หมวดหมู่: ข่าวทองคำรอบโลก

ฺเว็บไซต์ GoldAround.com เป็นเว็บข่าวสาร ที่ให้การรายงานข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกเป็นที่สำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงิน

บทความที่มีการรายงานข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งตลาดทองคำระดับโลกและปัจจัยที่มีผลต่อราคา เช่น ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ส่งผลต่อราคาทองคำ และการวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

บทความข่าวสารที่ครอบคลุมราคาทองคำรอบโลกยังควรพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก เช่น การวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ข่าวสารเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจมีผลต่อตลาดทองคำ

การวิเคราะห์แนวโน้มและการทำนาย

บทความข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกอาจมีการวิเคราะห์และการทำนายแนวโน้มของราคาทองคำในระยะยาวและระยะสั้น โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคและการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่มีความสมบูรณ์และมั่นคง

การตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้

ความน่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ บทความข่าวสารราคาทองคำรอบโลกควรเน้นการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลจากแหล่งที่มีความเชื่อถือได้ เช่น สำนักข่าวที่มีชื่อเสียง, หน่วยงานทางการเงิน, หรือนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดทองคำ

การให้คำแนะนำและความเข้าใจ

เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจและสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความข่าวสารราคาทองคำควรให้คำแนะนำที่ไม่เป็นทางการแต่เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุน และเน้นการเสนอข้อมูลที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทองคำในมุมมองที่เป็นรูปแบบและมีประสิทธิภาพ

การรายงานข่าวสารราคาทองคำรอบโลกมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงินได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม และควรนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการตัดสินใจการลงทุนของตนเองอย่างมั่นใจและอิสระ

goldbullion by GoldAround
goldbullion by GoldAround
  • ทองยังต้องเฝ้าระวัง แม้ศุกร์ดีดแรง แต่พร้อมลงไป $1,900 หรือพุ่งยืนเหนือ $2,000 จับตาสถานการณ์ข่าวใกล้ชิด

    ทองยังต้องเฝ้าระวัง แม้ศุกร์ดีดแรง แต่พร้อมลงไป $1,900 หรือพุ่งยืนเหนือ $2,000 จับตาสถานการณ์ข่าวใกล้ชิด

    ทองคำ ปิดสัปดาห์ลดลงไป $33 แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่การดีดตัวขึ้นในวันสุดท้ายของสัปดาห์ กลับมาบวก $21 ทำให้แนวโน้มทองคำยังไม่เลวร้ายนัก

    ทั้งนี้ ตลาดทองคำฟื้นตัวหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ว่า เฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ย เพราะกังวลวิกฤตภาคธนาคาร แต่จะหาวิธีการอื่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายที่ 2 %

    นี่เป็นสัญญาณว่า เฟดอาจหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ทำให้ รายงานของ CME FedWatch Tool ชี้ว่าความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ลดลงจากเกือบ 50% เหลือ 20%

    ข่าวดังกล่าว ทำให้การเทขายทองคำชะลอตัวลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดมองว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. และมองว่า อาจจะมีการลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี

    ในการประชุมเดือน พ.ค. เฟด ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 10 มาอยู่ที่ 5-5.25% สูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2550 โดยการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไป คือวันที่ 13-14 มิ.ย.

    ส่วนความคืบหน้าการเจรจาขยายเพดานหนี้ มีความคืบหน้าอย่างมากในวันศุกร์

    โดย Edward Moya senior market analyst OANDA กล่าวกับ kitco news ว่า

    คาดว่า ทุกอย่างจะเสร็จสิ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หรือไม่ก็เป็นวันจันทร์ โดยอาจมีการลงคะแนนในช่วงกลางสัปดาห์

    อย่างไรก็ดี ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะทุกอย่างจะต้องเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งเรียกว่า X-date

    Edward Moya มองว่า ทุกอย่างอาจจะไม่ราบรื่นนัก เพราะความขัดแย้งทางการเมืองยังคงมีอยู่ และทองคำจะอยู่ในโหมดรอดูว่า ส่วนไหนของเศรษฐกิจจะพัง เพราะผู้บริโภคกำลังอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลจำนวนมากยังคงสนับสนุนเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

