หมวดหมู่: ข่าวราคาทองคำวันนี้

เว็บไซต์ GoldAround.com เสนอข่าวสารราคาทองคำ ซึ่งข่าวราคาทองคำเป็นหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงิน การติดตามและทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคาทองคำช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มของตลาด และทำให้คุณสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลที่ครอบคลุมและประสิทธิภาพ

บทความข่าวราคาทองคำควรมีข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เน้นที่การอัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคาทองคำ รวมถึงการเปรียบเทียบแนวโน้มราคาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น ราคาในระยะสั้นและระยะยาว, การเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวของตลาดทรัพย์อื่นๆ และปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

การวิเคราะห์แนวโน้ม

บทความข่าวราคาทองคำอาจมีการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาทองคำโดยใช้เครื่องมือทางเทคนิค และกราฟเพื่อแสดงแนวโน้มของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ แบบเส้น, อินดิเคเตอร์, หรือแผนภูมิอื่นๆ ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวโน้มของราคาได้อย่างชัดเจน

ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

การวิเคราะห์ข่าวราคาทองคำยังควรพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อราคา ซึ่งอาจมีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เศรษฐกิจ การเมือง หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระดับโลก ที่อาจมีผลต่อการคาดการณ์และการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

การให้คำแนะนำ

บทความข่าวราคาทองคำมักจะส่งเสริมให้ผู้อ่านได้รับคำแนะนำในการตัดสินใจการลงทุน แต่ก็ควรให้คำแนะนำที่เป็นรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจการลงทุนของตนเองได้อย่างมั่นใจและอิสระ

การติดตามข่าวราคาทองคำที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจตลาดการเงินเข้าใจแนวโน้มและสามารถตัดสินใจในการลงทุนอย่างมั่นใจได้ และควรใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงในการตัดสินใจการลงทุนของตนเองอย่างสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองด้วยครับ

Gold Bullion
Gold Bullion
  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 7 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 7 มี.ค.68 GoldAround

    goldspot เริ่มแผ่วหลังทะลุ $2,930 ไม่ได้ หลัง “ทรัมป์” เลื่อนเก็บภาษี “เม็กซิโก-แคนาดา” คืนนี้รอดู NFP จะหนุนทองคำให้กลับมาได้หรือไม่

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 7 มี.ค.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงเวลา 14.00 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขึ้นลงแล้วรวม 6 ครั้ง

    ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.67 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศ ยังคงได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า

    แนะนำรอซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวรับที่ 45,900 และ 45,650 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 46,450 และ 46,650 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 6 มี.ค.) เริ่มปรับลดลง แต่ยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 2,897-2,913 ดอลลาร์ โดยราคายัง Sideway อยู่โซนบน และยังไม่เลือกทาง แม้ว่าภาพในทางเทคนิคราคาจะทํา Low และ High ต่ำลงจากวันก่อนหน้า

    อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังพยายามทรงตัวรักษาระดับ เนื่องจากยังมีปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากมาตรการภาษี ของปธน.ทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ว่าจะผ่อนปรนการเก็บภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโกไปอีกนานเท่าใด หลังล่าสุดเลื่อนไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งจะเป็นวันเดียวกับการเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีจากสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ทองคำยังถูกกดดันจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ลดลงมาที่ระดับ 221,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ระดับ 234,000 ตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่ง ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.65% และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6

    คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการเผยตัวเลข Non-Farm เดือนก.พ.ซึ่งมักจะส่งผลกระทบต่อราคาทองอย่างมีนัยสำคัญ คาดจะอยู่ที่159,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 143,000 ราย และในช่วงดังกล่าวยังมีการเผยอัตราการว่างงาน คาดจะคงที่ ที่ระดับ 4.0% และรายได้เฉลี่ยรายชั่วโมงคาดจะลดลงแตะ 0.3% จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.5 %

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย Shining Gold  กล่าวว่า

    สัญญาณทางเทคนิควานนี้ที่ราคาไม่สามารถทะลุ 2,934 ดอลลาร์ได้ เช่นเดียวกับการคาดการณ์ตัวเลข Nonfarm เดือนก.พ.ที่จะประกาศค่ำวันนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 143,000 ราย เป็น 159,000 ราย ถือเป็นการคาดการณ์เชิงลบ

    ทั้งนี้ราคาจะพลิกกลับเป็นบวกได้อีกครั้งต้องทะลุ 2,934 ดอลลาร์ จึงควรระมัดระวังปัจจัยข่าวระหว่างวันอย่างใกล้ชิด
    กลยุทธ์การลงทุน รอราคารีบาวน์ Open Short ที่ 2,908 และ2919-22 ดอลลาร์ เคร่งครัด Stoploss ที่ 2,932 ดอลลาร์ มีเป้าหมายที่ 2,886/2,878 และ2,867ดอลลาร์

    ขณะที่ YLG Bullion แนะนำ

    วันนี้ดูกรอบ 2,931-2,892 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ไปได้จะขึ้นต่อโดยมีแนวต้านสำคัญในระยะกลางที่ 2,955 ดอลลาร์ ซึ่งหากยืน 2,892 ดอลลาร์ได้จะยังไม่เสียทรงในระยะสั้น แต่กรณีหลุด 2,892 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัวลึกขึ้น แต่พักเพื่อขึ้นต่อในระยะกลางไม่หลุดแนวรับสำคัญ 2,832 ดอลลาร์

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะเสี่ยงซื้อหากไม่หลุด 2,892 ดอลลาร์ หากหลุด 2,892 ดอลลาร์ รอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,881-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ไปได้ ชะลอขายไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์

    ด้าน T.D.C. Gold ระบุว่า

    ถึงแม้ปธน.ทรัมป์จะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน แต่ตลาดกลับตอบรับในเชิงลบ และทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี่ ขณะที่ราคาทองคำยังทรงตัวตัวอยู่ในกรอบแคบๆ คาดว่านักลงทุนรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งตัวเลขคาดการณ์จะออกมาดี แต่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าที่คาด จึงต้องใช้ความระมัดระวัง

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้มีแนวรับรายวันที่ 2,887 และ2,862 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,937 และ 2,962 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 มี.ค.68 GoldAround

    แนวโน้มขาขึ้นทองคำยังดูดี หากปิดเหนือ $2,930 ได้พร้อมไปต่อ ส่วนทองไทยยังเกาะแนว 46,500 บาท

