บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by MTS

MTS GOLD

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำวันศุกร์ผันผวนค่อนข้างมากและมีบางช่วงไปเหนือ 1,800 เหรียญ ก่อนจะเผชิญแรงเทขายและอ่อนตัวมาแถว 1,790 เหรียญ ภาพรวมการแกว่งตัวอย่างมากในตลาดทองคำและการแกว่งตัวอย่างรุนแรงในตลาดหุ้นมาจากการพบการระบาดของไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า Omicron และจากความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงไปกว่า 2% นำโดยดาวโจนส์ปิดร่วงลง -905.04 จุด  หรือ -2.53% ปิดรายวันย่ำแย่ที่สุดที่ 34,899.34 จุด ดัชนี S&P500 ปิด -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิด -2.23% ขณะที่ช่วงปลายตลาดได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าที่กล่าวถึงโอกาสจะเร่งทำ Tapering QE และการขึ้นดอกเบี้ยจึงกดดันตลาดทองคำ ด้านดัชนีดอลลาร์แกว่งตัวตาม ทำให้เงินบาทบางช่วงแกว่งตัวอย่างมากเช่นกัน และในท้ายที่สุดเงินบาทยังอ่อนค่ารุนแรงมาที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์ โดยหลังจากเงินบาททะลุเหนือ 33.50 บาท/ดอลลาร์มา ก็ปรับอ่อนค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องรุนแรง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนในทิศทางขาลง โดยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,775 -1,805 เหรียญ ในส่วนของ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,775 เหรียญ และแนวต้าน 1,805 เหรีย

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

แนะนำ Sideway Down เล่นสั้นในกรอบ

– นักลงทุนที่ถือ Long Position  

แนะนำบริหารพอร์ตสมดุลตามการแกว่งของทิศทาง 

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำรอจังหวะเปิดขายตามการรีบาวน์ และหาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาอ่อนตัวเพื่อทำกำไร มี Stop Loss เหนือ 1,810 เหรียญ

Gold Futures 10Z21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,950  บาท

ขอขอบคุณ  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by YLG

YLG Bullion

คำแนะนำ       ซื้อ $1,779-1,766

จุดทำกำไร     ขายทำกำไร $1,815-1,821 ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,766

แนวรับ : 1,779 1,766 1,758  แนวต้าน : 1,821 1,833 1,849

สรุป  

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน แม้ตลาดสหรัฐจะเปิดทำการในวันศุกร์แค่เพียงครึ่งวันเนื่องในวัน Black Friday ทั้งนี้  ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นวัน  โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้  ที่นอกจากจะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆแล้ว  ยังอาจจะดื้อวัคซีนอีกด้วย  สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง  พร้อมเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ทั้งทองคำ  เงินเยนญี่ปุ่น  ฟรังก์สวิส และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ  ขณะที่แรงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนั้บตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่ 1.4765% จนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม  นั่นทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ  1,815.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่ราคาทองคำจะดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดสู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,780.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค  หลังจากทองคำเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป  และเกิดสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลง  อีกทั้งดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่  95.753 หลังเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้า ปัจจัยกดดันดังกล่าวลดช่วงบวกของทองคำในช่วงปลายตลาด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +1.74 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย  และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเพื่อเปิดงานสัมมนาทางเว็บที่จัดขึ้นโดยเฟดสาขานิวยอร์ก

