หมวดหมู่: ข่าวราคาทองคำวันนี้

ทองคำยังแรงไม่หยุดทำ ATH ต่อเนื่อง gold spot แตะ $2,850 – ทองคำไทยบวก 250 บาท หลังสหรัฐฯ เปิดฉากลุยจีนและฉนวนกาซา

ราคาทองคำไทยวันนี้ (5 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 150 บาท ก่อนจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 50 บาท 2 ครั้ง

ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 45,350 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,250 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 45,850 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,433.96 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.67 บาทต่อดอลลาร์

โดย SCT Gold มองว่า

ราคาทองคำไทยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 45,220 บาท หลังจากสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเหนือแนวต้าน 45,000 บาท และยังมีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุน แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาอยู่ที่ 45,500 – 45,600 บาท

หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 45,700 – 45,800 บาท ในระยะถัดไป หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านนี้ได้ อาจเผชิญแรงขายและปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับ 45,000 – 44,900 บาท อีกครั้ง

ขณะที่ ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (4 ก.พ. ) ยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ต่อเนื่อง

โดยเมื่อวานนี้ ขึ้นแตะจุดสูงสดที่ 2,845 ดอลลาร์ ก่อนมาปิดตลาดที่ 2,842 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27 ดอลลาร์ ก่อนที่เช้าวันนี้ราคายังได้ทำ ATH ที่ 2,854 ดอลลาร์

ราคาทองคำได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ

ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลว่า สหรัฐฯ จะเข้ายึดฉนวนกาซาและจะเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้

พร้อมแนะให้ชาวปาเลสไตน์ทุกคนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งมีเกือบ 2 ล้านคนในขณะนี้ ว่าควรออกจากดินแดนนี้ และไปตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงจอร์แดนและอียิปต์เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถบูรณะพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถูกทำลายล้างระหว่างการสู้รบกับอิสราเอล

ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ฯ เสนอให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองกรีนแลนด์จากเดนมาร์ก และทำให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาอีกครั้ง

ประเด็นที่ต้องติดตาม คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศ เดือน ม.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 122,000 ตำแหน่งใน เดือน ธ.ค.

นอกจากนี้ ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการ เดือน ม.ค. โดย ISM คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 54.2 จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 54.1

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย

ทาง Shining Gold มองว่า

หากพิจารณาทางเทคนิคภาพรวมยังคงไปต่อได้ แต่ควรระมัดระวังการพักฐานเพื่อปรับ Indicators ในบางระยะ ซึ่งช่วงเช้านี้ยังประเมินอะไรไม่ได้มากนัก

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น พิจารณาย่อตัว open long ที่ 2,830 และ 2,816-2,813 ดอลลาร์ เพียงบางส่วน เป็นเพียงการเล่นรอบเข้าไวออกไวไปก่อน โดยเคร่งครัด stop loss ที่ 2,807 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,850 / 2,857 และ 2,868 ดอลลาร์

ทาง Ausiris มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ล่าสุดสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์เหนือ 2,850 ดอลลาร์ โดยยังรักษาการเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย สะท้อนขาขึ้นหรือขาซื้อยังได้เปรียบตลาด และยังมีโอกาสขึ้นไปทำ New high ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ Ausiris ให้แนวต้านราคาทองคำ goldspot ที่ 2,850/2,870 และ2,890 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,825/2,815 และ2,800 ดอลลาร์

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจนราคาสร้าง All Time High ต่อเนื่อง แต่หากการดีดตัวขึ้นจำกัดไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงช่วงสั้น โดยประเมินแนวรับบริเวณ 2,830-2,811 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านมีลุ้นที่ 2,867 ดอลลาร์

สำหรับกลยุทธ์ แนะนำรอเปิดสถานะซื้อหากไม่หลุดแนวรับดังกล่าว เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทยอยขายทำกำไรหากไม่ผ่านแนวต้าน ตัดขาดทุนหากหลุด 2,811 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,824และ2,812 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,849 และ 2,862 ดอลลาร์

รับชมคลิป

ทองคำไทย – gold spot ดาหน้าทำ ATH gold spot แตะ $2,830 ยังได้ลุ้นไปต่อ ทองไทย เปิดตลาดแตะ 45,200 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 250 บาท

ก่อนจะปรับราคาขึ้น-ลง ครั้งละ 50 บาทอย่างละครั้งทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 45,200 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,100 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 45,700 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,282.36 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.84 บาทต่อดอลลาร์

โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า หลังตลาดคลายความกังวล เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าได้ชั่วคราว

เนื่องจากสหรัฐฯ ชะลอเวลาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดือน รวมทั้งติดตามการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องสงครามการค้าใกล้ชิด ส่วนวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80 – 34.00 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นทำ All-Time high เนื่องจากความไม่แน่นอนในการเก็บภาษีนำเข้าของ ปธน.ทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ให้ระวังการเข้าซื้อ เน้นการเข้าออกเร็ว หรือรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำแท่งย่อตัวลงมา โดนให้แนวรับที่ 45,000 และ 44,900 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 45,300 และ 45,400 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ goldspot วานนี้ ถูกแรงขายทำกำไรในทางเทคนิคในช่วงต้นการซื้อขาย ก่อนราคาฟื้นกลับขึ้นมาอย่างรุนแรงจนปรับตัวขึ้นทำ All-Time high ที่2,830 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 2,814 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17 ดอลลาร์

