หมวดหมู่: โบรกเกอร์ทองคำ

  • ชี้ราคาทองคำผ่านระดับ 1,800 ดออลาร์ ได้ไม่ยาก เหตุปัญหาศก.รุมเร้า-ลุ้นทุบสถิติเดิมที่ 1,927 ดอลลาร์ (YLG)

    ชี้ราคาทองคำผ่านระดับ 1,800 ดออลาร์ ได้ไม่ยาก เหตุปัญหาศก.รุมเร้า-ลุ้นทุบสถิติเดิมที่ 1,927 ดอลลาร์ (YLG)

    17 เมษายน 2563

    YLG คาดราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 1,800 ดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หลังปัญหาจาก โควิด-19 ยังไม่จบ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ แนะหากราคาย่อตัวแตะแนวรับซื้อเก็บได้ พร้อมมองเป้าหมายหลัก คือ ทำรายสถิติเดิมที่ ระดับ 1,927 ดอลลาร์

    หลังจากที่เมื่อช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ทำให้นักลงทุนของประเทศไทยบางส่วนได้นำทองออกมาขายทำกำไรกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักของทางฝั่งอเมริกา ได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำในอนาคตอาจจะพุ่งไปแตะที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะผลกระทบจากการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ได้สร้างปัญหาให้กับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง แต่ต้องใช้เวลาอีกนานในการเยียวยา

    การคาดการณ์ตัวเลขดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ เพราะหลายฝ่ายก็ออกมาระบุตรงกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจาก ไวรัส โควิด-19 คงไม่จบง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ อาจจะต้องมองไปถึงปีหน้ากว่าที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

    ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด
    YLG BULLION

    อย่างไรก็ดี อยากให้มองเป้าหมายที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นด่านแรก ซึ่งในระดับราคาดังกล่าว ก็จะไปสู่จุดสูงสุดเดิมของราคาทองไทยที่ประมาณบาทละ 27,100 บาท จากนั้นก็มองเป้าหมายที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะยาก ก่อนที่จะขยับไปที่ระดับ 1,900 ดออลาร์ และพุ่งไปทำลายจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,927 ดอลลาร์

    ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด

    สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ ยังคงมีการแกว่งตัวขึ้น-ลง สลับกัน เมื่อราคาปรับตัวลดลงมาถึงจุดแนวรับ ก็สามารถซื้อเก็บเพื่อลงทุนได้ เพราะมองว่าแนวโน้มราคาทองคำยังคงเพิ่ม ซึ่งจะดูได้จากการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ที่ยังคงกวาดซื้อทองคำเข้า สต๊อกอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายปัจจัยล้วนแต่ส่งผลดีกับราคาทองคำ โดยเฉพาะการประกาศใช้ QE แบบอันลิมิต ของธนาคารกลางสหรัฐ

    YLG BULLION

    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน กล่าวถึงการส่งออกทองคำว่า ยังคงทำได้ในวงจำกัด เพราะสายการบินส่วนใหญ่ยังไม่เปิดให้บริการ โดยเฉพาะเส้นทางที่จะส่งทองไปโรงหลอม ไม่ว่าจะเป็นประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เยอรมัน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะ ซึ่งจะส่งผลต่อการซื้อขายทองคำที่เป็นลักษณะการส่งมอบทองจริง และหากเป็นกลุ่มที่ลงทุนที่เป็นลักษณะของฟิวเจอร์สแล้วยังทำได้อยู่

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • ราคาทองคำถูกเบรค นักลงทุนหันกลับไปซื้อดอลลาร์ หลังพิษโควิด-19 ทำให้มีผู้ว่างงานเพิ่มกว่า 20 ล.คน (YLG)

    ราคาทองคำถูกเบรค นักลงทุนหันกลับไปซื้อดอลลาร์ หลังพิษโควิด-19 ทำให้มีผู้ว่างงานเพิ่มกว่า 20 ล.คน (YLG)

    17 เมษายน 2020

    ราคาทองคำวานนี้ ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง ในระหว่างวันราคาทองคำได้ร่วงลงไปทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,705.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเปิดเผยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.245 ล้านราย เท่ากับว่ามาตรการปิดเมืองของสหรัฐเพื่อยับยั้งการระบาดของ ไวรัส COVID-19 ทำให้ชาวอเมริกันถูกปลดออกจากงานกว่า 20 ล้านรายภายในเวลาเพียงแค่ 4 สัปดาห์เท่านั้น และทำให้การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (Great Recession) หมดไป

