นลท.มองทองสัปดาห์นี้เป็นบวก สวนทางกับผู้เชี่ยวชาญ

GRC Gold Survey 27 มิ.ย. – 1 ก.ค.65

| GRC Gold Survey 27 มิ.ย. – 1 ก.ค.65 |

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย. – 1 ก.ค.65 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 311 ราย ในจำนวนนี้มี 170 ราย หรือเทียบเป็น 55% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 98 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 43 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 30,650 – 30,800 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 30,700 บาท ต่อบาททองคำ ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 30,700 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน กลับมาตึงเครียดมากขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ประกาศมาตรการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งจีนคัดค้านต่อการสั่งแบนดังกล่าวของสหรัฐฯ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดกฎเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ

2. นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมทั้งความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ภาวะเศรษฐกิจโลกจะถดถอย

3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตเดือน มิถุนายน 2565,  ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน พฤษภาคม 2565, รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล, อัตราเงินเฟ้อจาก PCE/Core PCE Price Index เดือน พฤษภาคม, จีดีพีไตรมาส 1/65 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

ทองคำยังน่าห่วง หลัง ปธ.เฟด ยังไม่ตัดประเด็นขึ้นดอกเบี้ย 1%

Kitco Gold Survey

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหว sideway กรอบ $1,800-1,870 มาหลายสัปดาห์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ราคาที่ลดต่ำลง เป็นโอกาสในการซื้อ

เนื่องจากความไม่แน่นอน และความผันผวนของตลาดทุน ทำให้ทองคำยังโดดเด่น

สัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ 15 คนจาก Wall Street เข้าร่วมการสำรวจทองคำของ Kitco News

โดยนักวิเคราะห์ 4 คน หรือ 26% มองว่า ระยะสั้นทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่นักวิเคราะห์อีก 5 คน หรือ 32% มองว่าทองคำมีแนวโน้มลดลง ที่เหลือ 6 คน หรือ 42% ยังมองเป็นกลางต่อราคาทองคำในสัปดาห์หน้า

ส่วนนักลงทุนทั่วไป ที่ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ สัปดาห์นี้มี 681 คน

โดย 301 คน หรือ 44% มองว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า อีก 185 คน หรือ 27% ระบุว่าราคาจะลดลง ที่เหลือ 195 คน หรือ 29% มองเป็นกลางต่อราคาทองคำในระยะใกล้

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนรายย่อย อยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบเกือบสามปี และ การมีส่วนร่วมในการสำรวจออนไลน์ลดลงเหลือต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

ขณะที่ นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า ราคาทองคำจะลดต่ำลง โดยมีแนวรับที่ 1,800 ดอลลาร์ และ แนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์

Phillip Streible

Phillip Streible, Chief Market Strategist at Blue Line Futures กล่าวว่า

จุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการกระชับนโยบายการเงินอย่างจริงจัง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย

อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตกอยู่ในภาวะถดถอย ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกบังคับให้ยกเลิกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบางส่วน ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นในครั้งต่อไป

Marc Chandler

Marc Chandler, Managing Director at Bannockburn Global Forex กล่าวว่า

สังเกตเห็น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ได้บรรจบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ 1,842 และ 1,845 ดอลลาร์ ตามลำดับ

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อาจช่วยให้ทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของสัปดาห์ โดยราคาทองคำพยายามดิ้นรนเพื่อดึงดูดโมเมนตัมขาขึ้น หลังจากที่ นาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ไม่ยอมตัดทอนความเป็นไปได้ที่การปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ในเดือนหน้า

ขณะที่ Frank McGee, Precious Metals Dealer at Alliance Financial คาดว่า

ราคาทองคำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ที่มา : Kitco.com

SPDR เปิดโหมดเทขายทองคำ สัปดาห์นี้เทออกร่วม 15 ตัน

gold custodian

มาดูการเคลื่อนไหวของ SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13 -17 มิ.ย.) ได้กลับมาซื้อทองเพิ่มขึ้นประมาณ 7 ตัน แต่สัปดาห์นี้ ได้กลับมาเข้าสู่โหมดขายออกอีกรอบรวม 14.50 ตัน

