ราคาทองคำวันนี้ : GOLD SPOT ดิ่งเหว $1,620 แต่ทองไทยยังเหนียว หลังบาทบินแตะ 38 ! สมาคมทองฯ เปิดราคาแท่งขายออก 29,350

photo by Zlaťáky.cz | pexels.com

ราคาทองคำ วานนี้ปิดลดลงแรงถึง $21 โดยราคาได้แกว่งตัวผันผวนตั้งแต่ช่วงเช้าของตลาดเอเชีย เมื่อดัชนีดอลลาร์ให้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปี ครั้งใหม่ ที่ 114.58 ทำให้ราคาทองคำร่วงลงแตะ $1,626

แม้ระหว่างวัน ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,648 ดอลลาร์ แต่ก็ถูกแรงขายกดดันให้ร่วงลงอีกครั้ง

ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะ 3.9% สูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2010

หลัง นาง ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด คลีฟแลนด์ ออกมาระบุว่า อัตราเงินเฟ้อยังสูงในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ ทำให้เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงนโยบายเข้มงวดไว้สักระยะหนึ่ง พร้อมระบุว่าหากเฟดเดินนโยบายแบบเข้มข้นแล้วมีความผิดพลาด ยังดีกว่าทำน้อยเกินไปแล้วแล้วเกิดความผิดพลาด

คำกล่าวของประธานเฟดคลีฟแลนด์ กดดันให้ทองคำปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ครั้งใหม่ ที่ 1,620 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวแนว 1,630 ดอลลาร์

ด้าน Shining Gold Bullion มองภาพรวมทางเทคนิคว่า

ทองคำ มีแนวพิจารณาจุดรับสำคัญในช่วง 1,616 และ 1,606-1,600 ดอลลาร์ เพื่อดูสัญญาณการเด้ง หรือ สัญญาณการกลับตัวอีกครั้ง จากการเป็น Oversold ทั้ง TF 4H และ TF รายวัน แต่หากไม่เกิดการเด้งจริง ก็ควรระวังการปรับฐานต่อเนื่อง ตามเทรนด์ใหญ่รายเดือน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เสี่ยง Open Long โดยลงทุนสั้น 1,616 และ 1,605-1600 ดอลลาร์ โดยมีจุด SL ที่ 1,590 ดอลลาร์

ขณะที่ GT Gold มองว่า

RSI มี bullish divergence ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาจะรีบาวด์ขึ้นไปแถว 1,650 ดอลลาร์ แต่การถอยลงอีกครั้ง ยังต้องดูว่าจะลึกถึง 1,600 ดอลลาร์ หรือไม่

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ทยอยชอร์ตเมื่อราคาขึ้นเกิน 1,640 ดอลลาร์

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 ก.ย.) ราคาลดลง 100 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.30 น.) อยู่ที่ 29,350 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,250 บาท

ส่วนค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 37.88 บาทต่อดอลลาร์

ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 37.86 บาทต่อดอลลาร์

โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 37.80 – 38.15 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับทางด้าน SPDR Gold Trust

ถือครองทองคำลดลง 3.76 ตัน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )

คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผย

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากที่ลดลง 0.1%

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 104.0 จากระดับ 103.2 ในเดือน ส.ค.

และยอดขายบ้านใหม่เดือน ส.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 500,000 ยูนิต จากระดับ 511,000 ยูนิต

นอกจากนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟด

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 by MTS

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จากแรงเทขายเข้ามาโดยตลอดจากกองทุนทองคำ SPDR โดยเมื่อวานนี้ขายออก 3.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 943.47 ตัน ภาพรวมตลาดยังเป็นเรื่องของการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินไปสู่การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ได้ผลตอบแทนดี โดยอัตราผลตอบแทนพันบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.30%

ซึ่งส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากประเทศไทย ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วขึ้นไปทดสอบบริเวณ 37.98 บาทต่อดอลลาร์ เช้าวันนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 37.92 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยเช้านี้ขึ้นมาที่ระดับ 113.81 จุด สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core Durable Goods Orders m/m, Durable Goods Orders m/m และ CB Consumer Confidence ซึ่งคาดว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ New Home Sales คาดว่าจะออกมาลดลงจากเดิม

โดยภาพรวมตลาดยังรอคอยความคิดเห็นต่างๆของประธานเฟด ซึ่งภาพรวมจะเห็นว่ามีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์โลหะมีค่า รวมถึงซิลเวอร์ สำหรับปริมาณการซื้อขายในประเทศไทยเมื่อวานนี้ Gold Online Futures อยู่ที่ 40,359 คู่สัญญา และ GF10 Futures อยู่ที่ 7,820 คู่สัญญา