โดยราคาทองคำได้หนุนจากความไม่แน่นอนในนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าของ ปธน.ทรัมป์ แม้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.โดย ISM ดีกว่าคาดก็ตาม

คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 8.01 ล้านตำแหน่งจาก 8.10 ล้านตำแหน่ง นอกจากนั้นนักลงทุนรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.นี้ คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

แม้ราคาทองคำจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น แต่มีการยกระดับสูงสุดในรายวันขึ้น จนราคาสร้าง All Time High บ่งชี้ว่า แรงซื้อยังแข็งแกร่ง

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคายืนเหนือ 2,808-2,790 ดอลลาร์ เพื่อรอทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,831-2,850 ดอลลาร์ หากผ่านได้ชะลอการปิดสถานะซื้อไปที่แนวต้านถัดไป สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,790 ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold มองกลยุทธ์การลงทุนว่า

ราคาทองคำ gold spot ทำ ATH ที่ 2,830 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงมา วันนี้หากราคาไม่หลุด 2,800 ดอลลาร์ แนะซื้อเล่นสั้นๆ ไวๆ มีจุด STOP loss ที่ 2,490 ดอลลาร์

หากราคาหลุด 2,800 ดอลลาร์ ให้รอดูก่อน เพราะอาจเจอแรงขายทำกำไร ส่วนราคาทองคำไทยวิ่งฉิว โดยได้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นแรงหนุนหนุน แนะขายทำกำไร

ขณะที่ ARR Goldtrading มองว่า

ราคาทองคำ gold spot สามารถดีดตัวจากแนวรับขึ้นมาสร้างจุดสูงใหม่ได้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแรงซื้อ และแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น

นักลงทุนอาจพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ 2,810/2,800 และ 2,790 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,780 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้าน 2,825/2,830 และ 2,840 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,800 และ 2,788 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,837 และ 2,849 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ทำ ATH ลุ้นปิดสัปดาห์เหนือ $2,800 ส่วนทองไทยยังแค่จ่อเปิดตลาด 44,450 บาท ตลาดกังวล ปธ.ทรัมป์ เริ่มขึ้นภาษี 1 ก.พ.นี้

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 31 ม.ค.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน

ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,554.68 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.63 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของ ปธน.ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ระวังแรงเทขาย เนื่องจากเกิดสัญญาณ Bearish Divergence

แนะนำชะลอการเข้าซื้อ และทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้น โดยให้แนวรับที่ 44,300 และ 44,150 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 44,500 และ 44,650 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปรับตัวขึ้นทำ All-Time high ที่ 2,798 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,794 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 34 ดอลลาร์ และฃ่วงเช้าราคายังแกว่งแนว 2,800 ดอลลาร์

โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ในวันที่ 1 ก.พ. ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว

นอกจากนั้นยังได้แรงหนุนจาก ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลง 0.2% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 4.52% หลังการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/67 ขยายตัวต่ำกว่าคาด

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ คาด ดัชนี PCE เดือนธ.ค. จะปรับตัวขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.8% เช่นกันในเดือนพ.ย.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD มองว่า

ตลาดกังวลเกี่ยวกับท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ เรื่องภาษีและนโยบายต่างประเทศ ทำให้เกิดแรงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับตัวเลขประมาณการ GDP ของสหรัฐในไตรมาส 4 ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาทองคำโลกทำ All-time high ได้อีกครั้ง

สำหรับวันนี้ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ช่วงหัวค่ำ คาดว่าจะหนุนราคาทองคำทะลุ 2,800 ดอลลาร์ โดย intergold ให้แนวต้าน 2,820 ดอลลาร์ หรือ 44,700 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,790 ดอลลาร์ หรือ 44,400 บาท

ขณะที่ SCT Gold ระบุว่า

เมื่อคืนนี้ GDP สหรัฐฯแย่พาเงินดอลลาร์ย่อตัว แต่คืนนี้จับตาดัชนีเงินเฟ้อ PCE ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อนเล็กน้อย ทำให้ภาพรวมราคาทองคำยังดูแข็งแกร่ง แต่ที่ราคาขึ้นมามากมาจากกังวลนโยบายภาษี ในทางเทคนิคถ้าราคายืน 2,785 ดอลลาร์ได้มีลุ้นไปต่อ โดยเฉพาะการปิดเหนือ 2,800 ดอลลาร์ โดยมีต้านถัดไป 2,810-2,820 ดอลลาร์ การปิดตัวต่ำกว่า 2,765 ดอลลาร์ จะเป็นภาพเชิงลบทันที

กลยุทธ์แนะนำการซื้อเล่นสั้นช่วงย่อตัวแถว 2,780 ดอลลาร์ และ STOP loss ที่ 2,765 ดอลลาร์คาดว่าทองคำจะเริ่มเทรดยากช่วงราคาสูงเพราะแรงเทขายจะไวต่อข่าวต่างๆ ได้มาก

คืนนี้มีตัวเลขเงินเฟ้อ วันจันทร์เช้าตีความการขึ้นภาษีของสหรัฐ ในสัปดาห์หน้าตัวเลขจ้างงาน ราคาทองคำจะผันผวนแรงต่อเนื่อง

ด้าน ARR Goldtrading มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังได้แรงหนุนจากนักลงทุนซึ่งกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ราคาขึ้นมารับกระแสข่าวไปพอสมควรแล้ว ควรระมัดระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นในวันนี้

แต่แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น นักลงทุนพิจารณากระจายเงินรอซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยให้แนวรับที่ 2,790 / 2,780 และ 2,770 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,810 / 2,815 และ 2,820 ดอลลาร์

