หมวดหมู่: ข่าวทองคำรอบโลก

ฺเว็บไซต์ GoldAround.com เป็นเว็บข่าวสาร ที่ให้การรายงานข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกเป็นที่สำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงิน

บทความที่มีการรายงานข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งตลาดทองคำระดับโลกและปัจจัยที่มีผลต่อราคา เช่น ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ส่งผลต่อราคาทองคำ และการวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

บทความข่าวสารที่ครอบคลุมราคาทองคำรอบโลกยังควรพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก เช่น การวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ข่าวสารเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจมีผลต่อตลาดทองคำ

การวิเคราะห์แนวโน้มและการทำนาย

บทความข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกอาจมีการวิเคราะห์และการทำนายแนวโน้มของราคาทองคำในระยะยาวและระยะสั้น โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคและการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่มีความสมบูรณ์และมั่นคง

การตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้

ความน่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ บทความข่าวสารราคาทองคำรอบโลกควรเน้นการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลจากแหล่งที่มีความเชื่อถือได้ เช่น สำนักข่าวที่มีชื่อเสียง, หน่วยงานทางการเงิน, หรือนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดทองคำ

การให้คำแนะนำและความเข้าใจ

เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจและสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความข่าวสารราคาทองคำควรให้คำแนะนำที่ไม่เป็นทางการแต่เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุน และเน้นการเสนอข้อมูลที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทองคำในมุมมองที่เป็นรูปแบบและมีประสิทธิภาพ

การรายงานข่าวสารราคาทองคำรอบโลกมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงินได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม และควรนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการตัดสินใจการลงทุนของตนเองอย่างมั่นใจและอิสระ

goldbullion by GoldAround
goldbullion by GoldAround
  • กูรู ฝั่งอเมริกาเชื่อราคาทองคำจะทะยานไปแตะ 1,700 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ (Kitco)

    กูรู ฝั่งอเมริกาเชื่อราคาทองคำจะทะยานไปแตะ 1,700 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ (Kitco)

    7 เมษายน 2563

    (Kitco News)หลังจากที่ได้เกิดข่าวลือเรื่องวิกฤตตลาดการเงินจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด -19 ทำให้นักลงทุนหันกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับคลื่นลูกที่สองที่อาจเกิดขึ้น โดยราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% นักวิเคราะห์ยังมองว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบหลายปีในสัปดาห์นี้ หลังโกลด์ฟิวเจอร์ส เดือน มิถุนายน ซื้อขายล่าสุดที่ 1,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5% และสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น โดย S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 4.5% ในวันจันทร์

    Jim Wyckoff นักวิเคราะห์อาวุโส ของ Kitco.com กล่าวว่า สถานการณ์เช่นนี้ เป็นโอกาสดีของตลาดทองคำ การที่นักลงทุนหันมาสนใจ เป็นตัวบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และเชื่อว่าการระบาดของโรค Coronavirus อาจจะทวีความรุนแรงขึ้น และนักลงทุนจะหันไปใช้กลยุทธ์ในการลงทุนระยะยาวมากขึ้น

    ขณะที่ Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่ายอดขายในตลาดที่น่าตกใจมาก หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบลง หลังตลาดการเงินได้รับผลกระทบจากความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกได้ประกาศปิดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นทั้งหมด และขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพื่อชะลอการแพร่กระจายของโคโรนา ไวรัส โควิด-19 ในเวลาเดียวกันรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกได้ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาดการเงินเพื่อทำให้เศรษฐกิจยังขับเคลื่อนไปได้ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    ด้าน Kevin Grady ประธานฟีนิกซ์ฟิวเจอร์สและออปชั่นแอลแอลซี กล่าวว่า การปรับตัวของราคาทองคำล่าสุด ทำให้มองเห็นอนาคตชัดเจนมากขึ้น ซึ่งความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อทองคำ เนื่องจากตลาดตราสารทุนได้รับผลกระทบจากการพิมพ์เงินจำนวนมากและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และเชื่อว่าทองคำยังคงน่าสนใจ เพราะคาดว่าตลาดหุ้นจะยังคงอยู่ในช่วงขาลง

    แม้ว่าวันนี้ดัชนีในตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวแล้วไม่มองว่ายังไม่ดี เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าคนจะถูกบังคับให้อยู่บ้านนานแค่ไหน และคิดว่าเราควรจะดูการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างน้อยก็ในไตรมาสที่สี่

    Kevin Grady

    ที่มา : KITCO.com

  • YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    1 เมษายน 2563

    S&P คาด ศก.โลกขยายตัวต่ำสุด เหลือเพียง 0.4 เปอร์เซ็นต์

    หลังจากเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญความผันผวนจาก จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้หลายประเทศต้องสั่งปิดเมืองเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทำให้นายพอล กรูเอนวาล์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โลกของ S&P Global Ratings ระบุว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ถูกแต่ละประเทศหยิบมาใช้ในขณะนี้ ได้ส่งผลต่อกิจกรรมเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ทำให้ S&P ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เพียง 0.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ การทรุดตัวของเศรษฐกิจปี 1982 ที่การเติบโตของโลกอยู่ที่ระดับ 0.43 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นช่วงขาลงทางการเงินรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในปี 1929-1933

    อย่างไรก็ดี S&P ได้คาดการณ์ว่าในปีหน้า (2021) เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัว โดยจะขยายตัวในระดับ 4.9 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ก่อนการระบาดของโควิด-19 ทาง S&P ได้คาดการณ์ว่าในปีนี้ เศรษฐกิจโกลจะโต 3.3 เปอร์เซ็นต์

    “โกลด์แมน แซคส์”คาด GDP สหรัฐ ไตรมาสแรกลด 9%

    โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ ในไตรมาสแรกปีนี้ จะลดลง 9% ขณะที่ ไตรมาส 2 จะลดลงถึง 34% ซึ่งจะเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

    อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ ยังได้คาดการณ์ต่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาดีดตัว 19% ในไตรมาส 3 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อรวมตัวเลขทั้งปีนี้คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะลดลง 6.2% ซึ่งจะเป็นตัวเลขการขยายตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังคาดว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะ 15% ในปีนี้ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 9%

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • IMF ชี้ศก.โลกปีนี้จะเลวร้าย คาดใช้เวลา 2 ปี ถึงจะฟื้นตัว

    IMF ชี้ศก.โลกปีนี้จะเลวร้าย คาดใช้เวลา 2 ปี ถึงจะฟื้นตัว

    นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กล่าวถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยที่เลวร้ายพอๆ กับในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก และคาดว่าจะใช้เวลาถึง 2 ปีถึงจะฟื้นตัวขึ้น หรือจะฟื้นตัวในปี 2564

    ทั้งนี้ เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ การควบคุมและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสุขภาพในทุก ๆ ประเทศ หากสามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วเท่านั้น

  • YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำในวันนี้ (19 มี.ค.63)

    YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำในวันนี้ (19 มี.ค.63)

    19 มีนาคม 2563

    ปธ.ECB เตือนมาตรการปิดประเทศฉุดเศรษฐกิจหดตัว

    นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า มาตรการปิดประเทศที่หลายประเทศในยุโรปกำลังใช้อยู่ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปหดตัวลง 5% โดยการคาดการณ์ดังกล่าวมาจากสมมติฐานที่ว่า การปิดประเทศจะดำเนินไปเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมชี้การปิดประเทศในแต่ละเดือนจะทำให้ EU มีการขยายตัวลดลง 2.1%

    วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวร่างกม.เยียวยาผลกระทบโควิด-19

    วุฒิสภาสหรัฐมีมติ อนุมัติร่างกฎหมาย “Families First Coronavirus Response Act” เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะครอบคลุมถึงการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟรี และการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ลาป่วยจากการติดเชื้อ และช่วยเหลือประชาชนที่อาจตกงานจากผลกระทบของไวรัส โควิด-19 โดยคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีวงเงินสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

    ดอลล์แข็งรับมาตรการเยียวยาศก.ของสหรัฐ

    ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังนักลงทุนคาดหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะบังคับใช้มาตรการเยียวยาหลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 โดยดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.95 เยน จากระดับ 107.82 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9694 ฟรังก์ จากระดับ 0.9614 ฟรังก์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0872 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1000 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1596 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2094 ดอลลาร์

    ดาวโจนส์ปิดร่วง 1,338.46 จุด – ราคาน้ำมันทรุด

    เมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 1,338.46 จุด หรือ 6.30% มาอยู่ที่ 19,898.92 จุด โดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลง อย่างไรก็ดี ดัชนีสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

    ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,398.10 จุด ลดลง 131.09 จุด หรือ -5.18% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,989.84 จุด ลดลง 344.94 จุด หรือ -4.70%

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    18 มีนาคม 2563

    สหรัฐฯ ทุ่มงบอุ้มชาวอเมริกัน บรรเทาผลกระทบโควิด-19

    นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะมอบเงินจากกองทุนฉุกเฉินให้แก่ชาวอเมริกัน เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะจ่ายเช็คให้แก่ชาวอเมริกันในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ภาคธุรกิจสามารถเลื่อนการชำระภาษีเป็นจำนวนเงินมากถึง 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนบุคคลธรรมดาสามารถเลื่อนการชำระภาษีเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งหมดเป็นเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8.5 แสนล้านดอลลาร์ และตั้งวงเงินช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์

    เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ.

    ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว

    ขณะที่สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 411,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.0 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.

    ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1,048.86 จุด ขานรับมาตรการสู้โควิด-19 ของรัฐบาล

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปิดเพิ่มขึ้น 1,048.86 จุด หรือ 5.20% มาปิดที่ 21,237.38 จุด หลังได้แรงหนุนจากมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศแผนซื้อคืนพันธบัตรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน โดยมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

    ขณะที่ S&P500 ปิดที่ 2,529.19 จุด เพิ่มขึ้น 143.06 จุด หรือ 6.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,334.78 จุด เพิ่มขึ้น 430.19 จุด หรือ 6.23%

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    17 มีนาคม 2563

    WHO เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตจากโควิด-19

    นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศต่าง ๆ มีจำนวนมากกว่าในจีน โดย มีผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 มากกว่า 83,000 ราย ซึ่งมากกว่าในจีน ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,400 ราย

    IMF เล็งอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านดอลล์เยียวยาพิษโควิด-19

    นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย IMF สามารถใช้เงินจากกองทุนฉุกเฉินที่มีความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ที่มีความต้องการเร่งด่วนในด้านดุลการชำระเงิน

    “ขณะนี้ IMF เตรียมจัดทำข้อตกลง 40 ฉบับ ทั้งสำหรับการเบิกจ่าย และเตรียมการล่วงหน้า รวมวงเงินราว 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการเตรียมการเหล่านี้จะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งสำหรับการเบิกจ่ายเงินกู้อย่างรวดเร็วในช่วงเกิดวิกฤตการณ์” นางจอร์จีวากล่าว

    เตือนโควิด-19 ในสหรัฐรุนแรงสุดช่วงปลาย เดือน เม.ย.

    นายสก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในสหรัฐ จะมีความรุนแรงมากที่สุดในช่วงปลาย เดือน เม.ย. ถึงต้น เดือน พ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า การระบาดของไวรัส โควิด-19 ในสหรัฐจะมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ พร้อมระบุการใช้มาตรการหลีกเลี่ยงการชุมนุมของคนหมู่มาก ควรดำเนินต่อไปเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ เพื่อลดการแพร่ระบาดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภค

    นอกจากนี้ นายก็อตต์ลิเอ็บยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้ง ดำเนินการต่อยอดมาตรการที่ได้มีการบังคับใช้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    YLG Bullion : ข่าวสารที่ต้องติดตาม ส่งผลกระทบทองคำ

    13 มีนาคม 2563

    ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 2,300 จุด หนักสุดตั้งแต่ แบล็คมันเดย์

    ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงกว่า 2,000 จุดเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ทำสถิติลดลงหนักสุดนับตั้งแต่ตลาดวอลล์สตรีทเผชิญวิกฤต “แบล็คมันเดย์” เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ เพื่อรับมือผลกระทบของ ไวรัส โควิด-19 ทำให้หุ้นกลุ่มสายการบินลดลงอย่างหนัก

    ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 21,200.62 จุด ลดลง 2,352.60 จุด หรือ 9.99% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,480.64 จุด ลดลง 260.74 จุด หรือ 9.51% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,201.80 จุด ลดลง 750.25 จุด หรือ 9.43%

    เฟดอัดฉีดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลล์, รับมือผลกระทบไวรัสโควิด-19

    ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบธนาคาร พร้อมกับเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ในการซื้อพันธบัตรของเฟด เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19

    แถลงการณ์จากเฟดสาขานิวยอร์กระบุ “การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับมือกับภาวะผันผวนในตลาดพันธบัตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19” ทั้งนี้ เฟดระบุว่า ในการซื้อหลักทรัพย์ในตลาดเงินวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงพันธบัตรระยะสั้นนั้น เฟดจะเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ที่ซื้อเพื่อให้รวมถึงตั๋วเงินคลัง, หลักทรัพย์คุ้มครองเงินเฟ้อ รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินประเภทอื่นๆ โดยเฟดจะเริ่มซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวในวันนี้จนถึงวันที่ 13 เม.ย.

    ยูโรอ่อนค่าเทียบดอลล์ หลัง ECB ประกาศเพิ่มวงเงิน QE

    สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 1.2 แสนล้านยูโรจนถึงสิ้นปีนี้ และตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% โดยเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

    ทั้งนี้ ทำให้ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1177 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1279 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2581 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2837 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.18 เยน จากระดับ 104.60 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9456 ฟรังก์ จากระดับ 0.9383 ฟรังก์

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

  • ประธานเฟดชี้ศก.สหรัฐแข่งแกร่งสุดๆ

    ประธานเฟดชี้ศก.สหรัฐแข่งแกร่งสุดๆ

    (รอยเตอร์) – ประธานเฟดแสดงความเชื่อมั่นในการความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่พร้อมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น


    เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กับคณะกรรมการการธนาคารวุฒิสภาในวันที่ 2 โดยระบุว่า สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐในปัจจุบันยังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากอัตราการว่างงานต่ำ โดยมีอัตราการว่างงาน อยู่ที่ 3.6 เปอร์เซ็นต์ ค่าจ้างกำลังเติบโตที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ และการสร้างงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นอยู่ระหว่าง 1.5% ถึง 1.75% เป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการขยายตัว อย่างไรก็ดี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ยอมรับว่ากังวลเรื่องหนี้ต่อจีดีพีของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชากรต้องใช้เงินภาษีมาชำระหนี้ มากกว่าจะนำเงินไปพัฒนาในด้านต่างๆ

    เช่นเดียวกับ แมรี่ เดลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งที่จะรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง และคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะอยู่ในระดับที่ดีแล้ว ขณะเดียวกันจะเห็นการสร้างงานใหม่ๆ จากผู้ประกอบการ ทำให้อัตราการว่างงานเริ่มดีขึ้น

    ประธานเฟดซานฟรานซิสโก ยังระบุว่าคาดว่าเฟดจะประกาศกลยุทธ์ในช่วงกลางปี เพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อ โดยอาจจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับ 2.3-2.4 เปอร์เซ็นต์