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+)  ผลสำรวจชี้ชาวอเมริกัน 77% มองว่าเงินเฟ้อกระทบชีวิตประจำวันผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยยาฮูนิวส์ (Yahoo News) และยูกอฟ (YouGov) ระบุว่า ชาวอเมริกัน 77% คิดว่าภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในระดับหนึ่ง  หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์รายงานผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งระบุเพิ่มเติมว่าชาวอเมริกัน 61% รู้สึกว่าวิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่กำลังเกิดขึ้นและนำไปสู่การขาดแคลนอาหารและบริการนั้น ได้ก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบายในชีวิต  ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกัน 51% แสดงความกังวลว่าจะไม่มีศักยภาพพอที่จะซื้อของที่ต้องการในช่วงเทศกาลเนื่องจากเงินเฟ้อ ขณะที่ 45% เกรงว่าจะไม่สามารถซื้อของที่ต้องการได้เพราะห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก สำนักข่าวซินหัวรายงาน
  • (+) ยอดติดโควิดพุ่งแรงใน 2 เมืองใหญ่ในแอฟริกาใต้ ขณะนักวิทย์เจอ “โอไมครอน”สภาวิจัยทางการแพทย์ของแอฟริกาใต้ (SAMRC) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์น้ำเสียพบว่า การติดเชื้อโควิด-19 กำลังพุ่งขึ้นใน 2 เมืองใหญ่  SAMRC ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า จำนวนไวรัสที่พบในตัวอย่างน้ำเสียได้พุ่งขึ้นในเดือนนี้ในเมืองชวาเน และเมืองจีเคอเปอร์ฮา
  • (+) CDC สหรัฐเฝ้าระวัง เผยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน”ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ในสหรัฐ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก  “จนถึงขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในสหรัฐ โดย CDC ทำการตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และระบบเฝ้าระวังไวรัสของสหรัฐได้ตรวจพบสายพันธุ์ใหม่ ๆ ในประเทศได้อย่างน่าเชื่อถือ เราคาดว่า โอไมครอนจะถูกตรวจพบได้อย่างรวดเร็ว หากเกิดขึ้นในสหรัฐ
  • (+) สหรัฐห้ามผู้เดินทางจาก 8 ชาติในแอฟริกาเข้าประเทศ สกัดโควิดพันธุ์ใหม่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า สหรัฐจะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับ 8 ประเทศในแอฟริกา เนื่องจากตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในทวีปดังกล่าว  ปธน.ไบเดนระบุว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 พ.ย. คณะบริหารของเขาจะสั่งจำกัดการเดินทางทางอากาศจากแอฟริกาใต้, บอตสวานา, ซิมบับเว, นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี, โมซัมบิก และมาลาวี เพื่อเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้าไม่ให้ไวรัส “โอไมครอน” ซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดเข้าสู่สหรัฐ 
  • (+) อนามัยโลกตั้งชื่อโควิดพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ประกาศเป็นสายพันธุ์น่าวิตกองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้นั้น เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก โดยระบุว่า อาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ   WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า จากหลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวจะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ และมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอันตรายในด้านระบาดวิทยาของไวรัสโควิด-19
  • (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.เทขายจากวิตกโควิดพันธุ์ใหม่  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.75% แตะที่ 96.0468 ในวันศุกร์  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.13 เยน จากระดับ 115.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9217 ฟรังก์ จากระดับ 0.9357 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2783 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2648 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1313 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1209 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3321 ดอลลาร์
  • (+) ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 905.04 จุด วิตกโควิดพันธุ์ใหม่ทุบตลาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ (26 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทาง, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนักจากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน  ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,899.34 จุด ร่วงลง 905.04 จุด หรือ -2.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.62 จุด ร่วงลง 106.84 จุด หรือ -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,491.66 จุด ร่วงลง 353.57 จุด หรือ -2.23%
  • (-) บริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่เร่งตรวจสอบ พร้อมปรับวัคซีนสู้โควิด “โอไมครอน”  บรรดาบริษัทผลิตวัคซีนโควิด-19 รายใหญ่ของโลกเปิดเผยในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า พวกเขากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบและปรับวัคซีนที่มีอยู่ให้สามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่  สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ  ไฟเซอร์และไบออนเทคระบุว่า พวกเขากำลังตรวจสอบไวรัสโอไมครอน หรือ B.1.1.529 และสามารถที่จะปรับวัคซีนที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว หากจำเป็น 

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by GCAP

GCAP Gold

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราวซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ โดยนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแถลงว่า นับตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้ง 6 ประเทศเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อสีแดง (Red List) และเที่ยวบินที่มาจาก 6 ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษเป็นการชั่วคราว

มุมมองทองคำภาคเช้า  ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ ได้แก่  ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย  ดัชนีภาคการผลิต เฟดสาขาดัลลัส  ดัชนีราคาบ้านในเขต 20 เมืองใหญ่  ดัชนีราคาบ้าน FHFA  ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง ชิคาโก  ความเชื่อมั่นผู้บริโภค  การจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP

ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต  ดัชนีภาคการผลิต ISM   ค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้าง  สรุปรายงานสภาพเศรษฐกิจ  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  การจ้างงานนอกภาคเกษตร  อัตราการว่างงาน  รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง  คำสั่งซื้อโรงงาน ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ  เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราวซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ โดยนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแถลงว่า นับตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้ง 6 ประเทศเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อสีแดง (Red List) และเที่ยวบินที่มาจาก 6 ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษเป็นการชั่วคราว  

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,782-  1,777- 1,772

แนวต้าน  1,808–1,813– 1,818

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  จากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในเบื้องต้นยังมองแค่รีบาวน์ระยะสั้น ๆ  แนะเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ไปก่อน

ขอขอบคุณ : บริษัท จีแคป จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by SCT

คำแนะนำ   : 

ทองได้หนุนจากไวรัสตัวใหม่ แต่สัปดาห์นี้ราคาจะผันผวนมาก จับตา FED/ตัวเลขผลิต&จ้างงาน
  
แนวรับ 1780/ 1770 / 1760  แนวต้าน 1800|1811|1820
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW                      Sw                       SW                SW 
ระยะกลาง  SW                      SW                     SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1775-1810

จุดเข้า BUY 1760-75
เป้าหมาย 1800-20
SL 1749รายสัปดาห์

แนะนำรายเดือน 1750-1900

จุดเข้า BUY 1760-90 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1749   

บทวิเคราะห์  : 

ทองได้ข่าวไวรัสตัวใหม่ร้ายกว่าเดิม “โอไมครอน” หนุนทองหลังโดนขายทำกำไรหนักในสัปดาห์ก่อน สัปดาห์นี้จะผัผผวนหนักเพราะเต็มไปด้วยข่าวและตัวเลขสำคัญทุกวัน ให้จับตาการแถลงของเฟดกับรัฐสภาคืนวันอังคารเรื่องแนวทางดอกเบี้ยควบคุมเงินเฟ้อและสถานะการณ์โควิดปัจจุบัน คาดว่าตลาดทองเริ่ม PRICE IN บ้างแล้ว / รอตัวเลขการผลิตและการจ้างงานสหรัฐฯในวันพุธและวันศุกร์  ตลอดจนข่าวการแพร่ของไวรัสตัวใหม่ว่าจะแพร่ทั่วโลกเร็วแค่ไหน เพราะถ้าแพร่กระจายจนกระทบกิจกรรมเศรษฐกิจ ก็จะเป็นบวกกับทองทันที เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดทองเข้าโหมดพักฐานต่อแต่จะแกว่งผันผวนให้เทรดสั้นได้ แต่การลงแรงให้ซื้อสะสมเช่นเดิม โดยทางเทคนิคมีแนวรับสำคัญที่ $1760-1750 ที่ห้ามหลุดเด็ดขาดเพื่อรักษาภาพขาขึ้นไป $1950 ในปีหน้า ส่วนค่าเงินบาทก็ผันผวนเช่นกันเพราะตลาดหุ้นไทยโดนเทขายตามหุ้นสหรัฐฯทำให้บาทอ่อน ยิ่งถ้าเชื้อไวรัสแพร่กระจายเร็วมาก ตลาดหุ้น คริปโตจะถูกขายมาเข้าตลาดทอง  สรุปได้ว่าสัปดาห์นี้เทรดสั้นเท่านั้น ขึ้นขายลงซื้อ

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by GT

GT GOLD BULLION

Fundamental

  • พบโควิดพันธุ์ใหม่ โอมิครอน จากแอฟริกาหลุดเข้าหลายประเทศ แม้อาการเบา แต่แพร่เชื้อง่าย จึงเสี่ยงต้องปิดเมืองทั่วโลกอีกรอบ ทำให้นักลงทุนเปิดโหมด risk off หนีความเสี่ยงด้วยการเทขายลดพอร์ตแล้วถือเงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องสูงจำพวกพันธบัตรสหรัฐฯที่อัตราผลตอบแทนร่วงหนักทันทีทุกช่วงอายุ
  • ส่วนทองคำได้รับอานิสงส์ดังกล่าวแค่เพียงบางส่วน เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกต้องชะลอลงหรือหยุดชะงักอีก เงินเฟ้อที่ทำประมาณการณ์ไว้จะถูกเบรกลงชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะเอื้อให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