ด้านทองคำแท่งในประเทศไทยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า พิจารณาทยอยขายทำกำไรที่ราคา 44,500 – 44,600 บาท

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,774 และ 2,762 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,812 และ 2,824 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ดีดกลับลุ้นทดสอบ ATH แม้ ปธ.เฟด ระบุไม่รีบลดดอกเบี้ย ทองไทยยังยืนเหนือ 44,000 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 30 ม.ค.) ล่าสุด ณ เวลา 15.00 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,050 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,251.48 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งยังคงเคลื่อนไหวเหนือ 44,000 บาท ซึ่งคาดว่าราคาทองคำแท่งอาจฟื้นตัวเล็กน้อย เนื่องจาก upside มีจำกัด อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ระวังแรงเทขาย

แนะนำขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นสู่บริเวณ 44,250-44,300 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 44,000 และ 43,850 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปรับตัวลงหลังการประชุม FOMC โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 4.25% – 4.50% ตามคาด แต่ ปธ.เฟด ระบุไม่รีบร้อนในการเปลี่ยนแปลงแนวทางนโยบายการเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งรวมถึงผลกระทบของเงินเฟ้อจากนโยบายใหม่ๆ

คืนนี้ติดตามการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 224,000 ราย จากเดิม 223,000 ราย และตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะอยู่ที่ 2.7% จากเดิมอยู่ที่ 3.1%

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

วานนี้ราคาทองคำย่อตัวลงมาหาแนวรับสำคัญ 2,753 และ 2,743 ดอลลาร์ ก่อนดีดกลับขึ้นมา 2,760 ดอลลาร์ แม้ว่าจะโดนกดดันด้านลบจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่ว่าไม่จำเป็นต้องรีบเร่งปรับจุดยืนทางนโยบายของเรา โดยตั้งข้อสังเกตว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ควบคุมเศรษฐกิจมากเท่าที่เคยเป็นอีกต่อไป

พร้อมกับแนะว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้อีกสักระยะหนึ่ง เพื่อรอที่จะดูว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน ภาษีศุลกากร และภาษีอื่น ๆ จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร กล่าวโดยสรุปข่าวยังคงเป็นผลลบ แต่เทคนิคอลยังคงแข็งแกร่งในเชิงบวก

กลยุทธ์การลงทุน รอราคาย่อตัวพิจารณา Open Long ที่ 2,753 และ 2,742 ดอลลาร์ มีจุด Stop Loss ที่ 2,733 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,763 /2,770 และ 2,782 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD ระบุว่า

การแถลงและผลประชุมเรื่องดอกเบี้ยของ Fed ออกมาตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดไม่ได้ตอบสนองมากนัก และราคาทองคำเริ่มเกิดแรงดีดกลับหลังย่อตัวลงไปลึกสุดบริเวณ 2,730 ดอลลาร์

โดยคาดการณ์ว่ามีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ All-Time High เดิมบริเวณ 2,790 ดอลลาร์ อีกครั้ง โดย InterGold ให้แนวต้านที่ 2,790 ดอลลาร์ หรือ 44,400 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,740 ดอลลาร์ และ 43,900 บาท

ขณะที่ YLG Bullion แนะนำ

เปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 2,773-2,790 ดอลลาร์ พร้อมตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 2,790 ดอลลาร์ ทยอยปิดสถานะขายทำกำไร

หากราคาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 2,748-2,730 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ บจ.ออสสิริส มองว่า

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น มีเป้าหมายถัดไปที่ 2,770-2,790 ดอลลาร์ หลังจากที่ยังสามารถประครองยืนเหนือแนวรับ 2,740 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 ทำหน้าที่เป็นแนวรับ

หากยังรักษาการเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้ยังสะท้อนขาขึ้นหรือขาซื้อยังได้เปรียบตลาด โดยให้แนวรับ ราคาทองคำ gold spot ที่ 2,745/2,735 และ 2,725 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,765/2,773 และ 2,790 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot พักตัวลงแตะ $2,730 นทล.ปรับพอร์ตรับ FOMC – ตลาดหุ้นถูกเทแรง ส่วนทองไทยกลับมาหลุด 44,000 บาท อีกรอบ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 28 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 100 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 43,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,850 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,054.40 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.89 บาทต่อดอลลาร์

โดย SCT Gold มองว่า

ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณ 43,877 บาท หลังจากมีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 43,500 บาท และสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงอยู่ในบริเวณดังกล่าว

อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นยังคงเผชิญแรงกดดันจากแนวต้านสำคัญบริเวณ 44,050 บาท และ 44,150 บาท หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านเหล่านี้ไปได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบโซน 44,500 บาท ในระยะต่อไป

ส่วนแนวรับสำคัญที่ต้องจับตาอยู่บริเวณ 43,500 บาท และ 43,400 บาท หากราคาหลุดแนวรับเหล่านี้ลงมา มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อไปยังโซน 43,000 บาท ซึ่งเป็นจุดที่ต้องติดตามแรงซื้ออย่างใกล้ชิด

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปรับลงแรงลงแตะจุดต่ำสุดที่ 2,730 ดอลลาร์

ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,740 ดอลลาร์ ลดลงไป 25 ดอลลาร์ โดยทองคำเริ่มอ่อนแอลงในภาพทางเทคนิค หลังไม่สามารถทํา New High ในรายวัน และทํา New Low จากวันก่อนหน้า

