บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.65 by YLG

YLG Bullion

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,812

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,848-1,839

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,812

แนวรับ : 1,812 1,800 1,786  แนวต้าน : 1,848 1,865 1,888

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระหว่างการซื้อขายของตลาดเอเชียและช่วงต้นของตลาดยุโรป โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย และจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในอังคารนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่ออุปทานทองคำกายภาพ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก คิดเป็น 9.5% ของอุปทานทั่วโลก

ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,840.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลดลงในเวลาต่อมาท่ามกลางแรงขายทำกำไร แต่ปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำเมื่อวานนี้ ได้แก่

(1.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” ทั้ง ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือนสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. และ

(2.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.22% หลังจากการดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 5 ปีวานนี้เป็นไปอย่างซบเซา จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,820.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -4.64 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ของสหรัฐ รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดริชมอนด์ และประธานเฟดซานฟรานซิสโก

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) EU เร่งรับมือวิกฤตพลังงาน หลังรัสเซียจ่อตัดก๊าซทั้งหมด นางคาดรี ซิมสัน หัวหน้าคณะกรรมาธิการพลังงานของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า EU ใกล้ที่จะเผชิญภาวะวิกฤตพลังงานจากการที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซธรรมชาติมายัง EU “นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มโจมตียูเครน เราก็รู้ว่าจะเกิดภาวะวิกฤตพลังงานเกิดขึ้น และขณะนี้ความเป็นไปได้ก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราจะเร่งดำเนินมาตรการรับมือ” นางซิมสันกล่าว นางซิมสันยังเรียกร้องให้สมาชิก EU ปรับปรุงแผนฉุกเฉินในการรับมือวิกฤตพลังงาน และปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานประเภทอื่นเพื่อรักษาพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ

• (+) เฟดดัลลัสเผยดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงในเดือนมิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคธุรกิจโดยรวมในรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสู่ระดับ -17.7 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -7.3 ในเดือนพ.ค.

• (+) ดอลลาร์อ่อนค่า นลท.กังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 103.9390 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9563 ฟรังก์ จากระดับ 0.9589 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2879 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2919 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 135.44 เยน จากระดับ 135.23 เยน ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0586 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0551 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2269 ดอลลาร์

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 62.42 จุด นลท.ขายหุ้นเติบโต-จับตาจีดีพีสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,438.26 จุด ลดลง 62.42 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,900.11 จุด ลดลง 11.63 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,524.55 จุด ลดลง 83.07 จุด หรือ -0.72%

• (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้น นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ณ เวลา 01.07 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.202% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.306%

• (-) สหรัฐ-อิหร่านเตรียมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่กรุงโดฮาพรุ่งนี้ สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านเปิดเผยว่า สหรัฐและอิหร่านจะจัดการเจรจาทางอ้อมที่กรุงโดฮา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของกาตาร์ในวันพรุ่งนี้ “นายอาลี บาเกอรี คานี หัวหน้าฝ่ายเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเดินทางถึงกรุงโดฮาในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการเจรจา” นายนาเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าว

• (-) รัสเซียเมิน G7 เตรียมแบนนำเข้าทองคำ นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ไม่ได้แสดงความวิตกต่อรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย ต่อข้อถามที่ว่า รัสเซียจะหันเหความสนใจไปยังตลาดเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีผู้บริโภคจำนวนมากหรือไม่ นายเพสคอฟกล่าวว่า “ตลาดทองคำเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งหากตลาดหนึ่งไม่น่าดึงดูด เราก็ยังสามารถหันเหความสนใจไปยังตลาดอื่นที่เหมาะสมกว่าได้” ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี

• (-) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค.

• (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.65 by LHC

LangHong เล่งหงษ์

สรุปภาพรวมราคาทองคำ

สัญญาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ

สรุปข่าว

ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำ ดีดตัวขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำ เข้าทองคำ จากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในอังคาร (28 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี

อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำ ปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.202% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากคำ สั่งซื้อรถยนต

แนววรับรายวัน : 1,812 , 1,806

แนวต้านรายวัน : 1,831 , 1837

ขอขอบคุณ : บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด

ราคาทองคำวันนี้ : ปิดลดลง $5 นักวิเคราะห์เมินมาตรการแบนทองคำจากรัสเซีย

Gold Bullion

ราคาทองคำ แกว่งตัวในกรอบ 20 ดอลลาร์ แต่ทิศทางยังไม่ชัดเจน ต้องรอฟังผลประชุม G7 ว่าจะมีมาตรการต่อรัสเซียเพิ่มเติมอย่างไร

แม้เบื้องต้นระบุอาจจะแบนทองคำจากแดนหมีขาว แต่นักวิเคราะห์มองจะไม่ส่งผลต่อตลาดทองคำ ขณะที่ราคาทองไทยขยับลงแรงบาทละ 250 บาท

ราคาทองคำวานนี้ ปรับตัวลดลงประมาณ 5 ดอลลาร์ ท่ามกลางเคลื่อนไหวที่ผันผวน โดยในช่วงกลางวันราคาได้ปรับขึ้นรับข่าวกลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งมาตรการตอบโต้รัสเซียที่รุกรานยูเครน

แต่นักวิเคราะห์จาก Julius Baer ชี้ว่าการส่งออกทองคำของรัสเซีย ได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปแล้วตั้งแต่เริ่มสงคราม โดยไหลไปทางตะวันออกมากกว่าไปทางตะวันตก ทำให้นัยยะของมาตรการแบนทองคำจากรัสเซียจะมีผลน้อยมาก

ขณะที่ ในช่วงค่ำราคาทองคำได้ปรับตัวลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการพุ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3.22%

นอกจากนั้นนักลงทุนยังเทขายทองคำ ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ  ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ ขณะที่ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน

ด้าน Shining Gold Bullion มองปัจจัยทางเทคนิคว่า

สัญญาณรายสัปดาห์ รายวันยัง Sideway ออกด้านข้าง โดยราย 1H พยายามทำ Technical Rebound เพื่อทดสอบ 1,828 และ32 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยที่ภาพรวมค่าเงินบาทยังทรงตัวในแดนอ่อนค่า ทำให้ช่วงจังหวะ Gold Spot ปรับฐานเล็กๆ ราคาทองคำไทยก็ลงไม่ค่อยมากนัก

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ รอราคาทองคำย่อตัวให้ ย่อตัว Open Long 1,820-17 และ1,805 ดอลลาร์ โดยมีจุด SLที่ 1,798 ดอลลาร์

ขณะที่ GT Gold มองว่า

ราคาทองคำกลับมาแกว่ง sideway down เหมือนเดิม โดยทิศทางระยะสั้นไม่มีความชัดเจนว่าจะไปทางไหน ปัจจัยหลักวันนี้อยู่ที่ผลประชุม G7 ว่าจะออกมาอย่างไร ในทางบวกราคาทองคำต้องให้ยืนได้ที่ 1,850-1,855 ดอลลาร์ ทางลบคือหลุด 1,820 ดอลลาร์

กลยุทธ์วันนี้ แนะนำซื้อ ถ้าหลุด 1,820 ดอลลาร์ ก็ stop loss

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ราคาปรับลดลงแรง บาทละ 250 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (09.45 น.) อยู่ที่ 30,500บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 30,400 บาท

ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust

ขายทองคำสุทธิ 4.64  ตัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

คืนนี้ ติดตาม

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน มิ.ย. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 100.0 จากระดับ 106.4 ในเดือนพ.ค.

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.65 By GCAP

GCAP Gold

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

มุมมองทองคำภาคเช้า 

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในอังคาร (28 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี

อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.202% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย  

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,816 – 1,811 –  1,806

แนวต้าน  1,832 – 1,837 – 1,842

ราคาทองคำปิดปรับตัวสลับขึ้น – `ลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีในช่วงท้ายตลาดทองคำปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นนอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ  ได้เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปิดตลาดต่ำลง  แนะเก็งกำไรภายในกรอบ 

ขอขอบคุณ : บริษัท จีแคป จำกัด

SPDR ขายทองคำอีก 4.64 ตัน – กูรูชี้การแบนทองคำจากรัสเซียไม่ส่งผลต่อภาพรวมตลาด

Photo credit should read SEBASTIAN DERUNGS/AFP/Getty Images

มาดูการเคลื่อนไหวของ SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) SPDR ได้ขายทองคำแท่ง ออกมาอีก 4.64 ที่ราคา $1,822.55

ซึ่งเป็นการขายต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมารวม 5 วันทำการ ปริมาณทองคำร่วม 20 ตัน

ทำให้เดือนมิ.ย.นี้ SPDR มียอดการซื้อ-ขายทองคำ กลับมาติดลบกว่า 13 ตัน และปีนี้เหลือยอดการซื้อ-ขายทองคำ เพิ่มขึ้นประมาณ 80 ตัน และSPDR เหลือถือครองทองคำทั้งหมด  1,056.40   ตัน

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานนี้ค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงกลางวันราคาได้ขึ้นไปแตะระดับ 1,840 ดอลลาร์ เนื่องจากมี 4 ประเทศที่เป็นแกนนำในกลุ่ม G7 ได้วางแผนห้ามการนำเข้าทองคำจากประเทศรัสเซียเพื่อเป็นการตอบโต้ที่ไปรุกรานยูเครน

ส่งผลให้ทองคำมีความสนใจในระยะสั้น แต่ในช่วงดึกราคาได้ลงมาแตะจุดต่ำสุดแถว 1,820 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 1,822 ดอลลาร์ ลดลงไป 5 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่าประเด็นการแบนทองคำจากรัสเซีย จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างตลาดทองคำในระยะยาว โดยตลาดยังคงให้ความสนใจต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ แต่ทองคำยังมีแรงบวกจากความกังวลเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการที่มีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง

นักวิเคราะห์มองต่อไปว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ $1,780-1,880 ตั้งแต่ในเดือน พ.ค. และ คาดกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนการประชุม FOMC เดือน ก.ค. อาจจะทำให้ภาพของตลาดทองคำมีความชัดเจนมากขึ้น

เพราะขณะนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า FED น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% เป็นอย่างน้อย และมีการพูดถึงการปรับขึ้น 1% กันบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในช่วงท้ายสุดสัปดาห์นี้ จนถึงในช่วงสัปดาห์ต้นเดือนว่าจะดีขึ้นหรือไม่

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 มิ.ย.65 by YLG

YLG Bullion

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,811

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,848

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,811

แนวรับ : 1,811 1,800 1,786  แนวต้าน : 1,848 1,865 1,888

สรุป

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,816.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงก่อนในช่วงต้น

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา จากแรงซื้อ Buy the dip ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย(Recession) ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในวงกว้างได้ช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และบั่นทอนความจำเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในตลาดเงิน(Money markets) ได้ปรับ “ลด” คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด(terminal rate)ของสหรัฐสู่ระดับประมาณ 3.4% ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยลดลงจากการคาดการณ์ในช่วงก่อนการประชุมเฟดเดือนมิ.ย. ที่คาดว่า terminal rate จะแตะระดับเหนือ 4% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2023

นอกจากนี้ ตลาดเงินได้เริ่มคาดการณ์ถึงช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นอีกกด้วย ประกอบกับเกิดแรงเทขายสกุลเงินปลอดภัย หลังจากนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) เห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.21% จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันปิดตลาดในแดนบวก

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.03 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอดปิดการขายของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) ดอลลาร์อ่อนค่า หลังนลท.ลดซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้น และลดความต้องการดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสกุลเงินปลอดภัย ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ระดับ 104.1870 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 135.23 เยน จากระดับ 134.95 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9589 ฟรังก์ จากระดับ 0.9611 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2919 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0551 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0523 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2269 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2251 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.6939 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6893 ดอลลาร์สหรัฐ

• (+) IMF หั่นจีดีพีสหรัฐเหลือ 2.9% ปีนี้ เชื่อเลี่ยงภาวะถดถอยได้หวุดหวิด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยคาดการณ์ในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัว 2.9% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ครั้งล่าสุดในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 3.7% สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้อุปสงค์ชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่า สหรัฐจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนในปี 2566 นั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.7% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.3% และคาดว่า จีดีพีปี 2567 จะขยายตัวเพียง 0.8%

• (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ผู้บริโภคลดคาดการณ์เงินเฟ้อเมื่อเทียบตัวเลขเบื้องต้น ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 หลังจากแตะระดับ 58.4 ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 5.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.2% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าระดับ 5.4% ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

• (+) กลุ่มประเทศ G7 เตรียมห้ามนำเข้าทองคำรัสเซีย หวังเพิ่มแรงกดดันให้ยุติสงคราม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G7 ได้เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่า “ทองเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 ของรัสเซียรองจากพลังงาน และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะมีเป้าหมายที่ความสามารถในการทำธุรกรรมของรัสเซียในระบบการเงินโลก” การส่งออกทองคำของรัสเซียคิดเป็นมูลค่า 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และมีความสำคัญเพิ่มขึ้นหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน เนื่องจากสามารถซื้อทองคำแท่งเพื่อเลี่ยงผลกระทบของการคว่ำบาตรได้ ขณะเดียวกัน การที่ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทองคำสำคัญของโลก ทำให้การคว่ำบาตรของอังกฤษจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรัสเซีย รัฐบาลอังกฤษระบุว่า การสั่งห้ามนำเข้าทองคำครั้งนี้จะมีผลกับทองคำที่ขุดได้ใหม่หรือสกัดใหม่ แต่จะไม่มีผลกระทบกับทองคำที่เป็นของรัสเซียที่ได้ส่งออกจากรัสเซียมาก่อนหน้านี้แล้ว

• (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 823.32 จุด นลท.คลายวิตกเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,500.68 จุด เพิ่มขึ้น 823.32 จุด หรือ +2.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,911.74 จุด เพิ่มขึ้น 116.01 จุด หรือ +3.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,607.62 จุด เพิ่มขึ้น +375.43 จุด หรือ +3.34%

• (-) “มูดี้ส์” คงอันดับเครดิตสหรัฐที่ Aaa ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวแกร่งจากโรคระบาด มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศประกาศในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ว่า มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐไว้ที่ Aaa โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ได้อย่างแข็งแกร่งมาก

• (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. สวนทางคาดการณ์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 10.7% สู่ระดับ 696,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 588,000 ยูนิต

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

ราคาทองคำวันนี้ : ทองคำยังขยับบวก “จิตติ” ชี้ จับตาค่าเงินบาทส่งผลราคาทองไทย

GoldBar | lbma.org.uk

สถานการณ์ ราคาทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่สู้ดี จุดสูงสุดยังคงลดลงต่อเนื่อง แม้เปิดสัปดาห์นี้จะกระโดดขึ้นไปแตะ $1,836 แต่ยังไม่น่าไว้ใจ สัปดาห์นี้ติดตามประมาณการณ์ GDP สหรัฐฯ และดัชนี PCE

ด้านนายกสมาคมค้าทองคำ ให้จับตาเงินบาท หากยังอ่อนค่าแตะ 36 บาท ลุ้นราคาทองไทยไปแตะ 31,000 บาท โดยราคาทองไทยเปิดสัปดาห์ใหม่ ขยับบวก 50 บาท

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวในกรอบ 1,816-1,847 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังตลาดการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรง หลังจากเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงได้ ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำลดลง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ซื้อทองคำเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทำให้ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 1,827 ดอลลาร์ ลดลง 13 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำขึ้นไปทำสุดสุงสุดของสัปดาห์ได้เพียง 1,847 ดอลลาร์ เท่านั้น

Shining Gold Bullion มองว่า

เช้านี้ทองคำได้เปิด GAP กระโดดจาก 1,826 สู่ 1,836 ดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่สามารถข้ามผ่าน 1,843 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำยังมีโอกาสย่อตัวลงมาปิด GAP ที่ 1,826 ดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมรายวันยังพิจารณาแนวฐาน 1,817-15 ดอลลาร์ เป็นสำคัญ

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ รอราคาย่อตัวให้ Open Long 1,817-1,815 และ 1,805 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 1,800 ดอลลาร์

คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ
คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ

ขณะที่ นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับ GoldAround ว่า

ราคาทองคำในตลาดโลกยังถูกกดดันจาก นโยบายเฟดที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ราคาทองคำไทยยังได้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอุ้มไว้ ซึ่งเงินบาทได้อ่อนค่าต่อเนื่อง และยังมีแนมโน้มที่จะอ่อนค่าลงอีก

ทั้งนี้ ต้องรอดูว่า นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากปล่อยให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยไป โดยประเทศไทยไม่ขยับตามบ้าง ก็จะยิ่งทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก หากเงินบาทไหลไปแตะ 36 บาท ก็อาจจะเห็นราคาทองคำในประเทศกลับมาแตะ 31,000 บาท ได้

มาดูราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ราคาบวกเพิ่มขึ้น 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.15 น.) อยู่ที่ 30,750 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 30,650 บาท ส่วนภาพรวมราคาทองคำในประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกเพิ่มขึ้นมา 50 บาท

ทั้งนี้ ราคาทองคำไทยได้ค่าเงินบาทมาอุ้มไว้ เพราะราคา gold spot ปรับลดลงไป 13 ดอลลาร์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรง ทั้งนี้ แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าระยะสั้นมีทิศทางอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือน มิ.ย. 65 มีแนวรับที่ 35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 35.80 บาท/ดอลลาร์

ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust

ขายทองคำสุทธิ 12.47 ตันจากสัปดาห์ก่อน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )

สัปดาห์นี้ จับตา

การประชุมธนาคากลางยุโรป และสหรัฐฯ เปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 ( ประมาณการครั้งสุดท้าย ) ตลาดคาดว่าจะขยายตัวลดลง 1.4% จากการประมาณครั้งก่อนที่ขยายตัวลดลง 1.5%

นอกจากนี้ ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือน พ.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. โดย Conference Board

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 มิ.ย.65 By GCAP

GCAP GOLD

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้น และลดความต้องการดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสกุลเงินปลอดภัย 

มุมมองทองคำภาคเช้า 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้ แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนสัญญาทองคำ หลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 หลังจากแตะระดับ 58.4 ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.2

ทางด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวเมื่อวันศุกร์ระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับธนาคารกลางและอัตราเงินเฟ้อที่จัดโดยยูบีเอสในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในขณะนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในภายหลัง และขณะที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้น ผมก็คิดว่า พวกเราก็จะสบายดี” เขากล่าว 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้น และลดความต้องการดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสกุลเงินปลอดภัย 

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,818 – 1,812 –  1,806

แนวต้าน  1,840 – 1,846 – 1,851

ราคาทองคำปิดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง  และความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางแรงหนุนจากเจ้าหน้าที่ เฟด ที่เข้มงวดเรื่องนโยบายดอกเบี้ย  นักลงทุนอาจเก็งกำไรภายในกรอบ

ขอขอบคุณ : บริษัท จีแคป จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 มิ.ย.65 by TDC

TDC GOLD

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกน (Consumer Sentiment) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ50 จุด จากระดับ 50.2 จุด เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1970 สาเหตุหลักมาจากราคาของพลังงานและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัว สวนทางกับยอดขายบ้านใหม้ที่ยังขยายตัว 696,000 หลังมากกว่าที่คาดการณ์ถึงแม้ราคาบ้านจะปรับตัวสูงขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำมองแกว่งตัวในกรอบ $1840และ $1820 ในรูปแบบสามเหลี่ยมเลือกทาง หากผ่าน $1840 มองแนวต้าน $1850

ขอขอบคุณ : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ทองคำจะร่วงต่อหรือไม่ สัปดาห์นี้มีหลายเรื่องที่ต้องเกาะติดใกล้ชิด

photo by RODNAE Productions | pexels.com

วันนี้ ธนาคารกลางยุโรป จะจัดการประชุมประจำปีที่ประเทศโปรตุเกส โดย นาง คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB พร้อมด้วย ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และ ผู้ว่าฯ การธนาคารกลางอังกฤษ จะเข้าร่วมการอภิปรายภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีแรกที่กำลังจะผ่านพ้นไป

โดยนักลงทุนสงสัยว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า ตลาดจะเป็นอย่างไร จะผ่อนคลายหรือมีความผันผวนมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนั้น ยังต้องจับตา ดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดจับตามอง

การประชุมของธนาคารกลางยุโรป เริ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางจะเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายทศวรรษอย่างไร เพราะอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายสำหรับนโยบายการเงินในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการแถลงของ 3 ผู้นำทางการเงิน ทั้งประธาน ECB ประธาน FED และ ผู้ว่า BOE อย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูง พร้อมกับทำให้เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ ECB นักลงทุนจับตาใกล้ชิดว่าจะใช้นโยบายการเงินตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ กำลังจะสิ้นสุดลง ทั้งเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ความวุ่นวายของตลาดและความขัดแย้งในภูมิภาค ที่กระตุ้นเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นักลงทุนต้องไตร่ตรองถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ได้รับกระทบจากนโยบายของเฟด มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่าความผันผวนของตลาดจะบรรเทาลงในเร็ว ๆ นี้

โดยนักวิเคราะห์มองว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในชะลอตัว และอาจจะเกิดการถดถอยขึ้นได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งสัญญาณออกมาเร็วกว่าที่คาดไว้

ขณะที่ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ต้องจับตาการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) โดยตลาดคาดว่าจะขยายตัวลดลง 1.4% จากการประมาณครั้งก่อนที่ขยายตัวลดลง 1.5%

นอกจากนี้ ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นอีกตัวเลขที่เปิดให้ความสนใจ เพื่อจะดูว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะคงตัวหรือลดลงหรือไม่

นอกจากนั้น ยังมีการประกาศยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. โดย Conference Board โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะชะลอตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะแย่ลงไปอีก และการสำรวจภาคการผลิตจะอ่อนตัวลงอีก ทำให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน ยังต้องจับตาท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟด ที่จะยังคงออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของเฟด ทั้ง จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก, แมรี เดลี ประธานธนาคารกลางซานฟรานซิสโก, ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ และเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์

ข้ามไปยังยูโรโซน นอกเหนือจากการประชุมที่โปรตุเกสแล้ว ยังต้องจับตาอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ซึ่งจะมีการเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคสำหรับเดือน มิ.ย. ในวันศุกร์ คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานและอาหารยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน พ.ค. อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนแตะระดับ 8.1% สูงกว่าเป้าหมายประจำปีที่ 2% ของ ECB ถึงสี่เท่า