บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ส.ค.63 โดย GCAP GOLD

GCAP GOLD

แนวโน้มช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์

เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว

มุมมองทองคำภาคเช้า

ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองด้วยนักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีภาคการผลิต สาขาริชมอนด์ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบิการ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีภาคการผลิตสาขาแคนซัสคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์

เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,940 – 1,935 – 1,930
แนวต้าน 1,965 – 1,970 – 1,976

ทองคำดีดตัวขึ้นเช้าวันนี นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้นนักลงทุนยังสามารถเก็งกำไรทิศทางขาขึ้นได้

ขอขอบคุณ : บจ.จีแคป

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (SCT)

วิเคราะห์ราคาทองคำ

แนวรับ 1938/ 1923/1911 แนวต้าน 1965/1971/1980

                Gold/silver        USD                Baht          DOW (stock)


ระยะสั้น        SW                SW                  SW                 SW  
ระยะกลาง   SW UP       SW DOWN      POSITIVE         SW UP
ระยะยาว    BULLISH       NEUTRAL       NEUTRAL      BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1938-65

จุดเข้า BUY 1935-40
เป้าหมาย 1970/1990
SL 1905

รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1900-2100
จุดเข้า BUY 1920/1900
เป้าหมาย 2090/2150
SL 1900

จับตา

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทองผันผวนตามตลาดหุ้นและค่าเงินสหรัฐฯในกรอบสามเหลี่ยมในกราฟรายวันที่รอการระเบิดเลือกทิศทางขึ้นหรือลง สัปดาห์นี้ตัวแปรสำคัญคือการแถลงนโยบายการเงินโดยประธานเฟดพาวเวลล์ต่อรัฐสภาสหรัฐฯช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจการผลักดันกฎหมายเยียวยาโควิดที่ทั้งสองพรรคการเมืองกำลังถกเถียงจำนวนมูลค่าเงินอัดฉีดก่อนการเลือกตั้งในอีกเดือนเศษ ภาพรวมนักลงทุนผิดหวังเฟดที่ไม่กระตือรือล้นในการอัดเงินเพิ่มในสถานะการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีพอ ทำให้ราคาทองถูกมองข้าม ประกอบกับขาดสถานะการณ์ความตึงเครียดของจีนสหรัฐฯผลักดัน

กลยุทธ์

จับตาชุดตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศและแถลงการณ์ต่อรัฐสภา ว่าจะเป็นบวกหรือลบต่อราคาทองจึงค่อยเพิ่มน้ำหนักการลงทุน / นักลงทุนระยะสั้นแนะเล่นสั้นไวๆตามรอบ ระวังค่าเงินบาทผันผวน แม้การประท้วงจะไม่รุนแรงก็ตาม   

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (YLG)

YLG BULLION

เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว จนกว่าราคาจะทะลุด้านบน 1,960-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านให้ทยอยขายทำกำไร และทยอยซื้อคืนหากราคายังยืนเหนือโซน 1,941-1,931 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,931 1,916 1,902  แนวต้าน : 1,973 1,992 2,015