ประกอบกับเผชิญแรงขายเนื่องจาก การปรับพอร์ทเพิ่มลดความเสี่ยงก่อนประชุม FOMC ครั้งแรกของปีนี้ในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ นอกจากนั้นได้รับผลกระทบจากกระแสการเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก หลังการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต้นทุนต่ำของบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพของจีน อาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
ส่วนคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 105.7 จาก 104.7 ในเดือนธ.ค.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion

มองว่าแม้ว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้น แต่ราคายังคงสร้างระดับต่ำสุดใหม่ในรายวัน หากราคาปรับตัวขึ้นจำกัด

แนะนำเปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 2,757-2,773 ดอลลาร์ สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้าน 2,773 ดอลลาร์ เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัว โดยปิดทำกำไร หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดโซน 2,724-2,703 ดอลลาร์

ขณะที่ Ausiris มองว่า

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น แต่หลังจากไม่สามารเบรก 2,790 ดอลลาร์ ระยะสั้นทำให้ราคาทองร่วงมาปิดแถว 2,740 ดอลลาร์

โดยมีแนวรับสำคัญที่ 2,725-2,720 ดอลลาร์ หากหลุดโซนดังกล่าว อาจเปลี่ยนแนวโน้มไปสู่การซื้อขายแบบขาลง ในตรงกันข้ามหากยืนเหนือโซนดังกล่าวทองอาจได้รับแรงหนุนเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ

ทั้งนี้ให้แนวรับ ราคาทองคำ gold spot ที่ 2,740/2,725 และ 2,690 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,760/2,775 และ 2,790 ดอลลาร์

ด้าน ARR Goldtrading มองว่า

ทองคำถูกเทขายอย่างหนักพร้อมกันกับกระแสการเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนต้องการเงินสดไว้รับมือกับความผันผวนของตลาดที่อาจมีมากขึ้น ประกอบกับผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 97.3% ที่เฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยนักลงทุนจึงควรระมัดระวังความผันผวน

โดยให้แนวรับที่ 2,740 /2,730 และ 2,720 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,755 / 2,765 และ 2,770 ดอลลาร์

ส่วนทองคำแท่งในประเทศไทยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า พิจารณาทยอยซื้อสะสมที่ราคา 39,900 – 44,000 บาท

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,712 และ 2,700 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันที่ 2,762 และ 2,774 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ยังร้อนแรง ลุ้นทำ ATH เหนือ $2,800 สัปดาห์นี้ประชุม FOMC – รอฟังท่าที ปธ. FED ทองไทยลุ้นต่อเงินบาทยืนเหนือ 33.80 บาทไม่ได้

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 27 ม.ค.)  สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 100 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 44,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,950 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,550 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,160.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.69 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำไทยยังคงติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 44,150 บาท ระยะสั้นประเมินว่าอาจปรับตัวลงสู่แนวรับ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อ ประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ระดับ 43,800 บาท โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 43,600 บาท และเป้าหมายทำกำไรที่ 44,150 บาท และ 44,400 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 2,786 ดอลลาร์ จ่อจะทำสถิติสูงสุดตลอดการใหม่ ก่อนจะลงมาปิดที่ระดับ 2,770 ดอลลาร์ โดยรวมรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้น 67 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ราคาจะย่อตังลงมาเคลื่อนไหวแถว 2,755 ดอลลาร์

โดยเมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.) ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแรง 17 ดอลลาร์โดยได้แรงหนุนจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลัง ปธน. ทรัมป์ ผลักดันให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้า

รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอ เช่นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นอกจากนี้ดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันหลัง BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ย

ขณะที่สัปดาห์นี้ตลาดจับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ พร้อมรอฟังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ปธ.เฟด ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยปี 2568 ซึ่งก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยทันทีระหว่างการประชุม WEF เมื่อ 23 ม.ค. แม้เจ้าตัวไม่ได้เอ่ยถึงเฟดโดยตรง แต่ส่งสัญญาณกดดันชัดเจน โดย ปธน.ทรัมป์วิจารณ์ “พาวเวล” เรื่องนโยบายการเงินมาโดยตลอด
รวมถึงยังต้องรอดูการประกาศภาษีหรือนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ในวันที่ 1 ก.พ.ทรัมป์ระบุว่า อาจจะมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา จีน และสหภาพยุโรปในวันที่ 1 ก.พ.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

ราคาทองคำรายสัปดาห์ยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideway Up กว้างๆ ที่มีการสร้างฐานเหรือ 2,680 ดอลลาร์ ท่ามกลางความพยายามของคุณโดนัลด์ ทรัมป์ ในการใช้เงื่อนไขทางภาษีศุลกากรเล่นงานหลายประเทศที่ท้าทายอำนาจ

ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ประกาศมาตรการฉุกเฉินทางภาษีกับประเทศโคลัมเบีย 25% ที่ปฏิเสธการอนุญาตให้เที่ยวบินเนรเทศจากสหรัฐลงจอด ประเด็นไม่ใช่ปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำ แต่กลับเป็นแรงดึงเชิงเชิงลบให้เกิการย่อตัวด้วยซ้ำ

ดังนั้นรอจังหวะย่อตัวเข้า Open Long ตามแนวรับ เลือกระหว่าง 2,758 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ย 2,736 ดอลลาร์ มีจุด Stop Loss ที่ 2,730 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,777/2,785 และ2,793 ดอลลาร์

ขณะที่ Ausiris  มองว่า

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น มีเป้าหมายที่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์ หากยังไม่ผ่านโซนดังกล่าวควรเพิ่มความระมัดระวังหลัง RSI ในกราฟรายวันเคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการพักตัวหรือปรับฐานในระยะสั้น