    ด้าน Everett Millman precious metals expert ของ Gainesville Coins Everett Millman กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนมหาศาลจากคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่า เฟดกำลังจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงมากนัก เศรษฐกิจจึงขยายตัว และอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ

    แต่จากการที่ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้เทรดเดอร์ได้ขายทำกำไรบางส่วน และทำให้ราคาลดต่ำลง

    Edward Moya กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยรวมแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเป็นความเลวร้ายของตลาดทองคำ แต่ยังดีที่วันสุดท้ายของสัปดาห์กลับมาบวกแรง

    อย่างไรก็ดี ตลาดยังกังวลถึงทิศทางของราคาทองคำว่าอาจจะลดลงได้อีก และถือเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ ทั้งที่ยังมีความเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิกฤตธนาคาร เพดานหนี้ การประกาศเลิกจ้างครั้งใหญ่

    โดยราคาทองคำจะเป็นอย่างไรต่อไป นั้น

    Everett Millman มองว่า เมื่อมองจากพื้นฐาน จะเห็นได้ว่า บริเวณนี้เป็นแนวรับที่ทำให้ทองคำดีดตัวขึ้น แต่ยังไม่ตัดโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบ 1,900 ดอลลาร์ อีกรอบ เพราะมองว่า ที่ผ่านมาเมื่อทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็จะมีแรงเทขายออกมาตลอด แต่หลังจากที่ พาวเวลล์ฯ ออกมาแสดงความเห็นเรื่องดอกเบี้ย ทำให้มีโอกาสที่เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มเติม

    ทั้งนี้ แนวต้านของทองคำจะอยู่ที่ 1,980 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์ แนวรับที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 1,960-1,950 ดอลลาร์ แต่หากหลุดลงไป มีโอกาสที่จะลงไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่น่าเข้าซื้อ

    ขณะที่ Edward Moya มองแนวรับทองคำที่ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ หากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ยังคงดำเนินต่อไป ราคาอาจทรงตัวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ ได้อย่างง่ายดาย ในสัปดาห์นี้

    ทั้งนี้ ข้อมูลที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ (22-26 พ.ค.) ตลาดกำลังติดตามรายงานการประชุม FOMC ประจำเดือน พ.ค. ที่จะประกาศในคืนวันพุธ การอัปเดตตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัส และดัชนี PCE ที่เฟดให้ความสำคัญ ที่จะประกาศในวันศุกร์

    ที่มา : Kitco.com

  • ผลสำรวจ Gallup ชี้ชาวอเมริกันแห่ลงทุนทองคำ เพิ่มขึ้นเป็น 26% มากสุดนับตั้งแต่ปี 2555

    ผลสำรวจ Gallup ชี้ชาวอเมริกันแห่ลงทุนทองคำ เพิ่มขึ้นเป็น 26% มากสุดนับตั้งแต่ปี 2555

    การสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าชาวอเมริกันหันมาลงทุนในทองคำในฐานะการลงทุนระยะยาวมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงและความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น

    ทั้งนี้ สินทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาวอันดับหนึ่งยังคงเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ลดลงอย่างมาก หลังจากการอนุมัติสินเชื่อลดลงจากปี 2565 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 45% ก่อนจะลดลงเหลือ 34% ในปี 2566

    เหตุผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคสนใจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนน้อยลง

    ขณะที่ ทองคำกลับเป็นที่สนใจในฐานะการลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุด ได้พุ่งขึ้นจาก 15% ในปี 2565 เป็น 26% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555

    Americans' Perceptions of Best Long-Term Investment

    โดยทองคำได้แซงหน้าการลงทุนในหุ้น ในฐานะหุ้นที่มีผู้ต้องการการลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับสอง โดยกว่าหนึ่งในสี่ของชาวอเมริกันมองว่า ทองคำเป็นการเล่นระยะยาวที่ดีที่สุด

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทองคำจะได้รับความเชื่อมั่นเหนืออสังหาริมทรัพย์และหุ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอน ซึ่งมีแนวโน้มว่ากำลังเกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้