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 6 มี.ค.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,500 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,400 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,300 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,570.96 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.58 บาทต่อดอลลาร์

    โดย Shining Gold  มองว่า

    ราคาทองคำไทยพยายามทำ Technical Rebound โดยได้แรงหนุนจากการรีบาวน์ของ ราคาทองคำ gold spot ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงไม่มากนัก ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวเริ่มบีบแคบเพียง 46,000–46,850 บาท

    อาศัยจังหวะย่อตัวเข้าซื้อเล่นรอบในกรอบไปก่อน โดยให้แนวรับที่ 46,300/46,000-45,900 และ 45,500 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,470/46,620 และ 47,800 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 5 มี.ค.)ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 35 ดอลลาร์ โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,929 ดอลลาร์ ก่อจะถูกเทลงมาปิดตลาดที่ 2,918 ดอลลาร์โดยรวมปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2 ดอลลาร์

    โดยทองคำยังได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2567 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 141,000 ตำแหน่ง แต่ดัชนี PMI ภาคบริการของ ISM เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 53.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 52.5

    นอกจากนั้นทองคำยังได้แรงหนุนจากความกังวลสงครามการค้าโลกลดลง ทำให้มีแรงเทขายทองคำ หลังสหรัฐอาจเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งได้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% แต่ล่าสุด ปธน. ทรัมป์ กำลังพิจารณายกเว้นภาษีสินค้าเกษตรบางส่วนที่กำหนดไว้ในแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึงภาษีภาษีรถยนต์กับ 2 ประเทศนี้ออกไปด้วย

    ประเด็นที่ต้องจับตาคืนนี้ ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะมีการประกาศดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจปรับลดลงจาก 2.90% ลงเหลือ 2.65% ขณะที่ทางด้านสหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD แนะนำว่า

    ผู้ที่ซื้อทองคำ gold spot ในระดับต่ำกว่า 2,880 ดอลลาร์ ควรถือต่อไปได้เลย ส่วนผู้ที่ยังไม่มีทองคำในมือตอนนี้สามารถซื้อได้บ้าง แต่ควรเผื่อใจหากมีการเจรจาเรื่องสงครามการค้าในอนาคต

    ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากจนต้องกังวล เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ค่อยถัวแก้ในภายหลังได้ โดยให้แนวรับที่ 2,880 ดอลลาร์ และ 46,400 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,950 ดอลลาร์ และ 47,000 บาท

    ด้าน Ausiris มองว่า

    ราคาทองคำ gold spot ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายในกราฟราย 4ชั่วโมง บ่งบอกว่ายังเป็นโน้มขาขึ้นสะท้อน กลยุทธฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด โดยมีเป้าหมายที่ 2,930 ดอลลาร์ ที่ต้องเบรกเพื่อสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

    โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2,940-2,955 ดอลลาร์ ในตรงกันข้ามหากยังไม่สามารถเบรคโซนดังกล่าว ทองเสี่ยงเผชิญแรงเทขายระยะสั้นสลับออกมา โดยมีแนวรับที่ 2,915/2,895 และ 2,877 ดอลลาร์

    ขณะที่ MTS Gold

    มองในเชิงเทคนิคว่า ราคาทองคํากลับมาเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้นต่อ หลังจากที่มีการปรับฐานเพียงเล็กน้อยเมื่อ 4 วันก่อน และสิ้นสุดการปรับฐานแถวบริเวณ 2,832 ดอลลาร์ ทําให้ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคําดูค่อนข้างแข็งแกร่งขึ้น โดย Indicators ต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่สมดุลมากขึ้นทั้ง MACD และ RSI

    อย่างไรก็ดีวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดยมีแนวรับที่ระดับ 2,910 ดอลลาร์ และแนวต้านหลักที่ระดับ 2,945 ดอลลาร์

    ส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 46,100 บาท และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 46,700 บาท โดยราคาทองไทยยังคงถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทําให้ราคาทองไทยปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก

    ปิดท้ายที่ GCAP Gold

    แนะ รอซื้อ 2,902 ดอลลาร์ มีแนวรับที่ 2,902/2,896 และ 2,890 ดอลลาร์ stoploss ที่ 2,885 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,932/2,937 และ 2,942 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 มี.ค.68 GoldAround

    สงครามการค้าโลกระอุ สหรัฐลุยเก็บภาษีคู่ค้าแต่ถูกโต้ทันควัน ดัน gold spot พุ่งแตะ $2,927

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันลดลง 200 บาท

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท

    ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.76 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า

    แนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับแรกที่ 46,200 และ 45,900 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,900 บาท มีเป้าทำกำไรที่ 46,700 และ 47,000 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 4 มี.ค.)ราคาทองปรับขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,927 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดที่ 2,916 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์

    โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ประกอบกับมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade War ระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าหลังจากสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน

    ขณะเดียวกันมีการตอบโต้กลับจากแคนาดาที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 25% มีผลทันที จีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 15% ครอบคลุมสินค้าเกษตรเป็นหลัก มีผลวันที่ 10 มี.ค. นอกจากนี้สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับทุกประเทศเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.

    วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น ปธน.ทรัมป์ จะแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ซึ่งอาจมีการกล่าวถึงมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นภาษีที่ยังมีโอกาสถูกเลื่อนออกไปหากมีเงื่อนไขบางประการ

    ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการประกาศ PMI ภาคการบริการ เดือนก.พ. และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.พ. จาก ADP คาดลงลงแตะ 141,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 183,000 ราย

    มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

    วานนี้ราคาทองคำมีทั้งจังหวะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 2,926 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงมา 2,899 ดอลลาร์ ถือว่าทิ้งตัวเกือบ 30 ดอลลาร์ แสดงถึงราคามีทั้งจังหวะดีดตัว และจังหวะทิ้งตัวในเวลาเดียวกัน แต่แรงซื้อก็ยังคงมีอยู่มากเลยทีเดียว

    หลังจากนี้จะเป็นการสู้กันระหว่างแรงขายกับแรงซื้อ ซึ่งถือเป็นรอยต่อสำคัญสำหรับการเปลี่ยนเทรนด์ รายเดือนให้ขึ้นอย่างรุนแรง กับการเปลี่ยนเทรนด์รายเดือนให้กลับมาพักตัวระยะสั้นถึงกลาง แล้วค่อยกลับตัวขึ้นมาใหม่เพื่อลดทอน Indicators

