ราคาทองคำวันนี้ : ทองคำถูกเทขายหลังบวก 3 วันติด แต่ราคาทองไทยยังยืนเหนือ 28,000 บาท

ราคาทองวันนี้

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ 27 ต.ค. เช้านี้ลดลง 50 บาท หลังราคา gold spot กลับมาปิดตลาดต่ำกว่า $1,800 อีกครั้ง เนื่องจากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมา 3 วัน ติดต่อกัน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ออกมาดี ดันดัชนีดอลลาร์พุ่ง ขณะที่ SPDR ได้กลับมาซื้อทองคำบ้างแล้ว

ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 15 ดอลลาร์ หลังได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำถูกแรงขายทำกำไร หลังจากไม่สามารถทะลุผ่านระดับสูงสุดเดิมของสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 1,813 ดอลลาร์ ได้

นอกจากนั้น ยังถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ทุกรายการ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ต.ค. จาก Conference Board ที่ดีดตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 113.8 ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนกลาง เดือน ต.ค. จากเฟดริชมอนด์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 12

ปัจจัยดังกล่าว หนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่า พร้อมดึงราคาทองคำหลุดลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782.34 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อ เข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้ในช่วงปลายตลาด ก่อนไปปิดตลาดที่ 1,792 ดอลลาร์

ส่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้ปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย มาเคลื่อนไหวแนว 1,790 ดอลลาร์ ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ )

ขณะที่ ราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้ ราคาแรกลดลง 100 บาท ก่อนที่ในอีก 20 นาทีต่อมา จะปรับขึ้น 50 บาท โดยล่าสุด ราคารับซื้ออยู่ที่ บาทละ 28,100 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 28,200บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

ด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.74 ตัน ทำให้ถือครองทองคำ 979.81 ตัน เป็นการถือครองทองคำเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม )

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by TDC

TDC GOLD

มีการประกาศตัวเลขสำคัญ 2 ตัวเมื่อคืนนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค CB เดือน ต.ค.ออกมามากกว่าที่คาดกรณ์เช่นเดียวกับตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ หลังจากประกาศค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นพร้อมกับการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ ซึ่งมองการปรับตัวลดลงมาทดสอบ $1770 อยู่เช่นเดิม การเกิดแท่งเทียนสีแดงใต้เส้นค่าเฉลี่ยEMA200 ในรายวันบ่งบอกถึงสัญญาณอ่อนแอ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังหากราคายังกลับขึ้นไปเหนือ $1800 อีกครั้งไม่ได้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลับไปยืนไม่ได้

ขอขอบคุณ : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by MTS

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงเทขายปิดทำกำไร แม้ว่า SPDR จะมีการซื้อทองคำเข้าก็ตาม โดยทองคำมีการทำสูงสุดแถว 1,813 เหรียญ ก่อนจะปิดต่ำกว่า 1,800 เหรียญ ลงมาแถว 1,790 เหรียญ ภาพรวมตลาดดูจะให้ความสนใจไปยังการประชุมของอีซีบีในวันพรุ่งนี้ และการประชุมของเฟดสัปดาห์หน้าในวันที่ 2-3 พ.ย. ดังนั้น จะเห็นได้ถึงการปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยของดัชนีดอลลาร์จากระดับ 93.80 จุด มาที่ระดับ 93.96 จุดในเช้านี้ เริ่มเห็นถึงการทดสอบ 1,794 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่เงินบาทเมื่อวานมีการแข็งค่าทดสอบ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนค่าดีดกลับมาแถว 33.20 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้ยังทรงตัวแถวระดับดังกล่าว สำหรับราคาทองคำไทยก็จะเห็นการเคลื่อนไหวที่เป็นในลักษณะไม่มากนัก เนื่องจากเงินบาทที่กลับมาแกว่งในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับดอลลาร์จึงทำให้ภาพรวมของทองคำไทยมีโอกาสแกว่งตัวเหนือระดับ 28,000 บาท/บาททองคำได้ สำหรับคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core Durable Goods Orders คาดว่าจะอกมาดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ Durable Goods Orders และ Goods Trade Balance ที่อาจจะออกมาแย่ลง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำยังแกว่งตัวใกล้เคียงเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางและยาว บริเวณ 1,790 เหรียญ ซึ่งจะเห็นได้ถึงการปรับฐานบ้างเล็กน้อย หลังจากที่ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาจะมีแนวรับที่ระดับ 1,780 เหรียญ และแนวต้าน 1,810 เหรียญ สำหรับ Gold Online Futures และ Comex Gold คาดจะมีกรอบ 1,783 – 1,813 เหรียญ และทองคำไทยคาดจะลงประมาณ 50 บาท/บาททองค