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) SPDR ได้ขายทองคำแท่ง ออกมาอีก 2.03 ตัน ที่ราคา 1,827.30 ดอลลาร์ ทำให้สัปดาห์นี้ SPDR ขายทองคำออก 4 วันรวด ตั้งแต่วันพุธ ขายออก 1.74 ตัน วันพฤหัสขายออก 2.03 ตัน เมื่อวานนี้ขายออก 8.70 ตัน และวันนี้ 2.03 ตัน

ทำให้เดือนนี้ ยอดการ ซื้อ-ขาย ทองคำ กลับมาติดลบ 8.77 ตัน และปีนี้เหลือยอดการ ซื้อ-ขาย ทองคำ เพิ่มขึ้นประมาณ 85 ตัน และ คงการถือครองทองคำทั้งหมด 1,061.04 ตัน

ทั้งนี้ SPDR ได้เริ่มกลับมาขายทองคำ ก่อนที่ประธานเฟดจะแถลงเรื่องนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส และสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธและพฤหัสที่ผ่านมา

โดยเฟดแสดงความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทางการเงิน เพื่อดึงตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงให้กลับมาอยู่ในกรอบที่เฟดต้องการคือ ประมาณ 2% โดยมองว่า มาตรการคุมเข้มทางการเงิน ถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ เพราะมีความแข็งแกร่งมากพอ

ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ในการประชุมครั้งถัดไป เฟดจะประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และเริ่มมีกระแสว่าอาจจะปรับขึ้นถึง 1 % หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนออกมาหนุนให้ใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่าเดิม ในการคุมเรื่องอัตราเงินเฟ้อ

โดย Fed Fund Rate Futures เมื่อวันที่ 24.มิ.ย. 3% มองขึ้นดอกเบี้ยเดือน ก.ค. ที่ 0.5% และ 97% มองขึ้นรวดเดียว 0.75%

นักวิเคราะห์จากต่างชาติมองว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งค่า หลังตลาดคาดการณ์การเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ที่ 0.75% และอัตราผลตอบแทนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวสูง ซึ่งได้กดดันราคาทองคำ

โดยอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น จะเพิ่มค่าเสียโอกาสในการถือทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ยังมองว่า ทองคำ ยังคงอ่อนแอในระยะสั้น เนื่องจากไม่สามารถทะลุระดับ 1,850 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ยังคงช่วยดึงราคาทองคำไว้ ซึ่งหากความกังวลดังกล่าวลดลง ราคาทองคำมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลงต่ำกว่าระดับในปัจจุบัน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

ชี้แม้ทองคำผันผวนต่ำ แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะกระทิงหากยังไม่ผ่าน $1,880

photo by Michael Steinberg | pexels.com

Kitco news ได้เปิดเผยรายงานของ MKS PAMP ที่ระบุว่า ความผันผวนของทองคำยังค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ

โดยราคาทองคำยังไม่เป็นขาขึ้นที่ชัดเจน และยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,900 ดอลลาร์ แต่อย่าคาดหวังว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น จนกว่าความเชื่อมั่นจะกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง

Nicky Shiels metals strategist MKS PAMP ระบุว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวแข็งแกร่ง เนื่องจากมีความกลัวเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ นักลงทุนจึงหนีจากตราสารทุนมายังทองคำ และดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์หลบภัย อย่างไรก็ดีหากจะให้ทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว จะต้องขึ้นไปที่ระดับ 1,880 ดอลลาร์

ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนสำคัญคือนโยบายของเฟด ที่ผ่านมาดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ 1.75% โดย CPI อยู่ที่ 8.6% แต่โดยรวมแล้วรายละเอียดของแถลงการณ์ของเฟดค่อนข้างน่าเกรงขาม หลังยอมรับว่าเศรษฐกิจแย่ลง และข้อมูลที่บ่งชี้เรื่องเศรษฐกิจกำลังถดถอยมีเพิ่มมามากขึ้น

gold custodian
gold custodian

Nicky Shiels มองว่าเฟดอาจจะปรับนโยบาย ลดอัตราดอกเบี้ยภายในไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทองคำครั้งใหม่ แต่ขณะนี้เฟดยังคงปรับเปลี่ยนการต่อสู้กับเงินเฟ้อแบบไม่มีเงื่อนไข เพื่อดึงให้ตัวเลขเงินเฟ้อลดลง แต่ก็ได้เกิดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยได้เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นในข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจระดับมหภาค

ด้าน  IHS Markit  ระบุว่าข้อมูล PMI ล่าสุดส่งสัญญาณว่า การส่งออกของภาคเอกชนสหรัฐฟื้นตัวอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่การชะลอตัวที่เกิดจากการแพร่ระบาดขอ Omicron ในช่วงครึ่งปีแรก โดย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (PMI) ในเดือนมิ.ย. ลดลงสู่ 52.4 จาก เดือนพ.ค. อยู่ที่ 57.0

ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น เดือนมิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 51.6 ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 53.4 ในเดือนพ.ค. สะท้อนว่าตลาดแรงงาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน 

ราคาทองคำวันนี้ : ฮึดไม่ผ่าน $1,850 ถูกเทร่วงแต่ยังไม่หลุด $1,820

Gold Bullion

ราคาทองคำวิ่งไม่ผ่าน $1,850 ทำให้ถูกเทกลับมาเริ่มต้นกันใหม่แถว $1,825 โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาแย่ต่อเนื่อง

แต่ราคาทองคำก็ถูกกดดันจากคำยืนยันของ ประธานเฟด ที่ระบุว่า จะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อต่ำลง ขณะที่ราคาทองไทยยังอยู่ที่ 30,750 บาท

ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 15 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบ 1,845-1,820 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบนนช่วงค่ำ หลังจากสหรัฐฯ เผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกแย่เกินคาด

ขณะที่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ 52.4 จาก เดือน พ.ค. อยู่ที่ 57.0 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น เดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 51.6 จากระดับ 53.4 ในเดือน พ.ค. สะท้อนว่าตลาดแรงงาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน 

สถานการณ์ดังกล่าว ยิ่งกระตุ้นความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเติบโตลดลง และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่อาจจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 3% ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

นาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดฯ

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำเผชิญแรงขายอีกครั้ง หลังดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น

จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ว่า เฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงก่อนมาปิดตลาดบริเวณ 1,821 ดอลลาร์

ขณะที่ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นขยับมาเคลื่อนไหวแถว 1,825 ดอลลาร์  

ซึ่งทาง YLG มองว่า

ระหว่างวัน หากราคาทองคำไม่หลุด 1,811 ดอลลาร์ จะทำให้ราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง ทั้งนี้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านระยะสั้นโซนที่ 1,848 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้ แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,800-1,786 ดอลลาร์

โดยกลยุทธวันนี้ แนะนะเปิดสถานะ “ซื้อ” หากยืน 1,811 ดอลลาร์ ไปขายทำกำไรที่ 1,848 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,811 ดอลลาร์

ขณะที่ Shining Gold Bullion มองปัจจัยทางเทคนิคว่า

วานนี้ ราคาทองคำแม้จะมีช่วงดีดตัว แต่ดีดตัวเพียงในกรอบ Right Head & Shoulder ที่ 1,823-1,847 ดอลลาร์ ก่อนกลับลงมาที่ 1,823 ดอลลาร์ อีกครั้ง ซึ่ง Pattern นี้ยังคงทำงานต่อ โดยมีจุด Confirm การหลุดบริเวณ 1,822 ดอลลาร์

ซึ่งหากหลุดแนวดังกล่าว อาจปรับฐานได้ 1,805 และ 1,787 ดอลลาร์ เช่นเดิม กรณีที่ยังไม่หลุดอาจมีแรงรีบาวน์ได้ และ ไม่ควรทะลุ 1,845 ดอลลาร์ มิเช่นนั้น Pattern อาจแปรเปลี่ยนผลลัพธ์ที่ได้อาจตรงกันข้าม

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ นักลงทุนระยะสั้นรีบาวน์ Open Short ที่ 1,824-27 และ 1,844 ดอลลาร์ โดยมี SL ที่ 1,850 ดอลลาร์ ส่วนนักลงทุนระยะกลางรอเข้าสะสมเมื่อราคาทองคำหลุด 1,820 ดอลลาร์ ที่ 1,805 และ 1,787 ดอลลาร์ จุดละไม่เกิน 20%

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) ราคายังไม่ขยับ ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.15 น.) อยู่ที่ 30,750บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 30,650 บาท

ด้าน SPDR

ถือครองทองคำลดลง -8.70 ตัน

วันนี้ ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก ม.มิชิแกน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มิ.ย.65 by MTS

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำแกว่งตัว ในช่วงแถลงการณ์ของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำในช่วงเช้าเมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับ 1,845 เหรียญ ก่อนจะร่วงลงมาที่ 1,822 เหรียญในช่วงปลายตลาด Comex โดยกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายเพิ่มอีก 8.7 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,063.07 ตัน ขณะที่ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ออกมาดีขึ้น ขณะที่ Flash Manufacturing PMI และ Flash Services PMI ออกมาลดลงกว่าเดิม ในส่วนของดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 104.77 จุด โดยทำจุดต่ำสุด ที่ระดับ 104.06 จุด ขณะที่เช้านี้เคลื่อนตัวอยู่ที่ 104.33 จุด ซี่งยังคงทรงตัวอยู่ในทิศทางแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงมุ่งเน้นในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ โดยส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งต่อไป ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องโดยอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้ง โดยเป็นลักษณะการแกว่งตัวในกรอบ และภาพรวมจะมีแนวรับที่ 1,815 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 1,845 เหรียญ ยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways Down อย่างช้าๆ ขณะที่ราคาทองคำไทยเป็นลักษณะ Sideways หรือ Sideways Up จากค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งมาจากเงินทุนไหลออก

สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,815 เหรียญ และแนวต้าน 1,845 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 31,000 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังแนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways Down ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเทรดระยสั้น ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน

– นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว

ขอขอบคุณ  :  บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มิ.ย.65 by TDC

TDC GOLD

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงผันผวนเมื่อวานนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญ ตลาดกำลังติดตามท่าทีของ FED ที่ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยแบบ Aggressive ซึ่งเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ เพียงแต่หากมองไปดูที่ความน่าจะเป็นที่โอกาสเศรษฐกิจถดถอยแบบ Stagflation แล้วนั้นจะเป็นปัจจัยบวกให้กับราคาทองคำ ดังนั้นเมื่อทองคำปรับตัวลดลงจึงมีแรงซื้อกลับเข้ามา ระยะสั้นราคาปรับตัวลดลงสู่แนวรับ $1820 มองรีบาวน์สั้นๆ แต่หากหลุดมอง $1800

ขอขอบคุณ : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มิ.ย.65 by YLG

YLG Bullion

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,811

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,848

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,811

แนวรับ : 1,811 1,800 1,786  แนวต้าน : 1,848 1,865 1,888

สรุป 

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  14.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ระหว่างวันราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ  1,845.62-1,821.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบน  หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน “แย่เกินคาด”  ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของสหรัฐ ลดลงสู่ 52.4 ในเดือนมิ.ย.จาก 57.0 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 56.0

ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น ลดลงสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. จาก 53.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 53.9 เช่นกัน  ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน  สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งกระตุ้นความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเติบโตลดลง  และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่อาจจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถถอยในอนาคต  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 3.005% ซึ่งเป็นต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จนเป็นปัจจัยหนุนทองคำ 

อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำเผชิญแรงขายอีกครั้งหลังจากที่ทองคำยังไม่สามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้  นอกจากนี้  ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากดัชนีดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้น  หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันในระหว่างการแถลงต่อคองเกรสเป็นวันที่ 2 ว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข  ประกอบกับ SPDR ถือครองทองคำลดลง -8.70 ตัน  นั่นทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,821.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมมิชิแกน

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) กิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิ.ย. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิ.ย. เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้ยอดสั่งซื้อใหม่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยลดลงจากระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค.

