ราคาทองคำวันนี้ 06-12-24 วิเคราะห์โดย InterGOLD

ราคาทอง 6 ธ.ค.67

กลยุทธ์ : Sideway
แนวต้าน : $2,670 = 42,900 บาท
แนวรับ : $2,610 = 42,300 บาท

เช้านี้ Gold spot ร่วงลงมาแรงที่ $2,620  เงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 34.18 กดให้ทองไทยร่วงลงมา 42,400

ประธาน FED พาวเวลล์ แถลงเมื่อคืนวันพุธว่า FED จำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังอีกเล็กน้อย ในการลดดอกเบี้ยปีหน้า เนื่องเศรษฐกิจยังอยู่ภาวะที่ดี

ด้าน Fed Watch Tool ปรับเพิ่มโอกาสที่FEDจะลดดอกเบี้ยลงอีก1สเต็ปในการประชุม18ธค มาเป็น 79% แล้ว

ตัวเลขจ้างงาน Non-farm ADP ออกมาที่ 146,000 ราย น้อยกว่าที่ตลาดคาด เป็นผลบวกกับราคาทอง

จับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงาน Nonfarm คืนนี้ 20.30 ตลาดคาดในเดือนพ.ย.มีการจ้างงาน 202,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่ออกมาน้อยมาก แค่12,000ราย อาจส่งผลให้ราคาทองผันผวนได้ในคืนนี้

แนวโน้มเชิงเทคนิค กราฟทองรายชั่วโมงทำรูปแบบ Side-way โดยมีแนวรับที่ $2,610 และแนวต้าน $2,670 โดยตอนนี้กราฟได้ร่วงลงมาใกล้ชนแนวรับ$2,610 แล้ว มีโอกาสกลับตัวและขึ้นต่อไปได้ถึงแนวต้าน $2,670 แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโซนแนวรับ $2,610 = 42,300 และขายทำกำไรได้ที่แนวต้าน $2,670 = 42,900 บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

ราคาทองคำวันนี้ 06-12-24 วิเคราะห์โดย TDC Gold

TDC GOLD

ราคาทอง 6 ธ.ค.67

ติดตามตัวเลขการจ้างงาน NFP คืนนี้คาดการณ์ว่าจะออกมาดีกว่ารอบก่อนหน้าที่ออกมาน้อยผิดปกติจากพายุถล่ม Bitcoin ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทะลุ $100,000 ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้ง ถึงแม้จะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเอกชน ADP จะออกมาน้อยกว่าคาดก็ตาม ซึ่งตลาดกำลังจับตามองตัวเลข NFP ที่จะประกาศในวันนี้ ในเบื้องต้นตัวเลขคาดการณ์จะออกมาดีกว่าเดือนที่แล้ว ซึ่งเผชิญกับพายุจึงทำให้ตัวเลขคาดการณ์มีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง ทางด้านราคาทองคำมองปรับตัวลดลง $2600

ขอขอบคุณ : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ราคาทองคำวันนี้ 06-12-24 วิเคราะห์โดย ShiningGold

Shinning Gold Bullion

ราคาทอง 6 ธ.ค.67

Highlight    

ทองคำ Sideway ออกด้านข้างและเริ่มมีสัญญาณเล็ก ๆ ว่าอาจจะเลือกหลุดกรอบเพื่อเลือกทางเป็น Sideway Down  หรือทิ้งตัวได้ หลังสถานการณ์สงครามในแต่ละภูมิภาคยังไม่มีการยกระดับที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดวานนี้ ยังไม่มีท่าทีแสดงความเชื่อมั่นมากนักว่าเส้นทางลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นไปตามที่ Dot plot เคยจุดเอาไว้ แต่ตลาดก็ยังรอคอยการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรคืนนี้ที่คาดว่าจะดีขึ้นแตะระดับ 218K จากรอบที่แล้วเพียง 12K เท่านั้น

