เดือน มิ.ย. ที่กำลังจะมาถึง คาดว่าจะมีหลากหลายเรื่องราวให้เกาะติดใกล้ชิดเช่นเดียวกับเดือน พ.ค. โดยเฉพาะเรื่องนโยบายการเงินของเฟด ที่จะใช้ต่อสู้กับเงินเฟ้อ ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน ต้องมาดูว่าจะสามาถพลิกสถานการณ์กลับมาได้หรือไม่
ทั้งนี้ ในสัปดาห์แรกของเดือน มิ.ย. นักลงทุนรอรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของตลาดทองคำในเดือน มิ.ย. แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดได้เติมความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดน้อยลง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ในทุกสัปดาห์แรกของเดือน เป็นที่ทราบกันว่าจะเป็นสัปดาห์แห่งการประกาศตัวเลขการจ้างงาน โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่จะประกาศในวันศุกร์
โดยตัวเลขในเดือน พ.ค. ตลาดคาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 428,000 ตำแหน่งในเดือน เม.ย. แม้ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้น แต่ยังถือว่าน้อยสุดในรอบปี และเป็นการเติบโตท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะลดลงเหลือ 3.5%
นอกจากนั้น ยังจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศ เดือน พ.ค. ของ ADP ในวันพุธ
ซึ่งจะบ่งชี้ความต้องการในตลาดแรงงาน และเป็นอีกตัวเลขที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยตลาดคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 247,000 ในเดือน เม.ย.
นอกจากนี้ ในวันพุธยังมีการเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book) และ ตลอดทั้งสัปดาห์ยังมีการออกมาแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
เริ่มจาก นาย คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด มีกำหนดจะพูดในวันจันทร์นี้ ตามมาด้วย นาย จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก และ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ในวันพุธ ตามด้วย นาง ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ โดยนักลงทุนจะได้รับทราบแนวโน้มเศรษฐกิจ และ ทิศทางของเฟดก่อนการประชุม FOMC ในช่วงกลางเดือน
ในส่วนของหุ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ถือว่าน่าจับตามอง
เพราะเป็นอีกสาเหตุที่กดดันราคาทองคำไม่ให้ขยับแรงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่ง ทั้ง ดาวโจนส์, S&P 500 และ แนสแด็ก ต่างได้พลิกกลับมาในแดนบวก หลังที่ติดลบมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค หรือ PEC เดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้ออาจถึงจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางคนเริ่มมองว่า เฟดอาจจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ซึ่งทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อเริ่มลดลง
ขณะที่ ค่าเงินดอลลาร์ยังถูกกดันอย่างต่อเนื่องจากค่าเงินยูโร ซึ่งจะต้องดูว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนล่าสุดที่จะประกาศในวันอังคารนี้ จะออกมาอย่างไร
โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค. จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.7% เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.4% ซึ่งอาจจะทำให้ ECB ต้องเร่งกระชับนโยบายการเงิน ในการประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 9 มิ.ย.
และตัวเลขดังกล่าว อาจจะหนุนความคิดของ นาง คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เคยระบุว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ควรเริ่มเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. และ อาจอยู่ที่ศูนย์ หรือ สูงกว่าเล็กน้อย ภายในสิ้นเดือน ก.ย.
ความคิดเห็นถูกปิด