หมวดหมู่: ข่าวราคาทองคำวันนี้

gold spot ขยับกรอบแคบเหนือ $2,900 คาดรอผลประชุมหย่าศึก“รัสเซีย-ยูเครน” ทองไทยปรับฐานระยะสั้นรอรับ 46,000 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 18 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 50 บาท

ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท 2 ครั้ง ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งเริ่มปรับตัวลง ซึ่งสัญญาณเทคนิคจาก Modified Stochastic เริ่มเกิดเส้นตัดกันลงมา ส่งสัญญาณอาจปรับฐานระยะสั้น จึงยังคงให้ระวังแรงเทขาย หากว่าราคาทองคำแท่งไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 46,500-46,750 บาท

ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 46,200 และ 46,000 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 17 ก.พ.) ปิดปรับตัวในแดนบาก โดยปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุด 2,906 ดอลลาร์ แต่ยังปิดตลาดยืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ ไม่ได้ แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้พยายามขึ้นไปทดสอบแถว 2,910 ดอลลาร์ ต้องมาดูว่าจะสามารถกลับมายืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ ได้หรือไม่

ทั้งนี้ราคาทองคำมีการฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตา 2 ประเด็น ได้แก่ นโยบายการทำสงครามการค้าของสหรัฐ และประเด็นการยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียจะจัดการประชุมที่ซาอุดีอาระเบียในวันพรุ่งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินในการยุติสงคราม

ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน เตรียมเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ แต่เจ้าตัวระบุว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้ (18 ก.พ.) จะมีตัวเลขดัชนีภาคการผลิต เดือน ก.พ.จากเฟดนิวยอร์ก ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.1 จากที่ลดลง 12.6 ในเดือนม.ค. หากออกมาตามคาดจะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังแกว่ง Sideway เพื่อปรับฐานสะสมกำลัง แม้วานนี้ราคาจะดีดตัวตามคาดการณ์ แต่ยังไม่ผ่าน 2,916-2,933 ดอลลาร์ จึงยังต้องระวังว่าอาจเป็นดีดเพื่อปรับฐานต่อ วันนี้แนวดู 2,894-2,888 ดอลลาร์ หากยืนได้มองยังมีโอกาสราคามีโอกาสดีดตัวก่อน แต่หากหลุด 2,888 ดอลลาร์ ราคาจะพักตัวโดยมีแนวรับถัดไป 2,877-2,864 ดอลลาร์

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนให้หาจังหวะแบ่งขายหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,916-2,933 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 2,933 ดอลลาร์ ซื้อคืนหากไม่หลุด 2,888-2,877 ดอลลาร์ หากหลุด 2,864 ดอลลาร์ลงไปให้ชะลอการซื้อคืนไปที่แนวรับถัดไป

ขณะที่ Ausiris มองว่าภาพรวมใหญ่

ราคาทองคำ gold spot ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น โดยยังรักษาการเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย ยังสะท้อนขาขึ้นหรือขาซื้อยังได้เปรียบตลาด

โดยมีแนวรับสำคัญแนว 2,885-2,865 ดอลลาร์ หากยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,910-2,925 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับ 2,865 และ 2,879 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,924 และ 2,960 ดอลลาร์

รับชมคลิป

“ทองคำ” จะฟื้นกลับมาได้หรือไม่ หลังปิดสัปดาห์ถูกเทแรงหลุด $2,900 จับตาเจรจาสันติภาพ “รัสเซีย-ยูเครน”

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 17 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 50 บาท

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 46,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,150 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,313.24 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.70 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

เกิดแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นสู่ All-time high ทั้งนี้จับตาบริเวณแนวรับ 45,950-46,000 บาท หากหลุดแนวรับดังกล่าว มีโอกาสที่ราคาทองคำแท่งจะปรับตัวลงไปสู่ระดับ 45,600 บาท และ 45,000 บาท

แนะนำทยอยขายทำกำไร โดยให้แนวรับที่ 45,950 และ 45,850 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,350 และ 46,450 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าในภาพรวมจะปิดบวก 21 ดอลลาร์ และขึ้นไปแตะจุดสูงสุด 2,942 ดอลลาร์ แต่เมื่อวันศุกร์ทองคำถูกเทขายแรงจนลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,877 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,882 ดอลลาร์ ลดลงไป 46 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้จะปรับตัวขึ้นมาทดสอบระดับ 2,900 ดอลลาร์อีกรอบ

ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 จากปัจจัยหนุนจากสงครามการค้า หลัง ปธน.ทรัมป์ เตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศที่เก็บภาษีกับสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา

อย่างไรก็ดีทองคำมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หลังสหรัฐฯ เตรียมเจรจารัสเซีย เพื่อจบความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งต้องมาติดตามว่าการเจรจาจะจบลงอย่างไร นอกจากนั้นทองคำยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือนม.ค. ที่ออกมาสูงกว่าคาด

ส่วนสัปดาห์นี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม โดยวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ จะมี ดัชนีภาคการผลิต เดือนก.พ.จากเฟดนิวยอร์ก ช่วงดึกคืนวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ จะมีรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เมื่อวันที่ 28-29 ม.ค.

