สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 9 ส.ค.66

ราคาทองไทยร่วงน้อย เงินบาทอ่อนเกาะแนว 35 บาท/ดอลลาร์ ลุ้น gold spot จะยืนเหนือ $1,910 ได้หรือไม่

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน

ราคาทองคำไทยเช้านี้ขยับลดลง 50 บาท ราคาขายออกกลับมาอยู่ที่ 31, 950 บาท หลังเมื่อวานนี้กลับไปแตะ 32,000 บาท ขณะที่ราคารับซื้ออยู่ที่ 31,850 บาท คำนวณจากค่าเงินบาทที่ 34.97 บาทต่อดอลลาร์

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย หลังเมื่อวานนี้ปิดตลาดที่ระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 0.47% แตะที่ระดับ 102.520

ในระยะสั้น เงินบาทอาจยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ โดยได้แรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่า รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย

โดยยังต้องจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อดูแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลผสมว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ทั้งนี้ คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.95-35.20 บาท/ดอลลาร์

ด้าน Shining Gold แนะกลยุทธ์การลงทุนว่า

ราคาทองคำไทยได้รีบาวน์ขึ้นมาทดสอบแนวต้านเพื่อขายทำกำไร Zone แรกแล้ว บริเวณ 31,900-31,920 บาท คนที่ทยอยขายแล้ว รอช่วงราคาพักฐานอีกสักระยะ ค่อยเข้าซื้อสะสมใหม่

สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ขาย หรือขายไม่หมด ลุ้นค่าเงินบาทว่าจะสามารถทะลุผ่าน 35.05 ได้หรือไม่ หากไม่ได้ ระวังการพักฐาน โดย Shining Gold ให้แนวต้านราคาทองไทยไว้ที่ 31,910 และ 32,020 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 31,850 และ 31,750 บาท

วันนี้ คงต้องจับตาผลกระทบจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค. ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยได้ประกาศไปในช่วงสาย ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งได้ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 และเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI เดือน ก.ค. ของจีนปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 0.4%

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 4.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ว่าอาจลดลง 4.1%

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนอ่อนแออย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ ยอดส่งออกโดยรวมในเดือน ก.ค. ร่วงลง 14.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 และแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 12.5% ขณะที่ยอดนำเข้าโดยรวมร่วงลง 12.4% แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5%

ไปมาดูมุมมองการลงทุน gold spot จากบริษัทค้าทองคำในประเทศ

ทาง YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบหลังจากทิ้งตัวลง หากวันนี้ยังปรับตัวขึ้นในระดับจำกัดอาจเกิดแรงขายสลับเข้ามา ทั้งนี้เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,941-1,954 ดอลลาร์ และหากไม่สามารถยืนได้ อาจต้องระวังการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,911-1,893 ดอลลาร์

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน อาจพิจารณาเปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน และเมื่อราคาปรับตัวลงมาอาจพิจารณาปิดสถานะเพื่อทำกำไร โดยการย่อตัวลงมาไม่ควรต่ำกว่าบริเวณแนวรับ แต่หากหลุดโซนดังกล่าว สามารถชะลอการปิดสถานะขายออกไป

ขณะที่ AUSIRIS มองว่า

ภาพรวมใหญ่ ราคาทองยังอยู่ในเทรนด์ขาลงแม้จะมีการรีบาวน์กลับมาบ้างแต่จะเป็นในลักษณะการรีบาวน์ขึ้นเพื่อลงต่อ ทั้งนี้ทองจะกลับมาเป็นขาขึ้นระยะสั้นหากสามารถผ่านแนวต้าน 1,945 ดอลลาร์ ส่วนระยะยาวต้องเบรก 1,972-1,986 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวร่วงไม่มาก เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า วันนี้แนวรับแรก gold spot คาดการณ์ 1,925 ดอลลาร์ หากหลุดมีแนวโน้มปรับลงต่อที่ 1,915-1,900 ดอลลาร์

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง ระบุ

ราคาทองคำคาดปรับลดลง หลังจากที่ราคาลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีสัญญาณซื้อทางเทคนิคทำให้ภาพทางเทคนิคยังเป็นขาลง โดยแนวรับอยู่แถว1,910 และ 1,900 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,930 และ 1,940 ดอลลาร์

ส่วน GCAP GOLD

ให้รอซื้อที่ 1,915 ดอลลาร์ มีจุด stop loss 1,900 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน ที่ 1,935/1,940 และ 1,945 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,915/1,910 และ 1,905 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวัน 1,918 และ 1,912 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวัน 1,931 และ 1,937 ดอลลาร์