บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 18 ก.ย.63 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

กองทุน SPDR ขายทองคำ 0.58 ตัน

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.

แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว

  • ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่และเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 3.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 6.5%แม้เฟดส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2566 อย่างไรก็ดีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนออกมาแย่กว่าตลาดคาด ทำให้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 860,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 825,000 ราย ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.58 ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น  1.3% จากเพิ่มขึ้น  1.4% ในเดือนก.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 75.0 จากระดับ  74.1 ในเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว หลังจากปรับลงแรงเมื่อวาน โดยมีแนวต้าน 1,960 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,973 ดอลลาร์ ซึ่งแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์คาดเป็นแนวต้านแข็งแกร่งในระยะสั้นส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์และ1,920 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,943.90-14.91,930/1,9201,960/1,973

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,700-25028,500/28,40028,850/29,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,880+3028,660/28,56029,060/29,220

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot 1,960 ดอลลาร์ (GF 29,060 บาท) และ 1,973ดอลลาร์(GF 29,220 บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,920-1,930ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,948.50+7.001,932/1,9221,962/1,975

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาGOU201,962ดอลลาร์และ 1,975ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลง เนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่กดดันต่อเงินบาท จากการชุมนุมประท้วงในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนหลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำ 3 ปี

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ก.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปีนอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดร่วง 20.6 ดอลล์นักลงทุนผิดหวังผลประชุมเฟด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแม้คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก 3 ปีก็ตามสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์หรือ 1.05% ปิดที่ 1,949.9  ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37.6 เซนต์หรือ 1.37% ปิดที่ 27.1 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 81 เซนต์รับโอเปกพลัสให้คำมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงลดผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์หรือ 2% ปิดที่ 40.97 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.08 ดอลลาร์หรือ 2.6% ปิดที่ 43.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 130.40 จุดจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,ข้อมูลศก.ซบเซา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงินรวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐนอกจากนี้ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,901.98 จุดลดลง 130.40 จุดหรือ -0.47% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดที่ 10,910.28 จุดลดลง 140.19 จุดหรือ -1.27% ส่วนดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,357.01 จุดลดลง 28.48 จุดหรือ -0.84%

แบงก์ชาติญี่ปุ่นคงนโยบายการเงินผ่อนคลายพิเศษมุ่งหนุนศก.ฝ่าวิกฤตโควิด

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมโดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดคณะกรรมการBOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% นอกจากนี้BOJ ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินมาตรการจัดสรรเงินกู้ให้กับบริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบทั้งนี้ภายใต้โครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่BOJ จะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลจากสถาบันการเงินต่างๆโดยไม่จำกัดจำนวนและเข้าซื้อกองทุนETF รายปีในอัตรา 12 ล้านล้านเยนหรือประมาณ 1.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีนอกจากนี้BOJ ยังคงมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ภาคเอกชนซึ่งรวมถึงการจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารพาณิชย์ที่ขยายวงเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้กับบรรดาบริษัทเอกชนภายใต้โครงการของรัฐบาลตลอดจนเข้าซื้อหุ้นกู้และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) มูลค่าราว 20 ล้านล้านเยนจากสถาบันการเงินต่างๆเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสภาพคล่องในระบบธนาคารจะมีอยู่อย่างเพียงพอแถลงการณ์ของBOJ ระบุว่า “เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วโดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปแม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงวิกฤตอันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ”  