ขณะที่วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ มีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board ปิดท้ายในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ จะมีตัวเลข ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ.จาก S&P Global และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ส่วนวันนี้ตลาดการเงินและหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันPresidents’ Day

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

เช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดด้วยการเปิด GAP กระโดดขึ้น 10 ดอลลาร์ก่อนย่อตัวลงลงมาปิด GAP อย่างสมบูรณ์ การเปิด GAP กระโดดขึ้นน่าจะเป็นประเด็นด้านการรับข่าวที่ยูเครนปฏิเสธข้อเสนอแร่ธาตุของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการกังวลว่าการเจรจาสงบศึกที่จะมีในปลายสัปดาห์นี้ ที่น่าจะมีความเสี่ยงสูงที่ ปธน.ทรัมป์จะให้ข้อเสนอรัสเซียมากขึ้น

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นยูเครนก็ไม่น่าจะยอมรับข้อตกลงสัญญาสงบศึก ทำให้ยังมีโอกาสพลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้อยู่เพราะยังอยู่บนเงื่อนไขของการเจรจา และยังไม่มีการตกลงลงนามใด ๆ เกิดขึ้น ดังนั้นควรติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ตลาดยังรอข่าว ทำให้ทางเทคนิคยังคงรอเลือกทิศทาง ทำให้ตลาดผันผวนมาก โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญคือ 2,855 ดอลลาร์ หากหลุดแนวดังกล่าวจะพักฐานแรง แต่หากยืนแนวดังกล่าวได้ลุ้นทำกำไรช่วงสั้นทีละเปาะ

กลยุทธ์การลงทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เคร่งครัด Stoploss โดยรอราคาย่อตัวเสี่ยง Open Long ที่ 2,879 และ 2,863 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,855ดอลลาร์ กรณีหลุด 2,858 ดอลลาร์ ให้Follow Short ตาม เผื่อถัวเฉลี่ย 2,880 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,895 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,892 /2,908 และ2,922 ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold มองว่า

ตั้งแต่ ”โดนัลด์ ทรัมป์” สาบานตนรับตำแหน่งไม่ถึงเดือน การจัดระเบียบโลกใหม่สร้างความโกลาหลไปทั่ว ตลาดทองคำจึงเป็นเสมือนหลุมหลบภัย นอกจากนี้การย้ายทองคำจากอังกฤษไปสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการขึ้นภาษีของ ปธน.ทรัมป์ ทำให้เกิดภาวะทองคำจริงขาดตลาด ราคาทองคำจึงทะยานต่อเนื่อง

จนกระทั่งปลายสัปดาห์ทองคำได้ถูกขายทำกำไรทำให้ราคาหลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ หลังยืนยันข่าวสหรัฐฯ จะจบเรื่องยูเครนกับรัสเซียที่ประเทศเป็นกลางอย่างซาอุฯ ในกลางสัปดาห์นี้ ส่วนค่ำวันนี้จะมีประชุมฉุกเฉินของนาโต้ว่าด้วยเรื่องนี้

ภาพรวมราคาทองคำเป็นแค่ขายทำกำไร สามารถพักฐานลงไปแถว 2,860 และ 2,835 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยมีแนวต้านแรกที่ 2,910 และ 2,925 ดอลลาร์

สัปดาห์นี้ตลาดจับตามองการเจรจายูเครนและการแถลงของปธน.ทรัมป์ ในช่วงตีหนึ่งวันพุธ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจมีแค่คืนพฤหัสศุกร์ คาดว่าราคาทองคำน่าจะลงแล้วเด้งแรงสลับไปมา จับตาแนวรับ 2,820 ดอลลาร์ที่ห้ามหลุดจะเสียภาพขาขึ้นทันที ถ้าไม่หลุด 2,800 ดอลลาร์ จะมีลุ้นขึ้นต่อไป ที่ 3,050 ดอลลาร์

ขณะที่ Ausiris แนะกลยุทธ์การเทรด

ระยะสั้นหากราคายืนเหนือ 2,865-2,885 ดอลลาร์ สามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไรที่แนวต้าน 2,895 – 2,940 ดอลลาร์ ระยะกลางหากราคาปรับฐานมายัง 2,835 – 2,860 ดอลลาร์ อาจเป็นโอกาสซื้อสะสม ส่วนระยะยาวหากราคาทะลุ 2,940 ดอลลาร์ อาจเห็นการทดสอบแนวต้าน 3,000ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ GCAP Gold

แนะรอซื้อ 2,866 ดอลลาร์ แนวรับ 2,866 /2,861 และ 2,856 ดอลลาร์ Stoploss ที่ 2,850 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,898/ 2,903 และ 2,908 ดอลลาร์

รับชมคลิป

ทองคำเข้าโหมดระวังขั้นสุด หลังร่วงแรงรับข่าวยุติปัญหา“รัสเซีย-ยูเครน” แต่หากไม่หลุด $2,860 ลุ้นดีดไป $3,000

คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า

ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงต้นราคาพุ่งทะยานขึ้นไปทำ Double Top ที่ 2,942 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกทุบกลับลงมาในวันศุกร์

โดยลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,877 ดอลลาร์ ก่อนมาปิดตลาดที่ 2,882 ดอลลาร์ โดยรวมลดลงไป 46 ดอลลาร์ ทั้งนี้แม้ว่าราคาจะปรับลงแรงแต่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญแถว 2,880 ดอลลาร์ ทำให้ยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับไปได้

ทั้งนี้ราคาทองคำถูกกดดันจาก 2 เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์คือ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่มีแนวโน้มว่าจะมีความเป็นไปได้สูงว่า สหรัฐฯและรัสเซียอาจจะเจรจากันลงตัวได้ โดยมีหลายประเทศให้การสนับสนุนให้มีการเจรจาดังกล่าว ไม่ว่าจะป็นซาอุดิอาระเบียหรือจีน

ขณะที่การส่งมอบตัวประกัน ตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล ล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มฮามาส ได้ส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนให้กับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งมอบตัวประกันครั้งที่ 6 ในเฟสแรกของข้อตกลงดังกล่าว

ซึ่งหากความขัดแย้งทั้ง 2 จุดสามารถคลี่คลาย เชื่อว่าจะเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคาทองคำ และอาจทำให้ราคาทองคำปรับลดลงได้อีก

ทั้งนี้นักลงทุนที่ถือสถานะ Buy อยู่ หากว่าราคาลดลงมาหลุด 2,860 ดอลลาร์ อาจจะต้องยอมตัดขาดทุนออกมาก่อน เพื่อรอดูการเคลื่อนไหวของราคาอีกครั้ง เพราะอาจจะเกิดแรง panic sale เพิ่ม โดยราคาอาจจะลงไปแตะระดับ 2,750 ดอลลาร์ได้

อย่างไรก็ดีแรงหนุนที่ดันให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่องของการเรียกเก็บภาษีกับคู่ค้าของสหรัฐฯ ก็ยังคงอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำ เข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์เริ่ม 2 เมษายน 2568 เพื่อบีบให้ย้ายฐานผลิตมาสหรัฐฯ คาดกระทบค่ายรถญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ อย่างมาก แต่ทั้งนี้ต้องติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

“ภาพรวมการค้าทองคำในตลาดโลกขณะนี้ค่อนข้างจะผันผวนพอสมควร ประกอบการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นจากนโยบายต่างๆ ของปธน.ทรัมป์ ที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ เรื่อง ทั้งนี้นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน คนที่ได้กำไรแล้วอาจจะแบ่งขายทำกำไรออกมาบางส่วน ยกเว้นจะถือระยะยาวยังทำได้ เพราะภาพใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น”

มาดูกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot ขยับขึ้นรุนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนที่จะถูกเทขายกลับลงมาในวันศุกร์รวดเดียวกว่า 60 ดอลลาร์ ราคาได้หลุดเส้น trend line ขาขึ้น ในสัปดาห์นี้ (17-21 ก.พ.) ลุ้นราคาปรับฐานต่อ รอติดตามรายการประชุม FOMC เดือนม.ค.ในช่วงกลางสัปดาห์

โดยโซนแนวต้านสำคัญที่ 2,900-2,910 ดอลลาร์ และ 2,935-2,940 ดอลลาร์ หากราคารีบาวด์ กลับขึ้นมาแต่ไม่สามารถยืนได้ภายในวันอาจพิจารณาขายทำกำ ไร ณ โซนดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงลง

ส่วนโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,835-2,830 ดอลลาร์ และ 2,800-2,790 ดอลลาร์ พิจารณากลับเข้าซื้อหากเกิดสัญญาณกลับตัวที่โซนแนวรับดังกล่าวเพื่อลุ้นรีบาวด์ หากว่าราคาขึ้นไปทดสอบ 2,940 ดอลลาร์ แล้วผ่านไปได้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบโซนด้านบนแถว 3,000 ดอลลาร์

ส่วนราคาทองคำในประเทศ สมาคมค้าทองคำประกาศราคาเมื่อวันเสาร์( 15 ก.พ.) ที่ผ่านมา ลดลงแรงถึงบาทละ 600 บาท ทำให้ราคาขายออกอยู่ที่ 46,150 บาท ขณะที่ ราคารับซื้อ 46,050 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 33.80 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ราคาทองคำไทยถูกกดดันจากเงินบาที่กลับมาแข็งค่าประกอบกับราคาทองคำ gold spot ได้ปรับลงแรง นักลงทุนที่มีกำไรอาจจะแบ่งขายออกบางส่วนแล้วรอดูว่าราคาจะร่วงหลุด 46,000 ลงไปหรือไม่ ถ้าไม่หลุดลงไปมีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นไปต่อ แต่หากหลุดลงไป อาจไปรอซื้อแถว 45,600-45,500 บาท และ 45,100-45,000 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 46,200-46,300 บาท และ 46,500-46,600 บาท

รับชมคลิป

gold spot กลับมาปิดตลาดบวกต่อเนื่อง ลุ้นทดสอบ ATH $2,942 ก่อนจะไป $3,000 ทองไทยขยับช้าหลังเงินบาทกลับมาแข็งค่า

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 13 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 46,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,650 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,813.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.73บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 33.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down ตามการพลิกกลับมาอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาด ทยอยคลายกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump อย่างการ ขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ที่อาจจะยังไม่ได้เริ่มดำเนินการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าวในทันที จนกว่าจะถึงช่วงเดือน เมษายน

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทอาจยังไม่สามารถกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ชัดเจน และมีโอกาสที่เงินบาทอาจแกว่งตัวใน กรอบ Sideways ไปก่อนได้ จนกว่าจะเห็นการกลับมาอ่อนค่าลงของเงินบาท จนทะลุโซนแนวต้าน 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง ส่วนวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.55-33.85 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวขึ้น และทรงตัวใกล้ระดับ All-time high แม้ว่าสัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic จะเข้าสู่ภาวะ Overbought แต่ยังไม่เกิดสัญญาณกลับตัวอย่างชัดเจน จึงแนะนำถือต่อไป

อย่างไรก็ตามหากสัญญาณจาก Modified Stochastic เริ่มโค้งตัดกัน ระวังแรงเทขายทำกำไรออกมา โดยให้แนวรับที่ 46,450 และ 46,200 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,850 และ 47,000 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (13 ก.พ. )ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24 ดอลลาร์ เป็นการปิดตลาดแดนบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,929 ดอลลาร์โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจาก การที่ ปธน.ทรัมป์ ได้ประกาศแผนการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยกระดับเพิ่มขึ้น

แม้ว่าการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.5% เทียบรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบรายเดือน สูงเกินตลาดคาดการณ์ แต่เทรดเดอร์มองว่าดัชนี PPI บ่งชี้ว่า Core PCE เดือนม.ค.มีแนวโน้มจะออกมาต่ำกว่าประเมินไว้ ส่วนคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค.