    การสำรวจดำเนินการระหว่างวันที่ 3 เม.ย. ถึง 25 เม.ย. และสุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,013 คน การสำรวจนี้ดำเนินการทุกปีในเดือน เม.ย. โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจเศรษฐกิจและการเงินส่วนบุคคลตั้งแต่ปี 2554

    ที่มา : Kitco.com

  • ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ฉุดทองคำร่วงแตะ $2,000 หลัง จนท.เฟด เรียกร้องขึ้นดอกเบี้ยดึงเงินเฟ้อลงมาอีก

    ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ฉุดทองคำร่วงแตะ $2,000 หลัง จนท.เฟด เรียกร้องขึ้นดอกเบี้ยดึงเงินเฟ้อลงมาอีก

    ราคาทองคำ พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ $2,055 จากนั้นได้ปรับลดลง หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่า

    ทำให้ทองคำลงมาทดสอบที่ระดับ $2,000 ก่อนจะกลับขึ้นมาปิดตลาดที่ $2,010 ปัจจัยหลักที่มากดดันก็คือการคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

    ทั้งนี้ มีความเห็นขัดแย้งกัน โดยเฟดได้ส่งสัญญาณหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือน มิ.ย. แต่มีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนเรียกร้องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

    มิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า อาจจำเป็นต้องใช้นโยบายเข้มงวดต่อ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงและตลาดแรงงานยังคงตึงตัว โดยมองว่า อาจจะต้องใช้นโยบายดังกล่าวไปอีกระยะ เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และสร้างเงื่อนไขที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

    Edward Moya senior market analyst ของ OANDA กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ตลาดจะรู้สึกลำบากใจว่า เฟดยังขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงสูงกว่า 5% ก็ไม่ควรแปลกใจหากเฟดยังแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อ ซึ่งจะทำให้การเดินทางของทองคำที่จะไปสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะซับซ้อนมากขึ้น

    อย่างไรก็ดี ยังมองว่าทองคำยังคงต้องต่อสู้กับดอลลาร์ เมื่อดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอาจสร้างปัญหาให้กับทองคำได้ แต่หากจะมองถึงแรงหนุนทองคำยังคงดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่คาดว่าน่าจะเกิดในช่วงครึ่งปีหลังหรือต้นปี 2567

    เหตุการณ์สำคัญที่นักวิเคราะห์กำลังเฝ้าดูในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดค้าปลีก รวมถึงการหารือเรื่องการขยายเพดานหนี้เมื่อใกล้ถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 1 มิ.ย. และความเสี่ยงของวิกฤตภาคธนาคาร

    การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจยังคงอยู่ จนกว่าจะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือน มิ.ย. Bart Melek global head of commodity strategy ของ TD Securities กล่าวกับ Kitco News

    ทั้งนี้ ราคาทองคำสามารถลงไปต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ ได้ โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ประมาณ 1,965 ดอลลาร์ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปที่ 2,100 ดอลลาร์ ได้เช่นกัน แต่น่าจะเป็นช่วงปลายที่ เมื่อมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน

    ด้าน Michael Boutros senior technical strategist ของ Forex.com กล่าวว่า

    จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำกำลังรู้สึกอ่อนแรง โดยแนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่ 1,995 ดอลลาร์ หากหลุดต่ำกว่านั้น คาดว่าจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ แต่ไม่ควรหลุด 1,926 ดอลลาร์

    ที่มา : Kitco.com

  • CPI ลดต่ำกว่า 5% ดันราคาทองพุ่ง กูรูมองช่วยหนุนเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

    CPI ลดต่ำกว่า 5% ดันราคาทองพุ่ง กูรูมองช่วยหนุนเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

    ราคาทองคำ พุ่งแรง หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน เม.ย. ลดลง

    โดย ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.0% และชะลอตัวจากระดับ 5.0% ในเดือน มี.ค. และถือว่าเป็นการปรับขึ้นน้อยสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2021

    ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปเดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้น 0.4% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.1% ในเดือน มี.ค.

    ส่วน ดัชนี CPI พื้นฐานเดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.4% ในเดือน มี.ค.