ในทางกลับกันหากราคาหลุดแนวรับที่ 2,760 ดอลลาร์ อาจจะร่วงลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่บริเวณ 2,740-2,735 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 2,725-2,720 ดอลลาร์ หากหลุดโซนดังกล่าว อาจเปลี่ยนแนวโน้มไปสู่การซื้อขายแบบขาลง

ด้าน SCT Gold มองว่า

ภาพรวมราคาทองคำจ่อเทสนิวไฮที่ระดับ 2,800 ดอลลาร์ เพียงแต่ระยะสั้นราคาทองคำเกิดภาวะซื้อมาก สัปดาห์นี้น่าจะชี้ชะตาทองโดยไฮไลท์ที่สำคัญคือการแถลงนโยบายของ ปธ.เฟด ในช่วงดึกคืนวันพุธว่าจะรับลูกต่อจาก ปธน.ทรัมป์หรือไม่ อันดับสองคือการลดดอกเบี้ยของ ECB อีก 0.25% คืนวันพฤหัส

อันดับสามคือดัชนีเงินเฟ้อ PCE คืนวันศุกร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกดดันราคาทองคำได้ สุดท้ายจีนประเทศซื้อทองปิดตรุษจีนยาว และเมื่อวันเสาร์ทรัมป์ประกาศตัดงบช่วยทางทหารกับยูเครนและประเทศต่างๆรวมทั้งไทยทันที ทำให้ราคาทองคำเช้าวันนี้ย่อลงมา

ในทางเทคนิคราคาทองคำมีแนวรับสำคัญคือ 2,755 / 2,734 และ 2,715 ดอลลาร์ ตราบใดที่ราคาทองคำไม่ปิดต่ำกว่า 2,750 ดอลลาร์ ราคาทองคำยังเป็นภาพบวกต่อไป และจะเป็นภาพขาลงต้องปิดต่ำกว่า 2,730 ดอลลาร์ ในทางกลับกันราคาทองยืน 2,770 ดอลลาร์ ได้มีสิทธิไปทำนิวไฮ

กลยุทธ์การลงทุน คำพูดของ ปธน.ทรัมป์ สร้างอารมณ์ทิศทางตลาดที่น่ากลัวได้ การเทรดต้องมีวินัย หรือเน้นเทรดสั้นๆ ตามจังหวะจะดีกว่า คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะผันผวน และชี้ชะตาทองคำ โดยให้ติดตามการแถลงของ ปธ.เฟด ที่เป็นองค์กรอิสระว่ามีมุมมองสอดคล้องกับ ปธน.ทรัมป์ แค่ไหน คาดว่าเฟดจะปรับกลไกตามพื้นฐานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนต่อไป

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้โซนแนวรับที่ 2,725-2,715 ดอลลาร์ และ 2,700-2,690 ดอลลาร์ โดยหากราคาย่อตัวปรับฐานให้รอดูที่แนวรับดังกล่าว ขณะที่โซนแนวต้านอยู่ที่ 2,790-2,800 ดอลลาร์ และ 2,840-2,850 ดอลลาร์

โดยแนวต้าน 2,790-2,800 ดอลลาร์ ยังคงเป็นโซนสำคัญหากราคาไม่สามารถทะลุไปได้ ให้ระวังแรงเทขาย แต่หากราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ โซนแนวต้าน 2,840-2,850 ดอลลาร์ จะเกิดสัญญาณ bearish divergence ใน TF รายสัปดาห์ ให้ระมัดระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะถัดไป

รับชมคลิป

gold spot ทะยานต่อทดสอบ $2,775 รับถ้อยแถลง “ทรัมป์” จี้ FED ลดดอกเบี้ยทันที ลุ้นจะสร้าง ATH เหนือ $2,790 ได้หรือไม่

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 24 ม.ค.)  สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 200 บาท ก่อนอีก 1 ชั่วโมงถัดมาจะประกาศปรับราคาขึ้นลง ครั้งละ 50 บาท อย่างละครั้ง

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 44,350 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,250 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,850 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,448.56 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้น หลังจากทรัมป์เรียกร้องให้ธนาคารกลางปรับลดดอกเบี้ยทันที อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อทองคำในช่วงนี้ ค่อนข้างมีความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากคาดว่า upside ของราคาทองคำแท่งยังคงมีจำกัด ซึ่งแนะนำให้รอราคาทองคำแท่งย่อลงมาก่อนเข้าซื้อ โดยให้แนวรับที่ 44,100 และ 44,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 44,400 และ 44,500 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (23 ม.ค.) ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนจะปิดตลาดลดลง 1 ดอลลาร์ แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้ดีดแรงอีกรอบ โดยขึ้นไปทดสอบระดับ 2,775 ดอลลาร์ ทําให้โมเมนตั้มยังแข็งแกร่ง ต้องมาดูว่าจะสามารถไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์หรือไม่

ทั้งนี้ตลาดกำลังซึมซับปัจจัยหนุนรับแถลงของปธน.ทรัมป์ ในงาน World Economic Forum (WEF) โดยเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยทันที ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า หนุนราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ทรัมป์เรียกร้องซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมัน รวมถึงยังระบุว่าสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจะไม่เกิดขึ้นหากเขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนม.ค. คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 49.8 จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 49.4 หากออกมาตาดคาดจะเป็นลบกับราคาทองคำ ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการ เดือนม.ค.คาดจะอยู่ที่ 56.4 จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 56.8 หากออกมาตาดคาดจะเป็นบวกกับราคาทองคำนอกจากนั้นยังมีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของม.มิชิแกน