Technical

  • กราฟจบรูปแบบinverted head & shoulder ราคาทิ้งตัวแรง แต่ RSI ลงไม่เยอะ จึงน่าจะมีแรงซื้อหนุนไม่ให้หลุด 1,780 อย่างน้อยก็ชั่วคราว
  • ราคาพุ่งขึ้นไปไม่ถึงเส้น MA แล้วกลับลงมาย่ำฐานรับเดิม ทำให้ RSI สวิงจาก overbought ลงมาสู่ oversold ทันที จึงมองว่าหากจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ต้องยืนในช่วง1,800-1,820ให้ได้สักระยะก่อน
  • ทิศทางวันนี้ถ้าหลุด 1,780 ระวังร่วงหนัก
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ปิดทำกำไรที่ชอร์ตไว้แล้วรอดู ถ้าหลุด 1,780 ให้ชอร์ต ถ้าขึ้นพ้น 1,800 ให้ stop loss

Attention

  • อังคารนี้คาดสภาถามประธาน Fed ว่าโควิดรอบใหม่มีผลถึงการลด QE และช่วงที่จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
  • ยุโรปกำลังเผชิญโควิดระลอกใหม่ หลังหลายประเทศรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่มีโควิดซึ่งหลายชาติยุโรปเตรียมสั่ง lockdown เพื่อลดโควิด
  • หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า

ขอขอบคุณ: บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

สัปดาห์ก่อนทองคำปรับลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์

สัปดาห์นี้ติดตามการจ้างงานสหรัฐเดือนพ.ย.

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหว Sideways up

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot ปรับลดลงหลุด 1,800 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 16 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น การที่นายเจอโรม พาวเวลดำรงตำแหน่งประธานเฟด ตลาดมองว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากกว่านางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟด แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการในวันพฤหัส เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า แต่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์จากความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 7.85 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต  (Beige Book) และการจ้างงานสหรัฐเดือนพ.ย. สำหรับการเปิดเผยรายงาน Beige Book นั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  จะนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค. ส่วนการจ้างงานของสหรัฐจะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวน ถ้าการจ้างงานสหรัฐออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดไว้มาก
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot สัปดาห์นี้คาดจะเคลื่อนไหว Sideways up โดยมีแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,791.60+3.11,780/1,7701,800/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,650-5028,400/28,25028,650/28,900

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,760-10028,530/28,37028,830/29,140

การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,530 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,370 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,793.30-14.201,781/1,7711,801/1,821

การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น หลังจากอ่อนค่าลงต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โดย USD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.80 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่า นลท.เทขายจากวิตกโควิดพันธุ์ใหม่

          ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.75% แตะที่ 96.0468 ในวันศุกร์

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 1.2 ดอลล์ วิตกโควิดกลายพันธุ์หนุนแรงซื้อ

 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เนื่องจากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย   ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,785.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำร่วงลง 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้    สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 38.9 เซนต์ หรือ 1.66% ปิดที่ 23.107 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดร่วง 10.24 ดอลล์ ผวาโควิดกลายพันธุ์ฉุดตลาด

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงมากกว่า 13% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้  ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 10.4% ในรอบสัปดาห์นี้  สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 9.53 ดอลลาร์ หรือ 11.59% ปิดที่ 72.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 8% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 905.04 จุด วิตกโควิดพันธุ์ใหม่ทุบตลาด

  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทาง, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนักจากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน  ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,899.34 จุด ร่วงลง 905.04 จุด หรือ -2.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.62 จุด ร่วงลง 106.84 จุด หรือ -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,491.66 จุด ร่วงลง 353.57 จุด หรือ -2.23%    ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันศุกร์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 และในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ร่วง 2%, ดัชนี S&P500 ร่วง 2.2% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 3.5%  