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่องจากแรงกดดันของการเทขาย ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนตัวทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่องที่บริเวณ 1,620 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นถัดไปที่ระดับ 1,610 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,650 เหรียญ เช่นเดียวกับ Gold Online Futures กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเล่นตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาลง โดยป้องกันความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวนของตลาดให้ดี

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways Down เน้นการถือสถานะ Short Position ระวังความผันผวนของราคา

– นักลงทุนที่ถือ Long Position

ยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะ หรือรอเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาบริเวณแนวรับและรีบปิดเมื่อราคาดีดตัวกลับเน้นเทรดระยะสั้น

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ

ขอขอบคุณ  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 by YLG

YLG Bullion

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย $1,649-1,668

จุดทำกำไร    ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,620-1,602

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,668

แนวรับ : 1,620 1,602 1,584  แนวต้าน : 1,649 1,668 1,687

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 20.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาแกว่งตัวผันผวนตั้งแต่ช่วงเช้าของตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.0327 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากรัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ สถานการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ที่ 114.58 จนกดดันราคาทองคำ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,649.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็ถูกแรงขายกดดันให้ร่วงลงอีกครั้ง ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เม.ย. 2010 ที่ 3.9% ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวถูกตอกย้ำด้วยถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ที่กล่าววานนี้ว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ “สูงในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้” ทำให้เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยและคงนโยบายเข้มงวดไว้สักระยะหนึ่ง และหากเกิดข้อผิดพลาดจะเป็นการ “ดีกว่า” ถ้าเฟดทำมากเกินไป(do too much) เมื่อเทียบกับการที่เฟดทำน้อยเกินไป(do too little)

ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ทองคำปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งครั้งใหม่ที่ 1,620.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.76 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB, ยอดขายบ้านใหม่และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) เฟดชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวลงในเดือนส.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.00 ในเดือนส.ค. จากระดับ +0.29 ในเดือนก.ค. การปรับตัวลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและภาคการผลิต
  • (+) ดัชนีชี้วัดความวิตกนักลงทุนพุ่ง ผวา FX ป่วน, เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีชี้วัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตรา และความวิตกที่ว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไปจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย ทั้งนี้ ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 32.88 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 329.60 จุด วิตกดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดศก.ถดถอย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงและเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) แล้วในวันจันทร์ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,260.81 จุด ร่วงลง 329.60 จุด หรือ -1.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,655.04 จุด ลดลง 38.19 จุด หรือ -1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,802.92 จุด ลดลง 65.00 จุด หรือ -0.60%
  • (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งทะลุ 4.3% นิวไฮ 15 ปี ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี ณ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.237% หลังแตะระดับ 4.351% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2550 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.749% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.621%
  • (-) ดอลล์แข็งค่ารับเฟดเดินหน้าขึ้นดบ. ปอนด์ร่วงเหตุวิตกการคลังอังกฤษ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (26 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลอังกฤษทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.81% แตะที่ระดับ 114.1030 ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9615 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0688 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0847 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6459 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6517 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.51 เยน จากระดับ 143.35 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9943 ฟรังก์ จากระดับ 0.9828 ฟรังก์
  • (-) BoE ส่งสัญญาณไม่มีแผนจัดประชุมฉุกเฉิน แม้ปอนด์ทรุดหนักเป็นประวัติการณ์ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า BoE กำลังจับตาสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ปอนด์ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เทียบดอลลาร์ในวันนี้ “ทางธนาคารกำลังจับตาสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน โดยบทบาทของนโยบายการเงินคือการสร้างความมั่นใจว่าอุปสงค์จะไม่นำหน้าอุปทานจนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นในระยะกลาง ซึ่ง BoE จะไม่ลังเลในการปรับอัตราดอกเบี้ยหากมีความจำเป็นเพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืนในระยะกลาง” นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ระบุในแถลงการณ์ อย่างไรก็ดี นายเบลีย์ส่งสัญญาณว่า BoE ไม่มีแผนที่จะจัดการประชุมฉุกเฉินแต่อย่างใด “คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BoE จะทำการประเมินสถานการณ์อย่างสมบูรณ์ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายน และจะดำเนินการตามที่เห็นสมควร” แถลงการณ์ระบุ
  • (-) น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.03 เหตุดอลล์แข็ง-วิตกเศรษฐกิจถดถอย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนในวันจันทร์ (26 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลว่าการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 76.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2565 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 84.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 14 ม.ค. 2565