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นเตรียมทดสอบแนวต้านที่ High เดิมบริเวณ 2,940 ดอลลาร์ อีกครั้ง ด้านเงินบาทเริ่มแข็งค่ากดดันให้ทองคำไทยอาจไม่สามารถทำ All-time high ได้ในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ InterGold ให้แนวต้านที่ 2,940 ดอลลาร์หรือ 46,800 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,910 ดอลลาร์ หรือ 46,500 บาท

ขณะที่ Ausiris  มองว่า

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ล่าสุดได้เบรคแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,900 ดอลลาร์ ส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบโซน 2,925 – 2,940ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านเป้าหมายสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์

กลยุทธการลงทุน ระยะสั้นหากราคายืนเหนือ 2,865 ดอลลาร์ สามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไร ที่แนวต้าน 2,925 – 2,940 ดอลลาร์ส่วนระยะกลางหากราคาปรับฐานมายัง 2,840 – 2,860 ดอลลาร์

อาจเป็นโอกาสซื้อสะสม และในระยะยาวหากราคาทะลุ 2,940 ดอลลาร์ อาจเห็นการทดสอบแนวต้าน 3,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ให้แนวรับ ราคาทองคำGold Spot ที่ 2,915/2,900 และ 2,885 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 2,925/2,940 และ 2,960 ดอลลาร์

ด้าน YLG Bullion มองว่า

วานนี้ราคายืน 2,894 ดอลลาร์ ทำให้ราคาดีดขึ้นต่อเนื่อง มีแนวต้านสำคัญบริเวณ 2,942-2,938 ดอลลาร์ ถ้ายังไม่ผ่านจะยัง Sideways ในกรอบกว้าง หากผ่านไปได้แสดงว่าการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมาจบแล้ว โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 2,952-2,964 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับวันนี้อยู่ที่ 2,907-2,894 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนแบ่งทองคำที่ซื้อไว้ออกขายหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,942-2,938 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,942 ดอลลาร์ ไปได้ชะลอขายไปที่ 2,954-2,964 ดอลลาร์ ควรรอราคาย่อแล้วเสี่ยงซื้อหากไม่หลุด 2,907-2,894 ดอลลาร์ หากหลุด 2,894 ดอลลาร์ชะลอซื้อไปก่อน ตัดขาดทุนหากหลุด 2,864 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,880 และ 2,905 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน รายวันที่ 2,940 และ 2,965 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ฟื้นกลับยืนเหนือ $2,900 หลังเงินเฟ้อออกมาสูงฉุดลงแตะ $2,864 ทองไทยขยับตามเช้านี้เปิดบวก 100 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 13 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 100 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,650 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,813.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.98 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

แม้ทองคำแท่งจะกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ประเมินว่าราคาอาจสะท้อนปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองไปหมดแล้ว จึงไม่แนะนำไล่ซื้อหากรับความเสี่ยงได้น้อย โดยแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อที่ระดับ 46,000 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 46,800 บาท และตัดขาดทุนหากหลุด 45,650 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (12 ก.พ. ) ปิดบวกเหนือ 2,900 ดอลลาร์ได้ แม้ว่าราคาจะย่อตัวแรงลงแตะ 2,864 ดอลลาร์ หลังคืนวานนี้สหรัฐเผยดัชนี CPI ซึ่งเร่งตัวสูงขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอแผนการปรับลดดอกเบี้ยออกไป

แต่ทองคำมีแรงซื้อเก็งกำไร ประกอบกับแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนให้ฟื้นปิดบวก 3 ดอลลาร์ หลัง ปธน.ทรัมป์ชี้วางแผนจะลงนามคำสั่งเพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ พร้อมระบุว่าอัตราดอกเบี้ยควรลดลงควบคู่กันกับภาษีศุลกากรที่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคต

คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือนคาดจะคงที่ที่ 0.2% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) m/m เดือน ม.ค. คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.3% จากเดิมอยู่ที่ 0.0% ซึ่งจะเป็นผลลบกับราคทองคำ

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดจะลดลงเหลือ 217,000 รายจากเดิมอยู่ที่ 219,000 ราย คาดจะเป็นผลลบกับราคทองคำ

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

การประกาศตัวเลข CPI YoY เมื่อคืนนี้ออกมาสูงเกินตลาดคาด จาก 2.9% เป็น 3.0% ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดอาจจะขยับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วสุดช่วงต้นไตรมาส 4 เป็นปลายไตรมาส 4 นั่นก็เหลือความเป็นไปได้ในการปรับลดเพียงแค่ครั้งเดียว

ทำให้ราคาทองคำร่วงหลุด 2,875 ดอลลาร์ลงมาแต่ยังสามารถกลับมายืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ได้อีกครั้งถือเป็นการซ้อมกราฟเสีย และแสดงความแข็งแกร่งของเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้นต่อเนื่อง

