บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 ธ.ค.64 by TDC

TDC GOLD

ราคาทองคำยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ ยังคงแกว่งตัวอยู่บริเวณ $1810ทางฝั่งตลาดหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตลาดกำลังติดตาม Santa Claus Rally ซึ่งเป็นวันทำการ 5 วันสุดท้าย + ปีใหม่ 2 วันแรก สำหรับผลตอบแทนของ S& P500 ในปีนี้จะอยู่ประมาณ 27% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ความกังวลเรื่องการระบาดของ Omicron นักวิเคราะห์ประเมินว่า ความรุนแรงที่น้อยลงเมื่อเทียบกับDelta จะเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ไวรัสกลายพันธุ์เป็น Seasonal Flu

ขอขอบคุณ : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 ธ.ค.64 by GT

GT GOLD BULLION

Fundamental

  • ราคาน้ำมันดิบบวกกว่า 2% อ้างกระทบอุปสงค์ทั่วโลกแค่วงจำกัด สวนทางโควิดโอมิครอนยกเลิกเที่ยวบินและอาจมีผลต่อการคมนาคมแบบอื่นในปีหน้า
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกดี อ้างโควิดโอมิครอนกระเทือนเศรษฐกิจน้อยกว่าโควิดเดลต้า

Technical

  • ตลาดหลักซบเซาตลอดช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่หยุดเทรดไปแล้ว จึงควรระวังการเหวี่ยงแรง ๆ แบบไร้ทิศทางด้วย
  • ราคาปรับขึ้นหนีเส้นแนวโน้ม แต่ RSI เตือนให้ระวังแรงขายระยะสั้น จึงมีโอกาสหลุดเส้นขาขึ้นลงมาที่เส้น MA หรือต่ำกว่าเล็กน้อย โดยยังคงมองกรอบสวิงหลัก1,785-1,815 เหมือนเดิม
  • ทิศทางวันนี้ซึม แต่พร้อมกระชากสั้น ๆ
  • จับจังหวะเล่นยังไง?เก็งกำไรในกรอบ 1,785-1,815 ถ้าออกนอกกรอบให้รอสวนหลังเห็นแท่งยาวชะลอ

Attention

  • ระวังภาวะตลาดซบเซาช่วงคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ จะทำให้ราคาทองคำแกว่งแรงไร้ทิศทาง
  • รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ. ปีหน้า
  • ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน
  • กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯเฟส 4
  • สัปดาห์นี้  สภาสหรัฐฯเริ่มพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากCOVID-19รอบใหม่
  • นักลงทุนเชื่อมั่น 45%ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเป็น 0%
  • ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0% ภายในครึ่งปีแรกอยู่สูงกว่า75%
  • ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ติดตาม  แผนการทำข้อตกลงการค้าเฟส 2

ขอขอบคุณ : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 ธ.ค.64 by HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

ยอดค้าปลีกช่วงเทศกาลปรับตัวขึ้น 8.5%

คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

ราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,790-1,815 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย  อย่างไรก็ตามตลาดทองคำยังถูกกดดันจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังยอดค้าปลีกช่วงเทศกาลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.จนถึงวันที่ 24 ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 8.5% รงมถึงความคลายกังวลมากขึ้นจากผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน หลังผลการศึกษาของแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์บ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่พรุ่งนี้ติดตามยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนต.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,790-1,815 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,815 ดอลลาร์ และ 1,825 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,811.10+9.21,790/1,7801,815/1,825

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,750+5028,500/28,35028,850/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,820+1028,620/28,54029,070/29,180

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,380 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,812.10+2.901,791/1,7811,816/1,826

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวานนี้อ่อนค่าเล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า ในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ และนักลงทุนยังเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สำหรับทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 คาดจะมีแนวรับที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์

News

สหรัฐเผยซาอุดีอาระเบียซุ่มสร้างขีปนาวุธเอง คาดจีนยื่นมือช่วย

          สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังสร้างขีปนาวุธขึ้นเอง โดยคาดว่าได้รับความช่วยเหลือจากจีน   รายงานข่าวดังกล่าวอ้างอิงรายงานจากฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐ ประกอบกับภาพถ่ายทางดาวเทียมที่สำนักข่าวเอ็นบีซีได้มา ซึ่งทั้งหมดบ่งชี้ว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังผลิตขีปนาวุธขึ้นเองแล้ว จากที่แต่เดิมต้องซื้อจากจีน  ด้านนักวิจัยจากสถาบันมิดเดิลบิวรีเปิดเผยว่า หลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่าซาอุฯ กำลังสร้างขีปนาวุธขึ้นมาเองนั้น คือการที่พบว่าซาอุฯ ได้ใช้หลุมเผาเพื่อกำจัดเชื้อเพลิงแข็งที่เหลือทิ้งจากการผลิตขีปนาวุธ และดูเหมือนว่าจีนได้ให้ความช่วยเหลือในการสร้างสถานที่นี้ด้วย    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าจะทำให้สหรัฐต้องพิจารณากลยุทธ์ด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางใหม่ จากที่แต่เดิมก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการเกลี้ยกล่อมให้อิหร่านกลับมาทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐและชาติมหาอำนาจ ทั้งยังทำให้ความสัมพันธ์กับจีนซับซ้อนขึ้นไปอีกด้วย

กรรมการ BOJ เผยเงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่งตามราคาพลังงาน คาดไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

          รายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประจำเดือนธ.ค.ระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่ของ BOJ มองว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่นนั้น เป็นผลมาจากราคาพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยราคาสินค้าเหล่านี้กำหนดโดยบริษัทเอกชน   อย่างไรก็ดี กรรมการ BOJ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลให้ BOJ เปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปัจจุบัน เนื่องจากเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% และการปรับนโยบาย “ก่อนกำหนด” จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ   ในการประชุมนโยบายเมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) แต่ตัดสินใจลดวงเงินในโครงการจัดหาเงินทุนสนับสนุนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ โดยจะค่อยๆ ปรับลดการซื้อหุ้นกู้ (Corporate Bond) และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) เนื่องจากภาคเอกชนมีภาวะการเงินที่ดีขึ้น      กรรมการรายหนึ่งของ BOJ ระบุว่า “การที่ดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากดัชนีราคาผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน”   ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 อันเนื่องมาจากต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้นและสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลง

“เฟาชี” เตือนอย่าชะล่าใจแม้วิจัยชี้โอมิครอนรุนแรงน้อย ขณะสหรัฐติดเชื้อพุ่งต่อเนื่อง           นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก  “ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ค่าเฉลี่ยของสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 150,000 ราย และน่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านั้นมาก” นายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นมาจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว      ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า นับจนถึงวันพฤหัสบดี (23 ธ.ค.) สหรัฐรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 51 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 800,000 รายไปเมื่อช่วงกลางเดือนธ.ค.    นายแพทย์เฟาชีได้เน้นย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะดีใจ แม้ผลการวิจัยบ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่าในแง่แนวโน้มของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by MTS

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง และกลับมาปิดตลาด 1,808 เหรียญ ขณะที่เช้าวันนี้ราคาค่อยๆขยับสูงขึ้นมาบริเวณ 1,811 เหรียญ ซึ่งยังมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง สำหรับคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ และ SPDR ยังถือครองทองคำเท่าเดิม ในขณะที่สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี จึงน่าจะเห็นทองคำเคลื่อนตัวกรอบ Sideways และน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในทางเทคนิคราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวกรอบ Sideways รอการ Breakout จึงจะเป็นทิศทางใดทิศทางหนึ่งโดยสมบูรณ์ ในภาพทางเทคนิคยังไม่ชัดเจน แต่ดูมีโอกาสเคลื่อนตัวลักษณะ Sideway Up แต่วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,795 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,815  เหรียญ ถ้า Breakout ออก 1,815 เหรียญ ได้ก็จะเป็นขาขึ้นได้ต่อ สำหรับ Gold Online Futures และ Comex Gold คาดจะมีแนวรับ 1,797 เหรียญ และแนวต้าน 1,815 เหรียญ สำหรับทองคำไทยคาดเท่าเดิม

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเล่นสั้นๆในกรอบ Sideways

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขาย แนะนำทำกำไรระยะสั้น ควรบริหารพอร์ตสมดุลก่อนเข้าสู่วันหยุดเทศกาลปีใหม่

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำเล่นสั้นในกรอบ ควรบริหารพอร์ตสมดุลก่อนเข้าสู่วันหยุดเทศกาลปีใหม่

Gold Futures ขนาด 10 บาท Z21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 29,000 บาท