หากประกาศออกมาใกล้เคียงหรือดีตามคาด หรือถ้ายิ่งออกมาสูงกว่าคาดเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสรูดลงสูงตามปัจจัยทางเทคนนิคที่เริ่มเปิดทางด้วยแต่หากออกมาแย่กว่าคาดไปมาก ๆ อาจทำให้เกิด Technical Rebound ได้แต่การรีบาวน์หากไม่ทะลุ 2662 ก็ยังเป็นการรีบาวนเพื่อทิ้งลงเช่นเดิม ทั้งนี้ังมีตัวเลขอีกชุดคืออัตราการว่างงานแม้คาดการณ์เป็นบวกแต่หากประกาศจริงพลิกล๊อคก็อาจซ้ำเติมเทคนิคได้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน    

เฉพาะ Gold Spot รีบาวน์ Open Short 2638/2648-52 เคร่งครัด Stoploss 2662

แนวต้าน   2638/2648-52/2668

แนวรับ     2621/2613/2602

Stoploss  2662

การคาดการณ์ราคาทองคำ    

ในที่สุดราคาทองคำไทยก็หลุดกรอบความเป็น Sideway ลงมาเป็น Sideway Down นักลงทุนระยะสั้นชะลอการลงทุน เพราะยังมีความเสี่ยงหักฐานต่อ  นักลงทุนระยะกลาง เริ่มเข้ามาสะสมไม้แรก บริเวณ 42400-42300 เพียง 10% และค่อยสะสมเพิ่มเมื่อสัมผัส 42200 อีก 15%  และ 42000 เพิ่มขึ้นเป็น 20% ส่วนที่เหลือค่อยพิจารณาตลาดอีกครั้ง

แนวต้าน  42600/42720/43000

แนวรับ   42400/42200/42000

ขอขอบคุณ : บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

ทิศทางทองคำวันนี้ 5 ธ.ค.67 คุยกับคุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ ออสสิริส

คุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิเคราะห์การลงทุน บจ.ออสสิริส

จับตาตัวเลขนอนฟาร์ม (NFP) จะดัน gold spot ทะลุกรอบหรือไม่ ส่วนทองคำไทยเริ่มมีข่าวร้าย เงินบาทกลับมาแข็งค่า

คุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิเคราะห์การลงทุน บจ.ออสสิริส กล่าวกับ GoldAround ว่า

วานนี้ ราคาทองคำ gold spot ปิดตลาดในแดนบวกแถว 2,650 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำ gold spot ลดช่วงบวกลงมา หลังนักลงทุนรอดูข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หรือ NFP ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงาน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมในกลางเดือนนี้และในการประชุมปีหน้า

โดยล่าสุด Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. มากถึง 74%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข NFP เดือน พ.ย. จะพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่ง ในเดือน ต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะดีดตัวสู่ระดับ 4.2% ในเดือน พ.ย. จากระดับ 4.1% ในเดือน ต.ค.

อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงการประกาศตัวเลข NFP ในคืนวันศุกร์ ในคืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้น 2,000 รายสู่ระดับ 215,000 ราย

มาดูข้อมูลเทคนิค

ภาพรวมราคาทองคำ gold spot ยังเคลื่อนไหวในลักษณะพักตัวในกรอบ 2,665 – 2,620 ดอลลาร์ เพื่อรอเบรกข้างใดข้างหนึ่งเพื่อเลือกทิศทาง

ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายใน TimeFame 4H หรือแถว 2,650-2,663 ดอลลาร์ ได้ ทำให้ราคาทองคำ gold spot ยังมีแนวโน้มกลับไปเคลื่อนไหวแถว 2,635-2,607 ดอลลาร์ อีกครั้ง ซึ่งฝั่งขายจะยังได้เปรียบตลาด

ขณะที่ มุมมองโมเมนตั้มในเชิงบวกจะกลับมา ก็ต่อเมื่อราคาทองคำ gold spot กลับไปยืนเหนือ 2,663 ดอลลาร์ ได้ จะทำให้แนวโน้มฝั่ง buy จะกลับมาได้เปรียบตลาด โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2,676-2,688 ดอลลาร์

ทั้งนี้ Ausiris ให้แนวรับราคาทองคำ gold spot ที่ 2,650 และ 2,663 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 2,650 และ 2,663 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 42,800 และ 42,650 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 42,900 และ 43,050 บาท