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

SPDR ขายทองคำอีก 3.76 ตัน สัปดาห์ที่แล้วขายไป 17 ตัน

Photo credit should read SEBASTIAN DERUNGS/AFP/Getty Images

SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 ก.ย.) SPDR ได้ขายทองคำออกมาอีก 3.76 ตัน ที่ราคา 1,621.90 ดอลลาร์ ทำให้ SPDR เหลือถือครองทองคำ 943.47 ตัน

เมื่อมาดูตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา SPDR ขายทองคำออกมาทั้ง 5 วันทำการ ร่วม 17 ตัน และ เมื่อดูภาพรวมในเดือน ก.ย. SPDR ได้ขายทองคำออกมาแล้ว 15 ครั้ง รวม 32.79 ตัน และ ซื้อ คืนครั้งเดียวคือวันที่ 16 ก.ย. จำนวน 1.45 ตัน หากมองในภาพรวมของปีนี้ติดลบ 32.19 ตัน

ขณะที่ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานนี้ ได้ปรับตัวลดลง 21 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้ลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 1,621 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำยังถูกกดดันโดยตรงจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ที่เมื่อวานนี้ได้ทำสถิติใหม่อีกรอบ โดยขึ้นไปแตะระดับ 114.025 สูงสุดในรอบ 20 ปี

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังมีแรงหนุนอีกหลายประเด็นในสัปดาห์นี้ ทั้งการออกมาให้สัมภาษณ์ของประธานเฟด และประธานเฟดแต่ละสาขา ซึ่งคาดว่าจะออกมาหนุนให้เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก

นอกจากนั้น ยังต้องติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ โดย Bloomberg คาดการณ์ว่าจะออกมาติดลบ 0.6% และการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันศุกร์ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกจากวิกฤตพลังงาน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 by LHC

LangHong เล่งหงษ์

สรุปภาพรวมราคาทอง

ราคาทองคำ วานนี้ปิดปรับตัวลดลง 21.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างวันราคาปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,621.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธ.ค.

สรุปข่าว

  • ติดตามรายงานรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี CB Consumer Confidence ในค่ำ คืนนี้
  • ติดตามรายงานแถลงการณ์ของนายพาวเวลล์ Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐในคืนวันพุธ
  • ติดตามรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ GDP ในคืนวันพฤหัสบดี
  • ติดตามรายงานรายงานจำ นวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน Initial Jobless Claims ในคืนวันพฤหัสบดี

แนวรับรายวัน : 1,589$ , 1,607$
แนวต้านรายวัน : 1,656$ , 1,676$

ขอขอบคุณ : บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 by GT

GT GOLD BULLION

Fundamental

  • Fed สาขาชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯปรับตัวลงในเดือน ส.ค. เนื่องจากการชะลอลงของการจ้างงานและภาคการผลิต
  • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี (Ifo) ออกมาเตือนว่าประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • รองประธาน ECB เผยเงินเฟ้อในยูโรโซนขยายวงขึ้น และสงครามยูเครนยังคงเป็นปัญหาให้ GDP ชะลอตัว

Technical

  • RSI มี bullish divergence แสดงว่าขาลงเริ่มอ่อนแรง แต่เส้น MA ยังคงกดลงหนักหน่วง จึงคาดว่าถึงรีบาวด์ได้ดี แต่ก็จะถอยลงมาอีก
  • RSI มี bullish divergence เช่นเดียวกัน ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาจะรีบาวด์ขึ้นไปแถว 1,650 แต่การถอยลงอีกครั้งยังต้องดูว่าจะลึกถึง 1,600 หรือไม่
  • ทิศทางวันนี้  ขึ้นเพื่อลง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?  ทยอยชอร์ตเมื่อขึ้นเกิน 1,640

Attention

  • Fed Fund Rate Futures ล่าสุด 32% มองขึ้นดอกเบี้ยเดือน พ.ย. ที่ 0.50% และ 67% มองขึ้น 0.75% อีกครั้ง
  • Inverted Yield Curve 10-2y spread อยู่ที่ -0.44%

ขอขอบคุณ : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 By HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

วิเคราะห์ราคาทอง

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways down โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,620 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,610 ดอลลาร์  ขณะที่มีแนวต้าน 1,640 ดอลลาร์ และ 1,650 ดอลลาร์

สภาวะตลาดทอง

ทองคำถูกกดดันจากที่คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย.

ติดตามการแถลงของประธานเฟด

GOLD SPOT

สูงสุด – 1,649 ดอลลาร์

ต่ำสุด – 1,620 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง

สูงสุด – 29,450 บาท

ต่ำสุด – 29,400 บาท

ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ราคาทองคำ spot เมื่อวานที่ผ่านมาเคลื่อนไหว Sideways down เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่ายังกดดันตลาดทองคำ ท่ามกลางความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย ทั้งนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และจะปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธ.ค. ทำให้อัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.25%-4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงกว่าระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่เฟดมองว่าเป็นกลาง สำหรับทางด้าน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 3.76 ตันจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.  ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากที่ลดลง 0.1% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 104.0 จากระดับ 103.2 ในเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.  ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 500,000 ยูนิต จากระดับ 511,000 ยูนิต นอกจากนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟด

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.65 By ShiningGold

ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

Highlight

ความไม่เชื่อมั่นในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังรัฐมนตรีคลังวางแผนเดินหน้าลดภาษี โดยเหล่าบรรดานักวิชาการต่างลงความเห็นกันว่านโยบายดังกล่าวเอื้อประโยชน์คนรวย และ ยิ่งผลักดันอัตราเงินเฟ้อในอนาคต ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องกดดันปอนด์อ่อนค่าอย่างรุนแรงในช่วงเช้า ก่อนที่จะดีดกลับแข็งค่าขึ้นมาบ้างในช่วงวัน แต่นั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสัปดาห์ที่มีแต่แรงกดดันดอลลาร์ในด้่นอื่น ๆ อยู่แล้วทำให้วานนี้ Dollar แข็งแตะระดับ 114.59 กดดันทองคำร่วงต่อเนื่องจาก 1648 สู่ 1622 ขณะที่ค่าเงินบาทก็อ่อนค่าต่อเนื่อง ชน 37.92 

ภาพรวมทางเทคนิค ทองคำมีแนวพิจารณาจุดรับสำคัญในช่วง 1616/1606-1600 เพื่อดูสัญญาณการเด้ง หรือสัญญาณการกลับตัวอีกครั้ง จากการเป็น Oversold ทั้งราย 4H และ รายวัน แต่หากไม่เกิดการเด้งจริง ก็ควรระวังการปรับฐานต่อเนื่องตามเทรนด์ใหญ่รายเดือน

กลยุทธ์การลงทุน : เสี่ยง Open Long ลงทุนสั้น 1616 / 1605-1600 [SL=1590]

แนวต้าน      1635 / 1639 /1648

แนวรับ        1616 /1605-1600 / 1582

Stoploss    1590

การคาดการณ์ราคาทองคำไทย :  ราคาทองคำไทย เข้าใกล้แนวรับซื้อเล่นรอบ

แนวต้าน  29320/29430

แนวรับ    29140-60/28900

ขอขอบคุณ : บจก.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

ราคาทองคำวันนี้ : วูบ! ไหลลงแตะ $1,626 ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ จ่อ 115

photo by AlphaTradeZone | pexels.com

ราคาทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงปรับตัวลดลง $31 โดยเฉพาะในวันศุกร์ราคาทองคำลดลงมากถึง $27.30

โดยราคาทองคำได้ลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,639 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

ทั้งนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันอย่างหนัก จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 113.228 ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 114.527 เนื่องจากเงินปอนด์จะดิ่งต่อ แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ราคาทองคำช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ลงแตะจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 1,626 ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดย นาย เจอโรม พาวเวล เน้นย้ำเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ยังไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

ด้าน T.D.C. Gold มองว่า

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับจากต้นปี และ ต่ำที่สุดก่อนที่จะเกิดสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย

สาเหตุเนื่องมาจาก ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแตะ 4.2% และค่าเงินดอลลาร์เปิดตลาดแข็งค่าสู่ระดับ 113 จุด กดดันราคาทองคำ และตลาดหุ้นตะวันตก รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้

สำหรับทิศทางวันนี้ T.D.C. Gold มองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,680 ดอลลาร์ แนะนำลดสถานะซื้อ

ขณะที่ YLG มองว่า

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,632-1,626 ดอลลาร์ ราคามีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น โดยหากราคายืนเหนือแนวต้านแรกโซนได้ 1,654 ดอลลาร์ ได้ มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้านสำคัญโซน 1,675 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เปิดสถานะซื้อ ที่ 1,632-1,626 ดอลลาร์ ขายเพื่อทำกำไร 1,654 ดอลลาร์ และ ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,605 ดอลลาร์

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ราคายังไม่ขยับ ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (11.00 น.) อยู่ที่ 29,400 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,300 บาท ทั้งนี้ ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท

สำหรับทางด้าน SPDR Gold Trust

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาขายทองคำสุทธิ 13.62 ตัน

สำหรับวันนี้ติดตาม

ถ้อยแถลงของประธาน ECB และ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการประมาณการครั้งสุดท้าย

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน เดือน ส.ค.

