BMO Commercial Bank | bmo.com
BMO Commercial Bank | bmo.com

ผลพวงจากปัญหา รัสเซีย-ยูเครน กำลังจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเกิดการชะงักงัน และจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตัว

ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ BMO Capital Markets บริษัท ในเครือวาณิชธนกิจของ Canadian Bank of Montreal ชี้ว่า จะไม่ส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ในรายงานแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ประจำไตรมาสที่ 2 ธนาคารของแคนาดา กล่าวว่า ได้มีการปรับปรุงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ 21 รายการจาก 26 รายการ

โดยในกลุ่มโลหะมีค่า ได้ปรับราคาทองคำปี 2022 ขึ้น 8% และโลหะเงิน 12%

ในไตรมาสแรกปี 2565 ได้เกิดการหยุดชะงักของอุปทาน ปัญหาด้านลอจิสติกส์ การคว่ำบาตร การบีบชอร์ตทางการเงิน และได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ประกอบการ โดยได้เห็นโลหะมีค่าและการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมาก

นักวิเคราะห์ของ BMO มองว่า ความเสี่ยงด้านอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากปัญหาความขัดแย่งด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเงิน หรือเพียงแค่ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก และความเชื่อมั่นในรัฐบาล ซึ่งจะต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ BMO ยังคงเชื่อมั่นในทองคำตลอดช่วงที่เหลือของปี แต่เตือนนักลงทุนว่า ราคาทองคำจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของนโยบายของธนาคารกลาง

โดยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bp. ในการประชุม 2 ครั้งถัดไป จากนั้นจะมีการปรับขึ้น 0.25bp. ในการประชุมแต่ละครั้ง ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี จะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 2.375% ภายในเดือนธันวาคม

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เฟด กำลังมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม มันก็จะเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน เพราะขณะที่ตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณการถดถอย

เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น BMO คาดว่าราคาทองคำจะเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 1,895 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ 1,751 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และนักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำโดยเฉลี่ยปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 1,750 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 9% จากประมาณการล่าสุดที่ 1,613 ดอลลาร์