รับชมคลิป

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 ธ.ค.67

GoldAround_Podcast_05122024

ราคาทองคำยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน คาดตัวเลข NFP อาจดันราคาทะลุกรอบ ส่วนทองคำไทยเริ่มซึมลงหลุด 43,000 บาท แล้ว

มาดูภาพรวมราคาทองคำไทยเช้าวันนี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้ ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 50 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 42,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,800 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,023.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.23 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า

ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวในกรอบ sideways โดยมีแนวรับสำคัญที่ 42,850 บาท และแนวต้านสำคัญที่ 43,200 บาท ล่าสุดราคายังคงพักตัวใกล้แนวรับสำคัญ

โดยแนวโน้มตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเคลื่อนไหวในตลาดโลกหลังการแถลงของประธาน Fed ที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต ส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน หากราคาสามารถยืนเหนือ 42,850 บาท ให้เปิดสถานะซื้อ เป้าหมายที่ 43,200 บาท พร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 42,800 บาท

หากราคาหลุดแนวรับที่ 42,850 บาท ให้พิจารณาเปิดสถานะขายโดยตั้งเป้าหมายที่ 42,700 บาท และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 42,900 บาท

ไปดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหว sideways ก่อนจะปิดตลาดบวกเพิ่ม 7 ดอลลาร์ที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์

โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากตัวแรงการจ้างงานตัวแรกที่ประกาศเมื่อคืนนี้ คือตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือน พ.ย. ของ ADP เพิ่มขึ้นเพียง 146,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ที่ระดับ 163,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 184,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค.

ส่วนคืนนี้สหรัฐ จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้น 2,000 รายสู่ระดับ 215,000 ราย

ขณะที่ ตัวเลขการจ้างงานสำคัญคือการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะดีดตัวสู่ระดับ 4.2% ในเดือน พ.ย. จากระดับ 4.1% ในเดือน ต.ค.

ส่วนการแถลงของประธานเฟดเมื่อช่วงดึกคืนนี้ ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในเดือน ก.ย. และส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย

ทาง Shining Gold ระบุว่า

วานนี้ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณต่อว่าจะปรับลดหรือว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ในรอบที่จะถึงนี้ เพียงแต่ใช้คำพูดว่าความตึงเครียดที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศว่าไม่มีความสำคัญ และคาดว่าเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังในขณะที่ยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ซึ่งคำพูดดูเหมือนค่อนข้างลำบาก แต่ก็พยายามหาความเป็นกลาง ซึ่งในความเป็นจริง คุณโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ยให้มาก แต่ประธานเฟดจะยึดหลักของข้อมูลอ้างอิงเงินเฟ้อ ตลาดแรงงาน และภาวะศก. จึงจะพิจารณาว่า ควรลดหรือไม่ลด

แต่นโยบายหลัก ๆ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ มักจะผลักดันให้การปรับลดอกเบี้ยทำต่อได้ยาก ดังนั้นในอนาคตข้างหน้า อุปสรรคใหญ่ต่อการปรับลดอกเบี้ย คือ ความสำเร็จของนโยบายการคลังนั่นเอง

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น เฉพาะ God Spot รอราคาทองคำรีบาวน์ให้ Open Short ที่ 2,663 และ2,678-82 ดอลลาร์ เคร่งครัด SLที่ 2,690 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 2,642 /2,635-33 และ2,625 ดอลลาร์

ด้าน YLG Bullion มองว่า

แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ sideway แต่ราคาอ่อนตัวลงยังคงมีแรงซื้อพยุงราคาไว้ วานนี้มีแรงกดดันราคาจำกัด แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาเข้าใกล้กรอบด้านล่าง

เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,633-2,615 ดอลลาร์ สถานะซื้อตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับ 2,615 ดอลลาร์ ปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,666-2,683 ดอลลาร์

ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง คาดว่า

ราคาทองคำเคลื่อนไหว sideways ในกรอบที่แคบลง โดยมีแนวรับ 2,630 และ 2,620 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 2,660 และ 2,670 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศคาดเคลื่อนไหว sideways ในกรอบ 42,800-43,050 บาท

