สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 เม.ย.67
ราคาทองคำ gold spot ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แต่ทองคำไทยกลับดีดตัวสวน หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ 37.18 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทย เช้านี้ (25 เม.ย.) ขยับเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงเช้า หลัง สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน เพิ่มขึ้น 200 บาท ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 100 บาท
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น.อยู่ที่ 40,700 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,600 บาท
ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,200 บาท ส่วนราคารับซื้อ 39,870.80 บาท คำนวณจากเงินบาท 37.18 บาทต่อดอลลาร์ โดยวันนี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.95-37.20 บาท/ดอลลาร์
ทาง Shining Gold ระบุว่า
ราคาทองคำไทยยังพยายามยืนเหนือแนวฐานสำคัญ 40,400 บาท ทำให้สามารถเกิด technical rebound เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของแนวต้านได้ แม้จะยังไม่ปลอดภัยมากนักแต่ก็เริ่มดูดีขึ้นมาเล็กน้อยจากสภาวะ 2 วันก่อนหน้า
แต่ยังคงต้องพิจารณาความพยายามดังกล่าวต่อไปอีกสัก 1-2 วัน ยิ่งยืนได้นานเท่าไหร่แรงรีบาวน์ ก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น และ อาจคาดหวังความเป็น sideway ออกด้านข้างได้ในอนาคต
นักลงทุนระยะกลางแบ่งไม้เข้าเก็บบริเวณ 40,400 บาท +/- ประมาณ 15% นักลงทุนระยะสั้น ยังพอมีเวลารอ ความชัดเจน ของการพยายามสร้างกรอบ sideway ได้ โดยให้แนวต้านที่ 40,820 และ 41,120 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 40,470 และ 40,120 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำ gold spot วานนี้ (24 เม.ย.) ยังคงปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 โดยลดลงอีก 7 ดอลลาร์ ราคาลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,311 ดอลลาร์ แต่กลับมาปิดตลาดที่ 2,315 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ ราคาจะขยับลงไปทดสอบ 2,305 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำ gold spot ได้ปรับตัวลง หลังตลาดคลายความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และเริ่มโฟกัสไปที่ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ซึ่งคืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 ประมาณการครั้งที่ 1 ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.5% จากที่ขยายตัว 3.4% ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2,000 รายสู่ 214,000 ราย
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และ Bond yield ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น หลังจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน มี.ค. ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ
โดย YLG Bullion มองว่า
หากราคาทดสอบแนวต้านที่ 2,334-2,353 ดอลลาร์แล้วยังไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดแรงขายกดดันเพิ่มขึ้น
แนะนำ เปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านโซน 2,353 ดอลลาร์ และให้ทยอยปิดสถานะขายทำกำไร หากราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 2,303-2,286 ดอลลาร์
ขณะที่ ARR Goldtrading ระบุว่า
ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้เกิดแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่ นักลงทุนจับตารอตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่อไปอย่างไร
พิจารณาแบ่งเงินลงทุนเป็นหลายส่วนมารอซื้อตามแนวรับเท่านั้นเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น แถว 2,310-2,300 และ 2,290 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 2,290 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,330-2,340 และ 2,350 ดอลลาร์
ด้าน InterGold ระบุว่า
ราคาทองวันนี้ไทยดีดตัวขึ้นต่อ 300 บาทสวนทางราคาทองคำโลก หลังเงินบาทยังคงอ่อนหนุนราคาทองคำไทยได้อีกตลอดสัปดาห์นี้
โดยโมเมนตั้มการอ่อนค่าของเงินบาทมีกำลังมากขึ้นอีกครั้ง ตามการรีบาวด์ขึ้นของเงิน ดอลลาร์ ที่อาจแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาด กลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด และเริ่มมองว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้เพียง 1 ครั้ง หรือไม่ลดดอกเบี้ย
ทั้งนี้ InterGold ให้แนวต้านที่ 2,340 ดอลลาร์ หรือ 41,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,290 ดอลลาร์ หรือ 40,400 บาท
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวันที่ 2,312 และ 2,299 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,331 และ 2,337 ดอลลาร์