กลยุทธ์วันนี้จึงยังเป็นย่อ Buy แต่ด้วยแรงขายที่มีอย่างมากบริเวณแนวต้านจึงควรแบ่งเป็น 3 ไม้การลงทุน และแนวรับที่หลุดในแต่ละช่วงจะกลายเป็นแนวต้านพิจารณา Take Profit แต่ละรอบด้วย

โดยรอ Open Long ที่ 2,900 และ 2,885 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ยอีกหนึ่งไม้บริเวณ 2,870 ดอลลาร์ หากมีข่าวลบเข้ามาเสริม มีจุด Stoploss ที่ 2,855 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,915 /2,925 และ 2,943-47 ดอลลาร์

ด้าน YLG Bullion มองว่า

ราคายังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานในทิศทางขาขึ้น และแกว่งกรอบกว้างทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน วันนี้หากยืน 2,894 ดอลลาร์ได้มีแนวต้าน 2,929-2,912 ดอลลาร์ หากร่วงหลุด 2,894 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงไปพักตัว มองแนวรับที่ 2,881-2,864 ดอลลาร์ และ 2,852-2,830 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนแบ่งทองคำที่ซื้อไว้ออกขายหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,912-2,929 ดอลลาร์หาก ผ่าน 2,929 ดอลลาร์ได้ชะลอขายไปที่ 2,942 ดอลลาร์ การเข้าซื้อแนะนำถ้าราคาย่อไม่หลุด 2,881 -2,864 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,864ดอลลาร์

ขณะที่ GCAP Gold

แนะรอซื้อ 2,891 ดอลลาร์ แนวรับ 2,891/2,886 และ 2,881 ดอลลาร์ Stoploss ที่ 2,880 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,929/2,934 และ 2,939 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,880 และ 2,864 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน รายวันที่ 2,910 และ 2,930 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ถูกเทขายร่วงหลุด $2,900 ทองคำไทยลดลงแตะ 46,650 บาท คืนนี้มีเงินเฟ้อ CPI อาจกดดันเพิ่มเติม

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

เริ่มจากราคาทองคำไทย เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนหนัก โดยสมาคมค้าทองคำได้ประกาศปรับราคาขึ้น-ลง รวม 27 ครั้ง โดยรวมลดลงไป 500 บาท วานนี้ราคาทองคำไทยได้ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดตลอดกาลใหม่ ที่ 47,450 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ 46,850 บาท

ขณะที่ราคาทองคำไทยเช้านี้ ( 12 ก.พ.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 150 บาท

ก่อนชั่วโมงถัดมาจะประกาศปรับลดอีก 50 บาท ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.45น. อยู่ที่ 46,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,550 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,707.40 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.11 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (11 ก.พ. ) หลังจากที่ราคาขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,942 ดอลลาร์ ได้เผชิญแรงขายทางเทคนิคกลับลงมาแตะจุดต่ำสุด 2,881 ดอลลาร์ ก่อนจะวกมาปิดตลาด 2,897 ดอลลาร์

โดยรวมวานนี้ลดลงไป 14 ดอลลาร์ ก่อนที่ได้ช่วงเช้าวันนี้ได้ลงมาทดสอบแถว 2,880 ดอลลาร์อีกครั้ง ก่อนหน้าราคาเร่งตัวขึ้นจากความกังวลต่อนโยบายทางด้านภาษีของสหรัฐฯ

ล่าสุดได้มีการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งผลของนโยบายดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ราคาทองคำจึงยังคงได้รับความสนใจเข้าซื้อจากนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ส่วนเมื่อคืนนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส โดยระบุว่าเฟด ไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้คำพูดดังกล่าวหนุนบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ขึ้นแตะ 4.5% กดดันราคาทองคำเพิ่มเติม

ส่วนคืนนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ แต่คืนนี้จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ก.พ. ซึ่งคาดว่าเนื้อหาจะไม่แปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นจะมีการเปิดเผย ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ CPI

ซึ่ง Shining Gold คาดการณ์ว่า

ตัวเลข CPI YoY คาดจะคงตัวที่ 2.9% และ Core CPI YoY คาดจะลดลงจาก 3.2% เป็น 3.1% ซึ่งหากประกาศจริงตามคาดก็ถือว่าให้ผลบวกต่อราคาทองคำน้อยมาก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำ gold spot ทาง Shining Gold มองว่า มีโอกาสเข้าสู่โหมดการพักฐาน หากวันนี้หลุด 2,875 ดอลลาร์ แต่หากไม่หลุดแนวดังกล่าว ถือเป็นจังหวะซ้อมกราฟเสียวานนี้และปรับตัวขึ้นใหม่ได้

พิจารณาฐาน 2,875 ดอลลาร์ เป็นสำคัญ โดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 กรอบ คือ พิจารณาแนวรับ 2,887-75 ดอลลาร์ หากยืนได้ซื้อ มีจุด SL ที่ 2,870 ดอลลาร์ แต่หากหลุดแนวดังกล่าว ควรถอยมาตั้งซื้อแนวรับรายสัปดาห์แทนที่ 2,860 และ 2,830 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,815 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,900 /2,922 และ 2,948 ดอลลาร์

ด้าน YLG Bullion มองว่า

แรงขายทำกำไรจะกดดันให้ทองคำร่วงแรง ทำให้ราคาอยู่ในช่วงปรับฐานในทิศทางขาขึ้น วันนี้ถ้าดีดไม่ผ่าน 2,929-2,919 ดอลลาร์ ยังต้องระวังพักตัว-ลงต่อ มองรับแนวรับ 2,881 และ 2,874-2,870 ดอลลาร์ตามลำดับ