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,624 และ 2,612 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,650 และ 2,662 ดอลลาร์

รับชมคลิป

ราคาทองคำวันนี้ 5-12-24 วิเคราะห์โดย Ausiris

Ausiris

ราคาทอง 5 ธ.ค.67

ข่าวสารทองคำประจำวัน (Fundamental Overview)

โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากการที่ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI) เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน พ.ย. อย่างไรก็ตามทองลดช่วงบวกลงมาหลังนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือนหน้า คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.ขณะที่ โดยล่าสุด Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. มากถึง 74%

ข้อมูลเทคนิค(Technical Analysis)

สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,649 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกราวบาทละ 42,900-43,000 บาทสำหรับมุมมองทางเทคนิค ภาพรวมราคาทองโลกยังเคลื่อนไหวพักตัวในกรอบ 2,665-2,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเบรกข้างใดข้างหนึ่งเพื่อเลือกทิศทาง ทั้งนี้หากยังไม่สามารถยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายใน TF4H หรือแถว 2,650-2,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ทองโลกยังมีแนวโน้มกลับไปเคลื่อนไหวแถว2,635-2,607 อีกครั้ง (ฝั่งขายได้เปรียบตลาด) ขณะที่มุมมองโมเมนตัมเชิงบวกต้องรอให้ทองโลกกลับไปยืนเหนือ 2,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฝั่ง Buy จะกลับมาได้เปรียบตลาดโดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2676-2688ดอลลาร์ต่อออนซ์ บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)

ราคาทองโลก (Gold Spot):  
แนวรับ  2,635/2,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,650/2,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:

แนวรับ  42,800/42,650บาท  
แนวต้าน 42,900/43,050บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน

อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด

ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.50-4.75%
ขอขอบคุณ : บริษัท ออสสิริส จำกัด

ราคาทองคำวันนี้ 05-12-24 วิเคราะห์โดย SCT

sct goldaround 16.02

ราคาทอง 5 ธ.ค.67

ทิศทางแนวโน้มราคาทองคำโลกวันนี้

เมื่อวานนี้ทองผันผวนตามคาด โดยตัวเลขจ้างงาน ADP ออกมาลดลง ทำให้ทองพลิกดีดตัวแรง แต่ดึกปธ.เฟดแถลงว่าเค้าพอใจกับนโยบายตอนนี้ รวมถึงรายงานเฟดก็สรุปว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมยังพอใช้ได้ ทำให้ทองซึมๆ โดยรวมทองยังออกได้สองหน้า รอการ BREAKOUT 2635-60 และยืนราคาได้ คืนนี้ยังต้องลุ้น แต่ที่จะถูกชี้ชะตาคือตัวเลขจ้างงาน NFP ในคืนพรุ่งนี้       

ส่วนสถานการณ์ในเกาหลีใต้กลับมาปกติ ข่าวสงครามทั้งตะวันออกกลางและยูเครนยังไม่ขยายวง แต่ก็ประมาทไม่ได้ กลยุทธ์แนะขึ้นขายลงซื้อรอ BREAKOUT ค่อยตามพร้อมมีวินัยวางจุดคัทที่ชัดเจน คาดเร็วๆนี้จะได้เห็นการแกว่งแรงของราคาทุกตลาด โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้าข่าวสงครามและที่สำคัญคือ FOMC กลางเดือนนี้ วิเคราะห์ทองคำไทยวันนี้

ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways

โดยมีแนวรับสำคัญที่ 42,850 บาท และแนวต้านสำคัญที่ 43,200 บาท จากการวิเคราะห์ล่าสุด ราคายังคงพักตัวใกล้แนวรับสำคัญ โดยแนวโน้มตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเคลื่อนไหวในตลาดโลกหลังการแถลงของประธาน Fed ที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต ส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยกลยุทธ์แนะนำคือ หากราคาสามารถยืนเหนือ 42,850 บาท ให้เปิดสถานะซื้อเป้าหมายที่ 43,200 บาท พร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 42,800 บาท หากราคาหลุดแนวรับที่ 42,850 บาท ให้พิจารณาเปิดสถานะขายโดยตั้งเป้าหมายที่ 42,700 บาท และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 42,900 บาท 