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

แนะนำเล่นสั้น Sideways ในกรอบแคบๆ

– นักลงทุนที่ถือ Long Position  
ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเล่นสั้นพยายามลดสถานะก่อนทราบผลประชุมเฟด เพราะอาจเห็นตลาดแกว่งตัวได้

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำบริหารพอร์ตสมดุล พยายามลดสถานะก่อนทราบผลประชุมเฟด เนื่องจากอาจเห็นการแกว่งตัวได้

Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,500  บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by YLG

YLg gold bar goldaround 09.02

คำแนะนำ :

แนะนำเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาทองคำยังคงยืนเหนือโซนแนวรับ 1,783-1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านโซน 1,809-1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,781 1,766 1,750  แนวต้าน : 1,809 1,819 1,833

สรุป  

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 14.80  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไร  หลังจากไม่สามารถทะลุผ่านระดับสูงสุดเดิมที่ขึ้นไปทดสอบในวันศุกร์บริเวณ 1,813  ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้  ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรง  หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” ทุกรายการ  อาทิ  ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจาก Conference Board ที่ดีดตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 113.8 ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 108.3  ส่วนยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 800,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 760,000 ยูนิต  ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนกลางจากเฟดริชมอนด์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 12 ในเดือนต.ค.ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4  ปัจจัยดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นจนเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นแรงขายในตลาดทองคำ  ทั้งนี้  แรงขายที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาทองคำหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 100 และ 200 วันบริเวณ1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์จนกระตุ้นแรงขายตามทางเทคนิคเพิ่มเติม  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงต่อจนทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782.34  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อ Buy the Dip เข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้ในช่วงปลายตลาด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +1.74 ตัน  สู่ระดับ 979.81 ตัน  ซึ่งเป็นการถือครองทองคำเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) “เอสแอนด์พี” เผยราคาบ้านสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือนส.ค.ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับระดับการเพิ่มขึ้นของเดือนก.ค. และเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2563  ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับระดับการเพิ่มขึ้นของเดือนก.ค. และเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2563
  • (-) ดอลล์แข็งค่า นักลงทุนจับตาการประชุมแบงก์ชาติทั่วโลกดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เช่น ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.14% แตะที่ 93.9425 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.14 เยน จากระดับ 113.70 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9195 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2384 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2385 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1597 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1612 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3766 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3769 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7506 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7493 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 15.73 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.สดใสดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์และ S&P500 ยังคงปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค.  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,756.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,574.79 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,235.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ +0.06%
  • (-) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสวนทางคาดการณ์  ผลสำรวจของConference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 113.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 109.8 ในเดือนก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 108.3
  • (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือนในก.ย.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 800,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 760,000 ยูนิต  ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับลดยอดขายบ้านใหม่ในเดือนส.ค.สู่ระดับ 702,000 ยูนิต จากเดิมรายงานที่ระดับ 740,000 ยูนิต
  • (-) ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศย้ำที่จะผลักดันให้เกาหลีเหนือคืนสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งผู้นำเกาหลีใต้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะพยายามชักจูงให้เกาหลีเหนือกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของตนจะหมดลงในเดือนพฤษภาคมของปีหน้า  ในระหว่างการแถลงนโยบายครั้งสุดท้ายต่อรัฐสภาเกาหลีใต้ในวันจันทร์ ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน กล่าวว่า ตน “จะเดินหน้าความพยายามสร้างสันติภาพและความรุ่งเรืองในคาบสมุทรเกาหลี ผ่านช่องทางการเจรจาและการทูต ให้จนถึงที่สุด” แม้ว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือจะมีท่าทีเฉยเมยต่อความพยายามของผู้นำเกาหลีใต้ในการสร้างความสมานฉันท์ หลังการเจรจาทางการทูตระหว่างกรุงเปียงยางและกรุงวอชิงตันหยุดชะงักไปเมื่อต้นปี ค.ศ. 2019 อันมีสาเหตุหลักมาจากประเด็นการดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากประเทศฝั่งตะวันตก

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by SCT

sct goldaround 16.02

คำแนะนำ : 

ตัวเลขสหรัฐฯดีฉุดทองย่อสั้นๆ ทองต้องยืน 1800 จึงมองขึ้นต่อ
 
แนวรับ 1783/ 1776 / 1770  แนวต้าน 1800|1813|1830
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW UP/SW     SW  DOWN/SW    SW             SW 
ระยะกลาง  SW UP                 SW                     SW              SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1775-1810

จุดเข้า BUY 1775-85
เป้าหมาย 1830
SL 1750รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1750-1835

จุดเข้า BUY 1750-80 เป้าหมาย 1830/ 1850
SL 1739   

บทวิเคราะห์ : 

เมื่อคืนตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดขายบ้านสหรัฐฯออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์มาก ฉุดราคาทองหลุด $1800 ลงไปลึกแถว $1783 ก่อนรีบาวด์เบาๆ ภาพรวมทองเหมือนยังพักสะสมพลังเพื่อขึ้นต่อ โดยราคาต้องห้ามต่ำกว่า $1775 เพื่อรักษาภาพเชิงบวก คืนนี้จับตาตัวเลขสหรัฐฯ แต่ HIGH LIGHT สำคัญจะเป็นคืนพฤหัสที่จะมีประกาศ GDP สหรัฐฯที่คาดว่าจะลดลง และนโยบายดอกเบี้ยของ ECB ที่ยังน่าจะผ่อนคลายคงเดิมไปอีกนาน คงต้องรอให้เฟดหรืออังกฤษเป็นผู้นำขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนในปีหน้า

กลยุทธ์ : 

คืนนี้ถ้าราคาทองกลับมายืน $1800ได้ก็มีลุ้นไปต่อสวยๆ ในทางกลับกันหากราคาทองยืนระดับ $1775 ไม่ได้ ทองจะดูแย่ทันที โดยรวมจากข่าวยังเอียงไปทางบวก ขึงแนะนำทางซื้อช่วงย่อตัวเช่นเดิม

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by GT

GT Gold Bulliuon

Fundamental

  • สหรัฐฯเผยยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ย.พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบครึ่งปี แต่ราคาบ้านปรับขึ้นแบบชะลอตัว
  • จีนเร่งการผลิตของเหมืองถ่านหินในประเทศ สะท้อนภาวะขาดแคลนพลังงานของโลก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดราคาน้ำมันดิบอาจแตะ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางอากาศหนาวก่อนสิ้นปีนี้

Technical

  • รูปซ้ายแรงซื้อรีบดันราคาให้รีบาวด์กลับขึ้นไปก่อนลงมาแตะเส้น MA แต่ดูไม่แข็งแรงพอจะไปเกิน 1,800
  • รูปขวาราคาลงมาแกว่งระหว่างเส้น MA คาดว่าในระยะสั้นจะค่อย ๆ แกว่งแคบลงในกรอบจำกัด
  • ทิศทางวันนี้1,780-1,795
  • จับจังหวะเล่นยังไง?เก็งกำไรในระยะจำกัด ยังควรเน้นเล่นสั้นให้จบในวัน