    Jim Wyckoff นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ Kitco.com กล่าวว่า

    ตัวเลข CPI ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ทำให้มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

    แต่ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ทองคำยังไปน่าจะทะยานไกล เนื่องจาก CPI หลักยังคงสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อที่สูงขึ้นกำลังฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง

    ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ

    โดย FedWatch Tool บ่งชี้ว่า ตลาดยังคงให้น้ำหนักว่าเฟดยังคงดอกเบี้ยไปอีกระยะ และอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้ จะมีการลดดอกเบี้ยลง 1 %

    ที่มา : Kitco.com

  • SPDR มาแล้ว ซื้อทอง 4 ไม้ติด รวม 12.72 ตัน

    SPDR มาแล้ว ซื้อทอง 4 ไม้ติด รวม 12.72 ตัน

    SPDR กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช้านี้ได้ซื้อทองคำแท่ง มากถึง 5.78 ตัน

    หากดูภาพรวมของเดือน พ.ค. เปิดมาวันที่ 2 พ.ค. ได้ขายทองคำออก 1.45 ตัน แต่หลังจากนั้น ได้ซื้อทองคำเข้า 4 ครั้งติดต่อกัน

    เริ่มจากวันที่ 3 พ.ค. ซื้อทองคำเข้า 3.47 ตัน วันที่ 5 พ.ค. ซื้อทองคำเข้า 1.74 ตันวันที่ 6 พ.ค. ซื้อทองคำเข้า 1.73 ตัน และ วันนี้ 9 พ.ค. ซื้อทองคำเข้า 5.78 ตัน รวม 12.72 ตัน

    รวมเดือนนี้ SPDR มียอดรวมการ ซื้อ-ขาย ทองคำ บวก 11.27 ตัน และหากนับตั้งแต่ต้นปี ยอดรวมการซื้อขายทองคำบวกอยู่ 19.91 ตัน รวมคงเหลือถือครองทองคำทั้งสิ้น 937.55 ตัน

  • กูรูต่างชาติมอง ทองคำไม่หยุดแค่ $2,080 เพราะวิกฤตธนาคารเพิ่งเริ่มต้น

    กูรูต่างชาติมอง ทองคำไม่หยุดแค่ $2,080 เพราะวิกฤตธนาคารเพิ่งเริ่มต้น

    ทองคำ” ยังคงแสดงให้นักลงทุนเห็นถึงศักยภาพ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำสถิติสูงสุดเหนือ 2,080 ดอลลาร์

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความเชื่อมั่นในเชิงบวกในระยะยาวเกิดขึ้นมากมายในตลาด แต่เงื่อนไขที่จะจุดประกายให้เกิดการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องยังไม่เกิดขึ้น

    ราคาทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และเปลี่ยนมาใช้นโยบายการเงินที่เป็นกลางมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้กล่าว ดูเหมือนว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่ยังไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะคณะกรรมการเฟดยังมีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว และคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะถึงเป่าหมายของเฟด

    อย่างไรก็ดี จากตัวเลขการจ้างงาน เดือน เม.ย. ที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ออกมามากถึง 253,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ 180,000 ตำแหน่ง

    ขณะที่ อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.4% และอัตราเงินเฟ้อค่าจ้างเพิ่มขึ้น 5% ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ไม่มีทางที่ เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ราคาทองคำในวันศุกร์ร่วงลง มากกว่า 2% โดยลงไปทดสอบแนวรับที่ 2,000 ดอลลาร์

    แม้ว่าราคาทองคำจะปรับลดลงแรง แต่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า ในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จำเป็นต้องซื้อทองคำแม้ว่าราคาจะลดลง

    George Milling-Stanley chief gold strategist ของ State Street Global Advisors กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ราคาทองที่ปรับตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนยังไม่ใช่จุดสูงสุดของราคาทองคำ เนื่องจากราคาทองคำจะถูกผลักดันขึ้นต่อเนื่อง เพราะความต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    ความเสี่ยงสำคัญประการหนึ่ง ที่สร้างความวิตกกังวลอย่างมากในตลาด และเป็นตัวช่วยผลักดันราคาทองให้ปรับตัวขึ้น คือ วิกฤตการธนาคารที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมกับการล่มสลายของ First Republic Bank ซึ่งวิกฤตนี้เพิ่งเริ่มต้น