• (+) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ตลาดแรงงานตึงตัว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้มีการชะลอตัวลงบางส่วนก็ตาม ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. แต่ยังสูงกว่าจำนวนที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย

• (+) อียูเผยรัสเซียระงับส่งก๊าซกระทบชาติสมาชิกนับสิบ เยอรมนีเตือนภาวะฉุกเฉินด้านก๊าซสู่ระดับ 2 นายฟรานซ์ ทิมเมอร์แมนส์ ประธานฝ่ายนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป (EU) เผยวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ขณะนี้มีประเทศในกลุ่ม EU ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการส่งก๊าซจากรัสเซียแล้วประมาณสิบประเทศ ขณะที่ปัญหาด้านพลังงานระหว่าง EU กับรัสเซียนั้นเริ่มรุนแรงขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียได้ลดปริมาณการส่งก๊าซที่ส่งผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 ลงเหลือ 40% ของกำลังการผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างว่ามีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ โดยขณะนี้รัสเซียได้ระงับการส่งก๊าซไปยังโปแลนด์, บัลแกเรีย, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก และฟินแลนด์แล้ว เนื่องจากประเทศเหล่านี้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิล

• (-) ดอลล์แข็งค่า ขานรับพาวเวลส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดบ. สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ระดับ 104.4310 ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0523 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0569 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2251 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2264 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6893 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6932 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2934 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.95 เยน จากระดับ 136.26 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9611 ฟรังก์ จากระดับ 0.9616 ฟรังก์

• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 194.23 จุด รับแรงซื้อหุ้นปลอดภัย-หุ้นเทคโนฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 200 จุดในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ +0.64%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.95% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,232.19 จุด เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ +1.62%

• (-) “พาวเวล” ย้ำเฟดมุ่งสกัดเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข แม้เสี่ยงทำคนตกงาน-ศก.ชะลอตัว นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีนั้น “ไม่มีเงื่อนไข” แต่ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่การว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% “เราจำเป็นต้องฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาจริง ๆ ? เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น เราก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดได้อย่างยั่งยืน ซึ่งภาวะนั้นจะทำให้ผลประโยชน์กระจายไปได้อย่างกว้างขวาง เป็นสิ่งที่เราต้องทำ” เขากล่าว

ขอขอบคุณ  :  บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มิ.ย.65 by CAF

Ausiris

Reasons  FED ส่งสัญญาณกดเงินเฟ้อ กระทบต่อการจ้างงาน

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯว่า ความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีนั้น “ไม่มีเงื่อนไข” แต่ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่การว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้น มองว่าที่ต้องส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย เพราะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ

Day Trade

GOM22  Hold Short  เป้า 1,810-1,820 จุด Stop 1,856

GF10Q22 ไม่เข้าสถานะ

Trend Trade   ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOM22  Hold Short  จุด Stop 1,856 (14 มิ.ย. 65)

GF10M22 Hold Long จุด Stop 30,840 (7 มิ.ย. 65)

GF10Q22 Hold Long จุด Stop 30,880 (16 มิ.ย. 65)

ขอขอบคุณ : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มิ.ย.65 by LHC

LangHong เล่งหงษ์

สรุปภาพรวมราคาทองคำ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (23 มิย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สรุปข่าว

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 104.4310 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์สหัฐแข็งค่าหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าการดำเนินการของเฟดอาจทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐสูงขึ้นก็ตาม โดยนายพาวเวลระบุว่าขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

แนวรับรายวัน : 1,816 , 1,812

แนวต้านรายวัน : 1,843 , 1850

ขอขอบคุณ : บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด