บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 26 ม.ค.64 (YLG)

คำแนะนำ :

รอการอ่อนตัวลงของราคาหากไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,845-1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าซื้อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,870-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร

แนวรับ : 1,837 1,818 1,800  แนวต้าน : 1,875 1,896 1,914

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง  แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,867.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐในประเด็นไต้หวัน  รวมไปถึงเหตุปะทะระหว่างทหารจีนและอินเดียบริเวณชายแดนตามแนวเทือกเขาหิมาลัย  ก่อนที่ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงโดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร  ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย  ท่ามกลางความวิตกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีไบเดนส่อเค้าจะล่าช้า หลังสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการดังกล่าว  ขณะที่สกุลเงินยูโรยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน  หลังจากวานนี้ Ifo เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงเกินคาดสู่ระดับ 90.1 ในเดือนม.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน  นอกจากนี้  นักวิเคราะห์ของ Ifo ยังออกมาเตือนอีกว่าความล่าช้าในการกระจายวัคซีน COVID-19 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ  ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรช่วยหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มจนกระตุ้นแรงขายในตลาดทองคำ  ส่งผลให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,855.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  อาทิ  ดัชนีราคาบ้าน โดย S&P/CS, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board  และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) กองทัพจีน-อินเดียปะทะรอบใหม่บริเวณพื้นที่พิพาท  ทหารจีนและอินเดียปะทะกันบริเวณชายแดนตามแนวเทือกเขาหิมาลัยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แม้ผู้บัญชาการทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งร่วมกัน โดยทหารของทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหลายรายจากการปะทะกันครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณชายแดนทางตอนเหนือของรัฐสิกขิม  กองทัพอินเดียยืนยันว่า มีการเผชิญหน้ากันเล็กน้อยเมื่อวันที่ 20 ม.ค. โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยผู้บัญชาการในพื้นที่แล้ว
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 36.98 จุด กังวลแผนกระตุ้นศก.ล่าช้า  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,960.00 จุด ลดลง 36.98 จุด หรือ -0.12% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,855.36 จุด เพิ่มขึ้น 13.89 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,635.99 จุด เพิ่มขึ้น 92.93 จุด หรือ +0.69%
  • (-) เฟดชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจสูงกว่าคาดในเดือนธ.ค.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.52 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.10 จากระดับ 0.31 ในเดือนพ.ย.
  • (-) Ifo เตือนเศรษฐกิจเยอรมนีชะงักงันใน Q1/64 จากพิษโควิด  นายเคลาส์ โวห์ราเบ นักวิเคราะห์ของ Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะประสบภาวะชะงักงันในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ  “เศรษฐกิจเยอรมนีขาดความเชื่อมั่นในช่วงเริ่มต้นปีนี้ ขณะที่ความล่าช้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ” นายโวห์ราเบกล่าว
  • (-) EU จี้แอสตร้าเซนเนก้าเร่งส่งวัคซีนโควิด หลังบริษัทประกาศลดการส่งมอบ  สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเร่งการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 หลังจากที่ทางบริษัทประกาศลดการส่งมอบแก่ EU เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  “เราหวังว่าทางบริษัทจะสามารถหาทางออกเพื่อเร่งการส่งมอบวัคซีน” โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU กล่าว  นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า EU จะกำหนดให้บริษัทยาทำการลงทะเบียนการส่งออกวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันการนำโควต้าวัคซีนของ EU ไปส่งมอบให้แก่ประเทศอื่น  ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จะมีการส่งมอบไปยัง EU ต่ำกว่าเป้าหมายจนถึงปลายเดือนมี.ค. อันเนื่องจากปัญหาด้านการผลิต โดยคาดว่าจะมีการลดปริมาณการส่งมอบวัคซีนลง 60% เหลือเพียง 31 ล้านโดส
  • (-) ดอลล์แข็งค่า เหตุวิตกแผนกระตุ้นศก.หนุนคำสั่งซื้อสกุลเงินปลอดภัย  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และความล่าช้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.17% แตะที่ 90.3900 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8881 ฟรังก์ จากระดับ 0.8860 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2749 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2728 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 103.79 เยน จากระดับ 103.83 เยน  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2139 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2166 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3663 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3681 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7703 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7717 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+/-) สภาผู้แทนฯสหรัฐเตรียมยื่นญัตติถอดถอนทรัมป์เข้าสู่วุฒิสภาวันนี้  สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมยื่นญัตติถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าสู่การพิจารณาไต่สวนของวุฒิสภาในวันนี้ ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี  การยื่นญัตติดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้เวลา 19.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือพรุ่งนี้เช้าเวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย  ทั้งนี้ วุฒิสภาจะเริ่มกระบวนการพิจารณาไต่สวนอดีตปธน.ทรัมป์ในวันที่ 9 ก.พ. เพื่อให้เวลาแก่เขาในการเตรียมต่อสู้คดีถอดถอนดังกล่าว

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำวันที่ 26 ม.ค. 2564

ภาพเพื่อใช้ประกอบเรื่อง

“ราคาทองคำ” ยังทรงตัวและขยับไซด์เวย์ในกรอบแคบ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน โดยเฉพาะผลการประชุม FED ที่จะเริ่มในคืนนี้ ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ขยับเพิ่มขึ้นบาทละ 50 บาท

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 26 ม.ค. 2564

ทองคำแท่ง

รับซื้อ บาทละ 26,250.00 บาท  ขายออก บาทละ 26,350.00 บาท

ทองรูปพรรณ

รับซื้อ บาทละ 25,772.00 บาท  ขายออก บาทละ 26,850.00 บาท

ราคาทองคำวานนี้ปิดบวกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างวันราคาได้แกว่งตัวในกรอบ 1,855-1,867 ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่เข้ามากดดันและหนุนราคาทองคำ อาทิ ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐในประเด็นไต้หวัน  การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ส่อเค้าจะล่าช้าออกไป และอาจจะต้องทำให้ “โจ ไบเดน” ลดวงเงินในมาตรการดังกล่าวลง รวมถึงความล่าช้าในการกระจายวัคซีน COVID-19

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้ขยับเพิ่มขึ้นจาก 1,850 ดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวแถว 1,860 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นบาทละ 50 บาท ( ดูตารางการประกาศราคาสมาคมค้าทองคำ…)

ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม หลังจากขายทองคำ 4.38 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา(SPDR ขยับขายเล็กน้อย-“โจ ไบเดน”เร่งอัดฉีดเงินช่วยชาวอเมริกัน..)

วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้และจะทราบผลการประชุมในคืนพรุ่งนี้ ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 88.9 จากระดับ 88.6 ในเดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่เดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.8% หลังจากเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 7.9%

ไปดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้

YLG

แนวรับ 1,837 ดอลลาร์ 1,818 ดอลลาร์ และ1,800 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ 1,896 ดอลลาร์ และ 1,914 ดอลลาร์

ภาพเพื่อประกอบเรื่อง
รูปทองคำแท่ง

HuaSengHeng

แนวรับ 1,848  ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์ 

แนวต้าน 1,870 ดอลลาร์  และ1,880 ดอลลาร์

Gcap Gold

แนวต้าน 1,863 ดอลลาร์ 1,868 ดอลลาร์ และ1,873  ดอลลาร์

แนวรับ 1,845 ดอลลาร์ 1,840 ดอลลาร์ และ 1,835ดอลลาร์

Ausiris

จุดขาย 1,865ดอลลาร์  หรือ บาทละ 26,400 บาท

จุดซื้อ 1,845 ดอลลาร์  หรือ บาทละ 26,200 บาท

SCT Gold

แนวต้าน 1,863 ดอลลาร์ 1,875 ดอลลาร์ และ1,886ดอลลาร์

แนวรับ 1,835 ดอลลาร์ 1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

GT Gold

แนวต้าน 1,859 ดอลลาร์ และ 1,868 ดอลลาร์

แนวรับ 1,849-1,850  ดอลลาร์ และ 1,836 ดอลลาร์

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 26 ม.ค.64 (GT)

GT GOLD BULLION

Fundamental

  • สภาสูงโหวตรับรอง เจเน็ต เยลเลน เป็น รมว.คลัง
  • สหรัฐฯเรียกร้องให้จีนหยุดกดดันไต้หวัน สะท้อนว่าความสัมพันธ์กับจีนในยุคไบเดนอาจไม่ดีกว่าทรัมป์
  • ไบเดนเซ็นคำสั่งเพิ่มอีก เน้นนโยบาย Buy America ที่สนับสนุนผู้ผลิตในประเทศมากกว่าจะนำเข้าสินค้า สะท้อนว่าการกีดกันทางการค้าน่าจะยังคงมีต่อไป
  • ทองสวิงแรงตามความคาดหวังของตลาดที่อยากเห็นสภาผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเร็ว แต่บางส่วนเห็นว่าอาจติดที่สภาสูง และ Fed อาจจะรีบขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อในอนาคต

Technical

  • รูปซ้ายราคายังแกว่งแรง แต่กรอบการสวิงแคบลง ระยะสั้นกำลังรอปัจจัยใหม่
  • รูปขวาราคาแกว่งติดเส้นMA จนเป็นรูป head & shoulder แนวต้าน1,859/1,868 แนวรับ1,849-1,850และ 1,836
  • ทิศทางวันนี้ไร้ทิศทาง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?รอ follow เมื่อออกจากกรอบ 1,849-1,859 เน้นเล่นสั้นจบในวัน

Attention

  • ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเกิน100,000,000 แล้ว
  • ความปลอดภัยของวัคซีน COVID-19ยังเป็นปัญหา

ขอขอบคุณ  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 26 ม.ค.64 (SCT)

SCT GOLD

แนวรับ 1835/ 1830/1820 แนวต้าน 1863/1875/1886
                Gold/silver             USD               Baht          DOW (stock)
ระยะสั้น           SW            SW /SW UP         SW             SW DOWN
ระยะกลาง   SW DOWN         SW UP        SW/WEAK           SW
ระยะยาว      NEUTRAL       NEUTRAL      NEUTRAL        BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1830-1870

จุดเข้า BUY 1830-40
เป้าหมาย 1870-90
SL 1819
รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1700-1900
จุดเข้า BUY 1800-1820
เป้าหมาย 1880-1900
SL 1798

ภาพรวม :

ราคาทองต้นสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบแคบๆรอปัจจัยใหม่ๆ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทองโดนเทขายทำกำไรและไม่ได้เป็นสินทรัพย์ที่นิยม ทั้งนี้เพราะนโยบายใหม่ของไบเดนและการเป็นรมว.คลังของเยเลนสร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินสหรัฐฯในระยะแรกๆ อย่างไรก็ตามตลาดยังรอฟังทิศทางของการประชุม FOMC ที่นายเจอโรมจะแถลงในคืนพรุ่งนี้ คาดว่าราคาทองน่าจะแกว่งตัวไปมาแถวนี้แต่ผันผวน หากราคาไม่รีบาวด์ผ่าน $1880 แสดงว่าตลาดทองยังอ่อนแอและอาจย่อตัวอีกรอบ

กลยุทธ์ :

เทรดสั้นๆย่อซื้อขึ้นขายในกรอบแคบๆไปก่อนรอข่าว การดีดตัวหากไม่มีพลังมากพอให้ลดพอร์ต เพื่อรอซื้อช่วงย่อตัวเพื่อสะสมในระยะกลางและลุ้นทองรีบาวด์ใกล้เทศกาลตรุษจีน

ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 26 ม.ค.64 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

สหรัฐอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,870 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การปรับขึ้นของราคาทองคำมีกรอบที่จำกัดเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าประธานาธิบดีโจไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสหลังจากสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจไบเดนทางด้านกองทุนSPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 4.38 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้และจะทราบผลการประชุมในคืนพรุ่งนี้ ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.โดย Conference Boardตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 88.9 จากระดับ 88.6 ในเดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่เดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.8% หลังจากเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 7.9%
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot ในระยะสั้นคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,870 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,870 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,848  ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,855.50+0.71,848/1,8351,870/1,880

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,350-15026,250/26,10026,500/26,650

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,610-1026,380/26,21026,640/26,930

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคาทอง Spot1,848 ดอลลาร์  (GF 26,380บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,835 ดอลลาร์(GF 26,210บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot 1,870ดอลลาร์และ 1,880ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,858.80-0.301,853/1,8401,875/1,885

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคา GOH21 1,853 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงเล็กน้อย ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวานเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และการแพร่ระบาดของโควิด-19สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30 บาท/ดอลลาร์ และ 30.10 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งค่าเหตุวิตกแผนกระตุ้นศก.หนุนคำสั่งซื้อสกุลเงินปลอดภัย

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐและความล่าช้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.17% แตะที่ 90.3900 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดลบ 1 ดอลล์จับตาแผนกระตุ้นศก.-ประชุมเฟด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำขณะที่นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐโดยคาดว่าประธานาธิบดีโจไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1 ดอลลาร์หรือ 0.05% ปิดที่ 1,855.2 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 7.2 เซนต์หรือ 0.28% ปิดที่ 25.484 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ: น้ำมันWTI ปิดบวก 50 เซนต์รับข่าวอิรักลดการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าอิรักมีแผนที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค.และก.พ. และข่าวการระงับส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือหลายแห่งในลิเบียขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 52.77 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 36.98 จุดกังวลแผนกระตุ้นศก.ล่าช้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,960.00 จุดลดลง 36.98 จุดหรือ -0.12% ขณะที่ดัชนีS&P 500 ปิดที่ 3,855.36 จุดเพิ่มขึ้น 13.89 จุดหรือ +0.36% และดัชนีNasdaqปิดที่ 13,635.99 จุดเพิ่มขึ้น 92.93 จุดหรือ +0.69%

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 25 ม.ค.64 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์

สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,870 ดอลลาร์

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำSpot เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 1,875 ดอลลาร์โดยได้รับปัจจัยบวกหลังจากโจไบเดนเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันที่20 ม.ค. โดยคาดหวังว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของโจไบเดนจะขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้พรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร จะช่วยให้การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจง่ายขึ้นทางด้านกองทุนSPDR Gold Trust ขายทองคำ 4.38ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 26-27 ม.ค.ซึ่งคาดว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปจีดีพีสหรัฐไตรมาส 4 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 1 ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% จากที่ไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 33.4% สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนธ.ค.ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนม.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot ในระยะสั้นคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,870 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,870 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,850  ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,854.80-181,850/1,8351,870/1,880

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,350-15026,250/26,10026,500/26,650

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,610-1026,380/26,21026,650/26,720

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคาทอง Spot1,850 ดอลลาร์  (GF 26,380บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,835 ดอลลาร์(GF 26,210บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot 1,860ดอลลาร์และ 1,880ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,872.90-1.101,855/1,8401,875/1,885

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคา GOH21 1,855 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าเล็กน้อย ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโควิด-19 และการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์

สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30 บาท/ดอลลาร์ และ 30.10 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลลาร์แข็งรับแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัยวิตกโควิดระบาดกระทบศก.

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 และการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 90.2400 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดลบ 9.7 ดอลล์เหตุดอลล์แข็งกดดันตลาด

ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของทองโดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 9.7 ดอลลาร์หรือ 0.52% ปิดที่ 1,856.2 ดอลลาร์/ออนซ์แต่ปรับตัวขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 29.8 เซนต์หรือ 1.15% ปิดที่ 25.556 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 86 เซนต์วิตกสต็อกเพิ่ม-อุปสงค์อ่อนแอ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลงและปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 86 เซนต์หรือ 1.6% ปิดที่ 52.27 ดอลลาร์/บาร์เรลและปรับตัวลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 69 เซนต์หรือ 1.2% ปิดที่ 55.41 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้น 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 179.03 จุดวิตกแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวล่าช้า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในสหรัฐนอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจไบเดนด้วยหลังจากที่มีรายงานว่าวุฒิสภาสหรัฐคัดค้านมาตรการดังกล่าวดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,996.98 จุดลดลง 179.03 จุดหรือ -0.57% และดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,841.47 จุดลดลง 11.60 จุดหรือ -0.30% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดที่ 13,543.06 จุดเพิ่มขึ้น 12.15 จุดหรือ +0.090%ny7um

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 25 ม.ค. 2564

ราคาทองคำยังขยับไซด์เวย์ แต่ฐานเริ่มแน่นขึ้นหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดตลาดแนว $1,855 ได้ สัปดาห์นี้ติดตามความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และผลประชุม FED ในช่วงกลางสัปดาห์  ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 25 ม.ค. 2564

ทองคำแท่ง

รับซื้อ บาทละ 26,250.00 บาท  ขายออก บาทละ 26,350.00 บาท

ทองรูปพรรณ

รับซื้อ บาทละ 25,772.00 บาท  ขายออก บาทละ 26,850.00 บาท

ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและราคาได้แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 1,875 ดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยบวกจาก “โจ ไบเดน” ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ พร้อมเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังถูกกดดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำได้ปิดตลาดที่บริเวณ  1,854.80 ดอลลาร์

กราฟราคาทองคำ

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาได้ขยับไซด์เวย์ในกรอบ 1,850-60 ดอลลาร์ ซึ่งนายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์  กรรมการผู้จัดการนายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT (อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม..) กล่าวว่า เมื่อพิจารณาในทางเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในเวฟ 4 และในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะย่อตัวลงมาปรับฐานใหม่อีกรอบแถว 1,700 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการ Form bottom เพื่อพุ่งทะยานไปข้างหน้ายาวๆ

แต่กำลังดูว่าแนวรับที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ว่าจะเอาอยู่หรือไม่ หากไม่หลุดลงต่ำไปกว่าแนวนี้จะเป็นภาพดีต่อราคาทองคำ ในทางกลับกันหากราคาทองคำสามารถวิ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์ได้ จะทำให้เทรนด์ของราคาทองคำเปลี่ยนเป็น Bull ทันที โดยแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์ และอาจจะพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิม

นายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้เล่นตามสวิงรอบ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ให้รอราคาย่อตัว เมื่อราคาทองคำลงไปแตะระดับ 1,800 ดอลลาร์ ให้เข้าซื้อ 1 ไม้ และหากราคาลงไปต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ ให้เข้าซื้ออีก 1 ไม้ เพื่อเป็นการลงทุนในอนาคต ส่วนนักลงทุนที่ถือทองคำในราคาเกิน 2,000 ดอลลาร์ให้ปรับสถานะเป็นลงทุนระยะยาว หรือไม่ยอมคัททิ้ง เพื่อมารอซื้อใหม่เมื่อราคาย่อตัว เพราะแนวโน้มระยะกลาง ถึงระยาว (มากกว่า 2-3 เดือน) มองว่าราคาทองคำยังมีอนาคตที่ดี

สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  แต่แนะนำจับตาปฏิกิริยาในตลาดตอบรับการที่วุฒิสภาแบบเต็มคณะเตรียมพิจารณาลงมติการแต่งตั้งนางเจเน็ต เยลเลน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ

ส่วนในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 26-27 ม.ค.    ซึ่งคาดว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป จีดีพีสหรัฐไตรมาส 4 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 1 ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% จากที่ไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 33.4% สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค. ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนม.ค.

ไปดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้

YLG

แนวรับ 1,837 ดอลลาร์ 1,818 ดอลลาร์ และ1,800 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ 1,896 ดอลลาร์ และ 1,914 ดอลลาร์

HuaSengHeng

แนวรับ 1,850  ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์ 

แนวต้าน 1,870 ดอลลาร์  และ1,880 ดอลลาร์

Gcap Gold

แนวต้าน 1,863 ดอลลาร์ 1,868 ดอลลาร์ และ1,873  ดอลลาร์

แนวรับ 1,845 ดอลลาร์ 1,840 ดอลลาร์ และ 1,835ดอลลาร์

Ausiris

จุดขาย 1,864 ดอลลาร์  หรือ บาทละ 26,400 บาท

จุดซื้อ 1,850 ดอลลาร์  หรือ บาทละ 26,220 บาท

SCT Gold

แนวต้าน 1,863 ดอลลาร์ 1,875 ดอลลาร์ และ1,886ดอลลาร์

แนวรับ 1,835 ดอลลาร์ 1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

GT Gold

แนวต้าน 1,865 ดอลลาร์

แนวรับ 1,835 ดอลลาร์

อ้างอิง : https://www.goldtraders.or.th/UpdatePriceList.aspx http://www.gcap.co.th/file_upload/analysis/pdf16115370861770025727.pdf https://www.huasengheng.com/archives/314535 https://www.ylgbullion.co.th/storage/updates/daily-market-analysis/2021/01/Morning/645_morning_1396.pdf https://www.gtgoldonline.com/uploads/news/new03867.pdf http://www.ausiris.co.th/content/index/research/research-gold/gold-main.html.html

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 25 ม.ค.64 (SCT)

แนวรับ 1835/ 1830/1820 แนวต้าน 1863/1875/1886
                Gold/silver               USD            Baht          DOW (stock)
ระยะสั้น        SW                   SW /SW UP      SW           SW DOWN
ระยะกลาง   SW DOWN          SW UP       SW/WEAK       SW
ระยะยาว     NEUTRAL           NEUTRAL      NEUTRAL   BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1835-1875

จุดเข้า BUY 1820-35
เป้าหมาย 1880-1900
SL 1819

รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1700-1900
จุดเข้า BUY 1800-1820
เป้าหมาย 1880-1900
SL 1798

ภาพรวม :

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองโดนขายทำกำไรหลังไม่ผ่านโซนต้านแถว $1880 เศษ สัปดาห์นี้มองการพักสะสมพลัง โดยตลาดจับตาการประชุม FOMC ของเฟดและตัวเลข GDP สหรัฐฯเป็นหลัก คืนวันพุธต่อคืนพฤหัสจึงน่าจะเห็นการแกว่งของราคา คาดว่าประธานเฟดน่าจะแฮบปี้กับนโยบายการคลังของเยเลนและไบเดนที่ไปในทิศทางคงดอกเบี้ยต่ำนานๆที่นายเจอโรมต้องการและการเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวซึ่งดีกับทอง /นอกจากนี้ให้เช็คข่าวนโยบายการเมืองของโจ ไบเดนว่าจะโต้ตอบจีนเรื่องการค้าหนักหรือเบาจากนี้ไป / ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นมาสูงเพราะผลประกอบการดีมาก แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะเช่นกันจนทำให้ค่าเงินสหรัฐฯเริ่มไหลกลับบ้านและกดดันทองตลอดจนหุ้นในระยะสั้น

กลยุทธ์ :

เมื่อวิเคราะห์ในเชิงเทคนิค ราคาที่ลงมาคืนวันศุกร์แล้วมีแรงสวนดันราคาถือว่าดี ดังนั้นการย่อตัวที่ไม่หลุด $1820 น่าจะถือเป็นโอกาสในการเข้าทยอยเก็บเล่นสั้นๆกับการรีบาวด์ โดยแนวต้านด่านอรหันต์ยังเป็นโซน $1880-1900 /ส่วนภาพระยะกลางทองยังเป็นการพักฐาน การเข้าสะสมต้องรอช่วงตกหนักเช่นแถว $1800 เศษ และโซน $1750

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

ชี้ระยะสั้นราคาทองคำยังฝืด หลัง “โจ ไบเดน” อุ้ม “ดอลลาร์-หุ้น” แต่ยังเชื่อปีนี้ทะลุ $2000

พิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT

หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ทะยานขึ้นไปแตะ ระดับ 1,959 ดอลลาร์ จนทำให้หลายคนมองว่าราคาทองคำจะกลับเทรนด์มาเป็นขาขึ้น และมีโอกาสที่จะกลับไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ หรือทะลุขึ้นไปยังจุดสูงสุดเดิม

แต่หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ ราคาทองคำได้ร่วงมาแตะ ระดับ 1,817 ดอลลาร์ และ 1,802 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา ก่อนจะดีดกลับมาแตะแนว 1,875 ดอลลาร์ หลัง”โจ ไบเดน” สาบานตนเป็น ปธน.สหรัฐคนใหม่ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำมาปิดตลาดที่ 1,855 ดอลลาร์(ดูกราฟราคาทองคำ..)

กราฟราคาทองคำเดือนมกราคม

หลายคนได้ตั้งคำถามว่า..เหตุใดราคาทองคำถึงยังไม่พุ่งทะยานไปไกล..ทั้งที่มีปัจจัยหนุนมากมาย..และก่อนหน้านี้ได้มีการคาดการณ์กันว่าราคาทองคำอาจจะพุ่งทำลายสถิตเดิม..

ทางนายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT GOLD ได้อธิบายกับ Goldaround.com ว่า หลังจากที่  “โจ ไบเดน” ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้นโยบายด้านเศรษฐกิจเปลี่ยน โดย “โจ ไบเดน” จะพยายามรักษาสเถียรภาพของเงินดอลลาร์ให้มั่นคง โดยจะพยายามแทรกแซงค่าเงินดอลลาร์ใม่ให้อ่อนค่าลงไปมากด้วยการใช้บอนด์ยีลเป็นเครื่องมือเสริม และจะทำให้ตลาดหุ้นขยายตัวเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐเอาไว้  

ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า “เจเน็ต เยลเลน” รมว.คลังคนใหม่ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์ไปแล้ว และจะต้องดูว่าผลการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ ว่าจะรับลูกกับนโยบายดังกล่าวอย่างไร

หากทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางนี้จะไม่เป็นผลดีต่อราคาทองคำในระยะสั้น และจะทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปีนี้ไม่กระชากรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา แต่จะเคลื่อน ไหวเป็นรอบๆ ตามกรอบแนวรับแนวต้าน ยกเว้นจะเกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมายที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุน

“เท่าที่มองในภาพรวมทางเทคนิคขณะนี้ราคาทองคำยังคงอยู่ในเวฟ  4 และสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะสั้นคือราคาทองคำอาจจะย่อตัวลงมาปรับฐานใหม่อีกรอบแถว 1,700 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการ Form bottom เพื่อพุ่งทะยานไปข้างหน้ายาวๆ แต่ขณะนี้กำลังเฝ้าติดตามแนวรับที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ว่าจะเอาอยู่หรือไม่ หากไม่หลุดลงต่ำไปกว่าแนวนี้จะเป็นภาพดีต่อราคาทองคำ และหากว่าราคาทองคำสามารถวิ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์ได้ จะทำให้เทรนด์ของราคาทองคำเปลี่ยนเป็น Bull ทันที โดยแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์ และอาจจะพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิม”กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด กล่าว

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้เล่นตามสวิงรอบ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ให้รอราคาย่อตัว เมื่อราคาทองคำลงไปแตะระดับ 1,800 ดอลลาร์ ให้เข้าซื้อ 1 ไม้ และหากราคาลงไปต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ ให้เข้าซื้ออีก 1 ไม้ เพื่อเป็นการลงทุนในอนาคต

ส่วนนักลงทุนที่ถือทองคำในราคาเกิน 2,000 ดอลลาร์ให้ปรับสถานะเป็นลงทุนระยะยาว หรือไม่ยอมคัททิ้ง เพื่อมารอซื้อใหม่เมื่อราคาย่อตัว เพราะแนวโน้มระยะกลางถึงระยาว(มากกว่า 2-3 เดือน)มองว่าราคาทองคำยังมีอนาคตที่ดี เพราะสหรัฐจะต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรอบ หลังจากที่ “โจ ไบดน” ได้แถลงรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม…) ซึ่งจะทำให้ต้องพิมพ์เงินออกมาเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตามหลักวิชาการแล้วจะทำให้เกิดเงินจะต้องเฟ้ออย่างแน่นอน

นอกจากนั้นยังมีปัจจัยหนุนเรื่องสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งอาจจะกลับมาประทุอีกรอบ หรือ “โจ ไบเดน” อาจจะยกระดับขึ้นเป็นสงครามเย็น  ซึ่งจะอาจจะทำให้ราคาทองคำวิ่งไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ หรือทะลุไปมากกว่านั้นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก  บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT

โพลศูนย์วิจัยทองคำชี้ ทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนมองราคาทองสัปดาห์หน้าเป็นบวก

มาติดตามผลการสำรวจทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค. 64 หรือGRC Gold Survey ดำเนินการโดย ศูนย์วิจัยทองคำ

ทั้งนี้ มีผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้ร่วมตอบแบบสำรวจ 14 ราย ในจำนวนนี้มี 8 ราย หรือเทียบเป็น 57% คาดว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วน 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่นักลงทุนทองคำ ที่ได้ร่วมตอบแบบสำรวจ  336 ราย ในจำนวนนี้มี 141 ราย หรือเทียบเป็น 42% คาดว่าราคาทองคำในประเทศจะปรับเพิ่มขึ้น อีก 123 ราย หรือเทียบเป็น 37% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และที่เหลือ 72 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไปดูสถานการณ์ราคาทองคำในประเทศ 96.5% ที่ประกาศสมาคมค้าทองคำ ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 26,050 – 26,550 บาทต่อบาททองคำ ก่อนที่จะปิดตลาดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ที่ระดับ 26,350 บาทต่อบาททองคำ (ตารางการเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา…) ภาพรวมทั้งสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น 250 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 26,100 บาท)

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ เรื่องหลักๆ ยังคงหนีไม่พ้น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่ง สถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานค่าเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อ COVID-19 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าการติดเชื้อเริ่มชะลอตัวลง

นอกจากนั้นต้องติดตาม ความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งที่ผ่านมา “โจ ไบเดน” ปธน.สหรัฐ ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวไปบ้างแล้ว และคาดว่าในสัปดาห์นี้ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ จะเริ่มพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว

นอกจากนั้นยังต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ระหว่างวันที่ 26 – 27 มกราคม 2564 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากที่ “โจ ไบเดน” เช้ารับตำแหน่ง ปธน.อย่างเห็นทางการ และจะเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากที่ “เจเน็ต เยลเลน” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รมว.คลังคนใหม่ ซึ่งจะต้องมาดูว่า FED จะมีท่าทีต้องนโยบายของรัฐบาลใหม่อย่างไรบ้าง และจะยังคงเดินตามแนวทางเดิมที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่

ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