ดัชนี PMI เขตชิคาโก เดือน ก.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. โดย Conference Board

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 26 ก.ย.65 by YLG

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อ $1,632-1,626

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,654

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,605

แนวรับ : 1,626 1,605 1,587  แนวต้าน : 1,654 1,675 1,688

สรุป

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านปิดปรับตัวดิ่งลง 27.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างหนักในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจาก…

(1.) การดิ่งลงของเงินปอนด์ หลังผลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอสแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจอังกฤษทรุดตัวลงในเดือนก.ย. ประกอบกับนายกวาซี กวาร์เทง รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหราชอาณาจักร ประกาศแผนตัดลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี และมาตรการทางเศรษฐกิจหลายอย่าง โดยจะกู้เงินเข้ามาทดแทนรายได้จากภาษีที่หายไปซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก

(2.) เงินยูโรอ่อนค่า หลังดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคการบริการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจของเยอรมนี ร่วงลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนก.ย.

(3.)อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.829% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เม.ย. 2010 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และ

(4.) ดัชนีดอลลาร์ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 113.23 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2002 พร้อมปิดแข็งค่าขึ้นในรายสัปดาห์มากสุดนับตั้งแต่มี.ค. 2020 โดยรับแรงหนุนจากการที่เฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่การอ่อนค่าของปอนด์และยูโรหนุนดอลลาร์เพิ่ม สถานการณ์ดังกล่าวฉุดให้ทองคำดิ่งลงแรงจนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,639.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่เช้านี้เงินปอนด์จะดิ่งต่อแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งกดดันให้ทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งบริเวณ 1,626.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.90 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธาน ECB และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) รมว.ต่างประเทศรัสเซียลั่นปกป้องทุกดินแดนที่ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวขณะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ (24 ก.ย.) ว่า ทุกดินแดนที่ผนวกรวมเข้ากับรัสเซียจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ หลังจากรัสเซียเริ่มทำประชามติเพื่อผนวกบางพื้นที่ของยูเครนตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า รัสเซียอาจโหมกระพือความขัดแย้ง รวมถึงใช้อาวุธนิวเคลียร์
  • (+) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธขู่ ก่อนสหรัฐ-เกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบ คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยในวันนี้ (25 ก.ย.) ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ตกลงในน่านน้ำตะวันออกจากเมืองแทชอน จังหวัดพยองอันเหนือเมื่อเวลา 6.53 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4.53 น.ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ขณะที่ ยามชายฝั่งญี่ปุ่นยืนยันเรื่องการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ พร้อมเตือนให้เรือระมัดระวังตัว โดยคาดว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
  • (+) ฟินแลนด์จ่อสั่งห้ามนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้าประเทศหลังปูตินประกาศระดมพล ฟินแลนด์เตรียมห้ามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าประเทศในเร็ว ๆ นี้ หลังคำสั่งระดมพลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียทำให้มีชาวรัสเซียจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ฟินแลนด์ เพื่อหลบหนีการเกณฑ์ทหาร รัฐบาลกลาง-ซ้ายของฟินแลนด์เปิดเผยในวันศุกร์ (23 ก.ย.) ว่า จะหยุดรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ ขณะที่รัฐบาลเผชิญแรงกดดันจากประชาชนและพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนการสั่งห้ามดังกล่าว
  • (-) GfK เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาด เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษปรับตัวลง 5 จุด สู่ระดับ -49 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2517
  • (-) ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 3 เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 44.6 ในเดือนส.ค. ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน  อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน   ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 51.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 51.5 ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 49.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 43.7 ในเดือนส.ค.
  • (-) ดอลลาร์แข็งค่า ได้แรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (23 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1.65% แตะที่ระดับ 113.1890 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 143.35 เยน จากระดับ 142.41 เยน, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9828 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9787 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3604 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9674 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9833 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0847 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1251 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6517 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6640 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) “ซิตี้กรุ๊ป” เตือนปอนด์อาจดิ่งแตะ 1:1 เทียบดอลลาร์ กังวลอังกฤษก่อหนี้เพิ่ม ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า อังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นในสกุลเงินปอนด์ และปอนด์อาจดิ่งลงแตะระดับ 1:1 เทียบดอลลาร์ “เราคิดว่าอังกฤษจะประสบความยากลำบากในการหาเงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่” รายงานระบุ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 486.27 จุด วิตกเศรษฐกิจถดถอยฉุดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐที่หดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 นั้น ถ่วงตลาดลงด้วย ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,590.41 จุด ร่วงลง 486.27 จุด หรือ -1.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,693.23 จุด ร่วงลง 64.76 จุด หรือ -1.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,867.93 จุด ร่วงลง 198.88 จุด หรือ -1.80%

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)