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Ausiris มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังปิดเหนือ 2,750 ดอลลาร์ได้ หลัง “ทรัมป์” กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม WEF ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที และอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกควรจะปรับลดลงตามสหรัฐฯ เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าต้องการจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง และคำพูดดังกล่าวบ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์ กำลังกดดันเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เจอโรม พาวเวล” ประธานเฟดซึ่งถูกปธน.ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงิน

ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ออกมาแย่กว่าคาด ได้ทำให้นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ เป็น 62%

ทั้งนี้ Ausiris ให้แนวรับราคาทองคำ gold spot ที่ 2,740/2,725 และ 2,690 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,760 /2,770 และ 2,790 ดอลลาร์

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำมีความผัวผวนเพิ่มขึ้น แต่เมื่อราคาปรับตัวลงยังคงมีแรงซื้อเข้ามาหนุน จนราคาวันนี้ปรับตัวขึ้นสร้าง ระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้า

แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับตัวลงสามารถยืน เหนือโซนแนวรับ 2,744-2,726 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 2,726 ดอลลาร์ ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,775-2,790 ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold

มองว่า “ทรัมป์” ได้แถลงการณ์เกี่ยวกับการลดราคาน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย เรียกร้องให้ธนาคารทั่วโลกลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ กดดันรัสเซียให้แก้ไขปัญหายูเครน และเสนอสิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี AI” โดยความต้องการจะลดดอกเบี้ยเป็นการส่งสัญญาณไปเฟดที่จะมีการแถลงนโยบายดอกเบี้ยในสัปดาห์ด้วย

สัปดาห์หน้าตัวแปรที่สำคัญคือ ต้องมารอดูว่าเฟดจะยอมทำตามคำขอของทรัมป์ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเฟดย้ำจะชะลอการลดดอกเบี้ยเพราะเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ดีขึ้น ถ้าเฟดไม่ลดดอกเบี้ยตามคำขอ ราคาทองคำจะปรับตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน ยังแนะย่อซื้อ-ขึ้นขาย และขายลดความเสี่ยงถ้าราคาทองยืน 2,740 ดอลลาร์ไม่ได้ วันนี้ราคาทองคำจะต้องปิดบวกเหนือ 2,760 ดอลลาร์ ให้ได้เพื่อรักษาภาพเชิงบวก โดยให้แนวรับราคาGold Spot ที่ 2,737 และ 2,724 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,775 และ2,790 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

ราคาทองคำได้แรงหนุนจากสุนทรพจน์ของ ปธน.ทรัมป์ ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงรวมไปถึงธนาคารกลางอื่นทั่วโลกขณะเดียวกันเขาเตือนว่าผู้นำภาคธุรกิจทั่วโลกจะเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่ผลิตนอกเขตแดนสหรัฐฯ

โดย ARR Goldtrading ให้แนวรับที่ 2,750 / 2,740 และ 2,730 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,765 / 2,770 และ 2,780 ดอลลาร์ ด้านทองคำแท่งในประเทศไทยได้แรงหนุนเพิ่มจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทยอยขายทำกำไรที่ราคา 44,300 – 44,400 บาท

รับชมคลิป

gold spot ปิดบวก 3 วันติด พุ่งกว่า $50 คืนนี้รอฟัง “ทรัมป์” จากเวที WEF อาจสร้างความผันผวนให้ตลาดทองคำได้

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 23 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 50 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,200 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,100 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,700 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,312.12 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.94 บาทต่อดอลลาร์

โดย Shining Gold มองว่า

ค่าเงินบาทเริ่มชะลอการแข็งค่าบริเวณ 33.74 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากยังไม่หลุดแนวดังกล่าวลงไปยังพอลุ้นการรีบาวน์ได้
ขณะที่ราคาทองคำไทยยังแกว่งอยู่ในกรอบ 44,500-43,700 บาท เพื่อรอการ Break ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เมื่อมีจังหวะย่อแบ่งไม้เข้าซื้อบางส่วนบริเวณ 43,900 และ 43,700 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 44,220/44,350 และ 44,500 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (22 ม.ค.) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 gold spot โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,763 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 2,756 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ได้ลงมาทดสอบแนวรับ 2,750 ดอลลาร์

ทั้งนี้ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์ ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่ง ปธน.ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงยุโรป แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมาก ทำให้นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ดี คืนนี้ตลาดต่างจับตาไปที่ถ้อยแถลงของ ปธน.ทรัมป์” ในงาน World Economic Forum (WEF) ที่กำลังจะเริ่ม เป็นวันที่ 4

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง T.D.C. Gold มองว่า

ปธน.ทรัมป์ ขู่คว่ำบาตรและขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซียหากรัสเซียยังทำสงครามในยูเครนถึงแม้จะยังไม่มีนัยยะสำคัญต่อตลาดเท่าไรนัก แต่ในยุคของ ปธน.ทรัมป์รูปแบบของสงครามมีแนวโน้มเปลี่ยนจากอาวุธเป็นสงครามทางเศรษฐกิจ

ทางด้านตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อจากหุ้นกลุ่มชิป AI อย่าง NVIDIA และ NETFLIX ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อ แต่ลดช่วงบวกลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ โดยมองแนวต้านที่ 2,770 ดอลลาร์