สรุป  ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.04  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง -0.05% ในวันศุกร์ ท่ามกลางแรงขายดอลลาร์จากความวิตกเกี่ยวกับการเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐ  หลังดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) จาก CB ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาด 1.2% ในเดือนส.ค. ส่วนตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐพุ่งขึ้น 52.9% สู่ระดับ 1.705 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี นอกจากนี้  ราคาทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน  หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศในวันศุกร์จะบล็อกการดาวน์โหลด WeChat และTikTok ทำให้แอปเปิลและกูเกิลจะต้องลบแอป WeChat และ TikTok ออกจากแอปสโตร์ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ  1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงปลายตลาด  ส่งผลให้ราคาร่วงลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +12.86 ตัน สำหรับวันนี้ต้องติดตามความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐ  ที่แม้ดูเหมือนจะคลี่คลายลงในช่วงสุดสัปดาห์  หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุในภายหลังว่าพร้อมหนุนดีลที่อนุญาตให้ TikTok ดำเนินกิจการในสหรัฐต่อได้  ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เลื่อนคำสั่งแบน TikTok ไปเป็นวันที่ 27 ก.ย. แต่ภาพรวมยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน  รวมไปถึงติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟด, นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก กังวลโควิดถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.05% สู่ระดับ 92.9273 เมื่อคืนนี้ และปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.55 เยน จากระดับ 104.69 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9101 ฟรังก์ จากระดับ 0.9089 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3192 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3174 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1853 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1838 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.2924 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2960 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7299 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7304 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 244.56 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดตลาด  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นด้านการคลังรอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ, ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ และนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างซบเซา  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,657.42 จุด ลดลง 244.56 จุด หรือ -0.88%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,319.47 จุด ลดลง 37.54 จุด หรือ -1.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,793.28 จุด ลดลง 116.99 จุด หรือ -1.07%
  • (+) สหรัฐเผยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งมากกว่า 50% ใน Q2/63  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐพุ่งขึ้น 52.9% สู่ระดับ 1.705 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี หลังจากขาดดุล 1.115 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก  ตัวเลขขาดดุลในไตรมาส 2 เทียบเท่ากับสัดส่วน 3.5% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยสูงกว่าระดับ 2.1% ของไตรมาสแรก
  • (+) Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจชะลอตัวในเดือนส.ค.  Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 1.2% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 2% ในเดือนก.ค.และ 3.1% ในเดือนมิ.ย.
  • (+) จีนตอบโต้สหรัฐทันควัน ออกข้อบังคับบริษัทต่างชาติเป็นภัยต่อความมั่นคง  กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกข้อบังคับใหม่ในวันนี้สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ “นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ” โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทต่างชาติที่จีนระบุว่าเป็นอันตรายต่ออธิปไตย, ความมั่นคง หรือผลประโยชน์ด้านการพัฒนาประเทศ  ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว อาจถูกห้ามนำเข้าหรือส่งออกสินค้าจากจีน รวมทั้งอาจถูกห้ามไม่ให้ลงทุนในจีนด้วย  นอกจากนี้ จีนยังกำหนดมาตรการอื่นๆ ได้แก่ การเรียกเก็บค่าปรับ, การห้ามเข้าประเทศ และการเพิกถอนใบอนุญาตทำงานหรือการพำนักอาศัยของพนักงานบริษัทต่างชาติเหล่านั้น
  • (+) “ไบต์แดนซ์” ร้องศาลสหรัฐคว่ำคำสั่ง “ทรัมป์” แบน TikTok  สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ว่า บริษัทไบต์แดนซ์ของจีนซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐในกรุงวอชิงตันเมื่อคืนวานนี้ (18 ก.ย.) เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามประชาชนในสหรัฐทำการดาวน์โหลดแอปติ๊กต็อกตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป
  • (-) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสูงกว่าคาดในเดือนก.ย.  ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.9 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 75.0 จากระดับ 74.1 ในเดือนส.ค.
  • (-) “ทรัมป์” เผยพร้อมหนุนดีลที่อนุญาตให้ TikTok ดำเนินกิจการในสหรัฐต่อได้  สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าววานนี้ว่า เขาสนับสนุน “แนวทาง” ของข้อเสนอที่อาจปูทางให้แอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) สามารถดำเนินกิจการในสหรัฐต่อไปได้  กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า “มีความคืบหน้าเชิงบวก” เกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว พร้อมระบุว่า สหรัฐจะเลื่อนคำสั่งที่ให้แอปเปิลและกูเกิลลบติ๊กต็อกออกจากแอปสโตร์ จากเดิมซึ่งจะมีผลคืนในวันนี้ เป็นวันที่ 27 ก.ย. แทน

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

เงินบาทแข็งค่ากดดันราคาทองคำไทยหนัก (ShiningGold)

แนวต้าน 1,959-61 ดอลลาร์ 1,967 ดอลลาร์ และ 1,978 ดอลลาร์
แนวรับ 1,939-36 ดอลลาร์ 1,926 ดอลลาร์  และ1,911 ดอลลาร์