แบงก์ชาติญี่ปุ่นชี้ยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2%

          นางจุนโกะ นาคากาวะ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า การบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นั้นไม่ใช่เป้าหมายเพียงอย่างเดียวในการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออาจปรับตัวผันผวนที่ราวระดับดังกล่าวในบางช่วงเวลา  สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการให้สัมภาษณ์ของนางนาคากาวะว่า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวอยู่ที่ราวระดับ 0% นั้น แรงกดดันขาขึ้นก็กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวขึ้น   อย่างไรก็ตาม นางนาคากาวะระบุว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%   นางนาคากาวะยังกล่าวด้วยว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงนั้นมีทั้งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งในแง่หนึ่งนั้นช่วยให้ผู้ส่งออกได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศมีต้นทุนการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น

WHO เผยบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาเพียง 27% ได้วัคซีนโควิดครบโดส

          องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ว่า มีบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาเพียง 27% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ดังนั้นจึงยังมีผู้ปฏิบัติงานแนวหน้าอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน  นางมัตชิดิโซ โมเอติ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคแอฟริกาของ WHO กล่าวว่า “บุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รับวัคซีนและเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการรุนแรง” พร้อมเสริมว่า การขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกานั้นเป็นปัญหาร้ายแรงมาก ขณะที่ 16 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกามีบุคลากรด้านสาธารณสุขน้อยกว่า 1 คนต่อประชากร 1,000 ราย  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ขณะนี้ในภูมิภาคแอฟริกามีการแจกจ่ายวัคซีนไปแล้วมากกว่า 227 ล้านโดส โดยบุคลากรด้านสาธารณสุขใน 39 ประเทศที่ให้ข้อมูลนั้น ได้รับวัคซีนไปแล้ว 3.9 ล้านโดส  “ด้วยยอดผู้ติดเชื้อที่ส่อเค้าว่าจะพุ่งขึ้นครั้งใหม่ทั่วแอฟริกาหลังช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ประเทศต่าง ๆ จึงต้องเร่งกระจายวัคซีนไปยังบุคลากรด้านสาธารณสุขโดยด่วน” นางโมเอติกล่าว    ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) รายงานข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแอฟริกาที่ได้รับการยืนยันแล้วในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้แตะ 8,614,525 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 222,254 ราย และรักษาหายแล้ว 8,060,459 ราย

อิสราเอลระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศแอฟริกา หวังสกัดโควิดสายพันธุ์ใหม่

          รัฐบาลอิสราเอลประกาศระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา หลังมีรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ในแอฟริกาใต้ โดยประเทศทั้ง 7 ที่ถูกระงับเที่ยวบินในครั้งนี้ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี, โมซัมบิก และแอฟริกาใต้  ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์วานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีนัฟทาลี เบนเนตต์ และนายนิทซาน ฮอรวิทซ์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิสราเอลเป็นผู้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศเหล่านี้ โดยระบุว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยง  “ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศนี้ไม่สามารถเข้าอิสราเอลได้ ส่วนพลเมืองชาวอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ จะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม” ทำเนียบนายรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์   มาตรการดังกล่าวของอิสราเอลเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่รัฐบาลอังกฤษที่ได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้  การดำเนินการป้องกันของทั้งสองประเทศมีขึ้น หลังจากนายทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนในอังกฤษได้ตรวจพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ราคาทองคำสวิงแรง ระยะสั้นดูดี แต่ต้องก้าวข้าม $1,833 ให้ได้

กราฟแนวโน้มราคาทองคำ

ในช่วงต้นการซื้อขายทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำ ได้ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,815 ดอลลาร์

ราคาทองคำได้แรงหนุนจากความวิตกของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทำให้รัฐบาลหลายประเทศได้เตรียมออกมาตรการป้องกันอีกครั้ง ก่อนที่องค์การอนามัยโลกได้จัดประชุมฉุกเฉิน พร้อมตั้งชื่อสายพันธุ์ดังกล่าวว่า ออมิครอน (Omicron) พร้อมระบุเป็นโควิดสายพันธุ์ที่น่าวิตก

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างมาก ราคาน้ำมันดิบ Nymex ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ที่ 72.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะเกรงว่าจะเกิดการล็อคดาวน์อีกรอบ

photo by Martin Lopez | pexels.com
photo by Martin Lopez | pexels.com

ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และราคาตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงจาก 1.64% ในวันพุธ ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามความต้องการที่ใช้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ ราคา Bitcoin ลดลงอย่างรวดเร็ว และ ลดลงกว่า 7%

อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายตลาด ราคาทองคำได้ปรับลดลงมาแตะ 1,780 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดและปิดสัปดาห์ที่ 1,793 ดอลลาร์

ทำให้ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาลดลง 52 ดอลลาร์ หรือ ลดลง 2.86% โดยราคาได้แกว่งตัวแรง ระหว่างสัปดาห์ราคาทองคำได้ขึ้นไปทดสอบระดับ 1,849 ดอลลาร์ ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,778 ดอลลาร์

ด้าน YLG มองทิศทางการเคลื่อนไหวราคาทองคำว่า ในระยะสั้น ราคามีมุมมองเชิงบวก โดยเป็นการฟื้นตัวหลังราคาปรับตัวลดลงแรง จนอยู่ในภาวะขายมากเกินไป และ สัญญาณ Bullish Divergence พร้อมกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100 และ 200 วัน สะท้อนมุมมองเชิงบวกเพิ่มเติม

แต่เนื่องจาก ภาพรวมในระยะกลาง ราคาทองคำปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ sideway down อีกครั้ง ดังนั้น แม้ทิศทางในระยะสั้นจะเป็นบวก แต่ YLG แนะนำเช่นเดิมว่า ควรจะขายทำกำไรในทุกครั้งที่ราคาทดสอบแนวต้าน แล้วรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังมีความไม่แน่นอน

สำหรับผู้ที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง บริเวณแนวต้าน 1,821-1,833 ดอลลาร์ แต่หากผ่าน 1,833 ดอลลาร์ แนะนำถือต่อ เนื่องจากการผ่าน 1,833 ดอลลาร์ จะส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำเป็นบวกมากยิ่งขึ้น และจะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,849-1,877 ดอลลาร์

สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในมือ ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ แต่แนะนำให้เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นหลัก โดยหาจังหวะสะสมทองคำบริเวณแนวรับ 1,772-1,766 ดอลลาร์ และจำเป็นต้องตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,766 ดอลลาร์

ขอขอบคุณ : YLG

โพลชี้ นลท.-ผู้เชี่ยวชาญ มองตรงกัน คาดทองบวกต่อเนื่อง

GRC Gold Survey 29 พ.ย. – 3 ธ.ค.64

| GRC Gold Survey 29 พ.ย. – 3 ธ.ค.64 |

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 64 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 320 ราย ในจำนวนนี้มี 185 ราย หรือเทียบเป็น 58% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 84 ราย หรือเทียบเป็น 26% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 51 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 28,200 – 28,750 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 28,650 บาท ต่อบาททองคำ ปรับลดลง 100 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 28,750 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. การพบเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ไวรัสดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน (Omicron) โดยไวรัสตัวใหม่นี้พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ รวมถึงในบอตสวานา และในกลุ่มนักเดินทางในฮ่องกงและอิสราเอล

2. นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยนักลงทุนจับตาการส่งสัญญาณของ FED ต่อแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน

3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน และ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน พฤศจิกายน 2564

ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ

YLG แนะจับตา ปธ.FED จะเร่งลด QE เพื่อเปิดทางขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หรือไม่

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ YLG

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวที่สร้างผลกระทบให้กับตลาดทองคำมาก ก็คือ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เสนอชื่อ นายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2

ทำให้ตลาดมองว่า เฟดจะเดินหน้าถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน และดำเนินนโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990   

ปัจจัยดังกล่าว หนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน ครั้งใหม่ พร้อมกับหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดของปีนี้ 

ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,835 ดอลลาร์ จนกระตุ้นแรงขายตามทางเทคนิคเพิ่มเติม ทำให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,777 ดอลลาร์ ในระหว่างการซื้อขายของวันพุธที่ 24 พ.ย.

