoldAround.com โดยมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ จะเป็นลักษณะของเทคนิคนำผลกระทบจากข่าวที่ออกมา

    ก่อนหน้านั้น กรอบการเคลื่อนไหวของราคาอยู่ระหว่าง 1,640-1,740 ดอลลาร์ หรือประมาณ 100 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มลดแคบลงเหลือ 70 ดอลลาร์ ลดลง 40 ดอลลาร์ และในระยะหลังเหลือเพียง 10 กว่าดอลลาร์ และตัวเลขแนวรับเริ่มขยับสูงขึ้น ขณะที่ตัวเลขแนวต้านเริ่มต่ำลง เมื่อมองจากกราฟราย 4 ชั่วโมง จะยิ่งเห็นชัดว่า การเคลื่อนไหวของราคาเป็นแบบแพทเทิร์นสามเหลี่ยม และเริ่มใกล้กันมาก

    จากการเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะนี้ ทำให้คาดว่าราคาเตรียมที่จะเบรกแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะเบรกในทางขึ้นหรือทางลง หากราคาสามารถยืนในระดับ 1,720 ดอลลาร์ ได้นาน 4 ชั่วโมง ก็คือว่าราคาเบรกในขาขึ้นแล้ว จากนั้นคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,740 ดอลลาร์ และเป้าหมายที่สูงกว่านั้น

    ในทางกลับกันหากราคายืนระดับ 1,690 ดอลลาร์ได้นาน 4 ชั่วโมง ก็ถือว่าเบรกในแนวรับ คาดว่าราคาจะร่วงไปแถว 1,660 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง แต่หากหลุดไป ก็ไม่น่าจะพ้นระดับ 1,640 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมนายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

    ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ขอให้รอฟอลลโลว์การเบรกครั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าไม่เกินกลางอาทิตย์หน้าน่าจะได้เห็น อย่างไรก็ดีส่วนตัวมองว่าแนวโน้มที่จะเบรกในฝั่งขาขึ้นมีมากกว่าขาลง

    เนื่องจากในภาพใหญ่ ราคาทองคำยังเป็นช่วงขาขึ้น และปัจจัยหนุนต่าง ๆ ก็ยังมีมากกว่าปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองคำลดลง ที่สำคัญคือการลงทุนในตลาดหุ้นใกล้จะจบรอบการรีบาวด์แล้ว

    ส่วนภาพรวมของการลงทุนทองคำ ขณะนี้ถือว่าบางเบามาก ปริมาณการซื้อขายลดลงกว่าช่วงไตรมาสแรกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุมาจากผู้เล่นรายหลัก ๆ ไม่อยู่ ประกอบกับช่องว่างส่วนต่างราคา รับซื้อ และ เสนอขาย ยังต่างกันระดับบาทละ 90-100 บาท จากเดิมที่อยู่ระดับเพียงแค่บาทละ 30 บาท

    ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็คือผลกระทบจากเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะดีขึ้นแล้ว และบางประเทศจะมีมาตรการคลายล็อคดาวน์ในบางส่วน

    แต่สถานการณ์การผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งกว่าที่สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการค้าทองคำกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม คงจะกินเวลาไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน

  • ราคาทองคำเตรียมปรับทิศทาง คาดถ้อยแถลง ปธ.เฟด ให้คำตอบ (GT Gold Bullion)

    ราคาทองคำเตรียมปรับทิศทาง คาดถ้อยแถลง ปธ.เฟด ให้คำตอบ (GT Gold Bullion)

    13-05-20

    เมื่อมองภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา จะพบว่าราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องยังคงเป็นเรื่องเดิม ๆ นำโดยเรื่องผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ซึ่งยังคงส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ประกอบกับ ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาสูงมาก ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า ราคาทองคำเตรียมที่จะปรับทิศทางเร็ว ๆ นี้

    หากมองในภาพรวม ยังมองไม่เห็นปัจจัยที่จะมาหนุนราคาทองคำเพิ่มขึ้นหรือลงลงแรง โดยจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อราคาขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,710 ดอลลาร์ ก็จะมีแรงเทขายออกมา หรือ หากลดต่ำไปแตะระดับ 1,690 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นกลุ่มนักลงทุนทั่วไปอาจได้รับความสนใจลดลง เพราะขณะนี้ ส่วนต่างระหว่างราคารับซื้อ และ ราคาขายออกทองคำแท่ง ยังคงอยู่ในระดับบาทละ 200 บาท ซึ่งมองว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะราคาทองในช่วงที่ผ่านมาจะเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ บาทละ 25,800-26,200 เท่านั้น

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด
    GT GOLD BULLION
    GT GOLD BULLION

    อย่างไรก็ดี อยากให้เฝ้าจับตาการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้ (13 พ.ค.) ว่าจะเป็นอย่างไร จะมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาเพื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 หรือมาตรการที่ใช้อยู่เพียงพอแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นตัวชี้การเคลื่อนไหวของทิศทางทองคำหลังจากนี้ก็เป็นได้ เพราะข้อมูลที่ออกจากเฟด จะส่งผลกับตลาดการลงทุนสหรัฐฯ ทั้งเรื่องของตลาดหุ้น และค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับราคาทองโดยตรง ขณะเดียวกัน ให้จับตามองการเคลื่อนไหวของ กองทุน SPDR ด้วย ซึ่งมองว่าอาจรอปรับทิศทางการลงทุนหรือไม่

    อย่างไรก็ตาม มองว่าหากผลการแถลงของ ปธ.เฟด ส่งผลลบต่อราคาทองคำ ราคาทองคำก็ไม่น่าร่วงลงไปมาก โดยแนวรับลึกสุดคงจะไม่เกิน 1,665 ดอลลาร์ แต่ก่อนหน้านั้น จะมีแนวรับที่ระดับ 1,670 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากเป็นผลดีกับราคาทองคำ มองแนวต้านไว้ที่ 1,725 ดอลลาร์และจุดสูงสุดเดิมที่ 1,746 ดอลลาร์

    ส่วนเรื่องของส่วนต่างราคาซื้อและราคาขายทองคำแท่ง ที่ยังกว้างอยู่ที่บาทละ 200 บาท ก็คาดว่าจะเป็นลักษณะนี้อีกระยะใหญ่ เพราะราคาสเปรดของต่างประเทศก็ยังกว้างมาก แม้ว่าจะลดลงมาจาก 10 ดอลลาร์ เหลือ 5 ดอลลาร์ แต่ปัญหาเรื่องของการขนส่งยังไม่ดีขึ้น และราคาค่าพรีเมี่ยมก็ยังสูงอยู่มาก ซึ่งเรื่องของการขนส่งถือ เป็นปัญหาใหญ่ และอาจจะต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา เนื่องจากสายการบินหลายแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19

    GT GOLD BULLION
    GT GOLD BULLION

    ขอขอบคุณ : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด