DBK ชี้ จบไตรมาส 2 ทองอาจแตะ $1,850 แม้วันนี้จะดิ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

Deutsche Bank | photo nypost.com

ราคาทองคำวันนี้ ยังถูกกดดันอย่างหนัก จากดอลลาร์ที่แข็งค่า กลับมายืนเหนือระดับ 92 จุด ทำให้ราคาร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ที่ระดับ 1,755 ดอลลาร์ ส่งผลแนวโน้มระยะสั้นแลดูไม่สู้ดีนัก

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของ Deutsche Bank ธนาคารเพื่อการลงทุนและสถาบันการเงิน รายใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนีได้คาดการณ์ราคาทองคำสิ้นเดือน มิถุนายน ว่า จะอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์ อย่างไรก็ยอมรับว่า ไม่ง่ายนักที่ราคาจะไปถึงจุดดังกล่าว เนื่องจากภาพในระยะสั้นยังเป็นขาลง ซึ่งวันนี้ ในบางช่วง ราคาการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าก็ลดลงหลุด 1,770 ดอลลาร์

มาดูปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ ตลาดยังคงกังวลเรื่องของเงินอัตราเฟ้อ ทำให้กรรมการเฟด ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกัน ทั้ง การขยายตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การจ้างงาน ซึ่งจะมีความเกี่ยวเนื่องกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลด QE ของเฟด ทำให้ตลาดจับตาเรื่องเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

แม้ว่าที่ผ่านมา ราคาทองคำที่ปรับขึ้นไป ก็ขึ้นไปเพียงเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจ ขณะที่การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และการแข็งค่าของดอลลาร์ ยังคอยกดดันราคาทองคำเอาไว้

มาดูปัจจัยหนุนราคาทองคำ มีตัวเลขการไหลเข้าของกองทุน ETF เพิ่มขึ้น แต่ต้องรอยืนยันสัญญาณว่าเป็นเพียงชั่วคราว หรือจะไหลเข้าต่อเนื่อง

นอกจากนั้นราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการแพร่ระบาดของ Corona Virus ที่มีการกลายพันธุ์ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งจะต้องมาดูว่า จะเป็นเพียงสภาวะชั่วคราวหรือไม่

CR : Kitco news

photo by Michael Steinberg | pexels.com
photo by Michael Steinberg | pexels.com

วิเคราะห์ราคาทองคำ 29 มิ.ย.64(SCT)

SCT GOLD

คำแนะนำ   :  

ทองยังเคลื่อนไหวแคบรอการ BREAKOUT จับตาตัวเลขสำคัญเริ่มทยอยประกาศทุกวัน

แนวรับ 1770/1763| 1750   แนวต้าน 1795|1800|1820
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น   SW/SW DOWN   SW/SW UP           SW           SW  
ระยะกลาง  SW                         SW                      SW         SW UP
ระยะยาว NEUTRAL  BULLISH  NEUTRAL BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1760-1800

จุดเข้า BUY 1740-50
เป้าหมาย 1800
SL 1730
รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1700-1900

จุดเข้า BUY 1730-55
เป้าหมาย 1850-1900
SL 1700

บทวิเคราะห์

ลักษณะราคาทองเคลื่อนไหวแคบมานานหลายวัน รอการระเบิดทิศทางด้านใดด้านหนึ่ง โดยตัวแปรจะมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะเริ่มทยอยประกาศทุกวันทั้งสัปดาห์ ขอให้เตรียมพร้อมกับความผันผวนรายวัน โดยรวมทองสามารถออกได้สองหน้า โดยถ้าตัวเลขทยอยประกาศออกมาดีขึ้นก็จะกดดันราคาทองลงไปเทสโซนแนวรับสำคัญ $1750  กรณียืนไม่ได้จะลงต่อเป็นระลอกสุดท้าย โดยตัวเลขที่สำคัญที่สุดจะเป็นตัวเลขการจ้างงาน NFP ในคืนวันศุกร์ที่คาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาดีขึ้นกว่าเดือนก่อน ซึ่งจะไม่ดีกับทอง
ในทางเทคนิค ราคาทองยังเป็นการพักฐานจนกว่าจะทะลุ $1795 และยืน $1800 ได้ คำแนะนำรอเทรดตามการ BREAKOUT ของกรอบ $1770-95 จะดีกว่า / ควรปรับพอร์ตให้สบายรองรับความผันผวน หรือการ BREAKOUT / คาดว่าราคาทองพักฐานใกล้จบและเตรียมรีบาวด์

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

วิเคราะห์ราคาทองคำ 29 มิ.ย.64(YLG)

คำแนะนำ :

เข้าซื้อบริเวณ 1,764-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงมาให้ชะลอการซื้อออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา ทั้งนี้ สามารถทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,761 1,749 1,733  แนวต้าน : 1,795 1,812 1,826

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 2.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ระหว่างวันราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,785.66-1,770.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางปัจจัยทั้งบวกและลบที่เข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ  โดยรวมแล้วราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์  ทั้งนี้  ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.08%  โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสที่ดีดตัวสู่ระดับ 29.4 จุดในเดือนมิ.ย. จากระดับ 15.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในเท็กซัส นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากถ้อยแถลงของนายโธมัส บาร์กิ้น ประธานเฟดริชมอนด์ ที่กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ “มีความคืบหน้าอย่างมาก” ในการนำไปสู่เป้าหมายด้านเงินเฟ้อ ซึ่งเพียงพอที่จะให้เฟดเริ่มลดปรับลดวงเงินในโครงการซื้อ​พันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมเสริมว่าเขามี “ค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวก” เกี่ยวกับตลาดแรงงาน   นั่นทำให้นักลงทุนวิตกว่าหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กำลังจะถูกเปิดเผยในวันศุกร์นี้แข็งแกร่งเกินคาด  อาจยิ่งสนับสนุนให้เฟดเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน  สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนยังคงเทขายทองคำสลับออกมาเป็นระยะ  อย่างไรก็ดี  เมื่อราคาทองคำทดสอบกรอบด้านล่างก็มักจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้เช่นกัน  ส่วนหนึ่งราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าที่กำลังระบาดอย่างหนักในหลายประเทศทั่วโลก  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +2.91 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน โดย S&P/CS และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก CB

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 150.57 จุด นลท.ขายหุ้นวัฏจักร เหตุวิตกโควิดฉุดศก.ทรุด  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินซึ่งเป็นหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,283.27 จุด ลดลง 150.57 จุด หรือ -0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,290.61 จุด เพิ่มขึ้น 9.91 จุด หรือ +0.23% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,500.51 จุด เพิ่มขึ้น 140.12 จุด หรือ + 0.98%
  • (+) รมว.สาธารณสุขอังกฤษเรียกร้องยกเลิกล็อกดาวน์โดยเร็วที่สุด  นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ของอังกฤษ ประกาศว่า เขาต้องการให้อังกฤษยกเลิกมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ทั้งนี้ นายจาวิดมีกำหนดแถลงต่อรัฐสภาอังกฤษในวันนี้เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าควรมีการยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในวันที่ 19 ก.ค. ตามที่รัฐบาลเคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
  • (-) นักวิเคราะห์คาดศุกร์นี้สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเพิ่ม 683,000 ตำแหน่งในมิ.ย.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 683,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง
  • (-) เฟดดัลลัสเผยดัชนีภาคการผลิตดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสดีดตัวสู่ระดับ 29.4 จุดในเดือนมิ.ย. จากระดับ 15.7 ในเดือนพ.ค.  ดัชนียังคงมีค่าเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในเท็กซัส โดยดัชนีภาคการผลิตส่งสัญญาณขยายตัวนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว หลังจากทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานต่างดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.  นอกจากนี้ ผลสำรวจระบุว่า ภาคการผลิตยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มธุรกิจในอนาคต
  • (-) งานวิจัยพบ ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเกาผสมกับวัคซีนไฟเซอร์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี  งานวิจัยโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พบว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนากาแล้ว ตามด้วยวัคซีนของไฟเซอร์หลังรอ 4 สัปดาห์ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้รับยาได้ดีกว่าการรับวัคซีนตัวเดียวกันเป็นเข็มที่ 2  สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ผลการวิจัยล่าสุดภายใต้ชื่อโครงการ Com-COV ที่จัดตารางการฉีดวัคซีนสองสูตรดังกล่าวร่วมกัน โดยทิ้งช่วงระยะเวลาต่างๆ กันออกไป เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของการผสมวัคซีน สรุปว่า ไม่ว่าจะเว้นช่วงห่างเพียงใด การใช้วัคซีนของแอสตราเซเนการ่วมกับวัคซีนของไฟเซอร์ ล้วนช่วยทำให้เกิดสารแอนตี้บอดี้ในปริมาณที่สูงมากเพื่อต่อต้านการเพิ่มขึ้นของโปรตีนโคโรนาไวรัสได้อย่างดี  ข้อมูลการวิจัยนี้เป็นการสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลบางประเทศในยุโรปที่เริ่มนำเสนอวัคซีนตัวอื่นสำหรับเข็มที่ 2 ซึ่งไม่ใช่ของแอสตราเซเนกา หลังมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาลิ่มเลือดแข็งตัวของผู้รับวัคซีนตัวดังกล่าว
  • (+/-) ปอนด์แข็งค่า ขานรับรมว.สาธารณสุขอังกฤษหนุนยกเลิกล็อกดาวน์  เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) หลังจากนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ของอังกฤษประกาศว่า เขาต้องการให้อังกฤษยกเลิกมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดตามกำหนดเดิมในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ส่วนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 91.8864 เมื่อคืนนี้  เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3877 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3875 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1923 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1931 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7565 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.53 เยน จากระดับ 110.82 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9197 ฟรังก์ จากระดับ 0.9176 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2342 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2306 ดอลลาร์แคนาดา
  • (+/-) นักวิเคราะห์คาดโอเปกพลัสเพิ่มการผลิต 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.  กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในสัปดาห์นี้  ทั้งนี้ โอเปกพลัสจะจัดการประชุมในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค. โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อุปสงค์น้ำมันจากสหรัฐ ยุโรป และจีน รวมทั้งแนวโน้มที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

วิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 29 มิ.ย.64 (MTS)

MTS GOLD

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบตามที่ได้วิเคราะห์ก่อนหน้า โดยปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยมาทรงตัวแถว 1,775 เหรียญ ท่ามกลางตลาดที่รอคอยตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ๆที่จะมากระตุ้นตลาด ด้าน SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 2.91 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาที่ 1,045.78 ตัน ในส่วนของดัชนีดอลลาร์ดูจะทรงตัวบริเวณ 91.60 จุด เช้านี้อยู่ที่ 91.95 จุด เป็นลักษณะแข็งค่าต่อเนื่อง จึงเป็นผลทำให้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 32 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ ที่ระดับ 32.05 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ทองคำเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,775 – 1,785 เหรียญ เป็นลักษณะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ วันนี้คาดว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในทิศทางแบบ Sideways ในกรอบแคบๆเช่นเดิม โดย Gold Online Futures และ Gold Comex จะมีแนวรับที่ 1,765 เหรียญ และแนวต้าน 1,785 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยคาดจะเปิดปรับขึ้นราว 50 บาท/บาททองคำ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะเล่นสั้น Sideways ย้ำเล่นสั้นๆในกรอบเท่านั้น จนกว่าราคาจะมีการ Breakout ของราคา

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขาย เล่นสั้นๆในกรอบ

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

ขึ้นขาย ลงซื้อ เน้นเล่นสั้นๆในวัน ตามการแกว่งตัวของราคา

Gold Futures 10M21 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 27,100  บาท

ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำวันที่ 29 มิ.ย. เช้านี้บวกเพิ่ม 50 บาท

photo by Tima Miroshnichenko | pexels.com

ราคาทองคำยังสวิงในกรอบแคบ และ ยังยืนเหนือ $1,780 ไม่ได้ แต่ช่วงหลังจากนี้จะต้องจับตาใกล้ชิด เพราะใกล้สิ้นเดือน สิ้นไตรมาส 2 และ ใกล้วันประกาศตัวเลขแรงงาน อาจทำให้ราคาทองคำสวิงแรงขึ้นได้

ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้บวกเพิ่ม 50 บาท

ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ระหว่างวันราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,770-1,785 ดอลลาร์ ท่ามกลางปัจจัยทั้งบวกและลบ โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ที่เพิ่มขึ้น 0.08%

ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของ ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ ที่ระบุเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความคืบหน้าอย่างมากทำให้เงินเฟ้อขยับเพิ่ม ซึ่งเพียงพอที่จะให้เฟดเริ่มลดปรับลด QE และยังมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ทำให้นักลงทุนกังวลว่า หากตัวเลข NFP ในวันศุกร์นี้แข็งแกร่งเกินคาด อาจยิ่งสนับสนุนให้เฟดเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนยังคงเทขายทองคำ สลับออกมาเป็นระยะ อย่างไรก็ดี เมื่อราคาทองคำทดสอบกรอบด้านล่าง ก็มักจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้เช่นกัน เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า

ส่วนราคาทองคำในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และคาดว่าจะอยู่ในกรอบนี้ไปอีก 1-2 วัน ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ ) จากนั้นน่าจะขยับแรงอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงปลายเดือน และ สิ้นสุดไตรมาส 2 รวมถึง จะเริ่มทยอยประกาศตัวเลขการจ้างงาน

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้เพิ่มขึ้นบาทละ 50 บาท ราคารับซื้อทองคำแท่ง อยู่ที่บาทละ 26,850 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 26,950 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +2.91 ตัน

คืนนี้สหรัฐฯ จะประกาศ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. โดย Conference Board ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 118.9 จาก 117.2 ในเดือน พ.ค. ซึ่งสัปดาห์นี้ตลาดรอติดตามการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย.เป็นหลัก

ดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้

YLG

แนวรับ 1,761 ดอลลาร์ 1,749 ดอลลาร์ และ1,733 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,795 ดอลลาร์ 1,812 ดอลลาร์ และ 1,826 ดอลลาร์

HGF

แนวรับ 1,770 ดอลลาร์ และ1,760 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,790 ดอลลาร์ และ1,800 ดอลลาร์

SCT Gold

แนวรับ 1,770 ดอลลาร์ 1,763 ดอลลาร์ และ1,750 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,795 ดอลลาร์ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

GCAP

แนวรับ 1,763 ดอลลาร์ 1,757 ดอลลาร์ และ1,752 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,791 ดอลลาร์ 1,796 ดอลลาร์ และ 1,801 ดอลลาร์

Ausiris

จุดซื้อ 1,766 ดอลลาร์ หรือบาทละ 26,800 บาท
จุดขาย 1,785 ดอลลาร์ หรือบาทละ 27,000 บาท

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

วิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.64(interGOLD)

InterGOLD

กลยุทธ์ : นิ่งไม่ไปไหน รอข่าว

แนวต้านแรก : 1790 หรือ 26,930 บาท
แนวต้านสอง : 1803 หรือ 27,050 บาท
แนวรับแรก : 1772 หรือ 26,700 บาท
แนวรับสอง : 1760 หรือ 26,600 บาท
แนวรับสาม : 1755 หรือ 26,550 บาท

ราคาทองคำวันนี้ยังคงนิ่งเกาะกรอบบริเวณ $1772-1790 มาประมาณ1 สัปดาห์ และอาจมีแนวโน้มออกข้างแบบนี้จนถึง ช่วงวันพุธถึงศุกร์ที่มีข่าวสำคัญเกี่ยวกับการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมา

ส่วนค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าอยู่ในระดับ 31.80 และคาดว่ามีโอกาสที่ค่าเงินบาทสามารถอ่อนต่อได้อีกถึงระดับ 33 หากสามารถสร้างฐานที่บริเวณ 31.60-31.80 ได้ ถือว่าป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทองคำแท่ง

ในทาง Technical ราคานิ่งออกข้างรอเลือกทาง แต่ในระยะสั้นราคาเริ่มมาทดสอบเทรนไลน์ขาลงอันสุดท้ายซึ่ง มีโอกาสที่จะปรับตัวลงในเร็วๆนี้ หรืออาจจะเลือกออกข้างทะลุเทรนไลน์ก็เป็นได้

ในระยะสั้นราคาขาด Divergence ระดับ h4 เพื่อการปรับตัว ซึ่งหมายถึงราคาในระยะสั้นอาจปรับตัวลงต่ออีก 1 ครั้ง เพื่อให้เกิดสัญญาณดังกล่าวและพร้อมกลับตัว โดยคาดว่าการลงสูงต่ำสุดที่บริเวณ 1852-1855 ซึ่งเป็นแนวรับใหญ่เดิม โดยหากราคายังไม่เลือกทางก็คาดว่าจะเกาะกรอบ 1772-1790 ไปจนกว่าข่าววันพุธกับศุกร์มาช่วยหนุน

กลยุทธ์ หากเป็นสายเก็บสะสมและได้ราคาที่ถูกใจอาจใช้การซื้อเฉลี่ยเข้ามา ที่ระดับ 1760-1780 ส่วนการเก็งกำไรระยะสั้น ให้คาดหวังกรอบการเทรดที่ 1772-1790 ไปก่อน หรือจะรอจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่า 1760 ค่อยทยอยซื้อได้

ขอบคุณข้อมูล Intergold

Binance ถูกสั่งห้ามดำเนินธุรกิจในสหราชาณาจักร

BINANCE - PHOTO : REUTERS

ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ รับข่าวไม่สู้ดีอีกแล้ว

เมื่อมีรายงานว่า สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ หรือ FCA ได้สั่งให้ บริษัท Binance Markets ซึ่งเป็นนิติบุคคลของ Binance ในสหราชาณาจักร ยุติการทำธุรกรรมทั้งหมดในสหราชอาณาจักร โดยให้มีผลบังคับใช้ในทันที

พร้อมกันนั้น FCA ได้เตือนผู้บริโภค ให้ระมัดระวังการลงทุนในสกุลเงินคริปโตฯ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด หลังพบว่า มีบริษัทบางแห่งกำลังเสนอการลงทุนในรูปสกุลเงินคริปโต หรือ ปล่อยกู้ หรือ ให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูง

ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ออกมาระบุว่า สกุลเงินคริปโตไม่มีมูลค่าในตัวเอง และผู้ที่เข้าลงทุนก็ควรเตรียมตัวที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด

ทั้งนี้ Binance เป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานที่สิงคโปร์ ในช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และกรมสรรพากรสหรัฐฯ ได้ดำเนินการสอบสวน Binance เนื่องจากอาจพัวพันการฟอกเงินและการหลบเลี่ยงภาษี

CR : อินโฟเควสท์

photo by Roger Brown | pexels.com
photo by Roger Brown | pexels.com

วิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.64(YLG)

คำแนะนำ :

เน้นเก็งกำไรในกรอบ 1,761-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเปิดสถานะซื้อในโซน 1,764-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แนวรับ : 1,761 1,749 1,733  แนวต้าน : 1,795 1,812 1,826

สรุป

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ช่วงบ่ายตามเวลาไทย  โดยได้รับแรงหนุนหลังจาก GfK เผยดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีสำหรับเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -0.3 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ระบุว่าจะอยู่ที่ -3.9 ก่อนที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแรง  หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนพ.ค. ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% สถานการณ์ดังกล่าวช่วยคลายความวิตกของบรรดานักลงทุนที่กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด  ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวัน  จนส่งผลหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,790.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรในเวลาต่อมา  ขณะที่เมื่อเทียบรายปีพบว่า ดัชนี Core Pce พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี  ทำให้นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจว่าเฟดจะเร่งถอนมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่  นั่นทำให้เกิดแรงซื้อกลับในดัชนีดอลลาร์จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคำ  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  แต่แนะนำติดตามถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวในเดือนมิ.ย.  ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 85.5 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าระดับ 82.9 ในเดือนพ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 86.5
  • (+) สหรัฐเผยการใช้จ่ายส่วนบุคคลต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 0% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย.  นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลลดลง 2% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.7%
  • (+) สหรัฐเผยดัชนี PCE พุ่งสูงสุดรอบเกือบ 30 ปีในเดือนพ.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์  เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6%
  • (+) สหรัฐเผยอัตราฉีดวัคซีนโควิดในประเทศเฉลี่ย 7 วันลดกว่า 55%  ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า จำนวนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมาลดลง 55.3% จากสัปดาห์ก่อนหน้า  รายงานระบุว่า ณ วันที่ 24 มิ.ย. มีจำนวนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ประมาณ 3.7 แสนโดส  ข้อมูลจาก CDC ชี้ให้เห็นว่า ณ วันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. มีพลเมืองสหรัฐประมาณ 45.8% ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว และมี 53.9% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส
  • (+) จนท.ออสซี่เตือนโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดได้รวดเร็วภายใน 5-10 วินาที  เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของออสเตรเลียเตือนว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดียนั้น สามารถแพร่ระบาดได้ภายในเวลาเพียง 5-10 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดในคนทุกช่วงอายุ ซึ่งรวมถึงเด็ก  ดร.จีนเน็ตต์ ยัง หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของรัฐควีนส์แลนด์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขพบกรณีการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยมีรายหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 เพียงแค่เดินผ่านคนแปลกหน้าที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในขณะจับจ่ายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า Westfield Bondi Junction
  • (-) ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อสหรัฐขยายตัว  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่ขยายตัว  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 91.8522 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.82 เยน จากระดับ 110.85 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9176 ฟรังก์ จากระดับ 0.9183 ฟรังก์ และอ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.2306 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2322 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1931 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าสู่ระดับ 1.3875 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3927 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7582 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 237.02 จุด หุ้นไนกี้-หุ้นแบงก์หนุนตลาด  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) และดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสัปดาห์นี้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นไนกี้และหุ้นธนาคารหลายแห่ง ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดได้ช่วยคลายความวิตกของบรรดานักลงทุนที่กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,433.84 จุด เพิ่มขึ้น 237.02 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,280.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.21 จุด หรือ +0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,360.39 จุด ลดลง 9.32 จุด หรือ -0.06%
  • (-) อดีตขุนคลังคาดเงินเฟ้อสหรัฐจ่อแตะ 5% สิ้นปีนี้ มองบอนด์ยีลด์ปรับตัวขาขึ้น  นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐคาดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้  นายซัมเมอร์สเปิดเผยกับเดวิด เวสตินในรายการ “Wall Street Week” ของบลูมเบิร์ก เทเลวิชันว่า “ผมคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ใกล้ระดับ 5%”

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

วิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.64(Gcap)

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่ขยายตัวสำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อวันศุกร์นั้น มาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานและเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคและครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงาน

มุมมองทองคำภาคเช้า

ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อหลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสหรัฐ ฯ

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่ขยายตัว

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,768- 1,763- 1,757
แนวต้าน 1,797 – 1,803 – 1,809
ราคาทองคำยังไม่สามารถเคลื่อนตัวได้มากนัก การเคลื่อนตัวยังไร้ทิศทางที่ชัดเจนมองว่าตลาดยังรอประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงปลายสัปดาห์ เช่นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ส่วนในช่วงต้นสัปดาห์ราคาอาจจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรในกรอบที่ให้ไว้โดยเน้นการเก็งกำไรรอบสั้น ๆ

ขอขอบคุณ: บริษัท จีแคป จำกัด

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำวันที่ 28 มิ.ย. เช้านี้ยังไม่ขยับ

photo by Michael Steinberg | pexels.com

ราคาทองคำยังดีดตัวไม่พ้น $1,780 มีแรงเทขายกดไว้ตลอด ในสัปดาห์นี้ยังมีความเห็นของ ปธ.เฟด สาขาต่าง ๆ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานเดือน มิ.ย. ซึ่งอาจจะทำให้ราคาทองคำผันผวนหนักได้ ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในกรอบ 1,763-1,794 ดอลลาร์ โดยประเด็นหลักที่เข้ามากดดันราคาทองคำ ยังคงเป็นเรื่องนโยบายของเฟด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด หรือ การพิจารณาปรับลด QE

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงของประธานเฟดต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ รวมถึง ถ้อยแถลงของ “เจเน็ต เยลเลน” รวมถึงประธานเฟดสาขาต่าง ๆ โดยข้อมูลที่ออกมายังขัดแย้งกัน โดยในฝั่งของ ปธ.เฟด และ นางเยลเลนฯ มองว่าเรื่องของปัญหาเงินเฟ้อจะค่อย ๆ ลดลง โดยอาจจะไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย และ เฟดจะโฟกัสเรื่องการจ้างงานเป็นหลัก

แต่กลุ่ม ปธ.เฟด สาขาต่าง ๆ ยังมองว่า อาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่ในช่วงสุดสัปดาห์ นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ปัจจัยเหล่านี้ยังเป็นคีย์หลัก ที่กดดันราคาทองคำยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ ได้

นอกจากนี้ ทองคำมีปัจจัยลบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น จากทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ส่วนภาพรวมการเคลื่อนไหวกองทุน SPDR ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขายทองคำรวม 10.19 ตัน

ส่วนราคาทองคำในช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากที่ในช่วงต้นขัยบขึ้นมาเหนือ 1,780 ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงเทขายทำให้ราคาร่วงลงไปแตะแนวรับแถว 1,770 ดอลลาร์อีกรอบ ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมา ( ดูกราฟการเคลื่อนไหวราคาทองคำ )

ทั้งนี้ ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นบาทละ 350 บาท จากราคารับซื้อทองคำแท่งในเช้าวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย. อยู่ที่บาทละ 26,400 บาท ขณะที่ราคารับซื้อในวันเสาร์ ที่ 26 มิ.ย. อยู่ที่บาทละ 26,750 บาท

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้ยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวันเสาร์ โดยราคารับซื้อทองคำแท่งเช้านี้อยู่ที่บาทละ 26,750 บาท ขายออกบาทละ 26,850 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่แนะนำติดตามถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก

ส่วนประเด็นที่ต้องจับตามมองในสัปดาห์นี้ หลัก ๆ จะเป็นเรื่องตัวเลขจ้างงานเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการจ้างงานภาคเอกชน ADP และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. จะเพิ่มขึ้น 555,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่ง ตามลำดับ

ดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้

YLG

แนวรับ 1,761 ดอลลาร์ 1,749 ดอลลาร์ และ1,733 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,795 ดอลลาร์ 1,812 ดอลลาร์ และ 1,826 ดอลลาร์

HGF

แนวรับ 1,770 ดอลลาร์ และ1,760 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,790 ดอลลาร์ และ1,800 ดอลลาร์

SCT Gold

แนวรับ 1,770 ดอลลาร์ 1,763 ดอลลาร์ และ1,750 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,795 ดอลลาร์ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

GCAP

แนวรับ 1,768 ดอลลาร์ 1,763 ดอลลาร์ และ1,757 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,797 ดอลลาร์ 1,803 ดอลลาร์ และ 1,809 ดอลลาร์

Ausiris

จุดซื้อ 1,772 ดอลลาร์ หรือบาทละ 26,720 บาท
จุดขาย 1,790 ดอลลาร์ หรือบาทละ 26,900 บาท

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น