ทองคำปิดไตรมาสแรก บวก 6% ชี้หาก รัสเซีย-ยูเครน ยังไม่จบมีโอกาสกลับไปแตะ $2,000
ตลาดทองคำปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2022 ด้วยกำไรที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2020 โดยทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 2,060 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 6% ในไตรมาสแรก ถือเป็นการพลิกฟื้นที่น่าประทับใจสำหรับทองคำ ซึ่งปิดตลาดในปี 2021 โดยลดลง 3.7% ซึ่งเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015
ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. โดยราคาได้พุ่งขึ้นเหนือ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัสเซียได้เปิดฉากบุกยูเครน ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความต้องการทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากสัญญาณภาวะถดถอยของเส้นอัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ที่ได้กลับด้านในช่วงสั้น ๆ ในเดือน มี.ค.
นักยุทธศาสตร์ ของ TD Securities ระบุว่า ความต้องการทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังเพิ่มขึ้น
ตราบใดที่ความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ยังคงยากจะคาดเดา เช่นเดียวกับ การตัดสินใจของเฟดในการปรับนโยบายการเงินเพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ วันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสแรกของปีนี้ ราคาทองคำกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียขู่ว่า จะระงับการส่งออกก๊าซ หากประเทศที่ต่อต้านรัสเซีย ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเป็นรูเบิล

โดยยืนยันว่า หากไม่ทำตาม สัญญาก็จะสิ้นสุดลง และรัสเซียก็จะระงับการจ่ายก๊าซ ซึ่งคำขู่ดังกล่าว ทำให้ราคาสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือน เม.ย. ของตลาด Comex อยู่ที่ 1,944.40 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ขณะที่ เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า คำขู่ของ ประธานาธิบดีของรัสเซีย ดูเหมือนจะทำให้ความสำเร็จในการการเจรจาสันติภาพดูเลือนรางมากขึ้น และจะทำให้ราคาทองคำมีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ ที่ระดับ 1,970 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้ โอกาสที่จะกลับไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ ก็อาจเกิดขึ้นได้
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.