“ไบต์แดนซ์”เผยดีลขาย”TikTok”ให้”ออราเคิล”ต้องรออนุมัติจากรัฐบาลจีน-สหรัฐ

สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากไบต์แดนซ์  (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ว่าข้อเสนอขายกิจการTikTokให้กับบริษัทออราเคิลคอร์ปยังต้องรอการอนุมัติจากรัฐบาลจีนและสหรัฐก่อนภายใต้ข้อเสนอดังกล่าวออราเคิลจะกลายมาเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้สำหรับกิจการTikTokในขณะที่ไบต์แดนซ์จะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจดังกล่าวอยู่ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ออกมาประกาศว่า “ผมไม่พร้อมเซ็นอนุมัติอะไรตอนนี้”    ขณะเดียวกันมีรายงานออกมาจากสื่อว่าข้อมูลที่ปธน.ทรัมป์รับทราบนั้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นโดยเขาต้องการพิจารณารายละเอียดข้อเสนอดังกล่าวให้มากกว่านี้ซึ่งคาดว่าจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมให้ปธน.ทรัมป์รับทราบในเร็วๆนี้แหล่งข่าวระบุว่าคณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐได้ทำการตรวจสอบข้อเสนอของบริษัทออราเคิลโดยข้อเสนอในส่วนที่เปิดเผยออกมานั้นระบุว่าออราเคิลจะไม่ได้ซื้อธุรกิจTikTokโดยตรงแต่จะเป็นการลงทุนในTikTokที่มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั่วโลกและจะมีฐานดำเนินงานในสหรัฐขณะที่ไบต์แดนซ์จะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่และผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 รายในไบต์แดนซ์ได้แก่General Atlantic, Sequoia Capital และCoatue Management จะยังคงถือหุ้นในธุรกิจใหม่ดังกล่าว

“ทรัมป์” ไม่พอใจดีล “TikTok” เหตุบริษัทแม่ยังถือหุ้นส่วนใหญ่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัทออราเคิลคอร์ปในการเข้าซื้อกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐโดยคาดว่าเป็นเพราะไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อกจะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่อย่างไรก็ดีข้อมูลที่ปธน.ทรัมป์รับทราบนั้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นโดยเขาต้องการพิจารณารายละเอียดข้อเสนอดังกล่าวให้มากกว่านี้ซึ่งคาดว่าจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมให้ปธน.ทรัมป์รับทราบในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “ผมไม่พร้อมเซ็นอนุมัติอะไรตอนนี้”  ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังไม่กี่วันที่ผ่านมาไบต์แดนซ์ได้ตกลงขายกิจการTikTokในสหรัฐให้กับบริษัทออราเคิลหลังจากที่ไบต์แดนซ์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทไมโครซอฟท์

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 18 ก.ย.63 (SCT)

วิเคราะห์ราคาทองคำ

แนวรับ 1930/ 1923/1911 แนวต้าน 1952/1960/1971

                Gold/silver         USD               Baht          DOW (stock)

ระยะสั้น          SW                SW                SW              SW UP  
ระยะกลาง     SW UP      SW DOWN     POSITIVE        SW UP
ระยะยาว      BULLISH      NEUTRAL     NEUTRAL       BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1930-60
จุดเข้า BUY 1920-35
เป้าหมาย 1970/1990
SL 1905

รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1900-2100
จุดเข้า BUY 1920/1900
เป้าหมาย 2090/2150
SL 1900

จับตา

เมื่อวานราคาทองย่อตัวตลอดทั้งวัน ก่อนมาฟื้นตัวช่วงดึกที่ประกาศตัวเลขฝั่งสหรัฐฯต่ำกว่าคาด  โดยเวลานี้ทองได้รับแรงกดดันจากข่าวผลิตวัคซีนและสภาสหรัฐฯที่พยายามจะผลักดันกฎหมายเยียวยาโควิดให้ผ่านก่อนการเลือกตั้งใหม่ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าวันที่วัคซีนและกฎหมายผ่านจะพาตลาดหุ้นทะยานแรง ส่วนทองอาจจะกระทบแต่อาจไม่รุนแรง ตราบใดที่เฟดยังพยายามพิมพ์เงินมหาศาลพยุงตลาดหุ้น ทองคำกับหุ้นอาจเดินไปในทางบวกด้วยกันในอนาคต ภาพรวมแม้ทองจะย่อตัวดูน่ากลัวแต่ก็เป็นการย่อในกรอบเช่นเคย ยังไม่มีนัยยะใดๆจนกว่าราคาจะหลุด $1905 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังให้น้ำหนักไปทางพักเพื่อขึ้นหรือแกว่ง SIDEWAYS สะสมพลังในกรอบสามเหลี่ยมรอข่าวสำคัญมากๆมาตัดสินแนวโน้มทองในเร็วๆนี้
คืนนี้ตัวเลขไม่สำคัญมาก กลยุทธ์ในระยะสั้นยังมองเป็นโหมดการพักฐาน แนะย่อซื้อขึ้นขายตามการสวิงเช่นเดิม เก็บกำไรก้อนเล็กไปก่อน ส่วนค่าเงินบาท ยังมองแกว่งเป็น SIDEWAYS (30.0-31.6) กรอบสามเหลี่ยมคล้ายกราฟทอง ค่าเงินจึงยังไม่มีผลอะไรมากต่อการเทรดทองในระยะสั้น  แต่อีกไม่นานเราน่าจะเห็นการเคลื่อนไหวแรงๆ (มีโอกาสในทางแข็งค่าในอนาคต)  

