หมวดหมู่: สัมภาษณ์พิเศษคนทองคำ

ทางเว็บไซต์ GoldAround.com ได้รับเกียรติจาก ผู้บริหาร นักวิเคราะห์ เหล่าบรรดาโบรกเกอร์ทองคำชั้นนำในเมืองไทย รวมถึง บุคคลสำคัญในวงการค้าทองคำ นักวิชาการ จากสถาบันต่าง ๆ ร่วมให้มุมมองในทุกแง่มุม

เราขอเป็นส่วนหนึ่งในศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารการลงทุนในทองคำ รวมถึงข่าวสารรอบโลก เพื่อให้นักลงทุนได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้อย่างเต็มที่ ขอให้นักลงทุนทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จในการลงทุน

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
  • ทองคำยังพุ่งต่อ แนวต้าน 1,700 แนะขายทำกำไร หากผ่านลุ้นเป้า 1,800

    ทองคำยังพุ่งต่อ แนวต้าน 1,700 แนะขายทำกำไร หากผ่านลุ้นเป้า 1,800

    ราคาทองคำวันนี้ยังพุ่งต่อ วายแอลจี ชี้หากผ่านระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,500 บาท ไปได้ ให้ขายบางส่วนทำไร พร้อมมองเป้าหมายต่อไป 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนจะปรับตัวสูงไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกล

    นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับเว็บไซต์ GoldAround.com ว่า

    หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาได้ เมื่อเช้านี้ (24 ก.พ.) ราคาทองคำก็ได้ขึ้นไปทดสอบใกล้ระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญแต่ไม่ผ่าน ถูกเทขายลงมาอยู่ที่ระดับ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐออนซ์ และคาดว่าตลอดทั้งวันจะมีการทดสอบที่ระดับแนวต้านนี้หลายรอบ

    นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด

    อย่างไรก็ดีหากผ่านระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปได้ แนะนำให้นักลงทุนขายบางส่วนออกมาทำกำไร พร้อมมองเป้าหมายสำคัญต่อไปคือที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวรับสำคัญวันนี้อยู่ที่ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

    นางสาวฐิภาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนของนักลงทุนที่จะเข้าซื้อ มองว่าระดับราคา ณ ปัจจุบันถือว่าสูงและมีความเสี่ยง แม้ว่าในระยะสั้นนี้ราคาจะยังอยู่ในช่วงที่ปรับตัวขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ อยากให้ทยอยซื้อ และให้เปิดสถานะชอร์ทไว้ โดยตั้ง stop loss ไว้ที่ระดับ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเทขายทำกำไร และจะทำให้ราคาลงแรง ทั้งนี้เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเก็บเข้าพอร์ทไปแล้วกว่า 40 ตัน และราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 15 เปอร์เซ็นต์

    สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น คือเป็นเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด 19 ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและหลายประเทศก็มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ประเทศเกาหลี

    นอกจากนั้นหลายประเทศยังคงมีมาตรการออกมาบังคับใช้ ไม่วาจะเป็นเรื่องของการปิดเส้นทางการเดินทาง หรือการห้ามบุคคลในบางประเทศเดินทางเข้าประเทศของตน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นหลายฝ่ายมองว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก ขณะที่แนวทางการรักษาก็ยังไม่ชัดเจน จึงทำให้ปัญหานี้ยังคงเป็นเรื่องหลักที่ทำให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น

    นอกจากนั้นยังมีเรื่องของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลในหลายประเทศๆได้ลดต่ำลง ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน หรือรัสเซีย ทำให้มีการเทขายออกมาและหันไปซื้อทองคำเก็บไว้แทนในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ซึ่งปัจจัยนี้ได้ส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศโดยตรง

    ขณะนี้ นักวิเคราะห์จากหลายสำนักทั่วโลกได้มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาทองคำจะพุ่งไปแตะ ที่ ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ตนมองว่ายังเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป แต่ขณะนี้อยากให้มองความเป็นจริงที่ระดับราคา 1,700 – 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ไว้จะดีกว่า

    ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด