photo by Zlaťáky.cz | pexels.com

ราคาทองคำขยับเหนือ $1,850 หลังเงินเฟ้อ สหรัฐฯ ยังเกิน 8%

ราคาทองคำเริ่มเห็นแรงหนุนเล็กน้อยหลังจากดัชนี CPI เดือน เม.ย. ยังอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวานนี้ ราคาขยับบวกเกือบ 15 ดอลลาร์ มาปิดตลาดที่ 1,852 ดอลลาร์

ราคาทองคำ เริ่มเห็นแรงหนุนเล็กน้อยหลังจากดัชนี CPI เดือน เม.ย. ยังอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวานนี้ ราคาขยับบวกเกือบ 15 ดอลลาร์ มาปิดตลาดที่ 1,852 ดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2524

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0% แต่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2525

ดัชนี CPI เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% แต่ต่ำกว่าระดับ 1.2% ในเดือน มี.ค.

ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และสูงกว่าระดับ 0.3% ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ตลาดทองคำไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดมากนัก โดยนักวิเคราะห์ต่างชาติบางคนมองว่า ทองคำได้แรงหนุนจากข้อมูล CPI เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด เพื่อสกัดตัวเลขเงินเฟ้อ แม้ที่ผ่านมา เฟดจะระบุว่า จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมสองครั้งถัดไป

Andrew Hunter, senior U.S. economist at Capital Economics กล่าวว่า

โดยรวมแล้ว ข้อมูลดัชนีเงินเฟ้อเดือน เม.ย. น่าจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับมติของเฟด ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก 0.50% ในการประชุมสองสามครั้งถัดไป และอาจนำไปสู่การคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% หรือ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่างในระหว่าวงการประชุม

อย่างไรก็ดี มีนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ตลาดบางคน มองว่า อัตราเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว

อย่างไรก็ตาม คำถามก็คือ อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับนี้อีกนานแค่ไหน ซึ่ง Adam Button, chief currency strategist at Forexlive กล่าวว่า เรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการพลิกกลับ จากอัตราเงินเฟ้อต่อปีที่สูงมาก ๆ แต่กว่าที่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงมาระดับ 2% ตามที่เฟดต้องการ อาจจะใช้เวลาที่ยาวนาน

ทั้งนี้ ราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้น โดยดัชนีอาหารเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนที่แล้ว

ขณะที่ ดัชนีน้ำมันเบนซิน เดือน เม.ย. ลดลง 6.1% แต่ราคาก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เมื่อมองภาพในรายปี ราคาพลังงานขึ้น 3.03% ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 9.4%

โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ราคาพลังงานจะยังคงผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นต่อไป เนื่องจากราคาก๊าซเฉลี่ยในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ที่มา: Kitco.com