หมวดหมู่: ข่าวทองคำรอบโลก

ฺเว็บไซต์ GoldAround.com เป็นเว็บข่าวสาร ที่ให้การรายงานข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกเป็นที่สำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงิน

บทความที่มีการรายงานข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งตลาดทองคำระดับโลกและปัจจัยที่มีผลต่อราคา เช่น ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ส่งผลต่อราคาทองคำ และการวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

บทความข่าวสารที่ครอบคลุมราคาทองคำรอบโลกยังควรพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก เช่น การวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ข่าวสารเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจมีผลต่อตลาดทองคำ

การวิเคราะห์แนวโน้มและการทำนาย

บทความข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำรอบโลกอาจมีการวิเคราะห์และการทำนายแนวโน้มของราคาทองคำในระยะยาวและระยะสั้น โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคและการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่มีความสมบูรณ์และมั่นคง

การตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้

ความน่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ บทความข่าวสารราคาทองคำรอบโลกควรเน้นการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลจากแหล่งที่มีความเชื่อถือได้ เช่น สำนักข่าวที่มีชื่อเสียง, หน่วยงานทางการเงิน, หรือนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดทองคำ

การให้คำแนะนำและความเข้าใจ

เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจและสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความข่าวสารราคาทองคำควรให้คำแนะนำที่ไม่เป็นทางการแต่เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุน และเน้นการเสนอข้อมูลที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทองคำในมุมมองที่เป็นรูปแบบและมีประสิทธิภาพ

การรายงานข่าวสารราคาทองคำรอบโลกมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจในตลาดการเงินได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม และควรนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการตัดสินใจการลงทุนของตนเองอย่างมั่นใจและอิสระ

goldbullion by GoldAround
goldbullion by GoldAround
  • SPDR กลับมาขายทองคำ เช้านี้ปล่อยไป 4.33 ตัน

    SPDR กลับมาขายทองคำ เช้านี้ปล่อยไป 4.33 ตัน

    มาดูการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กลับมาขายทองคำอีก หลังจากวันเสาร์ได้ซื้อเข้า 2.60 ตัน

    ซึ่งเป็นการซื้อทองคำครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

    โดยล่าสุด (23 ส.ค.) ขายทองคำออกมามากถึง 4.33 ตัน ที่ราคา 1,897 ดอลลาร์ ทำให้เดือน ส.ค. กองทุน SPDR มียอดการซื้อขายทองคำติดลบ 28.02 ตัน

    และหากมองภาพรวมปีนี้ กองทุน SPDR มียอดการซื้อขายทองคำติดลบ 32.73 ตัน และเหลือถือครองทองคำ 884.91 ตัน

  • SPDR ยังไม่หยุดขายทองคำ เช้านี้ปล่อยออกเกือบ 7 ตัน

    SPDR ยังไม่หยุดขายทองคำ เช้านี้ปล่อยออกเกือบ 7 ตัน

    มาดูการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงขายทองต่อเนื่อง

    ล่าสุด (18 ส.ค.) ขายทองคำออกมามากถึง 6.93 ตัน ที่ราคา 1,889 ดอลลาร์

    ทำให้เดือน ส.ค. SPDR ขายทองคำออกไป 8 ครั้งรวด รวมน้ำหนัก 25.43 ตัน และปีนี้ซื้อขายทองคำติดลบอยู่ 30.14 ตัน และ SPDR เหลือถือครองทองคำแค่ 887.50 ตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปี 2019

    ทั้งนี้ SPDR ยังคงเดินหน้าขายทองคำ โดยนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค. เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน SPDR ขายทองคำออกแล้ว 14 ครั้ง รวมน้ำหนัก 37 ตัน

  • ราคาทองคำจีนสูงกว่าตลาดโลก หลังรัฐบาลควบคุมการนำเข้า

    ราคาทองคำจีนสูงกว่าตลาดโลก หลังรัฐบาลควบคุมการนำเข้า

    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองสปอตในตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีนสูงกว่าราคาทองในตลาดลอนดอนประมาณ 37 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ซึ่งเป็นส่วนต่างสูงที่สุดในรอบเกือบ 5 เดือน และส่วนต่างดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย. แม้ว่าความต้องการทองคำของกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนปรับตัวลดลงก็ตาม

    สาเหตุมาจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าทองคำ สอดคล้องกับที่สภาทองคำโลก (WGC) ระบุในรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ส่วนต่างดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปทานทองคำในจีนอยู่ในภาวะตึงตัว

    มีรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ปรับลดหรือยุติการให้โควตาการนำเข้าทองคำแก่ธนาคารพาณิชย์จีนบางแห่ง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณทองคำหมุนเวียนภายในประเทศปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ทางการจีนควบคุมการนำเข้าทองคำนั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจน

    ที่ผ่านมาจีนแข่งขันกับอินเดียเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก แต่ในระยะหลังนี้ความต้องการทองคำในจีนลดลงเนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรดาผู้บริโภคของจีนลดการซื้อเครื่องประดับทองคำหรือลงทุนในทองคำ

    โดยปกติแล้วธนาคารกลางจีนจะให้โควตาแก่สถาบันการเงินในการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ แต่ธนาคารกลางจีนไม่เคยเปิดเผยว่ามีการอนุมัติการนำเข้าทองคำในปริมาณเท่าใด

    อ้างอิง :RYT9

  • กูรูเตือนแม้ gold spot บวกแรง แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นขาขึ้น เชื่อ FED ยังไม่ยอมลดดอกเบี้ยในเร็วนี้

    กูรูเตือนแม้ gold spot บวกแรง แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นขาขึ้น เชื่อ FED ยังไม่ยอมลดดอกเบี้ยในเร็วนี้

    ตลาดทองคำจะยังคงมีความอ่อนไหวอย่างมากต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดังนั้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าทองคำกลับมาเป็นขาขึ้น แม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาจะพุ่งขึ้นเกือบ $30

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. ที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยดัชนี CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ core CPI ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานผันผวนอยู่ที่ 4.8% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้งคู่

    Everett Millman precious metals expert ของ Gainesville Coins กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ราคาทองคำยังอยู่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ แม้ว่าทุกคนจะคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ทั้งนี้ทองคำจะได้รับแรงกดดันมากขึ้น หากเฟดจะยังคงดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป ทำให้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าราคาทองคำจะกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้น

    ทั้งนี้ เฟดยังคงวางแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยสองครั้งในปีนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมในเดือน ก.ค. แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สอง ยังไม่ระบุว่าจะมีขึ้นในช่วงใด ทำให้นักวิเคราะห์ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น

    ขณะที่ Bart Melek global head of commodity strategy ของ TD Securities กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ใครมองว่าทองคำได้เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นแล้ว เพราะเฟดเตรียมจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ณ จุดนี้ ยังถือว่าเร็วเกินไป แม้ว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มดูดีขึ้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอน เมื่อไปดูการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะเห็นได้ว่าราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มโอเปกยังคงลดอุปทานลง และอาจทำให้ราคาพลังงานกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    นอกจากนี้ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของ TD Securities มองว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่เฟดจะรีบเปลี่ยนนโยบายการเงิน เพราะจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในอนาคต และเฟดยังคงต้องการที่จะดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ 2 % และนั่นอาจเป็นปัญหาสำหรับทองคำ

    คำถามสำคัญสำหรับตลาดไม่ได้อยู่ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใด แต่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงไปอีกนานแค่ไหน ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับลด

    Everett Millman กล่าวว่า หากเฟดพลิกกลับและลดอัตราดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า ตลาดทองคำจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรง แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงไปอีกนานเท่าใดและจะลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด นั่นคือสิ่งที่ทำให้ราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับสูง

    จากถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ ประธานเฟดกังวลว่าจะเกิดความผิดพลาด หากลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป นั่นทำให้อัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงขึ้นไปอีกนาน

    Bart Melek ได้อธิบายความเคลื่อนไหวล่าสุดของราคาทองคำว่า แนวต้านอยู่ที่ 1,966 และ 1,970 ดอลลาร์ แนวรับอยู่ที่ 1,930/1,900 และ 1,896 ดอลลาร์

    ขณะที่ Everett Millman ให้แนวต้านใหญ่ถัดไปที่ 1,975-1,980 ดอลลาร์ และแนวรับที่ 1,900 ดอลลาร์

    ที่มา : Kitco.com

  • กูรู ชี้ทองคำทรงตัวได้ดี แม้ FED ยังจะขึ้นดอกเบี้ย เตือนระวังอาจลงทดสอบ $1,880 หรือขึ้นไป $2,000 เร็ว ๆ นี้

