ราคาทองคำ ปรับตัวลงแรงกว่า 40 ดอลลาร์ หลังดัชนีดอลลาร์ทะยานทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปี และ ยังมีแนวโน้มจะแข็งค่าได้อีก
เนื่องจาก นักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และได้แรงหนุนจากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ทำให้แนวโน้มราคาทองคำยังไม่สู้ดีนัก แต่ราคาทองไทย ยังยืนเหนือ 30,000 บาท ได้ หลังเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 36 บาท ต่อดอลลาร์
ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลงแรงถึง 43 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากหลายประเด็น ได้แก่ ดัชนีดอลลาร์ พุ่งขึ้น 1.28% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปีที่ 106.792
เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก รวมถึง ความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ขณะที่ เงินยูโรที่ดิ่งลงกว่า 1.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี หรือ ต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2002 ที่ 1.0235 หนุนดอลลาร์เพิ่ม
นอกจากนั้น ราคาทองคำยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงกว่า 8% จากความวิตกว่าเศรษฐกิจถดถอย จะกดความต้องการของตลาด และยังเกิดจากแรงขายทางเทคนิค หลังจากราคาทองคำดิ่งลงแรงหลุดระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว อีกทั้งเกิดสัญญาณ Dead Cross ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 วัน
ปัจจัยทั้งหมด ที่ทำให้ราคาทองคำดิ่งลงกว่า 2.4% ทดสอบระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 15 ธ.ค. ปีที่แล้ว ที่ระดับ 1,764 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้พยายามกลับมายืนเหนือ ระดับ 1,770 ดอลลาร์ อีกครั้ง
ซึ่งนักลงทุนจับตา การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ในคืนนี้ รวมถึง การเปิดเผยตัวการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ในวันศุกร์นี้
ด้าน Shining Gold Bullion มองว่า
ปัจจัยทางเทคนิค สัญญาณกราฟราย 4H และ รายวัน เริ่มเข้าสู่ Oversold ขณะที่ กราฟรายสัปดาห์ยังไม่เกิดสัญญาณการกลับตัวแต่อย่างใด
โดยสรุป หากไม่สามารถรีบาวน์มายืนเหนือ 1,784 ดอลลาร์ ได้ ก็ยังมีความเสี่ยงปรับฐานได้ต่อ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ นักลงทุนระยะสั้นเสี่ยงสูง Open Long ที่ 1,758 ดอลลาร์ เคร่งครัด SL ที่ 1,750 ดอลลาร์
ขณะที่ นักลงทุนระยะกลาง เริ่มเข้าสะสม 1,760-1756 ดอลลาร์ [น้อยกว่า 20% ของพอร์ต] เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ราคาทองไทยยังอยู่สูงกว่าเป้าหมายหลัก 29,600 และ 29,100 บาท อยู่มากนัก
ขณะที่ MTS มองว่า
ราคาทองคำ หลุดแนวรับระยะสั้น และ ระยะกลาง โดยลงมาทําจุดตํ่าสุดใหม่ที่บริเวณ 1,763 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าทองคําเริ่มเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลงอย่างสมบูรณ์ ทั้งในระยะสั้น และ ระยะกลาง โดยหลุดแนวรับระยะกลางที่บริเวณ 1,780 ดอลลาร์ ลงมา
กลยุทธการลงทุนวันนี้ แนะนําให้หยุดภาวะการขาดทุน หรือ ลดสถานะ long และ ควรมี Stop loss
โดยมองว่า ราคาทองคํายังมีโอกาสลงต่ออยู่สูง วันนี้ คาดว่าราคาทองคําจะมีแนวรับที่ 1,750 ดอลลาร์ และ มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ก.ค.) มีการขยับขึ้นลงถึง 3 ครั้ง โดยราคาแรกเปิดตลาดลดลงไป 300 บาท ก่อนจะปรับตัวขึ้น – ลง อย่างละครั้งๆ ละ 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (11.30 น.) อยู่ที่ 30,250 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 30,150 บาท
ด้านกองทุน SPDR
ถือครองทองคำลดลง -9.86 ตัน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )
คืนนี้ นอกจากจะติดตาม รายงานการประชุมเฟดประจำเดือน มิ.ย. แล้ว
สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 11.05 ล้านตำแหน่ง จาก 11.40 ล้านตำแหน่ง
และ ดัชนี PMI ภาคบริการ เดือน มิ.ย. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 53.9 จากระดับ 55.9 ใน เดือน พ.ค.
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น