Attention

  • 28 ต.ค.จับตา ECB จะลด QE และเปรยแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตาม Fed หรือไม่
  • 28 ต.ค.  คาด GDP สหรัฐฯไตรมาส 3 โตชะลอลงมาก
  • หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า

ขอขอบคุณ : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.64 by HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำลดลง จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,813 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเริ่มมีแรงเทขายออกมา ทำให้ปิดตลาดลดลง หลังจากปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วันเนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 113.8 จากระดับ 109.8 ในเดือนก.ย. สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์จะลดลงสู่ระดับ 108.4 ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 800,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 755,000ยูนิตทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ซื้อทองคำ1.74 ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลง 1.1% หลังจากเพิ่มขึ้น1.8% ในเดือนส.ค.สำหรับพรุ่งนี้ติดตามจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐ การประชุมธนาคารกลางยุโรป และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spotคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,813 ดอลลาร์ระยะสั้นทองคำมีแนวต้าน 1,813 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และแนวรับ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,792.60-14.801,780/1,7701,813/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,25027,950/27,80028,400/28,600

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,350-7028,130/27,97028,560/28,790

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,813ดอลลาร์ (GF 28,560บาท) การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,130 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF27,970 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,795.90-10.101,782/1,7721,815/1,835

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOZ211,815ดอลลาร์การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,782 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ โดยธนาคารกลางแคนาดาจะจัดการประชุมในวันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรปจะจัดการประชุมในวันพฤหัสโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33-33.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.30บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่านักลงทุนจับตาการประชุมแบงก์ชาติทั่วโลก

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐเช่นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3    ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.14% แตะที่ 93.9425 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดร่วง $13.4 จากแรงขายทำกำไร-ดอลล์แข็งฉุดตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันนอกจากนี้การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.4 ดอลลาร์หรือ 0.74% ปิดที่ 1,793.4 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 50.4 เซนต์หรือ 2.05% ปิดที่ 24.088 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 89 เซนต์รับคาดการณ์อุปทานน้ำมันตึงตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าตลาดน้ำมันจะเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 84.65 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557    สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2561

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 15.73 จุดรับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.สดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์และS&P500ยังคงปิดทำนิวไฮขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัลอิเลคทริคนอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค.    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,756.88 จุดเพิ่มขึ้น 15.73 จุดหรือ +0.04%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,574.79 จุดเพิ่มขึ้น 8.31 จุดหรือ +0.18% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,235.71 จุดเพิ่มขึ้น 9.01 จุดหรือ +0.06%

เฟดชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยว่าดัชนีChicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.13ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.35จากระดับ +0.05ในเดือนส.ค.    ดัชนีได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมดัชนีCFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน85รายการโดยดัชนีCFNAI ที่มีค่าเป็นบวกจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้มขณะที่ดัชนีCFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้มนักวิเคราะห์ระบุว่าดัชนีCFNAI ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ

รองนายกฯจีนคุยรมว.คลังสหรัฐวัหารือนโยบายเศรษฐกิจ-ความสัมพันธ์

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยรายงานระบุว่านายหลิวเหอรองนายกรัฐมนตรีจีนได้พูดคุยกับนางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐผ่านทางวิดีโอคอลและได้หารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคและความสัมพันธ์ทวิภาคีรายงานดังกล่าวระบุว่าทั้ง2ฝ่ายกล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทั้ง2ประเทศจะส่งเสริมการสื่อสารและการประสานงานกันในนโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคนอกจากนี้จีนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐและการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อบริษัทจีนนายหลิวซึ่งเป็นผู้นำฝั่งจีนในการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐตั้งแต่ครั้งที่นายโดนัลด์ทรัมป์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเปิดฉากทำสงครามการค้ากับจีนนั้นได้จัดการเจรจากับทั้งนางเยลเลนและนางแคเธอรีนไท่ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อช่วงต้นปีนี้หัวหน้าด้านการค้าและเศรษฐกิจจากทั้ง2ประเทศมีการนัดหมายกันมากขึ้นนับตั้งแต่นายโจไบเดนได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลสหรัฐวิจารณ์จีนเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดจนพยายามหาแนวร่วมกับประเทศร่ำรวยอื่นๆเพื่อต่อต้านจีนในช่วงต้นเดือนต.ค. นางไท่สัญญาว่าจะยกเว้นภาษีนำเข้าให้สินค้าจีนบางชนิดขณะเดียวกันก็กดดันจีนเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์

โมเดอร์นาเผยผลทดลองใหม่ยืนยันวัคซีนโควิด-19ใช้ได้ผลดีกับเด็ก6-11ปี

            บริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยผลการทดลองในวันจันทร์ (25ต.ค.) ระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของโมเดอร์นาในเด็กอายุ6-11ปีจำนวน2โดสห่างกัน28วันมีการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งการทดลองKidCOVEในระยะที่2/3ได้ให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 mRNA-1273ของโมเดอร์นาแก่ผู้เข้าร่วมทดลองจำนวน2โดสโดสละ50ไมโครกรัมซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งของโดสที่ใช้กับผู้ใหญ่เด็กอายุ6-11ปีเข้าร่วมการทดลองครั้งนี้จำนวนทั้งหมด4,753รายโดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความปลอดภัย, ความทนต่อยา (tolerability), อาการไม่พึงประสงค์ (reactogenicity) และประสิทธิผลของวัคซีนโมเดอร์นาในเด็กผลการวิเคราะห์เบื้องต้นของโมเดอร์นาบ่งชี้ว่าการให้วัคซีนจำนวน2โดสห่างกัน28วัน “มีการตอบสนองของแอนติบอดีต่อไวรัสได้เป็นอย่างดี”ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดคืออาการอ่อนเพลียปวดหัวเป็นไข้และปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีนโดยโมเดอร์นาเปิดเผยว่าผลการวิเคราะห์นั้นแสดงให้เห็นว่า “มีความปลอดภัยเป็นที่น่าพอใจ”ทั้งนี้โมเดอร์นามีแผนที่จะยื่นข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ, องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) และหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลกอื่นๆในเร็วๆนี้

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

Wilshire Phoenix ชี้เครื่องมือของ FED คุมเงินเฟ้อไม่อยู่ พร้อมดันราคาทองคำพุ่ง

photo by Karolina Grabowska | pexels.com

ในสัปดาห์นี้ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่ดีของราคาทองคำ หลังได้เคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ มาต่อเนื่อง ก่อนจะปิดตลาดเหนือแนวต้านจิตวิทยาดังกล่าวได้

Wade Guenther

ทั้งนี้ Wilshire Phoenix บริษัทลงทุนทองคำ คาดว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นต่อไป พร้อมชี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ในเร็ว ๆ นี้

Wade Guenther, managing partner at Wilshire Phoenix ให้สัมภาษณ์กับ Kitco News ว่า ที่ผ่านมา ทองคำได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ดี ทองคำยังได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

Wade Guenther กล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการคุกคามของ stagflation ทำให้นักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา หลังดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ อยู่เหนือ 5% ซึ่งสถานการณ์ในลักษณะนี้ควรจะดันให้ราคาทองคำกลับไปแนว 2,000 ดอลลาร์ อีกครั้ง

แต่แทนที่เงินเฟ้อจะสนับสนุนราคาทองคำ กลับเป็นว่าไปเป็นการกระตุ้นการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะหันไปกระชับนโยบายการเงิน โดยคาดว่า Fed จะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนก่อนสิ้นปีนี้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน มิถุนายน 2565

แม้หลายคนจะเห็นด้วยกับแนวทางของ Fed แต่ตนกลับมองว่า อัตราเงินเฟ้อยังสูงมาก และเฟดอาจไม่สามารถคุมได้

เนื่องจากสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อในปัจจุบันแตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการของผู้บริโภค ราคากำลังสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญทั่วโลก ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ปัญหาคอขวดของอุปทานทั่วโลกอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะแก้ไข

Guenther มองว่าไม่มีสิ่งใดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะแก้ไขห่วงโซ่อุปทานได้ และเครื่องมือของเฟดใช้ไม่ได้ผล เพราะอัตราเงินเฟ้อจะกินเวลานาน และไม่ใช่อัตราเงินเฟ้อที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการของผู้บริโภค ที่สำคัญยังมีหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปจำกัดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

Wade Guenther กล่าวอีกว่า หลังจากที่ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 1,800 ดอลลาร์ อาจจะได้เห็นโมเมนตั้มขาขึ้นใหม่ในเร็ว ๆ นี้

ที่มา : Kitco.com

ราคาทองคำวันนี้ : ราคาทองคำขยับบวก แต่ยังปิดเหนือ $1,810 ไม่ได้

photo by Daniel Battersby | pexels.com

ราคาทองคำวันนี้ 26 ต.ค.64

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ 26 ต.ค. เช้านี้ราคาทองคำไทยยังไม่ขยับ ขณะที่ราคา gold spot ปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังยืนเหนือ $1,810 ไม่ได้ ระยะสั้นยังได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น

ราคา gold spot เมื่อวานนี้ ปิดปรับขึ้นเพิ่มขึ้น 15.12 ดอลลาร์ เป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยราคาได้ทะลุแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ ไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,809 ดอลลาร์ โดย ราคาทองคำสามารถทรงตัวรักษาระดับเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะ 50, 100 และ 200 วัน ได้อย่างต่อเนื่อง จนกระตุ้นแรงซื้อทางเทคนิคให้ราคาเกิดการดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ราคาทองคำได้แรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.62% เนื่องจากนักลงุทนกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความไม่แน่นอนของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใด หลังจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่การปรับตัวขึ้นของทองคำ ยังถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์ ที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางการอ่อนค่าของยูโร ทำให้ลดลงมาปิดตลาดที่ 1,807 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้ปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย มาเคลื่อนไหวแนว 1,803 ดอลลาร์ ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ )

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย “สมาคมค้าทองคำ” เช้านี้ ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดย ราคารับซื้ออยู่ที่ บาทละ 28,150 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 28,250บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 26 ต.ค.64 by HGF

ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทะลุแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.

แนวโน้มราคาทองคำคาดจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3ทะลุแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ เนื่องจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังประธานเฟดแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นจนถึงปีหน้าและเฟดจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในเร็วๆนี้ แต่จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 2.03 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 108.4 จากระดับ 109.3 ในเดือนก.ย. ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ755,000ยูนิตจากระดับ 740,000ยูนิตในเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spotคาดจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องระยะสั้นทองคำมีแนวต้าน 1,813 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และแนวรับ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,807.40+15.121,780/1,7701,813/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,250-5027,950/27,80028,300/28,600

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,400+5028,110/27,96028,460/28,770

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run) การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,110 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF27,960บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,808.10+6.001,782/1,7721,815/1,835

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run) การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่แนะนำเข้าซื้อที่ราคา GOZ211,782ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเริ่มอ่อนค่าลง หลังจากแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน2 วันทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางแคนาดาโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.30บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์แข็งค่าจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ-การประชุมธนาคารกลาง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจและการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.18% แตะที่ 93.8157 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $10.5 วิตกเงินเฟ้อหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.5 ดอลลาร์หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,806.8 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.    สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.3 เซนต์หรือ 0.58% ปิดที่ 24.592 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดทรงตัวหลังพุ่งทะลุ 85 ดอลล์รับดีมานด์ฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ต.ค.) หลังพุ่งขึ้นทะลุ 85 ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีอันเนื่องมาจากต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19    ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 64.13 จุดขานรับหุ้นเทสลาพุ่งแรง

ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีS&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12% ขานรับยอดสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากถึง 100,000 คันนอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและอัลฟาเบทดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,741.15 จุดเพิ่มขึ้น 64.13 จุดหรือ + 0.18%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,566.48 จุดเพิ่มขึ้น 21.58 จุดหรือ +0.47% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,226.71 จุดเพิ่มขึ้น 136.51 จุดหรือ + 0.90%

“เพโลซี” แย้มพรรคเดโมแครตใกล้บรรลุข้อตกลงแผนใช้จ่ายด้านสวัสดิการของ “ไบเดน”

นางแนนซีเพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยว่าพรรคเดโมแครตใกล้บรรลุข้อตกลงในแผนการใช้จ่ายด้านสวัสดิการของประธานาธิบดีโจไบเดนแล้วนางเพโลซีเปิดเผยกับรายการ “State of the Union” ทางสถานีโทรทัศน์CNN (24ต.ค.) ว่า “ในแง่ของความคืบหน้าปัจจุบันนั้นเรามีร่างกฎหมายที่ตกลงกันได้แล้วประมาณ90%เราแค่มีการตัดสินใจสุดท้ายบางอย่างที่ต้องทำ”

“เยลเลน” คาดอัตราเงินเฟ้อสหรัฐกลับสู่ระดับปกติภายในครึ่งหลังของปีหน้า

นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้พร้อมกับคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับปกติภายในช่วงครึ่งหลังของปี2565นางเยลเลนกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวCNN ว่าการใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโครงการ “Build Back Better” ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดีโจไบเดนนั้นจะมีการจัดสรรในอีก10ปีข้างหน้าและเธอคิดว่าการใช้จ่ายในโครงการเหล่านี้จะไม่ทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อย่ำแย่ลง   “ดิฉันคิดว่าเราจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ดิฉันคาดว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีจะยังคงอยู่ในระดับสูงถึงปีหน้าแต่หลังจากนั้นสถานการณ์เงินเฟ้อจะดีขึ้นโดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับปกติภายในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า” นางเยลเลนกล่าวที่ผ่านมานั้นตลาดการเงินวิตกกังวลว่าปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั้งในสหรัฐและทั่วโลกที่เกิดขึ้นในช่วงที่เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจอาจจะส่งผลให้ดีมานด์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอย่างไรก็ดีนางเยลเลนแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่เริ่มดีขึ้นดิฉันคาดว่าปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานก็จะบรรเทาลงและชาวอเมริกันก็จะกลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้งเนื่องจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น”

“เยลเลน” เผยกฎระเบียบสถาบันการเงินแข็งแกร่งมากขึ้นในยุคพาวเวลนั่งปธ.เฟด

นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “State of the Union” ทางสถานีโทรทัศน์CNN ว่ากฎระเบียบที่นำมาใช้กับสถาบันการเงินของสหรัฐนั้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในยุคที่นายเจอโรมพาวเวลดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)   เมื่อผู้ดำเนินรายการขอให้นางเยลเลนเปิดเผยคำแนะนำที่เธอให้กับประธานาธิบดีโจไบเดนเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่2แต่นางเยลเลนปฏิเสธที่จะเปิดเผยเรื่องดังกล่าว   “ดิฉันไม่ขอเปิดเผยว่าดิฉันได้ให้คำแนะนำอะไรบ้างแก่ปธน.ไบเดนแต่ดิฉันสามารถพูดได้ว่าในระหว่างที่นายพาวเวลดำรงตำแหน่งประธานเฟดรวมทั้งในช่วงที่ดิฉันและนายเบนเบอร์นันเก้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดกฎระเบียบที่นำมาใช้กับสถานบันการเงินนั้นมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นางเยลเลนกล่าว

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)