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 18 ก.ย.63 (CAF)

ออสสิริส

GoldOnlineFuture:Short
Reasons
กลับมาอยู่ฝั่ง Short แนวต้านสำคัญ 1,960

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เตรียมดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจและจัดสรรเงินกู้ในวงเงิน 20 ล้านล้านเยน(-Gold)
  • ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป (ECDC)
    ได้ประกาศเตือนประชาชนในทวีปยุโรปให้ระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบที่ 2 (-Gold)
  • US Dollar Index มีโอกาสแข็งค่า เนื่องจากดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีขยายตัวลดลง
    ,ยอดค้าปลีกอังกฤษขยายตัวลดลง 0.8% เดิม 3.6%, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯขยายตัวเพิ่มขึ้นเพิ่ม 75 จุด
    เป็นปัจจัยทำให้ราคา Gold Spot มีแนวโน้มปรับลดลง (-Gold)

Day Trade

GOU20 รีบาวด์ Short 1,950-1,955 เป้าทำกำไร 1,935 -1,942 จุด Stop 1,960
GF10V20 Short 29,000 -29,120 เป้าทำกำไร 29,300 -29,400 จุด Stop สิ้นวัน 29,220

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOU20 Open Short จุด Stop 1,960
GF10V20 Open Short จุด Stop 29,220

ขอขอบคุณ  : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ วันนี้ 17 ก.ย.63 โดย ShiningGold

แนะ Rebound Open Short เคร่งครัด SL (ShiningGold)

แนวต้าน 1,967 ดอลลาร์ 1,975-77 ดอลลาร์ และ 1,988 ดอลลาร์
แนวรับ 1,953 ดอลลาร์ 1,945 ดอลลาร์  และ1,934 ดอลลาร์

ShiningGold : กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ นักลงทุนระยะสั้น ให้ Rebound Open Short ที่ ระดับ1,963 ดอลลาร์ และ1,975-77 ดอลลาร์ โดยตั้ง SLที่ 1,983 ดอลลาร์

ทั้งนี้นักลงทุนยังคงต้องเฝ้าติดตามความคืบหน้าพัฒนาการข่าวของวัคซีนโควิดแหล่งสำคัญๆ ประกอบการพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญ

ส่วนการคาดการณ์ราคาทองคำไทย ทองคำยังพยายามกลับมา Rebound อีกครั้งเพื่อขาย และรอซื้อรอใหม่เมื่อราคาต่ำลง โดย แนวต้านอยู่ที่ระดับบาทละ 28,860 บาท  28,995 บาท และ 29,055 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ บาทละ  28,785 บาท  28,680 บาท และ 28,575 บาท

ราคาทองคำวันนี้ 17 ส.ค.63 บทวิเคราะห์ GCAP GOLD

แนวโน้มช่วงเช้า

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกดีดตัวขึ้น จากการอ่อนค่าของดอลลาร์

และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีกหลายปี ทั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์และให้สัญญาในถ้อยแถลงทางนโยบายว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำแบบนี้ต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีกหลายปี

ขณะที่การประมาณการใหม่ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ พบว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายเกือบทั้งหมดมองว่าอาจต้องคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี2566 นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขที่จะประกาศในสัปดาห์นี้

ซึ่งได้แก่ จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้างจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ดัชนีภาคการผลิต เฟด สาขาฟิลาเดเฟีย ดุลบัญชีเดินสะพัด ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มหาลัยมิชิแกน ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

เหตุการณ์ในช่วงคืนที่ผ่านมาหลังจากที่เฟดได้มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวสูงขึ้นทันที รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ด้วย ความคาดหวังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวไวกว่าคาด กดดันบรรดาสกุลเงินหลัก เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้ และเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย”

ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่าเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ

โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,945 – 1,940 – 1,936
แนวต้าน 1,963 – 1,968 – 1,973

ทองคำตัวสวิงตัวค่อนข้างรุนแรง ช่วงการประชุม FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดหนุนตลาดหุ้นดีดตัวด้วยความคาดหวังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวไวกว่าคาดกดดันราคาทองคำให้มีการปรับตัวอ่อนค่าอย่างไรก็ตามการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อาจเป็นเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