    ดังนั้นการเคลื่อนไหวทุก ๆ วันในสัปดาห์นี้มีโอกาสพลิกผันเปลี่ยนเทรนด์ได้เสมอจึงควรพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญ และเสริมด้วยปัจจัยข่าวนอกตามตารางอีกที

    กลยุทธ์การลงทุน พิจารณาแนวต้าน 2,921 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านแนวดังกล่าวสามารถเปิด Short ได้ไม้แรก แต่หากผ่านให้ขยับแนว Short เป็น 2,931-35 ดอลลาร์ จะปลอดภัยกว่า มีจุด SLที่ 2,938ดอลลาร์ ส่วนเป้าหมายอยู่ที่ 2,910/2,903 และ2,892 ดอลลาร์

    YLG Bullion มองว่า

    วานนี้ราคาปรับตัวผ่าน 2,913 ดอลลาร์ ทำให้มุมมองเชิงลบในระยะกลางลดลง แนวรับแรกอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ หากยืนได้ยังขึ้นต่อ หากหลุด 2,900 ดอลลาร์มองว่าราคาจะพักตัว แต่หากราคาเริ่ม Higher Low เหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 2,832 ดอลลาร์จะเริ่มกลับมามีมุมมองเชิงบวกในระยะกลางอีกครั้ง

    กลยุทธ์การลงทุนรอเปิดสถานะซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,884-2,870 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,870 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,931 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,931 ดอลลาร์ให้ชะลอการซื้อคืนไปที่ 2,945-2,955 ดอลลาร์

    ขณะที่ SCT Gold มองว่า

    ราคาทองคำพุ่งทะลุแนวต้าน 2,900 ดอลลาร์ หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ากับทุกประเทศตามแผนเดิมสร้างแรงกดดันต่อตลาดการค้าโลก ส่งผลให้ทองคำทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,900 – 2,910 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ

    ภาพรวมราคาทองคำยังดูเป็นขาขึ้น แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า 2,880 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายและพักฐานต่อ อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ตลาดยังต้องจับตาตัวแปรสำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

    กลยุทธ์การลงทุน ย่อซื้อ–ขึ้นขายเป็นหลัก แนะนำให้เล่นสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูงปรับพอร์ตให้สมดุลเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด Gold Spot โดยให้แนวรับที่ 2,875 และ 2,850 ดอลลาร์ แนวต้านที่ 2,930 และ 2,950 ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,887 และ 2,862 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,924 และ 2,937 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 4 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 4 มี.ค.68 GoldAround

    gold spot รีบาวด์กลับแรง จ่อแตะ $2,900 วันนี้จับตาผลกระทบสหรัฐลุยเก็บภาษีเพิ่ม จาก “เม็กซิโก-แคนนาดาและจีน”

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 4 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศยังคงได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า แนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับแรกที่ 45,650 และ 45,400 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,400 บาท มีเป้าทำกำไรที่ 46,450 และ 46,650 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 3 มี.ค.) กลับมาปิดบวกแรง 34 ดอลลาร์ โดยราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,895 ดอลลาร์

    โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ ดิ่งลงกว่า 1% ประกอบกับมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย จากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐ หลัง ปธน.ทรัมป์ยืนยัน จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% โดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค.ตามกำหนด พร้อมระบุว่าทั้ง 2 ประเทศไม่มีช่องทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีได้อีก

    นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

    ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลง สู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ FedWatch Tool ของ CME Group คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเริ่มในเดือนมิ.ย

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

    ราคายังคงอยู่ในชุดดีดแต่ต้องระวังว่าเป็นการดีดเพื่อลง โดยมีเป้าดีดที่ 2,895-2,913 ดอลลาร์ ตามลำดับ ระหว่างวันอาจเกิดการย่อตัวแนวรับวันนี้จะอยู่บริเวณ 2,871-2,859 ดอลลาร์ แต่หากการย่อตัวหลุด 2,832 ดอลลาร์ แสดงว่าชุดดีดจบแล้วและราคาจะลงต่อ

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เปิดสถานะขายทองคำหากราคาดีดตัวไม่ผ่าน 2,895-2,913 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาทะลุ 2,913ดอลลาร์ ซื้อคืนหากราคาย่อไม่หลุด 2,871-2,859 ดอลลาร์ หลุด 2,859 ดอลลาร์ ชะลอการซื้อคืนไปที่รับถัดไป

    ขณะที่ Ausiris มองว่า

    ราคาทองคำสามารถรีบาวน์กลับขึ้นมาค่อนข้างรุนแรง หลัง RSI อินดิเคเตอร์เร่งตัวเข้าเขตขายมาก หนุนแรงซื้อกลับมาหนุนตลาด หากสามารถกลับไปยืนเหนือ 2,909 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายทำหน้าที่เป็นแนวต้านได้ในกราฟราย 4 ชั่วโมง โมเมนตั้มขาขึ้นจะมีน้ำหนักมากขึ้น

    ในตรงกันข้ามหากยังเบรกโซนนี้ไม่ผ่านจะแสดงถึงการพักตัวที่ไม่จบและยังมีโอกาสทดสอบโซน 2,850ดอลลาร์ได้ โดยให้แนวรับ 2,875/2,850 และ 2,830 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 2,895/2,909 และ 2,925 ดอลลาร์

    ด้าน ARR Goldtrading มองว่า

    ราคาทองคำดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจนมาถึงแนวต้านสำคัญบริเวณ 2,890 ดอลลาร์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ก่อนช่วงเย็นจะมีโอกาสปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้ง

    นักลงทุนพิจารณารอซื้อเมื่ออ่อนตัว หรือเข้าซื้อบางส่วนแนวรับ 2,880 / 2,870 และ 2,860 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,860 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อ หรือที่แนวต้าน 2,900 / 2,910 และ 2,920ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,862 และ 2,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,899 และ 2,912 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 3 มี.ค.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 3 มี.ค.68 GoldAround

    gold spot เปิดสัปดาห์ดีดตัวแรง หลังการเจรจา “ทรัมป์-เซเลนกี้” คว่ำไม่เป็นท่า สัปดาห์นี้จับตากำแพงภาษี-ตัวเลขจ้างงาน

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 3 มี.ค.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 50 บาท

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,350 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,510.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.21บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำในประเทศ ยังคงได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่กลับขึ้นมาอ่อนค่า โดยแนะนำรอซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับที่ 45,650 และ 45,400 บาท ตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,400 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 46,400 บาท และ 46,650 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าผันผวนแรง โดยต้นสัปดาห์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาล AllTimeHigh ( ATH ) ที่ 2,956 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวแรง

    โดยในวันศุกร์ลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 2,832 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,856 ดอลลาร์ หลังจากการเจรจาระหว่างปธน. ทรัมป์ กับ ปธน.เซเลนสกีของยูเครนล้มเหลว ทำให้ความพยายามในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนยากลำบากขึ้น จนกลับมากระตุ้นแรงซื้อคืนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    อย่างไรก็ดีเช้านี้ตลาดมีแนวโน้มผันผวน ท่ามกลางการจับตานโยบายภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่า จะดำเนินการตามแผนในวันที่ 4 มีนาคม

    ขณะที่ผู้นำยุโรปเตรียมเสนอยุทธศาสตร์สันติภาพยูเครน-รัสเซียต่อสหรัฐฯ หลังการเจรจาที่ทำเนียบขาวล้มเหลว นอกจากนั้นต้องจับตาการประกาศตั้งกองทุนสำรองคริปโตฯ ของ ปธน.ทรัมป์ทำให้ราคา บิทคอยน์พุ่งแรง

    ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญนสัปดาห์นี้ ยังต้องจับหลายเรื่อง โดยวันนี้ ( 3 มีนาคม) จะมีตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือน ก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) คาดจะออกมาเท่าเดิมที่ 51.6

    ส่วนวันพุธที่ 5 มีนาคม จะมีตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.พ.จาก ADP ,ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จาก S&P Global และ ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM)

    ขณะที่วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม มีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ,ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม มีตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.

    มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold  มองว่า

    เช้านี้ราคาทองคำเปิด Gap กระโดดขึ้นจาก 2,858 ไป 2,873 ดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากการเมื่อวันศุกร์ที่ผู้นำสหรัฐ และยูเครนมีการปะทะคารมณ์กัน การเจรจาล้มเหลวไม่เป็นท่าทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดูตึงเครียดมากขึ้น และทำให้ดูเหมือนความสัมพันธ์สหรัฐ และยุโรปหลังจากนี้อาจแย่ลงไปอีกหากยุโรปยื่นมือเข้าช่วยยูเครน

    หากพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคยังเป็นลักษณะการรีบาวน์เพื่อกดตัวลงอยู่ตามการปิดของแท่งเทียนที่เสียเว้นแต่จะมีปัจจัยทำให้ราคาสามารถ Break ทะลุ 2,930 ดอลลาร์ขึ้นไปได้อีกครั้ง ดังนั้นหาจังหวะการรีบาวน์เด้ง Sell บริเวณแนวต้าน ปิดทำกำไรระยะสั้น เพราะข่าวความตึงเครียดที่เป็นผลจากการเจรจาดังนั้น ยังคงเป็นแรงหนุนเชิงบวกเล็ก ๆ ให้เกิดการรีบาวน์สลับเป็นระยะได้

    กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคารีบาวน์ Open Short กินกำไรคำสั้น ๆ แนวต้านกลายเป็นแนวรับ หรือแนวปิดแต่ละช่วง โดยให้แนวต้านที่ 2,878/2,895 และ 2,920 ดอลลาร์ แนวรับที่ 2,846/2,822 และ 2,804 ดอลลาร์ มีจุด Stop Loss ที่ 2,932 ดอลลาร์

    ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

    ระยะสั้นราคาทองคำ gold spot เข้าสู่ชุดดีดอีกครั้งหลัง TimeFame ย่อยเกิด Bullish Divergence และ Oversold วันนี้หากราคายืน 2,838-2,832 ดอลลาร์ได้ มองว่ายังขึ้นได้แต่ยังต้องระวังว่าเป็นการดีดเพื่อลงต่อ

    โดยมีเป้าดีดที่ 2,885-2,881 และ 2,895-2,910 ดอลลาร์ แต่หากราคาร่วงหลุด 2,832 ดอลลาร์ แสดงว่าชุดดีดจบแล้ว

    สำหรับกลยุทธ์เปิดสถานะขายทองคำหากราคาดีดตัวไม่ผ่าน 2,885-2,910 ดอลลาร์ให้ซื้อคืนหากราคาย่อไม่หลุด 2,850-2,832 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาทะลุ 2,910 ดอลลาร์

    ด้าน T.D.C. Gold มองว่า

    ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่รีบาวน์เล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจาก ประกาศตัวเลข Core PCE ที่ถึงแม้จะออกมาขยายตัวกว่าคาด แต่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นชะลอตัวทั้งหมด

    ขณะที่การเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์และปธน. ของยูเครนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และมีแนวโน้มในเชิงลบ ถึงแม้คาดว่าผลกระทบจะเป็นไปอย่างจำกัด แต่ความเสี่ยงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก

    ปิดท้ายที่ บจ.ออสสิริส มองว่า

    เมื่อวันศุกร์ที่(28ก.พ.)ราคาทองคำ gold spot ทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ที่ 2,832 ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นมาปิดที่ 2,858 ดอลลาร์ หลังสกุลดอลลาร์แข็งค่าทุบตลาด

    อีกทั้งตลาดยังเผชิญแรงกกดดันจากการที่ อังกฤษ ฝรั่งเศสและยูเครน ตกลงที่จะเดินหน้าร่วมกันทำแผนหยุดยิงเพื่อนำเสนอให้กับสหรัฐฯ ก่อนที่จะเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปเพื่อหารือหนทางยุติสงครามในยูเครนที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซีย

    อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีแรงหนุนเชิงบวกอยู่บ้างจากความกังวลเกี่ยวกับแผนการเก็บภาษีสินค้าจากเม็กซิโก-แคนาดา-จีนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 4 มี.ค.

