สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 2 ม.ค.67
ทองคำปี 2566 ทะยานร้อนแรง ทองไทย – gold spot บวกร่วม 13% ปีนี้คาดไปต่อ กูรูมองไกล $2,300
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ย้อนภาพรวมราคาทองคำไทยในปีที่ผ่านเปิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.66 ราคาขายออกอยู่ที่ 29,850 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.66 ราคาขายออกอยู่ที่ 33,650 บาท บวกมามากถึง 3,800 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำเช้านี้ (2 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศลดลงไป 50 บาท ก่อนอีกครึ่งชั่วโมง ถัดมาจะประกาศเพิ่มขึ้น 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 33,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 33,550 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเปิดปีนี้
ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 34,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 32,942.68 บาท คำนวนจากเงินบาทที่ 34.36 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวันสุดท้ายก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ระดับ 34.19 บาท/ดอลลาร์ ส่วนวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20 – 34.45 บาท/ดอลลาร์
ทาง ฮั่วเซ่งเฮง แนะนำการลงทุนทองไทยว่า
ในปี 2566 ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้น 12.73% ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่า 0.37% ทั้งนี้ คาดว่าหากราคาทองคำแท่งยืนเหนือ 33,400-33,450 บาท ได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อไปอีกได้ โดยฮั่วเซ่งเฮง แนะนำเข้าซื้อบริเวณ 33,400-33,450 บาท
มาดูราคาทองคำ spot ปี 2566 เพิ่มขึ้นมามากถึง 240 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 13.11% มาปิดตลาดที่ 2,063 ดอลลาร์ โดยกรอบการเคลื่อนไหวของราคารกว้างถึง 344 ดอลลาร์ ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,148 ดอลลาร์ และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,804 ดอลลาร์ แต่ไฮไลท์ของปีน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่ราคาบวกมากถึง 215 ดอลลาร์ และแนวโน้มของราคาก็ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น เพราะใน timefame รายเดือนและรายสัปดาห์ยังปิดตลาดในแดนบวก ที่ 27 ดอลลาร์ และ 10 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อมามองการซื้อขายทองคำ spot ในช่วงโค้งสุดท้ายของปียังคงเป็นบวก ซึ่งก็มาจากแรงหนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงท้ายก็ยังคงรุนแรงในหลายจุดโดยเฉพาะในทะแลแดง
ด้านนักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยคาดว่าราคาจะพุ่งแตะระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในประเทศขนาดใหญ่หลายประเทศ นอกจากนั้นประเด็นที่ธนาคารกลางทั่วโลกนำโดยธนาคารกลางจีนได้เข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองนั้น จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในปี 2567
โดยการคาดการณ์ราคาทองคำของเจพีมอร์แกนถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าสถาบันอื่น ๆ เช่น ยูบีเอสคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปี 2567 ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2567 จะอยู่ที่ 1,986.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนสัปดาห์แรกของปีต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ธ.ค. ส่วนคืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน ธ.ค. โดยมาร์กิต
มาดูมุมมองการลงทุนของบริษัทค้าทองคำในประเทศ
ทาง Shining Gold ระบุว่า
ตลาดเปิด GAP กระโดดเล็ก ๆ ในช่วงเช้าจาก 2,062 ไป 2,064 ดอลลาร์ ก็ถือว่าไม่มีนัยสำคัญใด ๆ เพราะราคาไม่ได้เหวี่ยงขึ้นหรือเหวี่ยงลงตามแรงกดดันของข่าวในช่วงวันหยุดแต่อย่างใด เช่น มีรายงานว่าอิสราเอลกำลังเตรียมถอนทหารบางส่วนออกจากฉนวนกาซา เพื่อปรับเปลี่ยนลักษณะของสงครามไปสู่ปฏิบัติการแบบกำหนดเป้าหมาย หลังจากสู้รบมานานเกือบ 3 เดือน
ขณะที่ ประเด็นในทะเลแดงก็ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่ชัดเจน ล่าสุดมีการคาดการณ์จาก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ UBS ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 3% ในปี 2024 ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับลดดอกเบี้ยลงมากกว่า 2.25 pbs. มากกว่าที่หลาย ๆ สำนักในวอลล์สตรีทคาดไว้ก็ยังมิได้ส่งผลต่อราคาเชิงบวก
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะตลาดอาจจะยังมองดูแรงซื้อขายหลังช่วงเทศกาลก่อนว่าจะ action ไปตามทิศทางข่าวใดก่อน หรือบางทีอาจจะมีส่วนมาจากตลาดบางแห่งยังไม่เปิดแบบสมบูรณ์เช่นตลาดญี่ปุ่นก็เป็นได้
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคา rebound ให้ open short 2,075 และ 2,083-2,085 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,092 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,054/2,044 และ 2,032 ดอลลาร์
ขณะที่ YLG Bullion มองว่า
มีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ก็มีแรงซื้อดันราคาฟื้นตัวกลับได้เช่นกัน ระยะสั้นราคายังคงสามารถเคลื่อนไหวในกรอบ sideway up ได้
แนะนำ พิจารณาการเปิดสถานะซื้อ หากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 2,052 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,052 ดอลลาร์ หากราคาปรับตัวขึ้นจำกัดให้ทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร ใกล้แนวต้านโซน 2,089-2,093 ดอลลาร์
ทาง AUSIRIS มองว่า
ภาพรวมใหญ่ของราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยยังตัดเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100, 200 วันใน TF4H ทำ slope เป็นบวกในทิศขาขึ้น โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100 วัน เป็นจุดรองรับการพักตัวกลับลงมา แนวโน้ม sideway up และทองจะยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อหากสามารถเบรกแนวต้าน 2,080 ดอลลาร์ ได้
กลยุทธการลงทุน ย่อซื้อ ยังได้เปรียบตลาด โดย gold spot มีแนวรับที่ 2,060 และ 2,050 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,070 และ 2,080 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ GCAP Gold
แนะนำ รอซื้อ 2,055 ดอลลาร์ แนวรับ 2,055/2,051 และ 2,046 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,076/2,081 และ 2,086 ดอลลาร์ stop loss ที่ 2,040 ดอลลาร์