ShiningGold : มีข่าวดีเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 เมื่อ  2 บริษัทจากจีนผ่านการรับรองวัคซีนจาก WHO เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มผลิตละวางจำหน่าย พ.ย.โดยคาดว่า ธ.ค.ชาวจีนหลายล้านคนจะได้ใช้งานแต่ถือเป็นข่าวลบสำหรับราคาทองคำ

อย่างไรก็ดีแต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวล ก็คือ 2 บริษัทนี้สามารถผลิตวัคซีนได้ปีละ 300 ล้านโดส รวม 2 แหล่งก็ 600 ล้านโดส จะเพียงพอต่อประชากรจีนหรือไม่ และก็ไม่มีการระบุว่า 1 คนต้องใช้กี่โดส อีกทั้งประสิทธิภาพการคุ้มครองก็เพียง 36 เดือนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นข่าวดี ซ้อนในความกังวลในอนาคตอีกทอด

ทำให้นักลงทุนใช้โอกาสนี้ย่อตัวเสี่ยง Open Long 2 จุด เคร่งครัด Stop-loss เนื่องจากมุมคิดในแง่นี้ เชื่อว่านักลงทุนแต่ละท่านย่อมต่างกัน

นักลงทุนระยะสั้น : รอราคาย่อตัว เปิด Open Long ที่ระดับ 1,939-36 ดอลลาร์ และ1,926 ดอลลาร์ ตั้ง SLที่ระดับ 1,919 ดอลลาร์

ส่วนการคาดการณ์ราคาทองคำไทย  แนวต้าน บาทละ 28,690-710 บาท  28,845 บาท และ 28,960 บาท ส่วนแนวรับ บาทละ 28,555 บาท 28,295 บาท และ 28,075 บาท  ทั้งในภาพรวมราคาทองคำใสนประเทศ ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินทำให้ราคาทองคำไทยมีราคาถูกลง นักลงทุนรอราคาย่อตัวเข้าซื้อตามแนวรับเล่นรอบ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวหลังจากที่มีการปรับตัวลดลงจากถ้อยแถลงของเฟด โดยจะเห็นได้จากทองคำที่ทรงตัวบริเวณ 1,950 เหรียญ จากความคาดหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้น้อยลง และคาดว่าเศรษฐกิจจะช้าลงได้น้อยกว่าคาด ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาแถว 92.85 จุดในเช้านี้ ทางด้านเงินบาทกลับมาแข็งค่าลงอย่างรวดเร็วและหลุด 31 บาท/ดอลลาร์ลงมา โดยเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 30.97 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมของ SPDR ไม่ได้ทำอะไรยังถือครองทองคำเท่าเดิม ทางด้านวันศุกร์ที่ผ่านมาข้อมูล Prelim UoM Consumer Sentiment ทีออกมาดีขึ้น ขณะที่คืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ แต่จะมีถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดตอนประมาณ 22.30น.

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways เป็นลักษณะ Symmetrical Triangle โดยมีกปลายแหลมที่ 1,960 เหรียญ หรือภายในอีก 1 สัปดาห์ ดังนั้น คาดทองคำจะมีกรอบแนวรับ 1,940 เหรียญ และแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,965 เหรียญ แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Wait&See รอคอยความชัดเจนของทิศทางต่อไป โดย Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,942 เหรียญ และแนวต้าน 1,970 เหรียญ สำหรับ Gold Comex คาดจะมีแนวรับ 1,947 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ ทางด้านทองคำไทยคาดว่าจะเปิดทรงตัวในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง เน้นบริหารพอร์ตสมดุล

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ทำกำไรระยะสั้นๆ เน้นบริหารพอร์ตรอความชัดเจนของทิศทาง

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

ไม่แนะนำให้ทำสถานะเพิ่ม แต่รอความชัดเจนของทิศทาง บริหารพอร์ตสมดลุ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง บริหารพอร์ตสมดุล ไม่ใช้ Leverage มากนัก

Gold Futures V20 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 29,100  บาท

ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (CAF)

ออสสิริส

GoldOnlineFuture:Short
Reasons
กลับมาอยู่ฝั่ง Short แนวต้านสำคัญ 1,960

  • ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน แย่ลงไปทุกที หลังจีนตอบโต้สหรัฐฯ
    โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกข้อบังคับใหม่ในวันนี้สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ
    “นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ” โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทต่างชาติที่จีนระบุว่าเป็นอันตรายต่ออธิปไตย, ความมั่นคง
    หรือผลประโยชน์ด้านการพัฒนาประเทศ

Day Trade

GOU20 รีบาวด์ Short 1,950-1,955 เป้าทำกำไร 1,935 -1,942 จุด Stop 1,960
GF10V20 Short 29,000 -29,120 เป้าทำกำไร 28,700 -28,800 จุด Stop สิ้นวัน 29,220

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOU20 Hold Short จุด Stop 1,960
GF10V20 Hold Short จุด Stop 29,220

ขอขอบคุณ : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

กองทุน SPDRขายทองคำ1.02 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัปดาห์นี้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ  1,930-1,960 ดอลลาร์

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spotปรับขึ้นแตะแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และเฟดได้ระบุถึงการใช้นโยบายการเงินเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ซึ่งส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2566 แต่ทองคำเริ่มมีแรงเทขายออกมา หลังจากเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 3.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 6.5%รวมทั้งไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ1.02 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน  ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ  1,930-1,960 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,960 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,973 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์และ1,920 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,950.30+6.41,930/1,9201,960/1,973

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,650-5028,450/28,30028,800/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,890-6028,620/28,48028,960/29,110

แนะนำซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์ (GF 28,620 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์ (GF 28,500 บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,920-1,930ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,957.60-3.901,935/1,9251,965/1,978

แนะนำซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่1,935 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,925ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าโดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักกังวลโควิดถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้วและเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าวดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลบ 0.05% สู่ระดับ 92.9273 เมื่อคืนนี้และปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก 12.2 ดอลล์กังวลเศรษฐกิจหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองด้วยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 ดอลลาร์หรือ 0.63% ปิดที่ 1,962.1 ดอลลาร์/ออนซ์และในรอบสัปดาห์นี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.7%สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 เซนต์หรือ 0.11% ปิดที่ 27.129 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 14 เซนต์หลังโอเปกพลัสยันลดการผลิตตามข้อตกลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์หรือ 0.3% ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์/บาร์เรลและปรับตัวขึ้น 10.1% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 43.15 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่เพิ่มขึ้น 8.3% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดร่วง 244.56 จุดแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันโดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นด้านการคลังรอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ, ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐและนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างซบเซาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,657.42 จุดลดลง 244.56 จุดหรือ -0.88%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,319.47 จุดลดลง 37.54 จุดหรือ -1.12% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 10,793.28 จุดลดลง 116.99 จุดหรือ -1.07%

“ทรัมป์” ทวีตแสดงความยินดี-หวังคุย “ซูงะ” ผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่เร็วๆนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐแสดงความยินดีกับนายโยชิฮิเดะซูงะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวานนี้เนื่องในโอกาสที่นายซูงะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายชินโซอาเบะและเปิดเผยว่าเขาหวังที่จะได้พูดคุยกับผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้นี้สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าบรรดาผู้นำโลกหลายคนต่างก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการด้านความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งสาธารณะก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 และปธน.ทรัมป์ยังดำเนินนโยบายการทูตที่ไม่สามารถคาดเดาได้และไม่เป็นไปตามแบบแผนอย่างไรก็ตามนายชินโซอาบะอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับปธน.ทรัมป์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาเล่นกอล์ฟด้วยกันโดยปธน.ทรัมป์เรียกนายอาเบะว่า “เพื่อนที่ดีมากของผม”    ด้านนายซูงะนั้นต่างจากนายอาเบะและสมาชิกสภานิติบัญญัติรายอื่นๆโดยนายซูงะไม่ได้มีเชื้อสายจากบุคคลในแวดวงทางการเมืองทั้งนี้นายซูงะเป็นบุคคลสาธารณะในรัฐบาลของนายอาเบะมาตลอดเกือบ 8 ปีโดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและจัดงานแถลงข่าววันละ 2 ครั้งในฐานะโฆษกระดับสูงของรัฐบาล

“ทรัมป์” เตรียมกล่าวสุนทรพจน์ประชุมUN จากทำเนียบขาวอังคารหน้า

นายมาร์กมีโดวส์หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์จะไม่เดินทางไปยังนิวยอร์กเพื่อร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในวันอังคารที่ 22 ก.ย.แต่จะแถลงสุนทรพจน์จากทำเนียบขาวแทนเนื่องจากเขาติดภารกิจหาเสียงเลือกตั้งที่รัฐวิสคอนซินทั้งนี้ตามธรรมเนียมปฏิบัตินั้นผู้นำสหรัฐจะต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เป็นลำดับที่สองต่อจากบราซิลในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของUN

แหล่งข่าวเผยดีล”ออราเคิล-ติ๊กต็อก”ลงตัวแล้วหลัง”ไบต์แดนซ์”ให้สหรัฐถือหุ้นใหญ่

แหล่งข่าวระบุว่าผลการเจรจาล่าสุดระหว่างรัฐบาลสหรัฐและไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ปรากฏว่าไบต์แดนซ์ยินยอมให้บริษัทสหรัฐเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อกิจการติ๊กต็อกแหล่งข่าวเปิดเผยว่านักลงทุนสหรัฐซึ่งรวมถึงออราเคิลคอร์ปและวอลมาร์ทจะเข้าถือหุ้นอย่างน้อย 60% ในติ๊กต็อกและบริษัทแห่งใหม่จะมีชื่อว่า “ติ๊กต็อกโกลบอล”    ทั้งนี้บอร์ดบริหารของติ๊กต็อกโกลบอลจะมีกรรมการส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันและชาวอเมริกันจะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารนอกจากนี้ออราเคิลจะเข้าถือหุ้นในติ๊กต็อกโกลบอลจำนวน 20% และผู้บริหารของวอลมาร์ทจะเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของบริษัทแหล่งข่าวระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เตรียมตัดสินใจว่าจะให้การอนุมัติต่อข้อเสนอของออราเคิลในการซื้อกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐหรือไม่ภายในเวลา 24-36 ชั่วโมงแหล่งข่าวเปิดเผยว่าปธน.ทรัมป์ได้หารือกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีรวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาแล้วก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

จีนเปิดฉากซ้อมรบใกล้ช่องแคบไต้หวัน ขณะทูตสหรัฐเยือนไต้หวัน

          พันเอกเหริน กั๋วเฉียง เปิดเผยว่า กองทัพภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชน เริ่มทำการฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์บริเวณช่องแคบไต้หวันเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่าเป็นการกระทำโดยชอบของกองทัพจีนเพื่อส่งเสริมความมั่นคง อำนาจอธิปไตย และสิทธิในอาณาเขตของจีน พร้อมกับกล่าวด้วยว่า ความพยายามของไต้หวันที่จะประกาศเอกราชโดยร่วมมือกับประเทศอื่นนั้น “เป็นเพียงฝันกลางวัน” เท่านั้น  ทั้งนี้ จีนได้ยกระดับกิจกรรมทางทหารในน่านน้ำหลังประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินแห่งไต้หวัน ได้รับการสนับสนุนทางการทหารและการทูตจากสหรัฐและพันธมิตรมากขึ้น

ขอขอบคุณ: บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 18 ก.ย.63 (YLG)

ซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว มีลุ้นที่ราคาอาจทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,960-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,936-1,931 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,931 1,916 1,902  แนวต้าน : 1,973 1,992 2,015

สรุป  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 12.07  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ในระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงโดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  อันเนื่องมาจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่เฟดปรับ “เพิ่ม” คาดการณ์เศรษญกิจสหรัฐ  ขณะที่เดียวกัน  เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Dovish) มากเท่าที่นักลงทุนบางส่วนคาดหวังไว้  นั่นกระตุ้นให้นักลงทุนที่ถือสถานะขาย(Short) ในสกุลเงินดอลลาร์มีการปิดสถานะออกมา  ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์  หลังจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE)มีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.10% ขณะที่ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบาย “อัตราดอกเบี้ยติดลบ” หากมีความจำเป็น  ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 93.592 จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,931.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  สกุลเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าในที่สุดเนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังซึมซับข่าวการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่วนใหญ่ออกมา “แย่” เกินคาด  อาทิ  จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงาน, ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างบ้าน  ซึ่งช่วยให้ราคาทองคำลดช่วงติดลบลง  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -0.59 ตัน สู่ระดับ 1,246.98 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจาก Conference Board, คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จาก UoM

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อน หลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำ 3 ปี  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.69 เยน จากระดับ 105.00 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9089 ฟรังก์ จากระดับ 0.9100 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3174 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3168 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1838 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1802 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2960 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2954 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 130.40 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,ข้อมูลศก.ซบเซา  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,901.98 จุด ลดลง 130.40 จุด หรือ -0.47% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,910.28 จุด ลดลง 140.19 จุด หรือ -1.27% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,357.01 จุด ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.84%
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านต่ำกว่าคาดในเดือนส.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 5.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.416 ล้านยูนิต หลังจากพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.478 ล้านยูนิต จากระดับ 1.492 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.   นอกจากนี้ การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 0.9% สู่ระดับ 1.470 ล้านยูนิต
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 893,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
  • (-) ปอนด์วูบ ผวาแบงก์ชาติอังกฤษส่งสัญญาณใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ  ปอนด์ร่วงลงเทียบดอลลาร์และยูโร หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น  ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดิ่งลง 0.66% สู่ระดับ 1.288 ดอลลาร์ และร่วงลง 0.58% สู่ระดับ 0.916 เทียบยูโร  BoE จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ขณะที่ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น 
  • (+/-) “ทรัมป์”เตรียมชี้ชะตาดีล”ออราเคิล-ติ๊กต็อก”ในอีก 24-36 ชม.  แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมตัดสินใจว่าจะให้การอนุมัติต่อข้อเสนอของบริษัทออราเคิล คอร์ป ในการซื้อกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐหรือไม่ ภายในเวลา 24-36 ชั่วโมง  แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ได้หารือกับสมาชิกคณะรัฐมนตรี รวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาแล้ว ก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย 
  • (+/-) แหล่งข่าวเผยดีล”ออราเคิล-ติ๊กต็อก”ลงตัวแล้ว หลัง”ไบต์แดนซ์”ให้สหรัฐถือหุ้นใหญ่  แหล่งข่าวระบุว่า ผลการเจรจาล่าสุดระหว่างรัฐบาลสหรัฐและไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ปรากฎว่า ไบต์แดนซ์ยินยอมให้บริษัทสหรัฐเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อกิจการติ๊กต็อก  แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นักลงทุนสหรัฐ ซึ่งรวมถึงออราเคิล คอร์ปและวอลมาร์ทจะเข้าถือหุ้นอย่างน้อย 60% ในติ๊กต็อก และบริษัทแห่งใหม่จะมีชื่อว่า “ติ๊กต็อก โกลบอล” ทั้งนี้ บอร์ดบริหารของติ๊กต็อก โกลบอลจะมีกรรมการส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน และชาวอเมริกันจะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  นอกจากนี้ ออราเคิลจะเข้าถือหุ้นในติ๊กต็อก โกลบอลจำนวน 20% และผู้บริหารของวอลมาร์ทจะเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของบริษัท
  • (+/-) เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจสอดคล้องคาดการณ์ในเดือนก.ย.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ลดลงสู่ระดับ 15.0 ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 17.2 ในเดือนส.ค.

ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 18 ก.ย.63 (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้งหลังจากที่มีการดีดตัวสูงขึ้นในช่วง 2 วันก่อน โดยไปทดสอบแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,930 เหรียญ ก่อนจะกลับมาทดสอบ 1,950 เหรียญในตลาด Comex ภาพรวมนักวิเคราะห์ยังคงตีความว่าการที่ดอกเบี้ยต้องคงตัวในระยะยาวและการต้องมี QE รวมทั้งหลายๆฝ่ายมองว่าควรมี QE เพิ่มในช่วงไตรมาสต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ตลาดมองในระยะยาวดอลลาร์มีแนวโน้มเป็นขาลงหรืออ่อนค่า โดยที่ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นไปบริเวณ 93.50 จุด และปรับลงมาต่ำกว่า 93 อีกครั้งหนึ่ง และทำให้ภาพรวมของค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในเช้านี้หลังจากที่ปรับขึ้นไป 31.23 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้อยู่ที่ 31.13 บาท/ดอลลาร์ ในส่วนของดัชนีดาวโจนส์และ Nasdaq ปรับลงเล็กน้อย ในขณะที่ภาพรวมของค่าเงินโดยภาพรวมยังมองว่าดอลลาร์มีโอกาสที่จะอ่อนค่าลง ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนดีเล็กน้อย โดยข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดีขึ้นบ้างเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน และ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาแย่ลง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways เช่นเดิม ตามที่ได้วิเคราะห์ โดยที่วันนี้คาดว่าราคาจะอยู่ในกรอบแนวรับ 1,940 เหรียญ และแนวต้าน 1,965 เหรียญใน Gold Spot สำหรับ  Gold Online Futures จะมีแนวรับ 1,943 เหรียญ และแนวต้าน 1,970 เหรียญ ด้าน Gold Comex จะมีแนวรับ 1,948 เหรียญ และแนวต้าน 1,980 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยคาดจะปรับขึ้นมาประมาณ 100 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ Sideways

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้นๆในกรอบ

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำบริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุลกับทิศทาง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนะนำให้บริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุลกับทิศทาง ไม่แนะนำให้ใช้ Leverage มากนัก

Gold Futures V20 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 29,100 บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

Rebound Open Short เคร่งครัด SL (ShiningGold)

Shining Gold

แนวต้าน 1,957 ดอลลาร์ 1,975-77 ดอลลาร์ และ1,988 ดอลลาร์
แนวรับ 1,943 ดอลลาร์ 1,937 ดอลลาร์ และ1,925 ดอลลาร์

(ShiningGold) ราคาทองคำเล่นอยู่กับความรู้สึก และอารมณ์อ่อนไหวของนักลงทุนเป็นหลัก ทั้งความไม่มั่นใจว่าวัคซีนจะพร้อมใช้งานครั้งแรกเมื่อใด ก่อนหรือหลังการเลือกตั้งสหรัฐ วัคซีนจะถูกเป็นเกมส์ทางการเมืองของสหรัฐหรือไม่ ในเมื่อสหรัฐก็แทบจะมีหุ้นส่วนหรือ Deal

เกือบแทบทุกจะคลินิกที่ทดลองในระยะ 2 และ 3 และสุดท้ายหากมีการใช้งานจะมีประสิทธิ ภาพหรือไม่ ความรวดเร็วที่มาก่อนการคาดการณ์จะทำให้เชื่อใจสนิทได้ถึงความปลอดภัยหรือไม่ จึงเป็นให้ทองคำย่อตัวเสร็จและกลับขึ้นมาใหม่อย่างนี้อยู่บ่อยครั้งเลย

นักลงทุนระยะสั้น : Rebound Open Short ที่ 1,957 ดอลลาร์ 1,975-77 ดอลลาร์ ตั้ง SLที่ 1,983 ดอลลาร์

ส่วนการคาดการณ์ราคาทองคำไทย  แนวต้าน บาทละ 28,735-55 บาท  28,845 บาท และ28,905 บาท แนวรับบาทละ 28,625 บาท 28,525 บาท และ28,405 บาท ทั้งนี้การลงทุนทองคำไทยให้รอราคาย่อตัว จึงเข้าซื้อตามแนวรับเพื่อเล่นรอบ และจะเริ่มสะสมเมื่อราคาใกล้เคียงกับแนวรับที่ 3