    ทั้งนี้ให้แนวรับราคาทองคำโลก gold spot ที่ 2,850/2,830 และ 2,815 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,877/2,885 และ 2,909 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 28 ก.พ.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 28 ก.พ.68 GoldAround

    gold spot ร่วง 40 ดอลลาร์ แตะ $2,870 แต่ทองไทยลงน้อยเงินบาทอ่อนทะลุ 34 บาท วันนี้จับตาผู้นำ ยูเครน เจรจา ปธน.ทรัมป์

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ (28 ก.พ.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันลดลง 50 บาท

    ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่ม 50 บาท 2 ครั้ง ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 46,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,300 บาท

    ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 46,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,464.84 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.10 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำแท่งเริ่มเคลื่อนตัวมาซื้อขายบริเวณกรอบล่าง และมีแนวโน้มย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 46,000 และ 45,750 บาท ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 45,750 บาท

    โดยมีเป้าทำกำไรที่ระดับ 46,700 และ 46,900 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (27 ก.พ.) พักตัวแรงลดลงไป 40 ดอลลาร์ ลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,867 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,876 ดอลลาร์

    ทั้งนี้ราคาทองคำถูกกดดันจาก ความคาดหวังว่าการเจรจาระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์กับผู้นำยูเครน เกี่ยวกับแร่ธาตุสำคัญในวันนี้ (28 ก.พ.) จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพื่อเร่งผลักดันการเจรจาหยุดยิงระหว่างยูเครนกับรัสเซีย แต่สุดท้ายต้องมาติดตามว่าผลการเจรจาจะออกมาอย่างไร

    ส่วนความคืบหน้าเรื่องนโยบายภาษี ทาง ปธน. ทรัมป์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามกำหนดเดิม และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% โดยทั้ง 2 มาตรการจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและภาคการผลิตของสหรัฐฯ แต่ราคาทองโลกยังคงไม่ได้ตอบรับเชิงบวกต่อปัจจัยนี้มากนัก

    ส่วนคืนนี้สหรัฐฯ จะมีการเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค.คาดจะเพิ่มขึ้นแตะ 0.3% จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.2% หากออกมาตามคาดจะกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

    อลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งหลัง ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่าภาษีสำหรับแคนาดาและเม็กซิโก ที่ระดับ 25% กำลังมีผลในสัปดาห์หน้า และจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมกับจีนอีก 10%

    ขณะที่วันนี้ตลาดติดตามการเข้าพบกันระหว่าง ปธน.ยูเครน และ ปธน. ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวที่คาดว่าจะเริ่มในคืนนี้เวลา 11 โมงตามเวลาทองถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการลงนามระหว่างกัน โอกาสการพลิกผันในข้อตกลงยังคงมีได้ ควรติดตามอย่างใกล้ชิด

    กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคา Rebound ให้ Open Short เลือกระหว่าง 2,884 กับ 2,892-95 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ยอีกจุดบริเวณ 2,913 ดอลลาร์ หากมีปัจจัยหนุนเชิงบวกเสริม มีจุด SLที่ 2,919 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,884 /2,892-95 และ 2,913 ดอลลาร์

    ด้าน Ausiris ระบุว่า

    ราคาทองคำ gold spot เคลื่อนไหวหลุดเส้นค่าเฉลี่ย,100 วัน ที่ระดับ 2,908 ดอลลาร์ เปิดโอกาสให้กราฟมีแนวโน้มกลับไปทดสอบแนวรับถัดไปแถว 2,885-2,865 ดอลลาร์ และอาจรีบาวน์ขึ้นบ้างหลัง RSI อินดิเคเตอร์เร่งตัวเข้าเขตขายมาก

    โดยให้แนวรับราคาทองคำ gold Spot ที่ 2,877 /2,865 และ 2,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,885 /2,908 และ 2,920 ดอลลาร์

    ด้าน InterGOLD มองว่า

    ราคาทองคำ Spot ยังคงปรับลงต่อเนื่องล่าสุดหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 2,880 ดอลลาร์ลงมาแล้ว ในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับฐานได้อีกเนื่องจากการขึ้นมารอบนี้ยังไม่มีการปรับฐานใหญ่ ๆ เลย

    มองแนวรับถัดไปอยู่บริเวณ 2,840 และ 2,800 ดอลลาร์ แต่ทั้งนี้มองว่าไม่น่าหลุดแนว 2,800 ดอลลาร์ แนะนำรออีกระยะแล้วเข้าซื้อจะเป็นจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบมาก โดยให้แนวรับที่ 2,840 ดอลลาร์ หรือ 46,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,880 ดอลลาร์ หรือ 46,400 บาท

    ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading

    ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นอย่างมากเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ หลังการประกาศใช้มาตรการทางภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แต่ผลกระทบด้านเงินเฟ้อที่อาจจะตามมาจึงทำให้ราคาทองคำลงได้อย่างจำกัด

    นักลงทุนอาจพิจารณาแบ่งเงินทยอยเข้าซื้อสะสมตามแนวรับสำคัญเมื่อราคาย่อลงมา โดยให้แนวรับที่ 2,870 /2,860 และ 2,850ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,890 / 2,895 และ 2,900 ดอลลาร์

    ด้านทองคำแท่งในประเทศไทยได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า พิจารณาเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 46,300 – 46,200 บาท

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 27 ก.พ.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 27 ก.พ.68 GoldAround

    gold spot ชะลอตัวรอ 2 ข่าวสำคัญ ปธน.ยูเครน เตรียมเจรจา ปธน.ทรัมป์ สหรัฐลุยเก็บภาษีตามที่ประกาศก่อนหน้า

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ (27 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 50 บาท

    ก่อนอีก 20 นาที ปรับขึ้นอรก 50 บาท ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 46,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,550 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,707.40 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.81 บาทต่อดอลลาร์

    โดย SCT Gold มองว่า

    การปรับตัวลงของราคาทองคำไทยเป็นผลจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ราคาทองคำ gold spot ไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,940 ดอลลาร์ได้

    โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ 46,200-46,000 บาท หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ อาจเห็นการฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 46,900-47,100 บาท อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว อาจมีแรงขายกดดันให้ลงไปสู่แนวรับถัดไปที่ 45,800 บาท

    ปัจจัยพื้นฐาน ตัวเลขที่ต้องติดตามคือ ตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี 67 ของสหรัฐฯ ครั้งที่ 2 คาดว่าจะคงที่ที่ระดับ 2.3% และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 222,000 ราย จากเดิมอยู่ที่ 219,000 ราย

    หากตัวเลข GDP ออกมาต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนราคาทองคำจากมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่หากออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า และกดดันราคาทองคำไทย

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (26 ก.พ.) กลับมาปิดบวกได้ที่ ระดับ 2,916 ดอลลาร์ แม้ว่าจะบวกแค่ 2 ดอลลาร์ และราคาจะทำสูงสุดใหม่ไม่ได้ แต่ได้ทำจุดต่ำสุดสูงขึ้น ทำให้ยังได้ลุ้นว่าราคาอาจจะไปต่อได้

    ทั้งนี้ทองคำยังมีแรงขายทำกำไรหลังดีดไม่ผ่านต้าน 2,930 ดอลลาร์ ประกอบกับปธน.ทรัมป์ ยืนยันยันปธน.เซเลนสกีของยูเครนจะลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากในวันศุกร์นี้ เพื่อปูทางให้ปธน.ทรัมป์เดินหน้าการเจรจายุติสงครามของรัสเซีย-ยูเครน

    จึงเป็นปัจจัยกดดันทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ก่อนราคาทองจะฟื้นตัว หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงเกินคาดสู่ระดับ 657,000 ยูนิตในเดือนม.ค. กดดันดอลลาร์พยุงให้ราคาทองฟื้นตัวกลับมา

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

    การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังยืนยันว่าจะจัดเก็บภาษีรถยนต์ยุโรปในอัตรา 25% อยู่ และภาษีของเม็กซิโกและแคนาดายังคงเป็นวันที่ 4 มีนาคมเช่นเดิม

    ขณะที่ตลาดยังคงติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ อีกครั้งที่ตุรกีนวันนี้ กับการลงนามในข้อตกลงร่วมในกองทุนพัฒนาทรัพยากรระหว่างยูเครนกับสหรัฐฯ ที่หลายฝ่ายคาดว่าชเลนกี้อาจเดนทางไปคุยกับสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

    ซึ่ง 2 ประเด็นหลังหากเกิดขึ้นจริง และเป็นไปอย่างราบรื่นจะถือเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ แต่หากมีความไม่ลงตัวหรือไม่เป็นไปอย่างที่สหรัฐต้องการจะถือเป็นแรงกระเพื่อมเชิงบวกได้อีก ดังนั้นควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคาย่อตัวให้ Open Long พิจารณาการเลี้ยงตัวของแท่งเทียน เลือกระหว่าง 2,915 กับ 2,905 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ย 2,890-86 ดอลลาร์ เคร่งครัด Stop Loss ที่ 2,870 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,924 /2,933 และ 2,946 ดอลลาร์

    ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

    วานนี้ราคาทองคำ gold spot ชนแนวต้าน 2,930ดอลลาร์ แต่การปรับตัวลงไม่หลุดรับสำคัญที่ 2,888 ดอลลาร์ทำให้ราคาดีดอีกครั้ง วันนี้ถ้าดีดไม่ผ่าน 2,930 ดอลลาร์ ยังต้องระวังหลังเกิดสัญญาณ Hidden Bear. Div. ส่วนภาพกราฟราย 4 ชม.มีแนวรับสำคัญ 2,877 ดอลลาร์ หากไม่หลุดลงไปยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้

    สำหรับกลยุทธ์ แบ่งขายทองคำที่ซื้อไว้หากราคาไม่ผ่าน 2,920-2,930 ดอลลาร์ หากยืน 2,930 ดอลลาร์ได้ให้ชะลอไปขายที่แนวต้าน 2,944-2,955 ดอลลาร์ และรอเข้าซื้ออีกครั้งหากราคาย่อไม่หลุด 2,888 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากราคาหลุด 2,877 ดอลลาร์

    ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ประเมินว่าราคาทองคำ gold spot ยังมีโอกาสย่อตัวลงอีกครั้ง ด้วยราคาที่ซื้อขายกันอยู่บริเวณแนวต้าน จึงยังคงแนะนำแบ่งขายทำกำไรก่อน และหากราคาลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2,895 และ 2,875 ดอลลาร์ อาจเริ่มทยอยเข้าซื้ออีกครั้ง ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,920 และ 2,940 ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,887 และ 2,875 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,937 และ 2,949 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 26 ก.พ.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 26 ก.พ.68 GoldAround

    gold spot พักตัวแต่ยืนเหนือ $2,900 ได้ ทางเทคนิคยังดูดีและพร้อมดีดกลับ นลท.ยังกังวลนโยบาย ปธน.ทรัมป์

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ (26 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 100 บาท

    ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,650 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,813.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.82 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำปรับลดลงไม่มาก เพราะเงินบาทอ่อนค่าแม้วานนี้ราคาทองคำ gold spot จะปรับลงแรงก็ตาม

    โดย Shining Gold  มองว่า

    ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าขึ้น ขณะที่ Gold Spot เข้าสู่โหมดพักตัว ทำให้ราคาทองคำไทยเป็นลักษณะสวิงหาแนวรับภายในกรอบ 46,000-47,200 บาทเช่นเดิม จนกว่าจะ Break ทะลุฝั่งใดฝั่งหนึ่งขึ้น หรือลงไปได้

    นักลงทุนระยะสั้นรอจังหวะการย่อตัวเข้าซื้อเพื่อเล่นรอบ โดยมีฐานสำคัญที่ 45,900 บาทไม่ควรหลุด หากหลุดแนวดังกล่าวควรพิจารณาลดสถานะเพื่อความปลอดภัย โดยให้แนวต้าน 46,680 /46,870 และ 47,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 46,520 /46,300 และ 46,000-45,900 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ goldspot วานนี้ (25 ก.พ.) พักตัวแรง 38 ดอลลาร์ ลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,888 ดอลลาร์ แต่ยังดีที่มีแรงซื้อช่วงท้ายตลาดทำให้ราคากลับมาปิดที่ 2,914 ดอลลาร์ ขณะที่เช้าวันนี้ราคาได้รีบาวด์ขึ้นมาทดสอบที่ 2,930 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มขาขึ้นยังคงดูดี

    เมื่อวานนี้นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยราคาทองคำได้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รวม 11 ครั้ง นับตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์

    ล่าสุดเจ้าตัวยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันเป็นเวลา 30 วันแล้ว แม้แคนาดาและเม็กซิโกจะเพิ่มการคุมเข้มตามแนวชายแดน และสกัดการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐ ก่อนเส้นตายในวันที่ 4 มี.ค.

    อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องจับตาการประชุม G20 ที่จะเริ่มขึ้นวันแรก ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาในตลาดโลกยังคงผันผวนต่อเนื่อง

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า

    ราคาลงแรงหลังหลุดฐานบริเวณ 2,917 ดอลลาร์ ทำให้ภาพระยะสั้นราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ส่วนภาพราย 4 ชั่วโมง ตราบใดที่ยังไม่หลุด 2,877 ดอลลาร์

    ทองคำจะยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้ แต่ต้องดีดผ่านต้านสำคัญบริเวณ 2,955 ดอลลาร์ ถึงจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อ

    กลยุทธ์วันนี้เข้าซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,900-2,888 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาไม่ผ่าน 2,930 ดอลลาร์ แต่หาก ยืน 2,930 ดอลลาร์ได้ ชะลอไปขายที่ 2,944-2,955 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,877 ดอลลาร์

    ขณะที่ SCT Gold ระบุว่า

    เมื่อวานทองคำ gold spot โดนเทขายทำกำไรลงมาหลังราคายืน 2,950 ดอลลาร์ ไม่ได้ แต่มีแรงซื้อกลับในช่วงดึกทำให้ราคาเช้านี้อยู่จุดตรงกลาง เว้นแต่ราคาทองคำปิดต่ำกว่า 2,900 ดอลลาร์ จะทำให้ภาพรวมราคาทองคำจึงเปลี่ยนไป วันนี้จึงสำคัญต่อทิศทางทองคำระยะสั้นถ้าทองคำเลือกจะแกว่งออกข้างเพื่อรอเลือกทางอีกที

    วันนี้จับตาการประชุม กนง.ของไทยว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% ตามที่คาดการณ์หรือไม่ ส่วนประเด็นข่าวสหรัฐฯ เรื่องภาษี ยูเครน การนับทองยังอยู่ในกระบวนการต่อไป

    กลยุทธ์การลงทุน หากราคาทองคำไม่หลุด 2,900 ดอลลาร์ ยังแนะนำทางซื้อในช่วงที่ราคาย่อตัวเพื่อเล่นสั้น และวางจุดหนีอย่างเคร่งครัด กรณีทีราคาทองคำหลุด 2,890 ดอลลาร์ จะเป็นภาพพักฐานระยะกลางทันที

    ด้าน Ausiris  มองว่า

    ราคาทองคำเคลื่อนไหวหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ที่ระดับ 2,925 ดอลลาร์ เปิดโอกาสให้กราฟมีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปแตะเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน แถว 2,885 ดอลลาร์ ที่เป็นแนวรับสำคัญ แต่สุดท้ายทองคำก็รีบาวน์กลับขึ้นมาได้

    วันมี้มีแนวต้านที่ 2,925 ดอลลาร์ หากยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,935-2,945 ดอลลาร์ เพราะถือว่ากลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ได้อีกครั้ง บ่งบอกว่าขาซื้อจะกลับมาได้เปรียบตลาดอีกครั้ง ในตรงกันข้ามหากยืนเหนือโซนดังกล่าวไม่ได้จะทำให้โมเมนตั้มขาลงมีน้ำหนักมากขึ้น

    ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading ระบุว่า

    เกิดแรงเทขายลงมาทดสอบแนวรับสำคัญแล้วเกิดการดีดตัวทันที เป็นอีกสัญญาณของการแกว่งตัวไปทางด้านข้างในกรอบใหญ่ ซึ่งสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้

    นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ 2,910/2,900 และ 2,890 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,890 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อหรือทดสอบแนวต้าน 2,930/2,940 และ 2,950 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 ก.พ.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 ก.พ.68 GoldAround

    ทองคำพลิกกลับมาทำ ATH ที่ $2,956 หลัง ปธน.ทรัมป์ ขยายพื้นที่กำแพงภาษีเพิ่ม พร้อมจับตาผู้นำยุโรปเจรจาปัญหายูเครน-รัสเซีย

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ (25 ก.พ.) เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 100 บาท

    ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 46,800 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,700 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,300 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,859 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.52 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำแท่ง ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมที่ระดับ 46,300-47,000 บาท โดยประเมินว่าราคาอาจมีโอกาสลงไปปิด Gap ที่โดดขึ้นมาจากระดับ 45,600 บาท จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อ หากเริ่มมีแรงซื้อเข้าหนุนจากแนวรับ จึงทยอยเข้าซื้อตาม โดยให้แนวรับที่ 46,300 และ 46,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,800 และ 47,200 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ทำ New All Time High ใหม่ที่ 2,956 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 2,952 ดอลลาร์ โดยรวมปิดบวก 15 ดอลลาร์

    โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากเงินยูโรแข็งค่า หลังพรรคอนุรักษ์นิยมในเยอรมนีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งของช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันทางการเมืองในเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป

    นอกจากนั้นตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจาก ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าอาจจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากป่าไม้

    นอกเหนือจากแผนเดิมที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์และยา ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อและสงครามการค้า

    ส่วนความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้น เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดทำเนียบขาวต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เพื่อหารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการยุติสงครามในยูเครน

    ขณะที่วันนี้เป็นวันครบรอบปีที่ 3 ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครน นอกจากนั้นมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีกำหนดเดินทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อเข้าพบปธน.ทรัมป์ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

    ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้ (25 กุมภาพันธ์) จะมีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.จาก Conference Board ลดลงมาอยู่ที่ 102.7 จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 104.1 หากออกมาตามคาดจะส่งดีต่อราคาทองคำ

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย YLG Bullion แนะนำว่า

    วันนี้ยังดูฐานบริเวณ 2,921-2,917 ดอลลาร์เช่นเดิม หากไม่หลุดราคาจะรักษาโมเมนตั้มได้ โดยมีต้านสำคัญ 2,955-2,965 ดอลลาร์ แต่หากราคาทำ New High แต่เกิด Bearish Divergence ร่วมด้วยต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะสลับออกมา

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเสี่ยงซื้อหากราคาไม่หลุด 2,931-2,917 ดอลลาร์ แบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่าน 2,955-2,965 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากราคาหลุด 2,907 ดอลลาร์

    ขณะที่ SCT Gold มองว่า

    ราคาทองคำพยายามทำไฮใหม่ แต่ยังมีแรงขายทำกำไรสลับไปมา โดยรวมราคาทองคำปิดบวกเว้นเสียว่ายืนเหนือ 2,910 ดอลลาร์ไม่ได้ถือเป็นภาพลบ โดยราคาทองคำยังขับเคลื่อนจากกระแสข่าวการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซีย ที่ล่าสุดทางนาโต้ไม่ยอมให้สหรัฐฯ จูบปากรัสเซีย ยังส่งเงินเพื่อหนุนการรบต่อ ส่วนเรื่องนับทองคำที่อยู่สต็อคของสหรัฐฯยังต้องรอผลต่อไป

    กลยุทธ์การลงทุน รอราคาย่อตัวไม่หลุด 2,915 ดอลลาร์แนะซื้อเล่นสั้น มีจุด STOP loss ที่ 2,900 ดอลลาร์ หากว่าราคายืน 2,955 ดอลลาร์ได้ให้ซื้อตาม เน้นเทรดสั้น และให้ระวังความผันผวนแรงในเร็ว ๆ นี้