    กูรู ชี้ทองคำทรงตัวได้ดี แม้ FED ยังจะขึ้นดอกเบี้ย เตือนระวังอาจลงทดสอบ $1,880 หรือขึ้นไป $2,000 เร็ว ๆ นี้

    ตลาดทองคำยังคงทรงตัวในกรอบ 1,940 – 2,000 ดอลลาร์ แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า หลังจากที่ราคาเคลื่อนไหว sideway ติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ทองคำก็พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่งขึ้น

    Everett Millman precious metals expert ของ Gainesville Coins กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ราคาทองคำพร้อมที่เบรคกรอบราคาออกไปทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยอาจจะทดสอบระดับ 1,880 ดอลลาร์ อีกครั้งหรือกลับขึ้นไปที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์

    ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้สร้างความสับสนให้กับตลาด ด้วยการหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยชั่วขณะ แต่ระบุว่าอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้ง ซึ่งแม้ว่าการหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวจะส่งผลดีต่อตลาดทองคำ แต่เป็นการหยุดชั่วคราวแบบมีข้อแม้ นั่นคือสาเหตุที่ทองคำมีการซื้อขายในลักษณะ sideway

    ขณะที่ Edward Moya senior market analyst ของ OANDA กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ทองคำทรงตัวได้ดีเมื่อเผชิญกับคำเตือนของเฟดเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง Moya กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการสื่อสารผิดพลาดโดย เจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟด ในช่วงหลายสัปดาห์ ที่นำไปสู่การตัดสินใจครั้งนี้ มิฉะนั้นการประชุมเดือน มิ.ย. อาจจะยังคงปรับขึ้นได้อีก

    ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ปธ.เฟด ไม่ได้ยืนยันชัดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. โดยระบุว่า ขึ้นอยู่กับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ โดยประธานเฟดพยายามรักษาทางเลือกไว้ นั่นคือสาเหตุที่ราคาทองคำไปลงไปที่ 1,900 ดอลลาร์

    ทั้งนี้ ตลาดกำลังคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ค. ในระหว่างนี้ ตลาดทองคำกำลังให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการเปิดตัวเศรษฐกิจ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

    นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังติดตามตัวเลขการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งชะลอตัวลงในไตรมาสที่สอง

    Everett Millman ระบุว่า จากการรายงานของ World Gold Council จะเห็นได้ว่า แม้ตัวเลขจะชะลอตัวลงบ้าง แต่หนึ่งในสี่ของธนาคารกลาง วางแผนที่จะซื้อทองคำต่อไป และจะซื้อในปริมาณมาก ทำให้ราคาทองคำจะตอบสนองต่อสิ่งที่ธนาคารกลางกำลังทำอยู่

    เมื่อมาดูสัญญาณทางเทคนิค ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขายออก เพราะเมื่อย้อนดูสถิติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อทองคำแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ ก็จะมีการเทขายอย่างหนัก

    ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาการแถลงต่อหน้าสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า รวมถึงความเห็นของ เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ และตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า (19-23 มิ.ย.)

    ที่มา : Kitco.com

  • ทองคำปิดตลาดแดนบวกเหนือ $1,960 พร้อมลุย CPI & ประชุม FED – ECB สัปดาห์นี้

    ทองคำปิดตลาดแดนบวกเหนือ $1,960 พร้อมลุย CPI & ประชุม FED – ECB สัปดาห์นี้

    ทองคำปิดตลาดแดนบวกเหนือ $1,960 พร้อมเข้าสู่สัปดาห์สุดหฤโหด เปิดฉากด้วย CPI ตามมาด้วยประชุม FED – ECB

    ภาพรวมราคา gold spot ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเคลื่อนไหวผันผวนตามกระแสข่าวคาดการณ์ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

    แต่จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในกาประชุม FOMC เดือน มิ.ย. แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยไปเลย

    ทำให้ในสัปดาห์ล่าสุด ราคา gold spot ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 13 ดอลลาร์ หรือ 0.68% โดยจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,938 ดอลลาร์ แต่นักวิเคราะห์ยังมองว่า ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง

    Daniel Ghali TD senior commodity strategist ของ TD Securities กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ที่ผ่านมาตลาดทองคำค่อนข้างเงียบ เพราะทุกสายตาจับจ้องไปที่การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิ.ย. และมุมมองของประธานเฟด ต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจ รวมถึง dot plot ใหม่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นแนวนโยบายของเฟดในช่วงถัดไป

    ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% โดย FedWatch ระบุ นักลงทุนให้น้ำหนัก 72% ที่เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว หากทุกอย่างเป็นไปตามคาดการณ์ เท่ากับว่าจะเป็นการตัดสินใจระงับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565

    Edward Moya senior market analyst OANDA กล่าวกับ Kitco News ว่า

    หากเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว จะเป็นผลดีต่อทองคำ โดยคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,950 ดอลลาร์ ถึง 2,000 ดอลลาร์

    ขณะที่ Ghali กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ 1,940 ดอลลาร์ หากราคาหลุดลงไป ก็จะมีความเสี่ยงที่ราคาจะลงได้อีก

    ทั้งนี้ ตลาดมองว่า เฟดอาจจะเดินตามธนาคารกลางของแคนาดา ที่หยุดการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งติด ในการประชุมครั้งก่อนหน้า ก่อนที่จะมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุม เดือน มิ.ย.

    ด้าน Paul Ashworth หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาเหนือของ Capital Economics คาดว่า

    เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคน แต่อาจจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ในการประชุมครั้งต่อไป ในช่วงปลายเดือน ก.ค. โดยให้เหตุว่า ตัวเลขการจ้างงานเดือนล่าสุด และความคงที่ของอัตราเงินเฟ้อที่จะประกาศในวันอังคาร จะเป็นแรงแรงผลักดันสำคัญ

    ทั้งนี้ ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ประจำเดือน พ.ค. ในวันอังคาร หนึ่งวันก่อนการประกาศอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจของเฟดอาจจะขึ้นอยู่กับตัวเลข CPI ที่จะประกาศ

    Frank Cholly senior market strategist RJO Futures กล่าวกับ Kitco News ว่า

    แนวรับสำคัญของทองคำขณะนี้อยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่เงินดอลลาร์ แต่หากทองคำสามารถทะลุ 2,000 ดอลลาร์ ได้ ภาพแนวโน้มขาขึ้นจะมีความชัดเจนมากขึ้น

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ถือว่ามีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ให้ได้ติดตามมากมาย ทั้งในสหรัฐฯ และกลุ่มยูโร

    โดยในสหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลข CPI ในวันอังคาร

    ขณะที่ วันพุธจะมีดัชนี PPI และช่วงดึก ๆ ต่อช่วงเช้ามืดวันพฤหัส ตามเวลาในประเทศไทย จะมีผลการประชุม FOMC และการแถลงของประธานเฟด

    ขณะที่ ช่วงค่ำของวันพฤหัส จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ ECB, ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ , การขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ, ดัชนีการผลิตของนิวยอร์ค

    ที่มา : Kitco.com

  • SPDR กลับมาขาย เช้านี้ปล่อยทองคำ -3.46 ตัน แต่ยอดรวมทั้งปี ยังบวก +17.65 ตัน

    SPDR กลับมาขาย เช้านี้ปล่อยทองคำ -3.46 ตัน แต่ยอดรวมทั้งปี ยังบวก +17.65 ตัน

    มาดูการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช้านี้ (8 มิ.ย.) ได้ขายทองคำแท่งออกมา 3.46 ตัน ที่ราคา 1,939.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ

    โดยในเดือน มิ.ย. เปิดทำการมา 7 วัน ยอดรวมเดือน มิ.ย. ติดลบอยู่ 4.91 ตัน รวมถือครองทองคำทั้งสิ้น 934.65 ตัน

    เมื่อไปมองภาพรวมเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา มียอดการซื้อเข้าเพิ่มขึ้น 13.37 ตัน และหากมองในภาพรวมปี 2566 SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 17.65 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ได้ปรับลดลง 23 ดอลลาร์ โดยได้แรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากธนาคารกลางแคนาดาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้เช่นกัน

  • ธนาคารกลางตุรกี เทขายทองคำ 71 ตัน ให้ตลาดในประเทศลดค่าเงินผันผวน สวนทางทั่วโลกที่กวาดซื้อ

    ธนาคารกลางตุรกี เทขายทองคำ 71 ตัน ให้ตลาดในประเทศลดค่าเงินผันผวน สวนทางทั่วโลกที่กวาดซื้อ

    สภาทองคำโลก หรือ World Gold Council (WGC) ได้ระบุในรายงานฉบับล่าสุดว่า ในเดือน เม.ย. การถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกลดลง 71 ตัน

    ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีหนึ่งเดือน เนื่องจากตุรกีขายทองคำได้มากกว่า 80 ตัน ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่การถือครองทองคำของธนาคารกลางลดลงคือในเดือน มี.ค. 2565

    Krishan Gopaul นักวิเคราะห์อาวุโสของ WGC กล่าวว่า อย่างไรก็ดี การลดลงในครั้งนี้ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเป็นการกลับตัวของแนวโน้มการถือครองทองคำ โดยข้อมูลระดับประเทศชี้ให้เห็นว่า ยังห่างไกลจากกระแสการขายทองคำของธนาคารกลาง

    ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย. ธนาคารกลางตุรกี ได้ขายทองคำ 81 ตัน เหลือถือครองทองคำ 491 ตัน ซึ่งเป็นการขายต่อเนื่องจากเดือน มี.ค. ที่ขายไป 15 ตัน

    ปีที่แล้ว ตุรกีซื้อทองคำมากที่สุดในบรรดาธนาคารกลางทั้งหมด โดยซื้อ 148 ตัน และเพิ่มทองคำสำรองเป็น 542 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ทองคำถูกขายในตลาดภายในประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งมากของตรุกี ทั้งแท่งเหรียญและเครื่องประดับ หลังจากที่มีการห้ามนำเข้าทองคำแท่งบางส่วนเป็นการชั่วคราว แต่คงต้องรอดูกันต่อไปว่า การขายจะดำเนินต่อไปหรือไม่ และจะขายออกมาอีกมากน้อยเพียงไร

    ส่วนการขายทองคำของประเทศอื่น ๆ ในเดือน เม.ย. ยังถือว่าไม่มาก โดยธนาคารแห่งชาติของคาซัคสถาน ขายออก 13 ตัน ธนาคารกลางของอุซเบกิสถาน ขายไป 2 ตัน และ ธนาคารแห่งชาติของสาธารณรัฐคีร์กีซ ขายได้ 0.6 ตัน

    แต่มีเพียงธนาคารกลาง 4 แห่ง ซื้อทองคำในเดือน เม.ย. โดยโปแลนด์ ซื้อเพิ่ม 15 ตัน ธนาคารประชาชนจีน ซื้อ 8 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อเข้า 6 เดือนติดต่อกัน ธนาคารแห่งชาติเช็ก ซื้อเพิ่ม 2 ตัน

    WGC มองว่า จากการสำรวจทองคำสำรองของธนาคารกลางล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีทัศนคติเชิงบวกในวงกว้างต่อทองคำ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารกลางอิรักเพิ่งประกาศการซื้อ 2.5 ตัน ในเดือน พ.ค. และส่งสัญญาณว่าจะมีขึ้นอีก

    ส่วนของประเทศตุรกีนั้นไม่เหมือนใคร โดยตุรกีมีความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนต้องการทองคำเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงจากและการลดค่าสกุลเงินท้องถิ่น

    William Stack ที่ปรึกษาทางการเงินของ Stack Financial Services LLC กล่าวกับ Kitco News

    ความต้องการทองคำในท้องถิ่นในตุรกี เพื่อปกป้องเงินเฟ้อจากค่าเงิน Lira ที่ลดลง ซึ่งการถือทองคำเป็นเรื่องที่ดีหากอยู่ในภาวะคับขันทางการเงิน เพราะสามารถขายได้เมื่อจำเป็น

    และการขายทองคำออกมา ก็เพื่อชดเชยกับความต้องการในประเทศ แทนการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ เพราะจะส่งผลต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศให้สูงขึ้น และการขายทองคำออกมาบางส่วนไม่ถือว่าเสียหายสำหรับธนาคารกลางตุรกี

    อีกเหตุผลหนึ่งที่ธนาคารกลางตุรกีเทขาย คือ ปริมาณความต้องการทองคำในประเทศสูง เพราะหากตุรกีขายทองคำไปยังต่างประเทศ สกุลเงินลีราจะอ่อนค่าลงอีก แต่เมื่อพวกเขาขายทองคำให้กับชาวตุรกีด้วยสกุลเงินลีรา จำนวนสกุลเงินลีราในตลาดก็จะลดลง ซึ่งจะช่วยให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้นอีกทาง

    ที่มา : Kitco.com

  • สภาฯ สหรัฐ ไฟเขียว ร่าง กม.ขยายเพดานหนี้แล้ว

    สภาฯ สหรัฐ ไฟเขียว ร่าง กม.ขยายเพดานหนี้แล้ว

    ผลการลงมติ ร่างกฎหมาย “พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง” (Fiscal Responsibility Act) ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียง

    ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

    หลังจากนี้จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐฯ และหากได้รับความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย.