สำหรับกลยุทธ์การเข้าซื้อ แนะนำเสี่ยงซื้อถ้าราคาย่อไม่หลุด 2,881-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,919-2,929 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,929 ดอลลาร์ไปได้ชะลอขายไปที่จุดสูงสุดที่ผ่านมา

ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง แนะกลยุทธ์การลงทุนว่า

ราคาทองคำ gold spot ปรับตัวลงมาจากแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,942 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงมาพร้อมกับรูปแบบที่มีแนวโน้มกลับตัวลงต่อสูง โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,880 และ 2,855 ดอลลาร์ตามลำดับ

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,865 และ 2,879 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,924 และ 2,960 ดอลลาร์

รับชมคลิป

ทองคำไทย-ทองคำโลกหยุดไม่อยู่ gold spot ทะยานจ่อ $3,000 ทองคำไทยพุ่งแตะ 47,450 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 11 ก.พ.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 750 บาท

ก่อนจะมีการประกาศปรับราคาขึ้นลงอีก 9 ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 47,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 47,050 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,207.68 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ทองคำแท่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีการทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง จึงแนะนำไล่ซื้อตามแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเป้าทำกำไรที่ 48,000-48,300 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับแรกที่ 47,250 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (10 ก.พ. ) ปิดบวกแรงมากถึง 47 ดอลลาร์ ขึ้นทำ New All Time High เป็นครั้งที่ 8 ของปีนี้ที่ระดับ 2,911ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงสายวันนี้จะขึ้น New All Time High อีกครั้งที่ระดับ 2,942 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาแถว 2,920 ดอลลาร์

ทั้งนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ หลังปธน.ทรัมป์จ่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศ ด้านสหภาพยุโรปเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ

นอกจากนั้นยังได้แรงหนุนจากความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลัง รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล มีคำสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในฉนวนกาซา หลังฮามาสประกาศเลื่อนปล่อยตัวประกัน หลังกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ระบุว่าจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันออกไป จนกว่าอิสราเอลยุติการโจมตีชาวปาเลสไตน์ที่กลับคืนสู่ภูมิลำเนาในกาซา และอนุญาตให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ดินแดนดังกล่าวตามที่ตกลงกันไว้

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไม่มีสิทธิที่จะกลับสู่ดินแดน ดังกล่าว ภายใต้แผนของสหรัฐที่จะครองกรรมสิทธิ์ในฉนวนกาซาเพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็น ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง พร้อมกับกดดันให้ชาติอาหรับ เช่น จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลสไตน์เข้าประเทศ

ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากต่างประเทศ มองว่าจากแรงหนุนดังกล่าวมีโอกาสที่ราคาทองจะพุ่งแตะเป้าหมาย 3,000 ดอลลาร์ ขณะนี้ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าราคาทองจะไปถึงระดับดังกล่าวได้เมื่อไหร่ ไม่ใช่ปัญหาที่ว่า ราคาทองจะไปถึงระดับดังกล่าวได้หรือไม่ โดยในปีนี้ราคาทองพุ่งขึ้นเกือบ 11% หลังจากประบเพิ่มขึ้น 27% ในปีที่แล้ว

ในช่วง 22.00 คืนนี้ติดตาม นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส

โดยคืนนี้นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ก.พ. นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD มองว่า

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากทรัมป์ลงนามขึ้นภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในคืนที่ผ่านมาผลสำรวจชาวอเมริกันล่าสุดพบว่า ผู้คนกว่า 70% เชื่อว่า ปธน.ทรัมป์สามารถทำตามที่หาเสียงไว้ได้ นั่นหมายความว่าหากทรัมป์ทำได้จริง ๆ สงครามการค้าจะรุนแรงกว่านี้อีกเป็นแน่

การวิเคราะห์ทางเทคนิค MACD รายวันยังไม่แสดงสัญญาณขาย จึงแนะนำให้ถือต่อและรอสัญญาณ MACD รายวันตัดลง ให้ขายทำกำไรทันที เนื่องจากราคาทองคำอาจปรับตัวลงอย่างรุนแรง

คาดว่าหากเกิดแรงขายในสัปดาห์นี้ จุดที่ MACD จะตัดลงอาจอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ นักลงทุนระยะสั้นสามารถเข้าซื้อได้ แต่หากราคาหลุด 2,900 ดอลลาร์ให้ตัดขาดทุน ทั้งนี้ให้แนวต้านที่ 2,960 ดอลลาร์ หรือ 47,700 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ หรือ 47,000 บาท

ด้าน YLG Bullion มองว่าวานนี้ราคาทองคำ gold spot สามารถยืนเหนือ 2,852 ดอลลาร์จึงปรับตัวขึ้นต่อ

แต่ระยะสั้น Overbought หลาย TF ต้องเริ่มระวังแรงขาย แต่หากการพักตัวยังยืน 2,907-2,895 ดอลลาร์ ได้ให้น้ำหนักพักเพื่อขึ้นต่อ มีแนวต้านแถว 2,946-2,975 ดอลลาร์ แต่ถ้าหลุด 2,895 ดอลลาร์ มีความเสี่ยงที่ราคาจะพักลึก

สำหรับกลยุทธ์การเข้าซื้อ แนะนำเสี่ยงซื้อถ้าราคาย่อไม่หลุด 2,907-2,895 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,888 ดอลลาร์ แบ่งขายทำกำไรเป็นระยะหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 2,930-2,946 ดอลลาร์เพื่อลดความเสี่ยง

