เงินทองต้องรู้ : สมาคมฯ เฝ้าจับตากลุ่มมิจฉาชีพทองปลอม หลังนำทองคำแท่งผสมโลหะอื่นออกตระเวนขาย แนะซื้อกับร้านค้าทองคำ ปลอดภัยสุด
สัมภาษณ์พิเศษ คุณธีรเดช สินธพเรืองชัย เลขาธิการ สมาคมค้าทองคำ
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิปเงินทองต้องรู้
หลังจากที่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 มี.ค.) ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวเตือนภัยผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ และประชาชน
หลังพบการปลอมแปลงโลหะทองคำรูปแบบใหม่ ซึ่งใช้วิธีนำโลหะอื่นมาเจือปนกับโลหะทองคำ ทำให้ทองคำมีลักษณะเหมือนทองคำแท้ แต่มีน้ำหนักและมูลค่าต่ำกว่าทองคำแท้
โดยคนร้ายได้นำทองคำแท่ง ประมาณ 2 กิโลกรัม มาขายให้บริษัทห้างทองแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบวัตถุแปลกปลอม ต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นสูงในการตรวจพิสูจน์
ซึ่งทาง คุณธีรเดช สินธพเรืองชัย เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ GoldAround ว่า
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการหลอกลวงผู้ประกอบการร้านค้าทองเท่านั้น ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่ต้องตื่นตระหนก“
โดยกลุ่มมิจฉาชีพได้นำทองคำแท่งที่หลอมเอง ใส่ส่วนผสมธาตุโลหะ รีเนียม และ ทังสเตน หลอมละลายรวมไปกับทองคำ ก่อนนำมาขายให้กับร้านทอง
ซึ่งวิธีการตรวจสอบ แม้จะใช้เครื่องเอ็กซเรย์ ก็จะอาจจะทำได้ไม่สมบูรณ์ เพราะส่วนผสมโลหะจะอยู่ในชั้นกลางของก้อนทองคำ
อาจต้องใช้วิธีการตัด แล้วนำไปเอ็กซเรย์ ถึงจะพบว่ามีส่วนผสมอยู่ หรือจะต้องนำไปหลอมละลายจึงจะพบ เพราะส่วนผสมธาตุโลหะจะมีจุดหลอมเหลวต่างกับทองคำ ทำให้เมื่อนำมาหลอมละลายแล้ว เกิดการตกตะกอนหรือเป็นเศษเล็ก ๆ เหลืออยู่ในเนื้อทองคำ
เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติการตรวจสอบทองคำแท่งมีอยู่หลายวิธี การฝนหิน การตัดดูเนื้อใน เพื่อดูว่ามีทองปลอมหรือไม่ หรือตรวจสอบจากความถ่วงจำเพาะ ซึ่งการที่คนร้ายใช้ทังสเตนและรีเนียมเพราะมีความถ่วงจำเพาะใกล้เคียงกับทองคำ
หากว่าผู้ประกอบการใช้เครื่องตรวจสอบถ่วงจำเพาะก็จะใกล้เคียงกับทองคำ ทำให้ตรวจสอบได้ยาก วิธีการตรวจสอบที่จะให้เห็นผลคือ การตัดก้อนทองเพื่อดูว่าเนื้อข้างในเป็นอย่างไร เพราะอัลลอยทั้ง 2 ชนิดนี้ จะไม่หลอมรวมกับทองคำ
คุณธีรเดชฯ ยอมรับว่า วิธีการดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่กลุ่มมิจฉาชีพนำมาใช้ แต่การนำมาหลอกลวงครั้งนี้ทำเป็นทองคำแท่ง เพื่อมาหลอกร้านค้าทองคำเท่านั้น ยังไม่ใช่การหลอกผู้บริโภค
และจากการตรวจสอบกลุ่มคนร้าย พบว่าเป็นคนต่างชาติ ซึ่งโลหะที่ผสมอาจจะนำเข้ามา แล้วนำมาหลอมรวมกับทองคำในประเทศ หรืออาจจะลักลอบนำทองแท่งปลอมเข้ามาเลยเข้าก็เป็นได้ โดยทองคำที่นำมาขายจะใช้เป็นทอง 96.5% หรือมากกว่านั้น เพื่อให้ผู้ค้าคิดว่าเป็นทองคำไทย
แต่ข้อสังเกตุของทองที่นำมาขาย คือ จะไม่มีการตอกยี่ห้อตราสัญลักษณ์ร้านค้าทองหรือบริษัทค้าทองคำในประเทศ
ดังนั้น คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ก็คือ หากจะซื้อทองคำ ต้องดูว่ามีการตอกตราสัญลักษณ์ผู้ประกอบการร้านทองที่เป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำหรือไม่ ถ้าจะซื้อทองคำที่หลอมเอง จะต้องใช้ความระมัดระมัดระวังเป็นพิเศษ และการตรวจสอบจะต้องมีความถี่ถ้วนมากขึ้น
ในฐานะของเลขาธิการสมาคมฯ ขอแนะนำว่า ผู้ประกอบการร้านทอง ควรจะซื้อทองคำแท่งที่มี แบรนด์ หรือโลโก้ และหากถ้าไม่มีความชำนาญในเรื่องการตรวจสอบทองคำ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในช่วงนี้ควรจะหลีกเลี่ยง ยกเว้นคนที่มีประสบการณ์ในการตรวจสอบก็อาจจะซื้อทองคำที่หลอมเองได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นกัน
อาจจะต้องใช้ขั้นตอนในการตรวจสอบหลายอย่าง โดยควรต้องตัดก้อนทองออกมา หรืออาจจะต้องนำไปเอ็กซ์เรย์ หรืออาจจะต้องหลอมละลายด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้เห็นวัตถุปลอมปนได้ชัด
แต่หากจะปลอดภัยที่สุดขอให้ซื้อทองคำแท่งที่ตีตราร้านค้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำ และต้องคอยระวังบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาขายทองคำในช่วงนี้
ในส่วนของตัวผู้บริโภค มองว่าทั่วไปยังไม่น่ากังวล หากผู้บริโภคจะซื้อทองคำ แนะนำให้ซื้อกับร้านค้าทอง โดยเฉพาะร้านทองที่เป็นสมาชิกของสมาค้าทองคำ จะปลอดภัยกว่า
อย่าไปซื้อกับบุคคลที่อ้างว่ามีทองคำราคาถูกกว่าท้องตลาดมาขาย ลักษณะแบบนี้อันตราย มีความสุ่มเสี่ยง เพราะอาจจะได้ทองคำปลอมมา และหากว่านำทองปลอมนี้ไปขายให้ร้านทองก็อาจจะมีความผิดข้อหาฉ่อโกงได้
ในส่วนของสมาคมฯ ได้ประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกร้านค้าทองคำทั่วประเทศ ในเรื่องของกลโกง รวมถึงในเรื่องของวิธีตรวจสอบทองปลอมเบื้องต้น
นอกจากนั้น ยังแนะนำหลักการต่าง ๆ ในการตรวจสอบ ทั้งตัวสินค้าและคนที่นำมาขาย พร้อมกับให้เพิ่มความระมัดระวังในช่วงนี้ เพราะเมื่อราคาทองคำอยู่ในระดับสูง กลุ่มมิจฉาชีพก็จะยิ่งสร้างเทคนิคหรือสร้างวิธีการใหม่ ๆ มาหลอกลวง
โดยกลุ่มมิจฉาชีพล่าสุดที่นำทองคำแท่งมาหลอกขายให้ร้านค้าทอง เชื่อว่าเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มมิจฉาชีพในเมืองไทย โดยกลุ่มนี้เป็นชาวต่างชาติ
เพราะที่ผ่านมา กลุ่มมิจฉาชีพคนไทย มักจะทำเป็นทองรูปพรรณ โดยอาจจะเป็นการยัดไส้โลหะอื่นเข้าไป ซึ่งต้องมีฝีมือในการผลิต ในขณะที่การทำทองแท่งปลอมแม้ว่าวิธีการทำจะง่ายกว่า แต่ต้องใช้ต้นทุนที่สูงกว่า ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มทุนใหญ่พอสมควร เพราะต้องใช้เงินทุนปริมาณมาก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผลติดตามจับกุมขบวนการนี้อยู่