วิเคราะห์ค่าเงินไทย

เงินบาทวันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20 – 34.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแถลงของประธาน Fed ที่ส่งสัญญาณแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า และดัชนี ISM ภาคบริการที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง และส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดในสัปดาห์นี้

สถานะตลาด

• SIDEWAY DOWN 2633-70
• จุดเข้า :   SELL 2660-75
• เป้าหมาย :  2600-20
• Stop Loss : 2676
SPOT
• แนวรับ  2635 / 2605
• แนวต้าน 2660 / 2675

96.5 % (บาท)

• แนวรับ :   42900 / 42600
• แนวต้าน 43100 / 43300

99.9 % (บาท)
• แนวรับ  44400 / 44100
• แนวต้าน 44600 / 44800

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด (SCT GOLD) 

ราคาทองคำวันนี้ 04-12-24 วิเคราะห์โดย SCT

วิเคราะห์ราคาทองคำ

ราคาทอง 4 ธ.ค.67

ทิศทางแนวโน้มราคาทองคำโลกวันนี้

ตลาดทองทรง ๆ แกว่งแคบรอปัจจัยข่าวใหม่ แม้เมื่อคืนจะมีเรื่องแปลกที่ปธน.เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึกสร้างความตกใจแต่อีกไม่นานสภาก็สั่งยกเลิกทำให้ราคาทองดีดแล้วย่อ ภาพรวมทองยังออกได้สองหน้าหรือรอการ BREAKOUT กรอบ 2630-2655

คืนนี้สหรัฐฯ จะมีประกาศตัวเลขสำคัญหลายตัว และเฟดแถลงดึกนี้ เตรียมพบความผันผวนแรงในวันที่เหลือของสัปดาห์นี้จากชุดตัวเลขการจ้างงานจึงขอให้เตรียมพร้อม 

คำแนะนำ : เทรดสั้นในกรอบ 2630-55 หรือตามถ้ามีการทะลุกรอบ 

วิเคราะห์ทองคำไทยวันนี้

ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับสำคัญที่ 42,850 บาท และแนวต้านสำคัญที่ 43,200 บาท กราฟในระยะสั้นแสดงการเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด แต่ยังมีแรงซื้อกลับมาในโซนแนวรับ หากราคาสามารถยืนเหนือ 43,200 บาทได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปที่ 43,400 บาท อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับที่ 42,850 บาท อาจปรับตัวลงไปที่ 42,700 บาท

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบในวันนี้คือการรายงานตัวเลข ISM Services PMI ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ โดยกลยุทธ์แนะนำคือ หากราคาสามารถยืนเหนือ 42,850 บาท ให้เปิดสถานะซื้อโดยตั้งเป้าหมายที่ 43,200 บาท พร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 42,800 บาท ในทางกลับกัน หากราคาหลุดแนวรับที่ 42,850 บาท ให้พิจารณาเปิดสถานะขายโดยตั้งเป้าหมายที่ 42,700 บาท และกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 42,900 บาท

วิเคราะห์ค่าเงินไทย

ค่าเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30 – 34.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลข ISM Services PMI ซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง แต่หากต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนเงินบาทให้แข็งค่าได้ในระยะสั้น นอกจากนี้ แนวโน้มการเคลื่อนไหวยังคงได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติและการคาดการณ์นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางในภูมิภาค

สถนะตลาด SIDEWAY DOWN 2607-57

จุดเข้า  SELL 2640-50
เป้าหมาย  2600-20
Stop Loss 2652
ไม่มีสถานะ :  ขาย
มีสถานะซื้อ :  ขึ้นขาย

มีสถานะขาย : รออารมณ์ตลาด : 2

ทองคำแท่ง 96.5 % (บาท)
• แนวรับ :  42900/ 42600
• แนวต้าน : 43200/ 43400

ทองคำแท่ง 99.99 % (บาท)
• แนวรับ : 44,400 / 44,100
• แนวต้าน : 44,700 / 44,900

Gold Spot
• แนวรับ : 2622 / 2605
• แนวต้าน  : 2653 / 2670

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด (SCT GOLD)