ขณะที่ SCT Gold มองว่า

ภาพรวมราคาทองคำขึ้นเร็วจนน่ากลัว และ 3,000 ดอลลาร์อยู่ไม่ไกล คาดว่าสัปดาห์นี้ยิ่งน่าต้องระวัง

โดยเฉพาะการแถลงนโยบายการเงินของปธ.เฟดต่อสภาคองเกรสคืนนี้นช่วงเวลาสี่ทุ่ม และพรุ่งนี้จะมีการประกาศดัชนีเงินเฟ้อ และปธ.เฟดแถลงนโยบายต่อสภาล่าง มีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเหลือแค่ครั้งเดียวกลางปีนี้เท่านั้น ยิ่ง ปธน.ทรัมป์ขึ้นภาษี เงินเฟ้อจะต้องพุ่ง แล้วเฟดจะมาขึ้นดอกเบี้ยกดดันราคาทองคำอีกรอบ

กลยุทธ์ : ยิ่งสูงยิ่งหนาว ราคาจะผันผวนและสวิงแรงเพราะตอนนี้คนเข้ามาซื้อทองคำกันมาก จีนซื้อติดต่อมาสามเดือน และอนุญาตให้บ.ประกันภัยของจีนซื้อทองได้ ในทางเทคนิคอารมณ์ตลาดเป็นตัวผลักราคา ยังต้องระวังต่อไป

แนะรอการย่อตัวแล้วเข้าซื้อจะดีกว่า จับตาหากยืน 2,900 ดอลลาร์ได้ราคาจะไปต่อ มีแนวรับแรก 2,880 ดอลลาร์และ 2,850 ดอลลาร์เป็นแนวถัดไป ขณะที่ ต้านอยู่ที่ 2,925 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

ราคาทองคำสร้างจุดสูงใหม่ รยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอีกระลอกโดยไม่มีสัญญาณการกลับตัว มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนในวันนี้

นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ 2,910 / 2,900 และ 2,890 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,890 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้าน 2,920 /2,930 และ 2,940 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot พักตัวแต่ไม่ลึกมากได้ลุ้นไปต่อ แต่ทองไทยยังบวกแตะ 45,700 บาท คืนนี้รอดู NFP หากลดลงอาจหนุนทองคำ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 7 ก.พ.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 50 บาท

ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 09.30 น. อยู่ที่ 45,700 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,600 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,200 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,782.64 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.72 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตามมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 46,000 บาท ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร เนื่องจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought อาจมีการพักฐานสั้นๆ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อเพิ่มถ้ามีการย่อตัวลงมา โดยให้แนวรับที่ 45,500 และ 45,400 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 45,800 และ 46,000 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (6 ก.พ. ) ได้ถูกเทขายแรงจนราคาลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,834 ดอลลาร์ ก่อนจะวกมาปิดตลาดที่ 2,855 ดอลลาร์ โดยรวมลดลงไป 12 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงเช้าวันนี้ราคาได้รีบาวด์ขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 2,870 ดอลลาร์

ทั้งนี้ทองคำ gold spot มีแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงหลายวันติดต่อกัน แม้สกุลเงิน ดอลลาร์ได้อ่อนค่าลง หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 219,000 ราย และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

โดยนักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. คาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง จากเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 256,000 ราย ส่วนอัตราการว่างงานเดือนม.ค. ทรงตัวที่ระดับ 4.1%

นอกจากนั้นยังต้องเกาะติดความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ได้ออกมาระบุว่า ไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับผู้นำจีน ทำให้สถานการณ์อาจยังไม่ได้คลี่คลายในเร็ววันนี้

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

ราคาได้พักตัวตามคาด หลังเข้าโซน Overbought และเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ในระหว่างวันหากดีดไม่ผ่าน 2,870 ดอลลาร์ ยังพักตัว-ลงได้ แต่หากผ่าน 2,870 ดอลลาร์ไปได้แสดงว่าการพักตัวอาจจบแล้ว

สำหรับกลยุทธ์แบ่งขายทำกำไรทองคำที่ซื้อไว้หากไม่ผ่านแนวต้าน 2,870-60 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,870 ดอลลาร์ ชะลอไปขายที่ 2,882 ดอลลาร์ ส่วนการเข้าซื้อแนะนำเข้าซื้ออีกครั้งถ้าไม่หลุด 2,834-2,830 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,830 ดอลลาร์

ขณะที่ Ausiris  มองว่า

หลังนักลงทุนเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดสัญญาณ Overbought ใน RSI อินดิเคเตอร์ ทำให้มีแรงขายทำกำไรรุนแรงตามมา จนทำให้เมื่อวานจะเห็นจุดต่ำสุดอยู่ที่ 2,834 ดอลลาร์

ทั้งนี้ถือว่ายังไม่หลุดแนวรับสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของเทรนด์ ซึ่งยังสะท้อนถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น โดยให้แนวรับที่ 2,850/2,835 และ2,815 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,873/2,883 และ 2,900 ดอลลาร์

ขณะที่ SCT Gold มองว่า

ภาพรวมราคาทองคำยังรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งชี้ชะตาราคาทองคำ โดยคาดว่าตัวเลขจะแย่ลงจากเดือนก่อน เพราะไฟป่าที่แอล เอ และฤดูที่หนาวผิดปกติ ทำให้การจ้างงานสะดุด ซึ่งถ้าตัวเลขลดลงมากกว่าที่คาดราคาทองคำจะดีดตัวขึ้น ในทางกลับกันถ้าตัวเลขออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ทองคำจะโดนเทขายแรง