ขอขอบคุณ : บจ.จีแคป

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 17 ก.ย.63 (MTS)

MTS GOLD

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังมีความผันผวนอย่างมาก โดยก่อนจะมีถ้อยแถลงของเฟดทองคำมีการทดสอบ 1,970 เหรียญโดยประมาณ และหลังจากที่เฟดคงนโยบายดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นตามคาด และมีการคง QE ได้สร้างความผิดหวังแก่ตลาดเล็กน้อยเนื่องจากตลาดหวังจะเห็น QE เพิ่ม จึงทำให้เกิดแรงขายกดดันทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,950 เหรียญ และตลาดโดยองค์รวมยังคงสับสนกับถ้อยแถลงเฟด จากการทีเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจแต่ยังคงดอกเบี้ยถึงปี 2023 ด้านดัชนีดอลลาร์หลังจากร่วงลงไป 92.7 จุด ก็ปรับแข็งค่ามาเหนือ 93 จุดอีกครั้ง โดยเช้านี้มาอยู่บริเวณ 93.47 จุด ในส่วนของเงินบาทยังผันผวน และมีการแข็งค่าไป 31.06 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่เช้านี้จะอ่อนค่ามาที่ 31.16 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมตลาดมีความผันผวนปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย รวมทั้งตลาดหุ้นในเอเชียเองก็ปรับตัวลดลงมาบ้าง ด้าน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้แก่ Retail Sales และ Core Retail Sales ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ขณะที่คืนนี้จะมีตัวเลขสำคัญที่ต้องติดตามของสหรัฐฯ ดังนี้ Philly Fed Manufacturing Index และ Housing Starts ที่คาดจะออกมาแย่ลง ทางด้าน Unemployment Claims และ Building Permits คาดออกมาดีขึ้น

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวกรอบ Sideways และพยายาม Break แนวต้านด้านบน 1,975 เหรียญ และหลังจากที่ไม่สามารถ Break ได้ก็กลับลงทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้ง วันนี้คาดว่าจะมีแนวรับ 1,935 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ สำหรับ Gold Online Futures คาดว่าจะมีแนวรับ 1,937 เหรียญ และแนวต้าน 1,977 เหรียญ และ Gold Comex คาดว่าจะมีแนวรับ 1,942 เหรียญ และแนวต้าน 1,980 เหรียญ อย่างไรก็ดี ในส่วนของทองคำไทยคาดว่าจะปรับขึ้นได้ 150 – 200 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรระยะสั้นแบบ Sideways ในกรอบ ลงซื้อขึ้นขายระยะสั้นๆไปก่อน

– นักลงทุนที่ถือ Long Position  
ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำเล่นสั้นๆในกรอบ ขึ้นขาย ลงซื้อปิดเพื่อทำกำไรในระยะสั้นๆเท่านั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

เน้นบริหารพอร์ตสมดุลตามการแกว่งตัวของราคา โดยคาดระยะสั้นเคลื่อนไหว Sideways

Gold Futures V20 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 29,100  บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 17 ก.ย.63 (SCT)

วิเคราะห์ราคาทองคำ

แนวรับ 1930/ 1923/1911 แนวต้าน 1960/1970/1990

                Gold/silver         USD              Baht            DOW (stock)

ระยะสั้น         SW                SW                SW                 SW UP  
ระยะกลาง   SW UP       SW DOWN     POSITIVE          SW UP
ระยะยาว    BULLISH      NEUTRAL      NEUTRAL        BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1930-60
จุดเข้า BUY 1920-35
เป้าหมาย 1970/1990
SL 1905

รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1900-2100
จุดเข้า BUY 1900/1880
เป้าหมาย 2090/2150
SL 1849

จับตา :