    ทั้งนี้ Shining Gold Bullion ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงส่งเชิงบวก จากความแตกแยกในรัฐสภาสหรัฐฯ ก่อนโหวตลงมติอย่างเป็นทางการข้อตกลงยกร่างเพดานหนี้ที่เกิดขึ้น หลัง นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภา และ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เคลียร์อุปสรรคสำคัญในสภา

    โดยฝ่ายนิติบัญญัติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 241-187 ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการพิจารณามาตรการดังกล่าว ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 5 มิ.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

    ทั้งนี้ นายแมคคาร์ธีฯ ต้องการคะแนนเสียงจากพรรคเดโมแครต เพื่อหักล้างคะแนนเสียงที่ “ไม่เห็นด้วย” ของพรรครีพับลิกัน 29 เสียง ซึ่งตอกย้ำความแตกแยก ร่างกฎหมายจะกำหนดแนวทางการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางในอีก 2 ปีข้างหน้า และระงับเพดานหนี้จนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2568 และจะลดการใช้จ่ายลงประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 1 ทศวรรษ

    ขณะที่ John Thune วุฒิสภาหมายเลข 2 ของพรรครีพับลิกันมั่นใจว่า อาจมีข้อตกลงเพื่อผ่านร่างกฎหมายภายในคืนวันศุกร์นี้

    ด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ จะลดลงราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

  • ทองร่วงแรง 3 สัปดาห์ติด และอาจลงถึง $1,900-1,896 หลังแนวโน้ม FED ขึ้นดอกเบี้ยเริ่มมีมากขึ้น

    ทองร่วงแรง 3 สัปดาห์ติด และอาจลงถึง $1,900-1,896 หลังแนวโน้ม FED ขึ้นดอกเบี้ยเริ่มมีมากขึ้น

    ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสัปดาห์ล่าสุดลดลงไปอีก 31 ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

    และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีโอกาสที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน มิ.ย.

    Bart Melek global head of commodity strategy ของ TD Securities กล่าวกับ Kitco News ว่า

    ตัวเลขเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะดัชนี PCE ล้วนอยู่เหนือความคาดหมาย

    โดยดัชนี PCE หลักเดือน เม.ย. ขึ้นไปที่ 4.7% ซึ่งอัตราเงินเฟ้อใกล้ 5% อาจจะสูงเกินที่จะทำให้ FED หยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือน มิ.ย. โดยตลาดให้น้ำหนักถึง 60% ที่ FED จะปรับขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

    ยิ่งไปกว่านั้น ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในทิศทางการแข็งค่า และราคาทองคำก็ตอบรับด้วยการขยับลง

    โดย Bart Melekมองว่า ภาพรวมราคาทองคำในไตรมาสนี้จะอ่อนตัวลง หลังตลาดคาดการณ์เรื่องนโยบายของ FED ผิดไป

    Melek กล่าวว่า แนวรับถัดไปสำหรับทองคำอยู่ที่ 1,940 ดอลลาร์ หากหลุดลงไป อาจจะไปถึง 1,915 และ 1,900 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญจะอยู่แถว 1,900-1,896 ดอลลาร์

    Frank Cholly senior market strategist ของ RJO Futures กล่าวกับ Kitco News

    ยังเร็วเกินไปจะระบุว่า ตอนนี้ทองคำลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากร่วงลงมากกว่า 125 ดอลลาร์ นับตั้งแต่การทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตลาดกำลังบอกว่า จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน มิ.ย. และอาจจะขึ้นอีกครั้งหนึ่งในเดือน ก.ค. ซึ่งทองคำไม่ชอบสิ่งนั้น

    สำหรับข้อมูลที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า

    วันอังคาร จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ จาก CB วันพุธจะมีตำแหน่งงานว่างของ U.S. JOLTs

    ขณะที่ วันพฤหัสบดี จะมีตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ, การจ้างงานนอกภาคเกษตรของ ADP และ PMI ภาคการผลิตของ ISM

    วันศุกร์จะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และอัตราการว่างงาน

    ที่มา: Kitco.com