ขอขอบคุณ  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by YLG

YLg gold bar 10 goldaround 16.02

คำแนะนำ        เปิดสถานะขาย 1,815-1,834

จุดทำกำไร      ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,785-1,772

ตัดขาดทุน       ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,834

แนวรับ : 1,772 1,753 1,737  แนวต้าน : 1,815 1,834 1,849

สรุป  

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 5.90  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาเบากว่าปกติ  เนื่องจากตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงตลาดทองคำของบางประเทศในยุโรป  รวมถึงตลาดสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส  ขณะที่ตลาดทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ 

โดยมีระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,812.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ทั้งนี้  ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ท่ามกลางแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย  หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่า COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีโอกาสค่อนข้างตำที่จะนำไปสู่การเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และอาจไม่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากเท่าที่ตลาดเคยวิตกในช่วงต้น 

ปัจจัยดังกล่าว  ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดในวันศุกร์ด้วยการอ่อนค่าลง 0.6% และปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ 

อย่างไรก็ดี  เกิดแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิคสลับออกมาเป็นระยะ  หลังจากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าบริเวณ 1,814.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้  พร้อมกับเกิดสัญญาณ RSI Bearish Divergence ส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลดลงทดสอบระดับต่ำสุดพร้อมปิดตลาดในวันศุกร์บริเวณ 1,801.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  ขณะที่ตลาดทองคำลอนดอนปิดทำการเนื่องในวัน Boxing Day

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ภาพถ่ายดาวเทียมชี้รัสเซียเพิ่มกำลังทหารใกล้พรมแดนติดกับยูเครน  ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดโดยบริษัทเอกชนของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียยังคงเพิ่มกองกำลังทหารในไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่รัสเซียเข้ายึดครอง และอยู่ใกล้กับยูเครน  อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ยังไม่สามารถตรวจสอบภาพล่าสุดดังกล่าวจากบริษัท Maxar Technologies ในสหรัฐ  ด้านรัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์ (24 ธ.ค.) ว่า รัสเซียมีสิทธิ์ในการเคลื่อนย้ายกองกำลังทหารของตนเองในดินแดนรัสเซีย หากเห็นว่าจำเป็น และระบุว่า ประเทศตะวันตกทำการซ้อมรบที่ยั่วยุใกล้พรมแดนของรัสเซียและยูเครน  ทั้งนี้ ภาพที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ธ.ค.) แสดงให้เห็นฐานทัพแห่งหนึ่งในไครเมียซึ่งเต็มไปด้วยยานเกราะและรถถังหลายร้อยคันเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมของ Maxar ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ฐานทัพดังกล่าวครึ่งหนึ่งนั้นยังว่างเปล่า
  • (+) อิหร่านซ้อมรบยิงขีปนาวุธ 16 ลูก หวังข่มขวัญอิสราเอล  สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกเมื่อวันศุกร์ (24 ธ.ค.) เพื่อปิดฉากการซ้อมรบ 5 วัน ซึ่งบรรดานายพลกล่าวว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนอิสราเอลซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิหร่าน  “การซ้อมรบเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยระบอบไซออนิสต์ (Zionist) ของอิสราเอล” พลตรีโมฮัมหมัด บาเกรี เสนาธิการกองกำลังติดอาวุธของอิหร่านเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน  “ขีปนาวุธ 16 ลูกถูกยิงและทำลายล้างเป้าหมายที่กำหนด โดยในการซ้อมรบครั้งนี้ อิหร่านได้ใช้ขีปนาวุธส่วนหนึ่งจากจำนวนหลายร้อยลูกที่สามารถทำลายประเทศที่กล้าโจมตีอิหร่าน” พลตรีบาเกรีกล่าวเสริม
  • (+) จีนออกแถลงการณ์โต้หลังสหรัฐลงนามกฎหมายแบนสินค้าจากซินเจียง  กระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOC) ออกแถลงการณ์คัดค้านและปฏิเสธอย่างหนัก หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์  (Uyghur Forced Labor Prevention Act) แถลงการณ์ของ MOC ระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจัดให้สินค้าทั้งหมดที่ผลิตในซินเจียงเป็นสินค้าที่มาจาก “การบังคับใช้แรงงาน” และห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง   นอกจากนี้ MOC ยังระบุว่า สหรัฐใช้วิธีการที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของตนเองแต่ฝ่ายเดียว กีดกันทางการค้า และคอยกลั่นแกล้ง โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงและนำประเด็นสิทธิมนุษยชนมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งบ่อนทำลายหลักการตลาดอย่างหนัก ทั้งยังขัดต่อหลักการขององค์การการค้าโลก ทำลายผลประโยชน์ที่สำคัญของธุรกิจและผู้บริโภคในจีนอย่างร้ายแรง รวมถึงสหรัฐเอง ตลอดจนบ่อนทำลายเสถียรภาพของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก   แถลงการณ์ยังระบุว่า คำกล่าวหาของสหรัฐเรื่องการบังคับใช้แรงงานในซินเจียงนั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีมูลความจริง  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และการพัฒนาของชาติ ตลอดจนทำตามสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายและรักษาผลประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในซินเจียง
  • (+) อิสราเอลพบติดโควิดเพิ่มกว่า 1,400 ราย ขณะยอดรักษาตัวในรพ.ทะลุหมื่นในรอบกว่าหนึ่งเดือน  กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ที่ 10,526 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้ารับการรักษาตัวเพิ่มขึ้น 935 ราย  ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่นั้นอยู่ที่ 1,482 ราย สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา  ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,361,886 ราย  ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2 ราย สู่ระดับ 8,241 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่มีอาการหนักเพิ่มขึ้นจาก 83 ราย เป็น 88 ราย
  • (-) FDA สหรัฐไฟเขียวชุดตรวจโควิดของโรช ขณะดีมานด์เพิ่มตามโอมิครอนระบาด  บริษัทยาสัญชาติสวิสเปิดเผยในวันศุกร์ (24 ธ.ค.) ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) ให้กับชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ประจำบ้านของโรช ซึ่งสามารถใช้งานได้โดยประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป  โรชระบุในแถลงการณ์ว่า ชุดตรวจดังกล่าวซึ่งใช้การสวอบเพื่อเก็บสารคัดหลั่งที่เยื่อบุโพรงจมูกด้านหน้า (Nasal Swab) สามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เชื่อถือได้ และรวดเร็วภายในเวลาเพียง 20 นาทีในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และทุกสายพันธุ์ที่น่ากังวล รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอน
  • (+/-) ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
  • (+/-)ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
  • (+/-)ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