เมื่อคืนนี้สรุปได้ว่า FED จะคงดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ต่อไปอีก 3 ปี โดยนายโพเวล ยังมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอ่อนแอมากกว่าที่คาดไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงต่ำ FED ยังพร้อมทำทุกทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทุกสิ่งที่FED แถลงดีกับตลาดทองระยะยาวแต่ทองลงจนเช้านี้เพราะนักลงทุนผิดหวังว่าในเมื่อแย่แบบนี้ทำไมไม่ใช้ยาแรงหรือเพิ่มเครื่องมือการเงินดึงเศรษฐกิจเพิ่ม และจากนี้ไปนักลงทุนต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ ถ้าเริ่มไม่ดีเมื่อไหร่ FED ก็จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมซึ่งจะพาทองขึ้นต่อไป
ในทางเทคนิคคอล ราคาทองไม่สามารถยืนทะลุกรอบสามเหลี่ยมบนที่ $1970 ได้ นักลงทุนจึงเทขายทำกำไรมารอซื้อโซนกรอบสามเหลี่ยมล่างแถว$1925-40 แล้วรอดูตัวเลขใน1 -2 วันจากนี้ กลยุทธ์ : เทรดในกรอบสามเหลี่ยมรอ BREAKOUT ยังแนะเล่นสั้น และรอย่อซื้อช่วงราคาตกแรงแล้วขึ้นขายทำกำไร นักลงทุนระยะกลางซื้อสะสมตามแผนและ STOP 1905  

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 17 ก.ย.63 (YLG)

  แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยบริเวณแนวต้านโซน 1,960-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ แนะนำแบ่งทองคำออกขายเพื่อรอซื้อในโซน แนวรับ 1,941-1,936 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,936 1,919 1,902  แนวต้าน : 1,973 1,992 2,015

สรุป  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.15  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ราคาจะได้รับแรงหนุนจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่เฟดมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมส่งสัญญาณว่าเฟดจะ “ไม่มี” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยจนกว่าจะถึงปี 2023  รวมถึงปล่อยให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือ 2% ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ  ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ  1,973.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  หลังเฟดปรับ “เพิ่ม” คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ  โดยมองว่า GDP ปีนี้ จะหดตัวลดลงเหลือ-3.7% จากระดับ -6.5% ในการคาดการณ์เดือนมิ.ย. พร้อมปรับ “ลด” คาดการณ์อัตราการว่างงานในปีนี้ถึงปี 2022 ลงสู่ระดับ 7.6%, 5.5% และ 4.5% จาก ระดับ 9.3% 6.5% และ 5.5% รวมถึงปรับ “เพิ่ม” คาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ถึงปี 2022 ขึ้นสู่ระดับ 1.2%, 1.7% และ 1.8% ตามลำดับ  สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,957 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และร่วงลงต่อในช่วงเช้าวันนี้ในตลาดเอเชีย  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี) คาดทั้ง 2 ธนาคารกลางจะคงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลง  รวมถึงติดตามการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, การอนุญาตก่อสร้าง และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในส.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1% หลังจากทะยานขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค.
  • (+) “พาวเวล”ชี้กิจกรรมทางศก.สหรัฐยังต่ำ-ทิศทางศก.เผชิญความไม่แน่นอนสูงมาก  นายเจอโรม พาวเวล ประธานาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนที่สูงมาก  นายพาวเวลได้กล่าวถึงสถานการณ์ในตลาดแรงงานสหรัฐว่า “แม้ตัวเลขการจ้างงานเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากประชาชนเริ่มกลับเข้าทำงาน แต่อัตราว่างงานที่ระดับ 8.4% ในเดือนส.ค.ยังถือว่าสูงมาก และคาดว่าอัตราว่างงานอาจจะสูงกว่าข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รายงานอยู่ประมาณ 3% เมื่อพิจารณาจากอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (labor force participation) ที่ปรับตัวลดลง”  เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการกำหนด “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่เฟดได้แถลงการการประชุมล่าสุดนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า “เราพยายามสร้างสูตรบางอย่างขึ้นเพราะเราต้องการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ซึ่งหากเราดำเนินการตามสูตรนั้นแล้ว ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อก็จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2% ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เฟดอาจจะสูญเสียความสามารถในการสนับสนุนเศรษฐกิจได้”  นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า การเพิ่มมาตรการสนับสนุนด้านการคลังยังคงจำเป็นต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และธุรกิจขนาดเล็กยังคงเผชิญกับความยากลำบาก ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นก็ยังคงเผชิญกับภาวะตึงตัวด้านการเงิน
  • (+) CDC คาดชาวอเมริกันต้องรอถึง Q3/64 เพื่อให้มีวัคซีนต้านโควิดอย่างเพียงพอ  นายแพทย์โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ กล่าวคาดการณ์ว่า ชาวอเมริกันอาจจะต้องรอจนถึงไตรมาส 3 ของปีหน้าเพื่อที่จะมีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างเพียงพอที่จะช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ  นายแพทย์เรดฟิลด์กล่าวว่า เขาคาดว่าจะเริ่มมีการแจกจ่ายวัคซีนในเดือนพ.ย.หรือธ.ค.ปีนี้ แต่ในจำนวนจำกัดสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด เช่น บุคลากรด้านสาธารณสุข และจะต้องใช้เวลาอีก 6-9 เดือนเพื่อให้ชาวอเมริกันทั้งหมดสามารถได้รับการฉีดวัคซีน
  • (-) เฟดชี้เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้หดตัวน้อยกว่าคาด ขณะปรับลดตัวเลขว่างงาน  คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในวันนี้ และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566  นอกจากนี้ เฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเลขการว่างงานจะลดต่ำลง 
  • (-) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย.  สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 83 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  เมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 15 จุดในเดือนก.ย.
  • (-) ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลังเฟดเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจ  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ 93.1951 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9100 ฟรังก์ จากระดับ 0.9079 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.00 เยน จากระดับ 105.45 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3168 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3180 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1802 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1853 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7308 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2954 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2897 ดอลลาร์
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 36.78 จุด หลัง”พาวเวล”กังวลศก.สหรัฐ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดแรงงานของสหรัฐ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,032.38 จุด เพิ่มขึ้น 36.78 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,050.47 จุด ลดลง 139.85 จุด หรือ -1.25% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,385.49 จุด ลดลง 15.71 จุด หรือ -0.46%