    ด้าน Ausiris มองว่า

    ราคาทองคำ gold spot ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น จากการที่ราคาทำ Higher Highs และ Higher Lows ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และยังรักษาการเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย ยังสะท้อนขาขึ้นหรือขาซื้อยังได้เปรียบตลาด

    โดยมีแนวรับสำคัญที่ 2,915 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 2,935 ดอลลาร์ หากยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,945-2,955 ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

    ให้แนวรับรายวันที่ 2,912 และ 2,900 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,962 และ 2,974 ดอลลาร์

    รับชมคลิป

  • สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 21 ก.พ.68 GoldAround

    สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 21 ก.พ.68 GoldAround

    ทองไทยเปิดตลาดร่วงแรง 400 บาท เช่นเดียวกับ Goldspot ถูกเทร่วง หลังทำ ATH ที่ $2,954 แต่พร้อมดีดกลับ

    ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

    ราคาทองคำไทยวันนี้ (21 ก.พ.) เช้านี้สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกของวันลดลงแรง 400 บาท

    ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มขึ้น150 บาท ทำให้ราคาราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.20 น. อยู่ที่ 46,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,650 บาท

    ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 45,813.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.59 บาทต่อดอลลาร์

    โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

    ราคาทองคำแท่งเริ่มปรับตัวลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงแตะ 47,000 บาท ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวลงเล็กน้อย จากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่ง

    จึงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ สำหรับการลงทุนรอบใหม่ ควรรอให้ราคาทองคำแท่งย่อตัวลงก่อนเข้าซื้อ โดยให้แนวรับที่ 46,400 และ 46,300 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 46,850 และ 47,000 บาท

    ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (20 ก.พ.) ได้ขึ้นทำ All-time high(ATH) อีกรอบที่ระดับ 2,954 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 2,939 ดอลลาร์ โดยรวมเพิ่มขึ้นมา 5 ดอลลาร์

    ขณะที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้เหวี่ยงตัวร่วม 15 ดอลลาร์ โดยลงไปแตะ 2,925 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาเคลื่อนไหวแถว 2,940 ดอลลาร์ ต้องมาติกตามกันว่าจะมีการทำ ATH อีกครั้งหรือไม่

    ทั้งนี้ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจาก จากกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์ แต่วานนี้มีแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค ฉุดให้ราคาทองคำร่วงลงแตะ 2,924 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมา หลังสหรัฐเผยตัวเลขเศรษฐกิจแย่กว่าคาดกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่า

    ส่วนความคืบหน้าการการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซีย ส่อแววไม่แน่นอน หลังผู้นำยูเครนยกเลิกแถลงข่าวร่วมกับทูตพิเศษของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม

    ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.3 และ 53.0 ตามลำดับ หากออกมาตามคาดจะส่งผลลบกับราคาทองคำ

    มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold  มองว่า

    ราคาทองคำยังสวิงในกรอบของ Bullish Diamond Pattern ที่ขยายกรอบใหญ่ขึ้นออกฝั่งด้านข้าง สังเกตจากวานนี้ราคาดีดตัวขึ้นทดสอบ 2,955 ดอลลาร์ ก่อนมีการทิ้งตัวลงมาแตะ 2,924 ดอลลาร์

    บริเวณดังกล่าวยังสันนิษฐานว่าเป็นขอบทรงป้านของกรอบรูปเพชรที่อาจมีการผิดรูปอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีทรงที่ดีที่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ควรระมัดระวังการสวิงล่างของขอบ แต่ตราบใดที่สวิงไม่หลุด 2,921 ดอลลาร์ ที่เป็นตัว Body ปิด ก็จะไม่เสียเทรนด์ และพร้อมดีดตัวขึ้นใหม่ได้ แต่ถ้า Body ปิดหลุดแนวดังกล่าว หรือไส้เทียนหลุด 2,912 ดอลลาร์ ก็ควรระมัดระวังการพักฐานด้วย

    กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคาย่อตัวให้ open long ที่ 2,940-2,936 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ย 2,928 หรือ 2,921 ดอลลาร์ เคร่งครัด SL ที่ 2,912 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,945/2,960 และ 2,973 ดอลลาร์

    ด้าน YLG Bullion ระบุว่า

    ราคาทองคำ gold spot ยังคงรักษากรอบทิศทางขาขึ้นได้ แต่ต้องระวังการปรับฐานเพราะ TimeFame Daily เกิด Bearish Divergence วันนี้หากราคายืน 2,934 ดอลลาร์ ได้จะยังคงดีดก่อน โดยมีแนวต้าน 2,947-2,955 ดอลลาร์ แต่หากหลุด 2,934 ดอลลาร์ เสี่ยงพักตัว โดยมีแนวรับบริเวณ 2,924-2,915 ดอลลาร์

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุนให้แบ่งขายทำกำไรทองคำที่ซื้อไว้ตามคำแนะนำเมื่อคืน หากวันนี้ราคาดีดตัวแต่ไม่ผ่าน 2,943-2,955 ดอลลาร์ เสี่ยงซื้ออีกครั้งหากราคาไม่หลุด 2,924-2,915 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,907 ดอลลาร์

    ขณะที่ Ausiris  แนะกลยุทธการลงทุน

    รอซื้อหากราคาย่อลงมาที่ 2,925-2,935 ดอลลาร์ และมีสัญญาณกลับตัวขึ้น เช่น Bullish Candlestick Pattern เช่น Hammer หรือ RSI กลับจาก Oversold โดยมีเป้าหมายที่ 2,950 ดอลลาร์ มีจุด Stop Loss ที่ 2,900 ดอลลาร์

    ส่วนจุดขายรอดูหากราคาทะลุ 2,950 ดอลลาร์ ไม่ได้และเกิดสัญญาณ Bearish เช่น Shooting Star หรือ RSI Divergence โดยมีเป้าหมายที่ 2,925-2,935 หรือ 2,900 ดอลลาร์ มีจุด Stop Loss ที่ 2,965 ดอลลาร์

    ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

    เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวหลังขึ้นไปสร้างจุดสูงใหม่ จึงมีโอกาสถูกขายทำกำไรต่อเนื่องลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างในวันนี้ แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินรอเข้าซื้อตามแนวรับ ที่ 2,930/2,920 และ 2,910 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,910 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้านที่ 2,950/2,960 และ 2,970 ดอลลาร์

    รับชมคลิป