ขณะที่ YLG Bullion มองว่าแม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway up แต่ราคาปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่ง ประกอบกับมีแรงขายเพิ่มขึ้น

แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยรอเปิดสถานะซื้อ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,739-2,721 ดอลลาร์ สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 2,721 ดอลลาร์ ปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,771-2,790 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD

ราคาทองคำ gold spot ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านที่ระดับ 2,790 ดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนักลงทุนยังจับตามองเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์หน้า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ต่อการคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในเดือนมิถุนายน และคงอัตราดอกเบี้ยนี้ไว้จนถึงสิ้นปี 2568

ในส่วนของราคาทองคำในประเทศ อาจเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดย intergold ให้แนวต้าน ที่ 2,790 ดอลลาร์ หรือ 44,500 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,720 ดอลลาร์ หรือ 43,800 บาท

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,725 และ 2,740 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,760 และ 2,790 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot พุ่งแรงทดสอบ $2,750 หลัง“ทรัมป์” ยังไม่ส่งสัญญาณลุยจีน ทองไทยขยับตามเช้านี้บวก 150 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 22 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 150 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,000 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,206 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.93 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวแข็งค่า จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.08 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า หลังตลาดคลายความกังวลเรื่องการประกาศนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังไม่ได้นำมาบังคับใช้ทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง ส่วนวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.85 – 34.10 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตามราคาทองคำโลกจากความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ 2.0

อย่างไรก็ตามเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องทำให้ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นไม่ไกลมากนัก แต่ยังมองว่าอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อแต่ให้ระวังแรงเทขาย ซึ่งยังคงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ โดยให้แนวรับที่ 43,850 และ 43,750 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 44,100 และ 44,200 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (21 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนกว่าโดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,746 ดอลลาร์ ก่อนมาลงมาปิดตลาดที่ 2,744 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 36 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าได้ขึ้นมาทดสอบที่ 2,750 ดอลลาร์

โดยราคาทองคำได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ แม้สงครามการค้าไม่รุนแรงเท่าที่ตลาดกังวล แต่ทรัมป์อาจจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.

ขณะที่นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.

และคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.และพ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568

คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนธ.ค. โดย conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.1% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Shining Gold 

วานนี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นรุนแรงจาก 2,705 ดอลลาร์ สู่ระดับ 2,745 ดอลลาร์ ด้วยการเปิดทางเทคนิคบวกขึ้นตามความกังวลที่มีอย่างต่อเนื่องต่อ การปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ของคุณทรัมป์ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ล่าสุดคุณทรัมป์กำลังพิจารณาจะจัดเก็บภาษีจีน 10% ถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับที่อยากเคยเก็บ และเมื่อเทียบกับเม็กซโกกับแคนาดาที่อาจโดนเรียกเก็บถึง 25% ถือเป็นปัจจัยหนุนทองคำเชิงบวกระยะสั้น

นอกจากนี้คุณทรัมป์ยังมีแผนให้ อีลอน มัสก์ ซื้อ TikTok โดยเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมทุนกับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาอีลอน มัสก์ ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับธุรกิจในจีนหลายแห่ง เพราะฉะนั้นการตัดสินใจแบบนี้หากเกิดขึ้นจริง ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา อนาคตสิ่งที่เคยจะตกลงอาจพลิกเกมส์ได้เสมอ ควรระมัดระวัง

วันนี้การเข้า Buy ลงทุนสั้นควรระมัดระวัง และเคร่งครัด SL เพราะเริ่มมีสัญญาณบางตัวเข้า Overbought บ้างแล้ว

กลยุทธ์การลงทุน รอราคาย่อตัวให้ Open Long ที่ 2,738 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ยที่ 2,725-21 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,715 ดอลลาร์ เพราะหากหลุดแนวดังกล่าวลงมาได้ มีโอกาสไหลลงแรง และพักฐานลึกต่อเนื่อง มีแนวต้านที่ 2,750 /2,760 และ 2,780 ดอลลาร์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยควรพักมืออยู่นอกตลาด

ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทะลุแนวต้าน 2,720 ดอลลาร์ จึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น uptrend ในระยะสั้น โดยมีเป้าหมายบริเวณ 2,800 ดอลลาร์ ถึงแม้จะยังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจนมีเพียงแค่ Bond Yield ที่เริ่มปรับตัวลดลงและเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดทองคำ

แต่ภาพทางเทคนิคกลับสนับสนับสนุนราคาทองคำ หากราคาปรับตัวลดลงไม่หลุด 2,710 และ 2,700 ดอลลาร์ จะเป็นการยืนยันการกลับไปทดสอบ 2,800 ดอลลาร์

ด้าน Ausiris ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น

หลังจากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวานนี้ เป้าหมายถัดไปคือ 2,760 ดอลลาร์ และ 2,790 ดอลลาร์ หากยังทะลุไปได้อาจได้เห็นขึ้นไปแตะ 3,010 ดอลลาร์ 3,125 ดอลลาร์ และ 3,290 ดอลลาร์

แต่หากยังไม่ผ่านโซนดังกล่าว อาจเพิ่มความระมัดระวังสำหรับแรงเทขายแถวโซนดังกล่าว หลัง RSI อินดอเคเตอร์ ปรับตัวเร่งเข้าเขตซื้อมากใน TF1 DAY แต่จะเป็นลักษณะการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มีแรงซื้อกลับเข้ามาในทองคำอีกครั้ง

หลังเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงอย่างหนักหลังปรับตัวขึ้นมาสูงมากก่อนหน้านี้

นักลงทุนพิจารณาทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นมาทดสอบตามแนวต้าน 2,750 / 2,760 และ2,770 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,740 / 2,730 และ 2,720 ดอลลาร์

ด้านทองคำแท่งในประเทศไทยอาจขึ้นน้อยกว่าจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทยอยขายทำกำไรที่ราคา 44,100 – 44,200 บาท

รับชมคลิป

gold spot ยังแกว่งตัวกรอบแคบ “ทรัมป์” ชะลอแถลงนโยบายสงครามการค้า ทองไทยยังไม่ขยับเงินบาทแข็งแตะ 34 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 21 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 50 บาท

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่ม 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00น. อยู่ที่ 43,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,850 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,054.40 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง คาดว่า

ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลง จากแนวโน้มราคาทองคำโลกปรับตัวลง และเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า รวมถึงสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งได้เกิดสัญญาณขาย (Sell Signal) จาก Modified Stochastic โดยให้แนวรับที่ 43,650 และ 43,500 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 43,950 และ 44,000 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ แกว่งตัวกรอบแคบ เนื่องจากตลาดสหรัฐปิดทําการในวัน ‘มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังปิดตลาดเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ที่ 2,707 ดอลลาร์ แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้ขึ้นมาทดสอบ แนวต้าน 2,725 อีกรอบ ต้องรอดูว่ารอบนี้จะผ่านไปได้หรือไม่ หลังจากขึ้นมาทดสอบแล้วถึง 3 รอบ

ขณะที่ การแถลงของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อคืนนี้มีท่าทีแข็งกร้าวน้อยกว่าที่เคยกล่าวเอาไว้ในช่วงก่อนหน้า จากประเด็นภาษีนำเข้าอาจเริ่มใช้เพียงบางประเทศในเดือน ก.พ.

โดยเจ้าตัวเพียงแค่ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ เพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐ ,ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติทางชายแดนด้านใต้สหรัฐ และให้ทบทวนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดา เม็กซิโก

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Ausiris มองว่า

ภาพรวมใหญ่ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น แต่ระยะสั้นถ้ายังไม่เบรกเหนือแนวต้าน 2,725 ดอลลาร์ ไม่ได้ ให้ระวังหากเกิดการปรับฐาน หากหลุดแนวรับที่ 2,690 ดอลลาร์ ทำให้มีโอกาสเคลื่อนไหวปรับตัวลงแถว 2,680-2,645 ดอลลาร์

ในทางตรงกันข้ามหากยืนเหนือ 2,690 ดอลลาร์ ได้ยังมีโอกาสขึ้นต่อ เป้าหมายถัดไปคือ 2,724 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของปี และอาจไปถึงจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์ หากราคาทะลุระดับเหล่านี้ไปได้ การคาดการณ์ Fibonacci ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายใหม่ที่อาจเกิดขึ้นที่ 3,010 ดอลลาร์ /3,125 ดอลลาร์ และ 3,290 ดอลลาร์

ในทางกลับกันหากหลุด 2,690 ดอลลาร์ แนวรับถัดไปอยู่ที่ 2,582 ดอลลาร์ รองลงมาคือ 2,536 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายน และระดับ 2,511 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ หากอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 2,707-2,697 ดอลลาร์ แล้วสามารถยืนได้อาจเกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาปรับตัวลง มีแรงซื้อเข้ามาพยุงอย่างชัดเจน
แนะนำเปิดสถานะซื้อ

หากราคายืนเหนือแนวรับดังกล่าว ตัดขาดทุนหากหลุด 2,679 ดอลลาร์ ปิดสถานะซื้อทำกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 2,726-2,744 ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold มองว่า

การสาบานตนวันแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ ทุกคำพูดเป็นไปตามคาด แต่นโยบายภาษี สงคราม การค้าเชิงลึก ยังไม่เปิดเผยมากเท่าที่ควร ซึ่งตลาดทองก็ยังกังวลจุดนี้ ทั้งนี้เนื่องจากนโยบายภาษีจะมีผลต่อการนำเข้าทองของสหรัฐฯ และความเป็นเจ้าตลาดทองของสหรัฐฯ

ดังนั้นภาพระยะกลางสำหรับทองคำยังคลุมเครือต่อไป ภาพระยะสั้นเช้าวันนี้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในแดนบวกทำไฮเหนือ 2,720 ดอลลาร์ซึ่งถือว่าดีมาก วันนี้ยังต้องติดตามการตีความนโยบายภาษีการค้า คริปโตและกำแพงภาษีต่างๆ ที่เป็นกติกาโลกใหม่จากนี้ไปอีก 4 ปี

กลยุทธ์การลงทุน ในทางเทคนิคราคาทองคำยังยืน 2,700 ดอลลาร์ ได้ถือเป็นภาพบวก ยืน 2,725 ดอลลาร์ ได้ถือเป็นภาพการขึ้น แนะย่อซื้อ-ขึ้นขายจนกว่าราคาทองคำจะปิดต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์ หรือ 2,690 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นภาพการพักฐาน

คืนนี้ตลาดสหรัฐฯ เปิดทำงานหลังเมื่อคืนนี้ปิดวันหยุด คาดจะทำให้ราคาทองคำจะสวิงผันผวนต่อไป แนะปรับพอร์ตให้สมดุล

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวัน 2,680 และ 2,704 ดอลลาร์ แนวต้านรายวัน 2,760 และ 2,790 ดอลลาร์

รับชมคลิป