กลยุทธ์การลงทุนราคาทองคำย่อตัวไม่มากต้องรอลุ้นคืนนี้ หากราคายืน 2,850 ดอลลาร์ได้ทองคำยังเป็นทรงบวก ดังนั้นราคาปิดตลาดคืนนี้สำคัญต่อภาพรวมราคาทองคำ แนะขายลดพอร์ต หรือจะรอราคาย่อแรงๆ ค่อยพิจารณาเข้าซื้อ ส่วนสายเทรดสั้นกล้าได้กล้าเสีย ให้ย่อซื้อ-ขึ้นขายไวๆ พร้อมมีจุดตัดขาดทุน

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

เกิดการดีดตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังทดสอบแนวรับ ราคาทองจึงมีโอกาสแกว่งออกข้างภายในกรอบ 2,840-2,880 ดอลลาร์ นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ 2,850 / 2,840 และ 2,835 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,830 ดอลลาร์ ขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้าน 2,870 / 2,880 และ 2,890 ดอลลาร์

รับชมคลิป

gold spot ยังแรงทำ ATH ต่อเนื่อง 5 วัน เมื่อวานแตะ $2,882 รอลุ้นทดสอบ $2,900 ทองไทยไม่น้อยหน้าบวกเพิ่มอีก 100 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 6 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 100 บาท

ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 45,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,500 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 44,676.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.59 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยทุกช่วงเวลา และสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD Line สูงกว่าค่า Signal Line ส่งสัญญาณ Bullish แต่ Modified Stochastic อยู่ในโซน Overbought ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น รอจังหวะย่อตัวแล้วเข้าซื้อ โดยให้แนวรับที่ 45,350 และ 45,250 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 45,650 และ 45,850 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (5 ก.พ. ) ยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยเมื่อวานนี้ขึ้นไปแตะระดับ 2,882 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,867 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24 ดอลลาร์

แม้การเคลื่อนไหวของราคาจะผันผวนบ้าง โดยนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จึงยังหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาดการณ์

ประกอบกับเจ้าหน้าเฟดเตือนแผนภาษี ปธน.ทรัมป์เสี่ยงผลักดันเงินเฟ้อหนุนเฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำ

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7,000 รายสู่ระดับ 214,000 ราย

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

เริ่มระมัดระวังการเทรดฝั่ง Long มากขึ้น แต่ยังไม่พบสัญญาณการกลับตัวใด ๆ ให้ต้องรีบเข้าเทรดฝั่ง Short ในขณะนี้ ดังนั้นจะพิจารณาแนวต้านทีละ Step หลังจากนี้แบบระมัดระวัง แบบวันต่อวัน

เริ่มจากหากวันนี้ราคาไม่สามารถผ่าน 2,875 และ 2,888 ดอลลาร์ได้ระวังการทิ้งตัว แต่ถ้าทิ้งแล้วไม่หลุด 2,835 ดอลลาร์ เป็นการทิ้งเพื่อขึ้นต่อ แต่หากหลุดแนวดังกล่าวควรระมัดระวังการ Panic Sell

กรณีที่ 2 หากราคาสามารถทะลุผ่าน 2,888 ดอลลาร์ได้แนวต้าน 2,898 ดอลลาร์ หรือสูงกว่านั้นก็ยังมีความเป็นไปได้ ช่วงนี้ยังไม่มีข่าวเชิงบวกใหม่สนับสนุนราคา และควรเริ่มระมัดระวังของ Brwaking News ใด ๆ เพิ่มเติม

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูงและเคร่งครัด Stop Loss ได้เท่านั้น กรณีที่ยืน 2,867 ดอลลาร์ได้ เข้า Open Long เช้านี้ แต่หากยืนไม่ได้รอย่อตัว Open Long 2,854 และ2,842 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,835 ดอลลาร์ แทน โดยมีแนวต้าน 2,875 /2,888 และ2,898 ดอลลาร์

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

ราคาสร้าง All Time High ต่อเนื่อง แต่ Overbought และก่อ Bearish Divergence จึงต้องระวังการพักตัว มองแนวรับระยะสั้น 2,859 ดอลลาร์ (Neckline H&S TF 15m.)ยืนได้ดีดก่อนมีแนวต้านแถว 2,882-2,890 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับระยะสั้น 2,859 ดอลลาร์ ราคาอาจพักตัวมองแนวรับแถว 2,844-2,830 ดอลลาร์

สำหรับกลยุทธ์ แนะนำรอเปิดสถานะซื้อแถว 2,844-2,830 ดอลลาร์ ควรตัดขาดทุนหากหลุด 2,830 ดอลลาร์ทยอยขายทำกำไรหากราคาปรับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,882-2,890 ดอลลาร์

ส่วน ARR Goldtrading มองว่า

เริ่มมีขายทำกำไรระยะสั้นเกิดขึ้นประกอบกับมีสัญญาณชะลอตัวเล็กน้อย จึงมีโอกาสปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับชุดแรกในวันนี้ นักลงทุนอาจพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ

แนวรับ 2,860 /2,850 และ 2,840 ดอลลาร์ เพื่อเพิ่มความได้เปรียบ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,820 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้าน 2,880 / 2,890 และ 2,900 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,850 และ 2,837 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,887 และ 2,899 ดอลลาร์

รับชมคลิป