GoldAround Podcast 27 Dec.2021

GoldAround Podcast

สรุปข่าวทองคำเช้านี้ ประจำวันจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม 2564

โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by CAF

ออสสิริส

Reasons  ปัจจัยกระทบทองคำ

-นักลงทุนกำลังรอดูสถานการณ์โควิด-19 โดยแนวโน้มการระบาดโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่ไวรัสโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตา จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเอดินบะระและอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจน

Day Trade

GOH22 ทะลุ 1,815 Long เป้า 1,825-1,830จุด Stop 1,807

GF10G22 Hold Long เป้า 28,850-28,950 จุด Stop สิ้นวัน 28,700

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOH22 Hold Long จุด Stop 1,788

GF10G22 Hold Long จุด Stop 28,700

ขอขอบคุณ : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by GT

GT GOLD BULLION

Fundamental

  • รายงานยกเลิกเที่ยวบินทั่วโลกเฉพาะเมื่อวานสูงกว่า 2,000 เที่ยงบิน และกว่า 1,000 เที่ยวบินอยู่ในสหรัฐฯ สะท้อนภาพไวรัสโควิดโอมิครอนที่กำลังระบาดหนัก
  • บริษัทจีนคาดปีหน้ายอดขายรถโดยรวมทั่วประเทศจะโต 6.2%

Technical

  • ตลาดหลักทยอยเปิดทำการด้วยความซบเซาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่หยุดเทรดไปแล้ว จึงควรระวังการเหวี่ยงแรง ๆ แบบไร้ทิศทางด้วย
  • กรอบสวิงหลัก1,785-1,815 การพุ่งขึ้นแรง ๆ แม้ขาดปัจจัยสำคัญสนับสนุนก็ยังมีความเป็นไปได้ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง
  • ทิศทางวันนี้ซึม แต่พร้อมกระชากสั้น ๆ
  • จับจังหวะเล่นยังไง?เก็งกำไรในกรอบ 1,785-1,815 ถ้าออกนอกกรอบให้รอสวนหลังเห็นแท่งยาวชะลอ

Attention

  • ระวังภาวะตลาดซบเซาช่วงคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ จะทำให้ราคาทองคำแกว่งแรงไร้ทิศทาง
  • รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ. ปีหน้า
  • ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน
  • กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯเฟส 4
  • สัปดาห์นี้  สภาสหรัฐฯเริ่มพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากCOVID-19รอบใหม่
  • นักลงทุนเชื่อมั่น 45%ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเป็น 0%
  • ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0% ภายในครึ่งปีแรกอยู่สูงกว่า75%
  • ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ติดตาม  แผนการทำข้อตกลงการค้าเฟส 2

ขอขอบคุณ : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by SCT

คำแนะนำ   :

เทศกาลวันหยุด ทองน่าจะ SIDEWAYS  แนะรอย่อซื้อ
    
แนวรับ 1800/ 1792 / 1780  แนวต้าน 1810|1815|1820
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW                       Sw                    SW                SW UP 
ระยะกลาง  SW UP                SW                        SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1790-1812

จุดเข้า BUY 1780-93
เป้าหมาย 1810-20
SL 1760รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1750-1900

จุดเข้า BUY 1765-80 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1750   

บทวิเคราะห์

วันนี้ตลาดเปิดปกติ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวของฝรั่งจนปีใหม่ ทำให้วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง ลักษณะเช่นนี้อาจทำให้ราคาทองผันผวนได้ ภาพรวมทองปิดแดนบวกเหนือ $1800 มีลุ้นไปต่อ อย่างไรก็ตามหากราคาปิดต่ำกว่าแนวจิตวิทยาตรงนี้แสดงว่าทองยังต้องพักฐานไม่จบ โดยนักลงทุนที่ขายทำกำไรไปแล้วให้รอซื้อสะสมคืนช่วงการย่อตัวแถว $1793 ชุดแรก และรอซื้อสะสมแถว $1780-90 เป็นชุดที่สอง โดยวางจุดหนีที่ $1760
สัปดาห์นี้ตลาดอาจเบาบาง ราคาอาจแกว่งพักเหนื่อยหรือพักออกข้าง ตัวเลขเศรษฐกิจหรือข่าวก็จะไม่เยอะมาก จะมีแค่เรื่องการแพร่กระจายของโควิดจะดึงเกมเข้าภาวะ LOCK DOWN เป็นวงกว้างแค่ไหน ซึ่งล้วนดีต่อราคาทองและค่าเงินบาทที่อ่อนได้ สรุปสัปดาห์นี้รอซื้อช่วงย่อตัวถือขายเดือนหน้า

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ธ.ค.64 by HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ

สัปดาห์นี้จับตาสถานการณ์การเพิ่มกองกำลังทหารของรัสเซีย

ราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,790-1,815 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot สัปดาห์ที่ผ่านมายืนเหนือบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ซึ่งนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ภายหลังจากดัชนี PCE พื้นฐานพุ่งขึ้น 4.68% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มมากที่สุดในรอบ 30 ปี ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มจับตาสถานการณ์การเพิ่มกองกำลังทหารของรัสเซียในไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่รัสเซียเข้ายึดครอง และอยู่ใกล้กับยูเครน ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 4.94 ตันจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนธ.ค. นอกจากนี้ติดตามสถานการณ์การเพิ่มกองกำลังทหารของรัสเซียใกล้ยูเครน
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,790-1,815 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,815 ดอลลาร์ และ 1,825 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,801.90-5.901,790/1,7801,815/1,825

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,70028,500/28,35028,850/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,80028,620/28,54029,070/29,180

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,380 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,814.50+0.201,791/1,7811,816/1,826

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาแข็งค่าในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า อย่างไรก็ตามธุรกรรมยังคงมีความเบาบาง สำหรับทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องมายังบริเวณ 33.26 บาท/ดอลลาร์ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 คาดจะมีแนวรับที่ 33.26 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์

News

แอสตร้าฯ เผยผลศึกษาชี้ยาโควิด Evusheld ลบล้างเชื้อโอมิครอนได้

          บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลทดสอบการลบล้างฤทธิ์ไวรัสโดยใช้ไวรัสที่มีชีวิต จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา พบว่า ยา Evusheld มีระดับ  Inhibitory Concentration 50 (IC50) (ระดับฤทธิ์ของแอนติบอดีในการลบล้างเชื้อไวรัสได้ 50%) เมื่อใช้ปริมาณยา 273 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร และ 147 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยได้เองจากเชื้อโควิด-19 ข้อมูลดังกล่าวมาจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ ซึ่งใช้ไวรัสมีชีวิตที่แยกมาจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอน ถือเป็นการศึกษาด้านการลบล้างฤทธิ์ไวรัสของแอนติบอดีที่มีมาตรฐานสูงสุด4 ทั้งนี้จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยทั้งสองพบว่า ยา Evusheld เป็นแอนติบอดีหนึ่งในสองชนิดซึ่งผ่านการอนุมัติให้ใช้งานแล้ว ที่สามารถลบล้างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอนและสายพันธุ์ที่น่ากังวลอื่นๆได้    เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า “เราได้รับข้อมูลที่สอดคล้องกันจากการศึกษาอิสระทั้งสามการศึกษา ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่า ยา Evusheld ซึ่งเป็นการผสมแอนติบอดีประสิทธิภาพสูงสองชนิดเข้าด้วยกัน สามารถลบล้างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอนได้ในระดับที่มีคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยา Evusheld คือแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody – LAAB) แบบผสมชนิดเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 โดยเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ ยา Evusheld มีให้ใช้แล้วในขณะนี้ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องประชากรที่เปราะบาง เช่น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่อาจมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ไม่เพียงพอ และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคโควิด-19”

“ไบเดน” ลงนามกฎหมายแบนสินค้าจากซินเจียง อ้างจีนบังคับใช้แรงงาน

          ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคซินเจียงของจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ในมณฑลดังกล่าว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีนที่ออกมาประณามกฎหมายฉบับนี้   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “กฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์  (Uyghur Forced Labor Prevention Act)” เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้ที่สหรัฐมีต่อจีน โดยมีเจตนาให้จีนแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐเรียกว่าเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง   ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาสหรัฐในเดือนธ.ค.นี้ หลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติบรรลุข้อตกลงระหว่างร่างกฎหมายฉบับของสภาผู้แทนราษฎรและฉบับของวุฒิสภา    ใจความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้คือ “ข้อสันนิษฐานที่อาจหักล้างได้” (Rebuttable Presumption) ซึ่งถือว่าสินค้าทั้งหมดจากซินเจียงซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลจีนจัดตั้งค่ายกักกันชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมกลุ่มอื่น ๆ นั้น ทำขึ้นด้วยการบังคับใช้แรงงาน โดยกฎหมายฉบับนี้ห้ามการนำเข้าสินค้าจากซินเจียงเว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้มีการบังคับใช้แรงงาน    สหรัฐกำหนดให้สินค้าจากซินเจียงบางชนิด เช่น ฝ้าย, มะเขือเทศ และโพลีซิลิคอนที่ใช้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์นั้น จัดอยู่ใน “ลำดับความสำคัญสูง” สำหรับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว    ขณะเดียวกัน จีนปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำทารุณต่อชนกลุ่มน้อยในซินเจียง ซึ่งเป็นผู้ผลิตฝ้ายรายใหญ่ และจัดหาวัสดุทำแผงโซลาร์เซลล์เป็นส่วนใหญ่ของโลก    ทางด้านสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าว “เพิกเฉยต่อความเป็นจริงและใส่ร้ายป้ายสีสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซินเจียงโดยมีเจตนาที่มุ่งร้าย”

FDA ไฟเขียวโมลนูพิราเวียร์ของเมอร์คเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด

          สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ของบริษัทเมอร์ค เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 แล้วในวันนี้ ซึ่งนับเป็นยาตัวที่สองที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดในสหรัฐ หลังจากที่ FDA เพิ่งอนุมัติยาแพกซ์โลวิด (paxlovid) ของบริษัทไฟเซอร์ไปเมื่อวันก่อน   รายงานระบุว่า ในการทดลองทางคลินิกพบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ของเมอร์คลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงประมาณ 30% เมื่อทดลองให้ยาแก่ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและมีความเสี่ยงสูงว่าจะป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต     ทั้งนี้ FDA อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ให้เป็นยารับประทานสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ในผู้ใหญ่ที่มีอาการไม่รุนแรงถึงปานกลาง และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาโควิดแบบอื่นๆ ได้    อย่างไรก็ตาม FDA ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางหน่วยงานไม่อนุญาตให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากยาอาจส่งผลต่อการเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อน    การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์คมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพุธ FDA เพิ่งอนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป   โดยไฟเซอร์ระบุว่า ยาแพกซ์โลวิดสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้เกือบ 90% รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน     การอนุมัติยาแพกซ์โลวิดและโมลนูพิราเวียร์มีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วน 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาลดลงเหลือเพียง 27%     ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ยารับประทานและยาที่ผู้ป่วยสามารถใช้เองได้ที่บ้านนั้น ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 และคาดว่ายาดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือใหม่ที่ใช้ในการต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว       

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)