    Gareth Soloway Chief Market Strategist ของ InTheMoneyStocks.com กล่าวกับ Kitco News ว่า

    วิกฤตการธนาคาร อาจทำให้ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 20% ในปีนี้ ส่งผลให้ทองคำแตะ 2,300 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และอีกเหตุผลหนึ่งที่นักวิเคราะห์หลายคนยังคงเชื่อมั่นในทองคำ แม้ว่าราคาจะปรับลดลงมา แต่ก็ยังสามารถยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ได้

    ที่มา: Kitco.com

  • ทองคำยังมีลุ้นพุ่งทะลุ $2,075 รอฟังท่าทีประธานเฟด หลังวิกฤตแบงค์กลับมา

    ทองคำยังมีลุ้นพุ่งทะลุ $2,075 รอฟังท่าทีประธานเฟด หลังวิกฤตแบงค์กลับมา

    ทองคำ ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังนักลงทุนกำลังเฝ้าดูผลการประชุม FOMC ในวันที่ 2-3 พ.ค. ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีก 0.25%

    รวมถึงการให้สัมภาษณ์หลังการประชุมของประธานเฟด หากตลาดตีความว่า จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยชั่วขณะ ราคาทองคำอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

    ราคาทองคำกำลังจะปิดฉากในเดือน เม.ย. ในแดนบวกอีกครั้ง หลังเดือน เม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 142 ดอลลาร์ และในเดือน เม.ย. ได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 13 เดือนแถว ๆ 2,050 ดอลลาร์

    Michael Boutros senior technical strategist ของ Forex.com กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ทองคำแตะระดับสูงสุดในปี 2565 ที่ 2,049 ดอลลาร์ และจากนั้น ได้กลับตัวลงไปแตะแถว 1,970 ดอลลาร์ และราคาทองคำได้พยายามกลับมายืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์

    ขณะนี้ ตลาดกำลังเฝ้ามองผลการประชุม FED เดือน พ.ค. โดย 83% คาดว่า FED จะปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25% ความเห็นของประธานเฟดจะเป็นกุญแจสำคัญ โดยจะรอดูว่าประธาน FED จะพูดถึงระบบธนาคาร และปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

    ซึ่ง Boutros เชื่อว่า ความวุ่นวายในภาคธนาคารยังไม่จบ ซึ่งจะต้องมาดูว่าเฟดจะมองเห็นรอยร้าวหรือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหรือไม่

    ล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำการเจรจาช่วยเหลือธนาคาร First Republic อีกครั้ง

    ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กำลังจับตาว่าระหว่างความคาดหวังของตลาด กับเป้าหมายการลดเงินเฟ้อของเฟด สิ่งไหนจะเกิดขึ้น

    โดย Sean Lusk co-director ของ Walsh Trading เชื่อว่า

    อัตราเงินเฟ้อจะไม่หายไปในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไมเฟดจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ย

    หลายคนมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย เดือน พ.ค. เป็นรอบสุดท้าย แต่ Boutros ยังอยากให้จับตาการประชุม เดือน มิ.ย. ซึ่งอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก

    เมื่อมองปัจจัยพื้นฐานราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสไปแตะ 2,100 ดอลลาร์ โดยทองคำจะถูกเลือกในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด

    จากมุมมองทางเทคนิค Sean Lusk ให้แนวรับหลักแรกของทองคำอยู่ที่ 1,950-1,940 ดอลลาร์ หากหลุดลงไป จะไปอยู่ที่ 1,925 ดอลลาร์

    ในทางกลับกัน เป้าหมายแนวต้านจะอยู่ที่ 2,060 และ 2,100 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น 15% ในปีนี้ และมีโอกาสไปถึง 2,190 ดอลลาร์ นั่นคือเป้าหมายขาขึ้นที่ยอดเยี่ยมมาก Sean Lusk กล่าว

    อีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า คือ รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. โดยตลาดคาดว่าตำแหน่งงาน เดือน เม.ย. จะมีการชะลอตัวลงเหลือ 178,000 ตำแหน่ง เพิ่มจาก 236,000 ตำแหน่งใน เดือน มี.ค. และอัตราการว่างงานคาดว่าจะสูงถึง 3.6%

    นักวิเคราะห์กล่าวเสริมว่า ตัวขับเคลื่อนทองอื่น ๆ ที่สนับสนุนในระยะยาว ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งจะเป็น X-factor หรือ “ปัจจัยที่ไม่สามารถคาดหมายได้” ในการหนุนราคาทองคำให้พุ่งไปข้างหน้า

    ที่มา : Kitco.com

  • ทองคำอาจทะยานแรง หลัง FDIC เตรียมเข้าคุมกิจการของ FRB

    ทองคำอาจทะยานแรง หลัง FDIC เตรียมเข้าคุมกิจการของ FRB

    ราคาหุ้นของ First Republic Bank หรือ FRB ได้ร่วงลงกว่า 30% สู่ระดับ 4.31 ดอลลาร์ ในการซื้อขายสัปดาห์ที่ผ่านมา

    หลังมีรายงานว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FDIC) มีแนวโน้มที่จะเข้าพิทักษ์ทรัพย์ของ FRB เหตุกลุ่มที่ปรึกษาของ FRB ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการฟื้นฟูกิจการของ FRB

    ทั้งนี้ FDIC จะเข้าควบคุมกิจการ FRB โดยจะมีการยึดทรัพย์สิน หรือ FDIC หารือกับธนาคารอื่น ๆ ที่อาจสนใจเข้าซื้อกิจการของ FRB

    Michael Lee ผู้ก่อตั้ง Michael Lee Strategy และอดีตรองประธาน Morgan Stanley กล่าวว่า

    เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับ FRB จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หลังเริ่มต้นจากการปิดธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ Silver gate, Silicon Valley Bank , และ Signature Bank

    โดยอาจจะเห็นธนาคารขนาดเล็กทั่วประเทศลดลงครึ่งหนึ่ง จากการควบรวมกิจการ และจะเห็นการล่มสลายของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะนำไปสู่เศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม

    ในขณะที่เศรษฐกิจอ่อนแอลงและเกิดหายนะทางการเงิน จะทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะหากทะลุกลับไปเหนือ 2,000 ดอลลาร์ อาจจะพุ่งทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลไปไกล เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากวิกฤต ซึ่ง Michael Lee เชื่อว่า สิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น

    ก่อนหน้านี้ว่า FDIC, ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้หารือกับสถาบันการเงินหลายแห่งเกี่ยวกับการอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่ FRB หลังจากเผชิญการไหลออกของเงินฝากมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 1/2566 แต่สถานะทางการเงินของ FRB ยังคงไม่ดีขึ้น

    ทางด้านที่ปรึกษาของ FRB ได้แนะนำให้ธนาคารขนาดใหญ่เพิ่มความช่วยเหลือด้วยการซื้อสินทรัพย์ของ FRB ในราคาสูงกว่าตลาด ซึ่งแม้ว่าจะทำให้ธนาคารเหล่านี้ขาดทุน แต่ก็จะดีกว่าการปล่อยให้ FRB ล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาด แต่ข้อเสนอดังกล่าวยังคงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาหุ้น FRB ได้ทรุดตัวลงมากกว่า 90% ขณะที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อ FRB หลังการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB)

  • แบงค์ชาติ รัสเซีย-คาซัคฯ ขายทองคำ หลังราคาพุ่ง แต่หลายประเทศยังเดินหน้าซื้อเก็บ

    แบงค์ชาติ รัสเซีย-คาซัคฯ ขายทองคำ หลังราคาพุ่ง แต่หลายประเทศยังเดินหน้าซื้อเก็บ

    สภาทองคำโลก (WGC) รายงานโดยอ้างข้อมูลใหม่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า

    ในเดือน มี.ค. ธนาคารกลางของรัสเซีย ได้ขายทองคำสำรอง 3.1 ตัน หลังราคาทองคำได้เริ่มฟื้นตัว พร้อมเผยแพร่การถือครองทองคำรายเดือน ย้อนหลังไปถึงเดือน ก.พ.2565

    Krishan Gopaul senior analyst ของ WGC กล่าวว่า

    จากข้อมูลล่าสุด พบว่า ทองคำสำรองของรัสเซียเพิ่มขึ้น 28 ตัน แต่นักวิเคราะห์ยังมีบางคำถามเกี่ยวกับการผลิตทองคำของรัสเซียประมาณ 300 ตัน ต่อไป ว่าได้ส่งออกไปที่ไหน เพราะทองที่ผลิตขึ้นมากกว่าความต้องการในประเทศ

    ขณะที่ ธนาคารกลางอีกแห่ง ที่ขายทองคำในเดือน มี.ค. คือ ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในปี 2565

    โดยปีที่แล้ว ซื้อมากถึง 148 ตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในเดือน มี.ค. ตุรกีได้ขายทองคำออก 15 ตัน เป็นการขายครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564 ทำให้ทองคำสำรองของประเทศลงเหลือ 572 ตัน

    นอกจากนั้น ในเดือนเดียวกัน ธนาคารแห่งชาติของคาซัคสถาน ยังได้ลดทองคำสำรองลง 10.5 ตัน ทำให้ปริมาณทองคำสำรองทั้งหมดของประเทศอยู่ที่ 332 ตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2561

    แม้ว่า ธนาคารแห่งชาติของคาซัคสถาน และ ตุรกี จะขายทองคำ แต่มีธนาคารกลางหลายชาติเดินหน้าซื้อทองคำ

    ทั้ง ธนาคารแห่งชาติสาธารณรัฐเช็ก ซื้อทองคำ 1.5 ตัน ในเดือน มี.ค. ถือเป็นการซื้อในปริมาณสูงสุด หลังจากได้ซื้อทองคำ 1.4 ตัน ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณทองคำสำรองทั้งหมดของประเทศอยู่ที่ 13.5 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2549

    ขณะที่ อินเดียซื้อทองคำแท่ง 3.5 ตัน เมื่อเดือนที่แล้วเช่นกัน ทำให้ยอดรวมในไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้นเป็น 7.3 ตัน ซึ่งการซื้อครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากธนาคารประชาชนจีนรายงานการซื้อทองคำเพิ่มเติมอีก 18 ตัน ในเดือน มี.ค. นับเป็นการซื้อทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5

    ที่มา : Kitco.com

  • บุกโจรกรรมทองคำมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ ในสนามบินแคนนาดา

    บุกโจรกรรมทองคำมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ ในสนามบินแคนนาดา

    ตำรวจแคนาดากำลังค้นหาทองคำมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ และสิ่งของที่มีมูลค่าสูงอื่น ๆ

    การปล้นเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ถือเป็นการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของแคนาดา โดยทองคำถูกโจรกรรมจาก โรงเก็บสินค้าของท่าอากาศยานนานาชาติ โทรอนโตเพียร์สัน

    ตำรวจแคนนาดาระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตู้คอนเทนเนอร์ของเครื่องบินขนาด 5 ตารางฟุต เต็มไปด้วยทองคำและสิ่งของมีค่าอื่น ๆ ซึ่งถูกจัดส่งหลังจากเดินทางมาถึงสนามบิน

    โดยระบุว่า ตู้สินค้าดังกล่าว ถูกเคลื่อนย้ายด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่แน่นอนได้

    ทั้งนี้ ตำรวจไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสายการบินที่รับผิดชอบในการขนส่งสินค้า สถานที่ที่จะไป และที่มาของทองคำ แต่สนามบินโตรอนโตเพียร์สัน มักถูกใช้เพื่อขนส่งทองคำที่ขุดได้ในแคนาดาไปยังผู้ซื้อทั่วโลก

    ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยเปลี่ยนชุดเป็นเครื่องแบบของสายการบินแห่งหนึ่ง และบังคับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เปิดทางเพื่อให้เพื่อร่วมทีมบุกเข้าชิงทองคำได้

    โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การโจรกรรมครั้งใหญ่ครั้งแรกของแคนาดา โดยในปี 1974 ทองคำแท่งมูลค่า 517,000 ดอลลาร์ ถูกขโมยจากสนามบินนานาชาติออตตาวา

    ที่มา : Kitco.com