    นอกจากนี้ ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกจากเฟดฟิลาเดเฟียก็ดิ่งลงสู่ระดับ -56.6 ใน เดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เดือน ก.ค.1980 ทำให้เกิดความวิตกว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น และต้องใช้ระยะเวลานานมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลสหรัฐเตรียมแผนจะประกาศเปิดเศรษฐกิจในไม่ช้านี้ จึงลดทอนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วน

    อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสภาคองเกรสของสหรัฐจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งทางการเงินและการคลังต่อไปช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นมาปิดตลาดบริเวณ 1,717.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แม้จะเผชิญกับแรงกดดันบางประการก็ตาม

    ส่วนการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ ประเมินแนวรับระยะสั้นอยู่บริเวณ 1,706-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,732-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    โดยกลยุทธ์การลงทุนให้เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,706-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วน หากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,732-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    แม้ว่าวานนี้ราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้ แต่ช่วงเช้าวันนี้ราคาอ่อนตัวลงจะทำระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้าเช่นกัน หากการอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,706-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,732-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • วิเคราะห์ราคาทองคำ (YLG)

    วิเคราะห์ราคาทองคำ (YLG)

    คำแนะนำการลงทุนทองคำวันนี้

    หากระหว่างวันราคาทองคำไม่ทะลุแนวต้าน 1,732-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาอาจแกว่งตัวออกด้านข้างและอาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,706-1,693  ดอลลาร์ต่อออนซ์

    แนวรับ1,7061,6931,674
    แนวต้าน1,7471,7611,787
    แนวรับ – แนวต้าน ราคาทองคำประจำวันที่ 16 เมษายน 2563

    วานนี้ราคาหยุดการสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,732-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ระดับสูงสุดของวานนี้ และระดับสูงสุดของปี 2020 )อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคา แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,706-1,693  ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ บ่งชี้ว่าแรงขายไม่มากและแนวโน้มราคายังคงเป็นทิศทางขาขึ้น

    สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร  หลังจากราคาทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดปีนี้ครั้งใหม่ในวันทำการก่อนหน้า  ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย  เนื่องจากข้อมูลยอดค้าปลีกและภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐออกมาย่ำแย่เกินคาด  แสดงถึงความรุนแรงของกิจกรรมเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงจากการระบาดของ COVID-19  ทั้งนี้  ยอดค้าปลีกสหรัฐดิ่งลงเกินคาดถึง -8.7% ในเดือนมี.ค. ดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 1992 ส่วนดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงเกินคาดเช่นกันแตะระดับ -78.2 ซึ่งต่ำกว่าระดับ -34.3 ที่ทำไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำปรับตัวลดลงในกรอบจำกัด  เพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่เกินคาดนั่นบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังมีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินต่อไป  เพื่อฟื้นฟูความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะยังคงสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกแก่ราคาทองคำ  จึงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้อีก +4.10 ตัน  สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน

    ข่าวสารประกอบการลงุทน

    • (+) “Beige Book” เผยเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวรุนแรงและทันทีจากโควิด-19  รายงาน “Beige Book” ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ฉบับล่าสุดระบุว่า กิจกรรมเศรษฐกิจแสดงการปรับลงอย่างหนักจากมาตรการต่างๆที่ใช้ในช่วงโควิด-19 โดยจนถึงขณะนี้ภาคสันทนาการและบริการ รวมทั้งค้าปลีกได้รับผลกระทบมากที่สุด  นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุว่า พื้นที่ส่วนใหญ่แสดงการปรับลงของภาคการผลิต ซึ่งมีความหลากหลายในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ผู้ผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์มีอุปสงค์แข็งแกร่ง แต่เผชิญอุปสรรคในการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน  “กิจกรรมเศรษฐกิจหดตัวอย่างหนักทันทีทั่วทุกภูมิภาคในสหรัฐจากผลของการระบาดของโควิด-19 ทุกเขตรายงานแนวโน้มที่มีความไม่แน่นอนอย่างสูงในกลุ่มผู้ติดต่อธุรกิจ โดยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ภาวะต่างๆจะรุนแรงขึ้นในหลายเดือนข้างหน้า”
    • (+) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกทรุด 8.7% ดิ่งหนักเป็นประวัติการณ์จากพิษโควิด  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรุดตัวลง 8.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 8.0% หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.พ.  ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดร้านค้า ขณะที่ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และลดการใช้จ่าย รวมทั้งลดการเดินทาง ซึ่งทำให้ยอดขายของสถานีบริการน้ำมันดิ่งลง
    • (+) เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมทรุดหนักสุดรอบ 74 ปีจากพิษโควิด  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐดิ่งลง 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2489 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ.  การปรับตัวลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีสาเหตุจากการที่ห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
    • (+) เฟดนิวยอร์คเผยดัชนีภาคการผลิตทรุดหนักเป็นประวัติการณ์จากพิษโควิด  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงแตะระดับ -78.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -32.5  นอกจากนี้ ดัชนีภาคการผลิตยังปรับตัวต่ำกว่าระดับ -34.3 ที่ทำไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน
    • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 445.41 จุด วิตกผลประกอบการทรุดตัว,ข้อมูลศก.สหรัฐย่ำแย่  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานผลกำไรที่ทรุดตัวลงในไตรมาสแรกปีนี้ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่หลายรายการ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนมี.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในสหรัฐ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,504.35 จุด ร่วงลง 445.41 จุด หรือ -1.86% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.36 จุด ลดลง 62.70 จุด หรือ -2.20% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,393.18 จุด ลดลง 122.56 จุด หรือ -1.44%
    • (-) ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังข้อมูลศก.สหรัฐย่ำแย่  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและดัชนีภาคการผลิตที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก  ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.45 เยน จากระดับ 107.16 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9636 ฟรังก์ จากระดับ 0.9602 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4083 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3909 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0921 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0979 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2550 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2627 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6329 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6434 ดอลลาร์

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • ราคาทองคำยังไปต่อ หลัง IMF คาดศก.โลกทรุดตัวหนัก (YLG)

    ราคาทองคำยังไปต่อ หลัง IMF คาดศก.โลกทรุดตัวหนัก (YLG)

    15 เมษายน 2020

    YLG Bullion : ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ระดับ 1,724 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ระบุว่าการระบาดของ ไวรัส COVID-19 ส่งผลให้โลกมีแนวโน้มจะเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงินรุนแรงที่สุดในปีนี้นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกอาจหดตัวลงถึง 3% ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐและยูโรโซนคาดว่าจะหดตัวถึง 5.9% และ 7.5% ตามลำดับ ขณะที่จีนคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงสู่ระดับ +1.2%

    นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาด ไวรัส COVID-19 เริ่มอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีเกินคาด บ่งชี้ว่าอาจได้รับผลกระทบจากไวรัส โควิด -19 น้อยกว่าที่เคยวิตก จึงเป็นปัจจัยบั่นทอนความต้องการดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

    ปัจจัยที่กล่าวมา ช่วยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดของปีนี้ครั้งใหม่บริเวณ 1,747.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่แรงขายทำกำไรจะกดดันให้ทองคำลดช่วงบวกลงในช่วงปลายตลาด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม 7.89 ตัน

    การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานนี้ เห็นแรงซื้อแรงขายต่อสู้กันชัดเจนขึ้น โดยหากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ราคาทองคำอาจมีแรงขายออกมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ หากหลุดประเมินว่าแนวรับถัดไปโซน 1,686 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แม้ว่าแนวโน้มราคาจะเป็นบวกแต่ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ทะลุแนวต้าน 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสะสมแรงซื้อ

    ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • ราคาทองคำเตรียมวิ่งต่อปัจจัยหนุนรอบด้าน ชี้พุ่งแตะระดับ 1,800 เป็นไปได้แต่ต้องใช้เวลา (Shining Gold)

    ราคาทองคำเตรียมวิ่งต่อปัจจัยหนุนรอบด้าน ชี้พุ่งแตะระดับ 1,800 เป็นไปได้แต่ต้องใช้เวลา (Shining Gold)

    14 เมษายน 2563

    ร่วมลุ้นราคาทองคำทะยานต่อเนื่องหรือไม่ หลังวิ่งทะลุผ่านระดับ 1,700 ดอลลาร์ไปแล้ว กรรมการผู้จัดการ ชายน์นิ่ง โกลด์ฯ ชี้แม้มีปัจจัยรอบด้านหนุนราคาทองคำ โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบจากเชื้อไวรัส COVID-19 แต่อยากให้ใช้กลยุทธ์ซื้อตามจุดแนวรับขายตามจุดแนวต้านจะปลอดภัยกว่า ส่วนเป้าหมายที่ 1,800 ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้แต่ต้องรอเวลา

    หลังจากที่เมื่อวานนี้ ราคาทองคำได้ปิดตลาดทะลุ แนว 1,700 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะที่ระดับราคา 1,724 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดลงมาปิดที่ระดับ 1,716 ดอลลาร์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนได้นำทองคำออกมาขายทำกำไร ขณะนี้เป้าหมายต่อไปมองว่าราคาทองคำที่วิ่งไปแตะที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ เพราะมีปัจจัยหนุนมากมาย

    เป้าหมายดังกล่าวมีความเป็นไปได้ แต่คงต้องอีกใช้เวลาอีกระยะ ขณะนี้มองการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและการลงทุนทองคำเป็นกรอบมากกว่า โดยจะเป็นลักษณะการซื้อเข้าตามแนวรับ และขายทำกำไรในจุดแนวต้านสำคัญ

    น.ส.เอเกต ตัณฑชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
    น.ส.เอเกต ตัณฑชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

    ทั้งนี้ ระยะสั้นจะดูว่าราคาสามารถทะลุผ่านจุดสูงสุดของเมื่อวานนี้ (13 เม.ย.) ที่ระดับ 1,724-1,726 ดอลลาร์ได้หรือไม่ หากทะลุผ่านเป้าหมายต่อไปคือที่ระดับ 1,742 ดอลลาร์ และ 1,752 ดอลลาร์ตามลำดับ หากราคามาถึงจุดนี้ แนะนำให้ขายทำกำไร เพื่อรอดูปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ก่อนที่จะกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในรอบถัดไป

    ในทางกลับกันหากราคาไม่ทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมได้ ก็อาจจะปรับลดลงมา โดยมองแนวรับที่ระดับ 1,702-1,706 ดอลลาร์ หากราคายังยืนอยู่ไม่ไหว มองไปที่ระดับ 1,680 ดอลลาร์ และ 1,672 ดอลลาร์ ซึ่งจะถึงจุดที่ต้องตัดขายทิ้ง

    อย่างไรก็ดี มองว่าตอนนี้ปัจจัยทุกอย่างเป็นบวกต่อราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินปริมาณมหาศาลของธนาคารกลางสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงกรณีที่ SPDR ยังเชื่อมั่นในทองคำ โดยได้ทยอยซื้อทองคำเข้าพอร์ตต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ซื้อเข้าอีก 15 ตัน ทำให้ขณะนี้มีปริมาณถือครองทองคำกว่า 1,000 ตันไปแล้ว และคาดว่าหลังจากนี้จะทยอยซื้อเข้าอีก แต่จะไม่มากเหมือนที่ผ่านมา

    ที่สำคัญคือ เรื่องสัญญาของโกลด์ฟิวเจอร์ส ที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนนี้ ขณะนี้ราคาอยู่ที่ ระดับ 1,770 ดอลลาร์ ซึ่งห่างจากราคาโกลด์สปอตถึง 50 ดอลลาร์ ทั้งที่ราคาของทั้งสองตัวควรจะเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน เหมือนกับตลาดในช่วงที่ผ่านๆ มา ทำให้มองว่าราคาโกลด์สปอตจะต้องขยับขึ้นไปอีก แม้ว่าราคาอาจจะไม่พุ่งเข้าไปชน แต่ก็ต้องใกล้เคียงกัน จึงทำให้ในภาพรวมแล้วมองว่าราคาทองคำน่าจะเป็นบวก

    น.ส.เอเกต ตัณฑชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com

    ขอขอบคุณ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

  • (GT:13-04-20) ราคาทองคำทะยานต่อ หลังราคาหุ้น-น้ำมันปรับตัวดีขึ้น คาดแตะ 1,750 ดอลลาร์ พร้อมกลับเข้าโหมดเซฟเฮเว่น

    (GT:13-04-20) ราคาทองคำทะยานต่อ หลังราคาหุ้น-น้ำมันปรับตัวดีขึ้น คาดแตะ 1,750 ดอลลาร์ พร้อมกลับเข้าโหมดเซฟเฮเว่น

    13 เมษายน 2563

    ราคาทองคำ ทะลุผ่านระดับ 1,700 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงมาเล็กน้อย บ. จีที โกลด์ฯ คาดราคาพุ่งแตะ 1,750 ดอลลาร์ หลังราคาหุ้น-น้ำมัน เริ่มทรงตัว หลังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ขณะที่ SPDR กวาดซื้อทองคำเข้าพอร์ตต่อเนื่อง พร้อมชี้ทองคำจะกลับเข้าสู่โหมด “เซฟเฮเว่น” อย่างที่ควรจะเป็น

    มาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำได้วิ่งไปทดสอบระดับ 1,700 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายราคาก็ยืนอยู่ได้ไม่นาน และได้ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 1,693 ดอลลาร์ ซึ่งนายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ในระยะอันใกล้นี้เชื่อว่าราคาทองคำจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์ ได้อย่างแน่นอน โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งไปเคลื่อนไหวในระดับ 1,750-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ปัจจัยหลัก ๆ ที่มองเช่นนั้น เพราะราคาหุ้นในอเมริกาเริ่มทรงตัว หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเข้ามาพยุงตลาด รวมถึงการอัดฉีดเงินไปยังกลุ่มเอสเอ็มอี และผู้บริโภคโดยตรง ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเทขายทองคำเพื่อนำเงินมาชดเชยการขาดทุนจากตลาดหุ้น ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็เริ่มดีขึ้น หลังจากที่โอเปคได้ตกลงเรื่องการลดกำลังการผลิตลง

    ที่สำคัญ กองทุน SPDR ยังคงซื้อทองคำเก็บเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงขณะนี้ใกล้เคียง 1,000 ตันแล้ว ซึ่งการเคลื่อนไหวของ กองทุน SPDR ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดอนาคตของราคาทองคำได้เป็นอย่างดี

    GT GOLD BULLION

    เมื่อสถานการณ์ของสินค้าการลงทุนแต่ละตัว เริ่มกลับมาเข้าสู่แนวทางที่ควรจะเป็น หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ทองคำ ก็ควรจะกลับมาทำหน้าที่ในการเป็น เซฟเฮเว่น หลังจากที่ต้องทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องเข้าไปพยุงสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาขาดทุน ที่สำคัญจากการที่เฟดได้ประกาศอัดฉีดเงินแบบไม่จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ น่าจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในอนาคต

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

    อย่างไรก็ดี จากสภาพตลาดการค้าทองคำ ที่ประสบปัญหาในหลาย ๆ เรื่องในขณะนี้ ทำให้ช่องว่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายยังคงห่างกัน ซึ่งไม่เหมาะกับการลงทุนในลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้น แต่จะเหมาะกับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว ซึ่งราคา ณ ปัจจุบัน ก็มองว่ายังสามารถซื้อเก็บได้ หรือหากจะรอจังหวะให้ราคามีการย่อตัวลงมาต่ำกว่านี้ ก็ยังทำได้เนื่องจากราคาทองคำในปัจจุบันสวิงในกรอบที่กว้างมาก และราคาค่อนข้างจะขึ้นลงเร็ว

    กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด ยังได้กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงจรการค้าทองคำ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด -19 ว่าในภาพรวมยังไม่เปลี่ยนแปลง การขนส่งทางอากาศยังคงมีปัญหา และโรงงานรีไฟน์ทองคำส่วนใหญ่ยังปิดทำการ ส่วนที่เปิดให้บริการก็จะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก

    หากเรามาดูเรื่องของส่วนต่างราคาซื้อกับราคาขาย จากกระดานซื้อขายโกลด์สปอต จะเห็นได้ว่า ขณะนี้เริ่มทรงตัว โดยราคาจะอยู่ประมาณ 5 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นการลงทุนทองคำแท่งที่ต้องส่งมอบ ยังจะต้องมีเรื่องของค่าพรีเมี่ยมเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าสูงมาก และเป็นส่วนที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีการประกาศช่องว่างราคาซื้อ-ขาย กว้างมากถึงขนาดนี้ และคาดว่าสถานการณ์จะเป็นลักษณะนี้อีกระยะ

    นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

    ขอขอบคุณ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA
  • (InterGold) ผลจากไวรัส โควิด-19 ฉุดปริมาณซื้อ-ขายทองคำลดลง 6 เท่า ชี้เทรนด์ระยะสั้นราคาลง ก่อนวิ่งไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์

    (InterGold) ผลจากไวรัส โควิด-19 ฉุดปริมาณซื้อ-ขายทองคำลดลง 6 เท่า ชี้เทรนด์ระยะสั้นราคาลง ก่อนวิ่งไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์

    8 เมษายน 2563

    ปริมาณซื้อขายทองคำในตลาดโลก รวมถึงประเทศไทย ลดลง 5-6 เท่า หลังปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID -19 ส่งผลกระทบต่อวงจรการค้าทองคำ บ.อินเตอร์โกลด์ ฯ คาดใช้ 10 วันทุกอย่างกลับสู่ปกติ หลังโรงงานรีไฟน์ทองที่สวิตเซอร์แลนด์ เริ่มเปิดทำงาน ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นคาดจะลดลง ก่อนจะใช้เวลาไม่นานทะยานขึ้นไปแตะ 1,700 ดอลลาร์ แนะควรลงทุนระยะกลางถึงยาว

    หลังจากในช่วงปลายเดือนมีนาคม ช่องว่างระหว่าง ราคาเสนอซื้อและขาย ของทองคำได้เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ เพราะกลไกการค้าทองคำในตลาดโลกเกิดปัญหา เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และได้ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทองคำลดลงอย่างมาก นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับเว็บไซต์ GoldAround.com ว่า จากที่ได้รับรายงานล่าสุดพบว่า ปริมาณการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส ตลาด Comex ในเดือนที่ผ่านมาลดลงถึง 5-6 เท่า เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ขณะที่การซื้อขายแบบส่งมอบทองจริง หรือแบบ OTC ก็ลดลงเช่นกัน แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ราคาสัญญาฟิวเจอร์ จะต่างกับราคาแบบ OTC ถึง 50 เหรียญ ทำให้ราคาฟิวเจอร์สขณะนี้ทะลุระดับ 1,700 ดอลลาร์ไปแล้ว ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน เพราะปกติราคาจะใกล้เคียงกัน

    เช่นเดียวกับ ตลาดค้าทองคำในประเทศไทย ปริมาณการซื้อขายลดลง 5-6 เท่าเช่นกัน โดยการซื้อขายทองคำแบบส่งมอบทองจริงยังไม่คล่องตัว เพราะยังติดขัดปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายพยายามหาทางแก้ปัญหาอยู่ แต่การซื้อขายแบบตั๋วสัญญายังไปได้อยู่ ซึ่งปริมาณก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากช่องว่างระหว่างราคาเสนอซื้อและขายทองคำยังห่างกันมาก แต่ในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว

    เมื่อปลายเดือนมีนาคม ช่องว่างอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้ลดลงมาเหลือต่ำสุด 3 ดอลลาร์ แต่ยังห่างจากช่วงปกติที่อยู่ในระดับ 30 เซ็นต์ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้การขนส่งทางอากาศยังทำได้อย่างจำกัด แต่โรงงานที่รีไฟน์ทองที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้ว แต่ยังมีปริมาณงานคงค้างอยู่มาก ทำให้โรงงานได้คิดค่าบริการเพิ่มขึ้นบาทละประมาณ 150 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผู้ประกอบการจะต้องแบกรับไว้ เพื่อรอให้สถานการณ์เช้าสู่ภาวะปกติ

    นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

    ทั้งนี้ หากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในพื้นที่ยุโรปดีขึ้น คาดว่าโรงงานจะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น และภายในเวลา 10-14 วัน สถานการณ์ในภาพรวมจะทยอยดีขึ้นก่อนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ในยุโรปกลับมาเพิ่ม ก็อาจจะต้องยืดเวลาออกไป

    กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ ยังได้กล่าวถึงการเคลื่อนของราคาทองคำในตลาดโลกว่า จากการเก็บสถิติในช่วงที่ผ่านมา ราคาได้ผันผวนมากโดยแต่ละครั้งจะปรับตัวขึ้นลงในกรอบ 50-60 ดอลลาร์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จากเดิมที่ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ เพียง 5-10 ดอลลาร์เท่านั้น และเมื่อในปัจจุบันมีช่องว่างระหว่างราคาเสนอซื้อ-ขายที่กว้าง จึงทำไม่เหมาะกับนักเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากจะลงทุนในระยะกลางหรือระยะยาว ยังสามารถซื้อทองคำเก็บสะสมได้ เพียงแค่รอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมา

    ทองคำ อินเตอร์โกลด์

    ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อ จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐอัดฉีดเงินตรงไปยังชาวอเมริกัน แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ และมองว่าราคาทองคำในระยะสั้นยังมีโอกาสที่จะขยับลงมาระดับต่ำกว่า 1,600 ดอลลาร์ แต่คงจะไม่ไหลลงลึกไปถึงระดับ 1,550 ดอลลาร์ จากนั้นอาจจะใช้เวลาอีกระยะ อาจจะเห็นราคาทองคำวิ่งไปแตะที่ระดับราคา 1,700 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศที่แปลงมาเป็นเงินบาท ยังเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากราคาเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงได้มากกว่านี้ เพราะนักลุทนยังหันที่จะไปเก็บเงินดอลลาร์ไว้ เพราะเชื่อว่าเป็นสกุลเงินที่มีความมั่นคง

    ขอขอบคุณ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

  • (YLG:08-04-20) ราคาทองคำอ่อนตัวเล็กน้อย สวนทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

    (YLG:08-04-20) ราคาทองคำอ่อนตัวเล็กน้อย สวนทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

    8 เมษายน 2563

    YLG Bullion : ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 12.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นมากในวันก่อนหน้า ขณะที่ความหวังว่าการระบาดของไวรัส COVID-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ความต้องการทองคำในสินทรัพย์ถูกลดทอนลงบางส่วน

    นอกจากนี้ ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จนหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้ดีดตัวสู่ระดับ 0.772% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีปรับตัวขึ้นเช่นกันสู่ระดับ 1.371% ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลเชิงลบต่อราคา

    ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่มวานนี้ +1.45 ตันสู่ระดับ 985.71 ตัน ทำให้ในปี 2020 กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มแล้ว +92.46 ตัน สะท้อนความต้องการทองคำในภาคการลงทุน ETF ยังแข็งแกร่งจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านต่ำ (downside risk) ของราคาทองคำ

    มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ แม้จะปรับตัวลดลง แต่ระยะสั้นมีแรงขายไม่มาก โดยหากสามารถทรงตัวได้ ราคาอาจพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,668-1,689 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,668 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

    ซึ่งกลยุทธ์การเข้าซื้อควรรอดูบริเวณ 1,635-1,629 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่หากหลุดลงมาให้ชะลอการซื้อออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการเหวี่ยงตัวของราคา

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • (YLG:06-04-20) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังคาดเฟดอัดเงินกระตุ้นศก.เพิ่ม

    (YLG:06-04-20) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังคาดเฟดอัดเงินกระตุ้นศก.เพิ่ม

    YLG Bullion : ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาปิดที่ระดับ 1620 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนมี.ค. ดิ่งลงเกินคาดที่ 701,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2010 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 100,000 ตำแหน่ง

    ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นเกินคาดเช่นกันสู่ระดับ 4.4% ในเดือน มี.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.2017 ตอกย้ำมาตรการปิดเมืองเพื่อยับยั้งการระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง อีกทั้งยังกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,626.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    อย่างไรก็ดีราคาทองคำ ได้ปรับตัวลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงกว่าที่เคยประเมินไว้ หลังสถานการณ์การระบาดในสหรัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม 7.02 ตัน

    ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เน้นการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ เพราะหากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซน 1,600-1,594 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง

    ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • (Ausiris) ผลกระทบจาก COVID-19 ดันราคาทองคำไตรมาสแรกพุ่ง แนะลงทุนระยะกลาง-ยาว เชื่อราคายังไปอีกไกล

    (Ausiris) ผลกระทบจาก COVID-19 ดันราคาทองคำไตรมาสแรกพุ่ง แนะลงทุนระยะกลาง-ยาว เชื่อราคายังไปอีกไกล

    4 เมษายน 2563

    ตลาดทองคำช่วงต้นปียังไปได้สวย เติบโตสวนสินทรัพย์การลงทุนอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แม้ช่วงนี้การลงทุนระยะสั้นยังชะงัก แต่มั่นใจระยะยาวสดใส มีปัจจัยหนุนให้ทะลุ ระดับ 1,700 ดอลลาร์ได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องที่ต้องเกาะติดคือปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐจะจบลงเมื่อไร

    นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออสสิริส กรุ๊ป (Ausiris)

    นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออสสิริส กรุ๊ป (Ausiris) เปิดเผยกับ GoldAround.com ถึงภาพรวมของตลาดทองคำในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ว่า ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ด้านการลงทุนเกือบทุกชนิดปรับลดลงอยากมาก และทองคำได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องถูกจัดสรรไว้ในพอร์ทการลงทุนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการขาดทุน และสามารถนำไปปรับเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อไปชดเชยการขาดทุนได้

    ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของสหรัฐ ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน แต่หลังจากที่เกิดปัญหาไวรัส โควิด -19 ทุกปัญหาไม่ได้ถูกพูดถึง และมาโฟกัสผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 เพียงอย่างเดียว และนักลงทุนได้นำทองคำมาใช้ในการแก้ปัญหาในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จนนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่าราคาอาจจะพุ่งไปแตะระดับราคา 1,700-1,800 ดอลลาร์

    อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อวงการค้าทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขนส่ง การทำงานของบริษัทรีไฟน์ทองคำ ทำให้ช่องว่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับเสนอขาย (Spread) ห่างกันมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และขณะนี้ราคาดังกล่าวก็ยังผันผวนในระดับ 5-10 ดอลลาร์ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนราคา Spread ของทองคำในประเทศไทยให้สอดคล้องกับราคาในตลาดโลก อย่างไรก็ดีหากสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ดีขึ้น ปัญหาเรื่องของสเปรดราคาก็น่าจะคลี่คลายได้ภายใน 1-2 วัน

    ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่เหมาะกับการเล่นเก็งกำไรระยะสั้น เพราะการที่จะเอาชนะ Spread ทำได้ยากมาก แต่หากจะเป็นการลงทุนในระยะกลางหรือระยะยาวยังมองว่าเป็นโอกาสที่ดี โดยนักลงทุนที่ยังไม่มีทองคำในพอร์ท หากราคาย่อลงมาในระดับ 1,530 ดอลลาร์ ก็สามารถเข้าซื้อเก็บได้ เพราะยังมองว่าระยะยาวแล้วตลาดทองคำยังน่าจะไปได้อีกไกล แม้ว่าช่วงนี้ราคาจะยังผันผวน เกินจะคาดเดา ซึ่งราคาอาจจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์ ในระยะ 2-3 วันข้างหน้า หรืออาจจะถูกเทกลับไปอยู่ที่ระดับ 1,400-1,500 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเข้ามาหนุน แต่มองว่าปัจจัยบวกน่าจะมีมากกว่า

    นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออสสิริส กรุ๊ป (Ausiris)

    ส่วนการคาดการณ์สภาพตลาดทองคำในไตรมาส 2 นั้น เชื่อว่าปัจจัยที่จะเชื่อมโยงกับทองคำมีน้อยลง เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะงัก และจะทำให้การเติบโตของจีดีพีโลกลดลง ปริมาณคนตกงานมากขึ้น โดยประเด็นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่องของการเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้น และการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมให้เคลื่อนตัว

    ประเด็นหลักที่ทุกคนให้ความสนใจในขณะนี้ คือ การแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ที่ สหรัฐอเมริกาจะถึงจุดสูงสุดเมื่อไร จะเสียหายมากน้อยเพียงไร และภายในสิ้นเดือน เม.ย.ทุกอย่างจะคลี่คลายหรือไม่ เพราะที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางการลงทุน จากนั้นจึงจะมาดูว่านักลงทุนจะมีกำลังเหลือพอที่จะมาลงทุนในตลาดทองคำหรือไม่

    นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออสสิริส กรุ๊ป (Ausiris)

    ขอขอบคุณ บริษัท ออสสิริส จำกัด