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 17 ก.ย.63 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

เฟดส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงปี 2566

คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,950-1,973 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องและขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ เนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 1.1% สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และเฟดได้ระบุถึงการใช้นโยบายการเงินเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ซึ่งส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2566 ส่วนประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 825,000 ราย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 15.0 จากระดับ  17.2 ในเดือนส.ค.การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนส.ค. ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 1.51 ล้านยูนิต และ 1.47 ล้านยูนิต
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,950-1,973 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์และ1,930 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,958.80+5.001,950/1,9301,973/1,980

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,950-5028,750/28,50029,050/29,150

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,990-14028,950/28,68029,250/29,320

แนะนำซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์ (GF 28,680 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์ (GF 28,560 บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,920-1,930ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,959.00-6.301,952/1,9321,975/1,982

แนะนำซื้อเมื่อราคาGOU20ปรับลงมาที่1,932ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,922ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเริ่มอ่อนค่าลง เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ หลังจากเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 3.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 6.5% ซึ่ง USD Futures เดือนก.ย.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.25 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักหลังเฟดเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้และปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ 93.1951 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก 4.3 ดอลล์ก่อนนักลงทุนรู้ผลประชุมเฟด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะแถลงผลการประชุมสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์หรือ 0.22% ปิดที่ 1,970.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 เซนต์หรือ 0.04% ปิดที่ 27.476 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.88 รับสต็อกน้ำมันดิบร่วงเกินคาด,เฮอร์ริเคนถล่มอ่าวเม็กซิโก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนรายงานที่ว่าอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน “แซลลี” ส่งผลให้ต้องมีการการระงับการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกมากกว่า 1 ใน 4   สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.88 ดอลลาร์หรือ 4.9% ปิดที่ 40.16 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์หรือ 4.2% ปิดที่ 42.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 36.78 จุดหลัง”พาวเวล”กังวลศก.สหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากนายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดแรงงานของสหรัฐขณะที่ดัชนีNasdaq และS&P500 ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,032.38 จุดเพิ่มขึ้น 36.78 จุดหรือ +0.13% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,050.47 จุดลดลง 139.85 จุดหรือ -1.25% และดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,385.49 จุดลดลง 15.71 จุดหรือ -0.46%

