Gold Around Podcast 25 Sep 2023

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 ก.ย.66 GoldAround

ราคาทองคำไทยเช้านี้เปิดตลาดราคาลดลง 50 โดยสมาคมค้าทองคำประการาคาขายออก อยู่ที่ 32,800 รับซื้ออยู่ที่ 32,700 บาท

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 ก.ย.66

ทองคำไทยขยับลด 50 บาท หลังเงินบาทเริ่มปรับตัวแข็งค่า ส่วน gold spot ถ้าไม่หลุด $1,910 มีลุ้นรีบาวด์

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้

ราคาทองคำไทยเช้านี้ (25 ก.ย.) เปิดตลาดราคาลดลง 50 บาท โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ราคาขายออก อยู่ที่ 32,800 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 32,700 บาท คำนวณจากค่าเงินบาทที่ 36.02 บาท

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 36.03 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ช่วงกลางสัปดาห์

ซึ่งผลการประชุมครั้งนี้ยังก้ำกึ่งว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือคงดอกเบี้ย ส่วนสกุลเงินในภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ มีทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า ทั้งนี้คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.85 – 36.10 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า ปัจจุบันราคาทองคำยังคงรอข่าวที่จะประกาศออกมาอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทว่าหลังจากมีการประกาศ dot plot ออกมาจากทาง FOMC และถ้อยแถลงที่ออกมาเป็นผลเชิงลบต่อทองคำ ปัจจุบันราคาทองคำยังไม่ได้มีการย่อตัวลงมาอย่างมีนัยยะสำคัญ

ด้านปัจจัยภายในประเทศ หลังนายกฯ ยืนยันว่า ข่าวลือเรื่องการปลดผู้ว่าฯแบงค์ชาติไม่เป็นความจริง จึงหนุนเงินบาทให้กลับมาแข็งค่า

โดยกลยุทธการลงทุนทองคำไทย ยังแนะนำเป็นการย่อซื้อที่แนวรับ 32,670 และ 32,620 บาท หากราคาเด้งขึ้นไปให้แบ่งทำกำไรบางส่วน โดยให้แนวรับที่ 32,700 และ 32,550 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 33,000 และ 33,200 บาท

ไปดูภาพรวมราคาทองคำ spot สัปดาห์ที่ผ่านมา (18-22 ก.ย.) ราคาได้พยายามขึ้นไปทดสอบแถว 1950 ดอลลาร์ อีกรอบ แต่ก็ยังผ่านไปไม่ได้ ก่อนถูกเทมาแตะจุดต่ำสุดแถว 1,913 ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นมาปิดสัปดาห์ที่ 1,924 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมาเพียง 1 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาทองคำ spot ยังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดรอบ 6 เดือน โดยได้แรงหนุนจากผลประชุมเฟด ซึ่งเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่ออีก 1 ครั้งในปีนี้ และตรึงดอกเบี้ยสูงยาวนานกว่าเดิม ขณะที่การประชุมธนาคารกลางอังกฤษและญี่ปุ่นไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 105.587

มาดูประเด็นที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้

วันอังคาร จะมีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. จาก Conference Board

ขณะที่ วันพฤหัสบดี จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 (ขั้นสุดท้าย) ในช่วงดึกมีการแถลงของประธานเฟด

ส่วน วันศุกร์ มีตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ไปดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศไทย

โดย YLG Bullion มองว่า

แม้ว่าราคาทองคำ spot จะเคลื่อนไหวในกรอบ sideway down แต่ราคาอ่อนตัวลงมาในระดับหนึ่ง แนะนำรอจังหวะราคาดีดตัวขึ้น

แนะนำเปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้น หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,930-1,948 ดอลลาร์ สถานะขายตัดขาดทุนหากผ่านแนวต้าน 1,948 ดอลลาร์ และปิดสถานะขายทำกำไรหากปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,901-1,844 ดอลลาร์

ขณะที่ InterGold ระบุว่า

ราคาทองคำไทยปรับตัวร่วงมาที่ 32,700 บาท หลังจากเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นมากดดันราคาทองคำในประเทศ แนะนักลงทุนจับตาประชุม กนง. (แบงก์ชาติ) ในช่วงบ่ายวันพุธนี้ เพื่อดูท่าทีค่าเงินบาทต่อไป

ทั้งนี้ กราฟทองรายชั่วโมงมีแนวรับที่ 1,900 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำไทย มีแนวรับที่ 32,700 บาท และแนวต้านที่ 33,000 บาท

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง คาดการณ์ว่า

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,913-1,930 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญติดตามการแถลงของประธานเฟด, จีดีพี สหรัฐฯ ไตรมาส 2 และดัชนี PCE พื้นฐานสหรัฐฯ เดือน ส.ค. โดย ฮั่วเซ่งเฮงให้ แนวรับ 1,913 และ 1,910 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,930 และ 1,940 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ GCAP Gold

รอซื้อ 1,918 ดอลลาร์ แนวรับ 1,918/1,913 และ 1,908 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,938/1,943 และ 1,948 ดอลลาร์ จุด stop loss ที่ 1,905 ดอลลาร์