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ - YLG
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ – YLG

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ประเด็นที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ คือ ท่าทางของเฟดที่อาจจะปรับอัตรา (pace) การคุมเข้มนโยบายการเงิน ทั้งในส่วนของการลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน อาทิ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าฯ เฟด ที่กล่าวว่า เฟด ควร “เพิ่ม pace” การลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE เป็น 2 เท่า ในเดือน ม.ค. เพื่อให้กระบวนการ taper QE เสร็จสิ้นลงภายในเดือน เม.ย. และมี policy space ในการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน และตอกย้ำแนวโน้มดังกล่าวด้วยรายงานการประชุมเฟดประจำเดือน พ.ย. ที่แสดงให้เห็นว่า เฟดพร้อมเร่งลด QE เพื่อเปิดทางสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย 

แน่นอนว่า หากเฟดมีการปรับเร่งอัตราการลด QE และเร่งขึ้นดอกเบี้ย ย่อมจะส่งผลหนุนดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำ อย่างไรก็ดี จากสถิติในอดีตพบว่าราคาทองคำมักจะได้รับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงที่ตลาดมีการ Price in และ หลังจากเฟดมีการดำเนินการตามการคาดการณ์ของตลาด ผลกระทบเชิงลบจะค่อย ๆ ลดลง ในทางกลับกัน หากท้ายที่สุดแล้ว เฟดดำเนินนโยบายในเชิง Hawkish น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด ย่อมจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำได้ในที่สุด

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG

อย่างไรก็ดี YLG แนะนำให้นักลงทุนรอประเมินท่าทีของเฟด จากถ้อยแถลงของประธานเฟดในสัปดาห์หน้า รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ และใช้ท่าทีดังกล่าวเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางทองคำในระยะถัดไป

ขอบคุณข้อมูลจาก YLG

SPDR ซื้อทองคำอีก 1.74 ตัน เดือน พ.ย. บวกกว่า 10 ตัน

มาดูการเคลื่อนไหวของ SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27พ.ย.) SPDR ซื้อทองคำเพิ่มอีก 1.74 ตัน ที่ราคา 1,792.35 ดอลลาร์ ทำให้ ตั้งแต่ช่วงหลังของเดือน พ.ย. SPDR ซื้อทองคำติดต่อกัน 6 ครั้ง รวมน้ำหนัก 17.44 ตัน

โดยในสัปดาห์นี้ SPDR ได้ซื้อทองคำเข้ามากกว่า 7 ตัน โดยล่าสุดที่ซื้อคือเมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย. ซื้อเข้า 0.58 ตัน ( อ่านข่าวความเคลื่อนไหวก่อนหน้า )

ทำให้เดือน พ.ย. ยอดการซื้อขายทองคำของ SPDR กลับมาเป็นบวก 10.71 ตัน และทำให้ยอดการซื้อขายปีนี้ ติดลบเหลือ 177.89 ตัน เหลือถือครองทองคำ 992.85 ตัน

SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มหลังวานนี้ราคา Gold Spot ปรับเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์เศษ หรือ เพิ่มขึ้น 0.25 % แม้ว่าเมื่อวานนี้ ตลาดอเมริกาจะปิดเร็วกว่าปกติ เนื่องในวัน Black Friday และ ส่วนใหญ่ในวันดังกล่าวปริมาณการซื้อขายค่อนข้างน้อย

แต่เมื่อวานนี้ ราคาทองคำกลับเคลื่อนไหวแรง หลังจากนักลงทุนกลับมาหาสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความหวั่นวิตกของการแพร่ระบาดจากโรค COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ชื่อว่า ออมิครอน (Omicron) พร้อมระบุเป็นโควิดสายพันธุ์ที่น่าวิตก

photo by Zlaťáky.cz | pexels.com
photo by Zlaťáky.cz | pexels.com

ทั้งนี้ ราคาทองคำได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,815 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกเทร่วงมาแตะ 1,780 ดอลลาร์ และฟื้นตัวมาปิดสัปดาห์ได้ที่ 1,793 ดอลลาร์ นอกเหนือจากราคาทองคำที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว สกุลเงินเยน และฟรังก์สวิส ที่มักจะถูกมองว่าเป็นตัวลดความเสี่ยงของความผันผวน ก็ขยับตัวขึ้นแรงเช่นกัน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น