ทูตจีนชี้สหรัฐบังคับขายกิจการTikTokเป็นการข่มเหงทางเศรษฐกิจ

นายจางหมิงเอกอัคราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป (EU) ออกมาประนามสหรัฐกรณีบังคับให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติว่าเป็น “การข่มเหงทางเศรษฐกิจ”  รวมทั้งโจมตีการที่EU กีดกันบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่โดยระบุถึงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของรัฐบาลในซีกโลกตะวันตกเพื่อสกัดการผงาดขึ้นมาของจีนนายจางให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับTiKTokในสหรัฐเป็นการพยายามครอบครองโดยการขู่บังคับขณะที่นักการเมืองสหรัฐบางกลุ่มพยายามที่จะสร้างเครือข่ายกวาดล้างโดยอ้างความชอบธรรมและผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากการข่มเหงทางเศรษฐกิจการแสดงความเห็นของนายจางสะท้อนให้เห็นถึงการตอบโต้จากฝั่งรัฐบาลจีนซึ่งก่อนหน้านี้จีนได้ประนามสหรัฐที่พุ่งเป้าโจมตีหัวเว่ยโดยไม่มีหลักฐานชี้ชัดและล่าสุดรัฐบาลจีนเรียกการบังคับขายกิจการTikTokว่าเป็น “การโจรกรรมเพื่อคว่ำบาตรชาติ”       ทั้งนี้ปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้ไบต์แดนซ์ขายธุรกิจTikTokในสหรัฐเนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยTikTokซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนั้นมีผู้ใช้งานราว100ล้านคนต่อเดือนในสหรัฐ

“ทรัมป์” ฟุ้งอีก 4 สัปดาห์มีวัคซีนต้านโควิด-19 พร้อมใช้งาน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้เพิ่มความหวังและความวิตกในขณะเดียวกันอีกครั้งเกี่ยวกับการอนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยเขาระบุว่าวัคซีนดังกล่าวอาจพร้อมใช้งานได้ภายใน 4 สัปดาห์ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างงานที่จัดขึ้นโดยสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า “คณะบริหารของรัฐบาลชุดก่อนหน้าอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีวัคซีนแต่เราจะได้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจจะใน 3 หรือ 4 สัปดาห์”    ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐแสดงความกังวลว่าทำเนียบขาวกำลังกดดันให้องค์การอาหารและยา (FDA) เร่งอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้ขณะที่บรรดาบริษัทที่พัฒนาวัคซีนดังกล่าวระบุร่วมกันว่าพวกเขาจะไม่เร่งการส่งมอบวัคซีนจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

“ทรัมป์” เตรียมพิจารณาดีล “ออราเคิล” ซื้อ “TikTok” หลังตรวจสอบข้อเสนอ

สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐเตรียมตัดสินใจว่าจะอนุมัติข้อเสนอของบริษัทออราเคิลคอร์ปในการเข้าซื้อกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐหรือไม่หลังให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงตรวจสอบข้อเสนอซื้อกิจการครั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่าคณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกำลังตรวจสอบข้อเสนอของบริษัทออราเคิลขณะที่ปธน.ทรัมป์ระบุว่ามีสัญญาณว่าทางคณะกรรมการฯจะสนับสนุนข้อเสนอครั้งนี้แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่าข้อเสนอในส่วนที่เปิดเผยออกมานั้นระบุว่าออราเคิลจะไม่ได้ซื้อธุรกิจTikTokโดยตรงแต่จะเป็นการลงทุนในติ๊กต็อกที่มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั่วโลกและจะมีฐานดำเนินงานในสหรัฐขณะที่ไบต์แดนซ์ (ByteDance) จะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่และผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 รายในไบต์แดนซ์ได้แก่General Atlantic, Sequoia Capital และCoatue Management จะยังคงถือหุ้นในธุรกิจใหม่ดังกล่าว

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 17 ก.ย.63 (CAF)

ออสสิริส

GoldOnlineFuture:Long
Reasons
มีโอกาสย่อตัวไปต่อ จากการประชุม FOMC

  • FED ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสหรัฐฯต่ำอีก 3 ปี(+Gold)
  • นายเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
    แต่ยังขยายตัวไม่เท่าก่อนเกิดโควิด-19 และมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสูง(+Gold)
  • สหรัฐฯห้ามบริษัทจีนจดทะเบียน ดันกระทบรายได้ของสถาบันทางการเงินสหรัฐฯ
    ทำให้ค่าธรรมเนียมที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ไหลออกจากสหรัฐฯ(+Gold)

Day Trade

GOU20 ย่อ Long 1,950-1,955 เป้าทำกำไร 1,965 -1,970 จุด Stop 1,945
GF10V20 Hold Long เป้าทำกำไร 29,300 -29,400 จุด Stop สิ้นวัน 29,000

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOU20 Hold Long จุด Stop 1,953
GF10V20 Hold Long จุด Stop 29,010

ขอขอบคุณ : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)