ราคาทองคำปีหนูทองโตขึ้นกว่า 25% ช่วงทำนิวไฮพุ่งแตะ 41 %

ก่อนที่การซื้อขายทองคำในปีวัวทอง จะได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าของวันที่ 4 มกราคม 2564 GoldAround.com ได้สรุปสถิติตัวเลขสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อมาดูว่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง  

ราคาทองคำในประเทศในปี 2563 เริ่มต้นราคาแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ ราคารับซื้อทองคำแท่ง (96.5) ที่ประประกาศโดยสมาคมค้าทองคำอยู่ที่บาทละ 21,350 บาท ขายออกบาทละ 21,450 บาท ซึ่งถือเป็นราคาต่ำสุดของปี ขณะที่ราคารับซื้อทองรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 20,966.28 บาท ขายออกบาทละ  21,950 บาท โดยราคา gold spot วันนั้นอยู่ที่ 1,518 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.81 บาทต่อดอลลาร์

หลังจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมายทั้งที่ประเทศอิหร่าน ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวรุนแรงตั้งแต่ต้นปี จนกระทั่งเกิดเหตูการแพร่ระบาดของไวรัส อู่ฮั่น ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น COVID-19 ในภายหลัง ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในทุกด้าน ซึ่ง เว็ปไซด์ worldometers  ระบุจนถึงขณะนี้ (21.00 น.วันที่ 3 มกราคม 2564 ) มีผู้ติดเชื้อมากถึง 85,059,744 คน เสียชีวิต 1,845,300 คน และตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกการระบาดระลอก 2

โดยประเทศสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก คือ ติดเขื้อ 20,905,638 ราย เสียชีวิต  358,682 ราย ตามมาด้วย ประเทศอินเดีย ติดเชื้อ 10,324,631 ราย  เสียชีวิต 149,471 ราย อันดับ 3 บราซิล ติดเชื้อ 7,716,405 ราย เสียชีวิต  195,742 ราย  ขณะที่จีนมีผู้ติดเชื้อ 87,117 ราย เสียชีวิต 4,634 ราย

ทั้งนี้การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ สร้างปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ ทำให้ทุกประเทศต้องอัดฉีดเม็ดเงินปริมาณเพื่อประคองเศรษฐกิจของตัวเอง รวมถึงดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งเดือน วันที่ 7 สิงหาคมราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลใหม่ โดยราคาในประเทศ ทองคำแท่งรับซื้อ บาทละ 30,300 บาท ขายออกบาทละ 30,400 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,759.08 บาท และขายออกบาทละ 30,900 บาท ขณะที่ราคา gold spot ได้พุ่งแต่ระดับ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์

จากนั้นราคาทองคำได้ปรับลดลงมาจนกระทั่งมาปิดปีเมื่อวันที่  31 ธันวาคม 2563 ที่ราคารับซื้อทองคำแท่ง 26,750 บาท ขายออก 26,850 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 26,272.28บาท ขายออกบาทละ 27,350 บาท

เมื่อมองในภาพรวมราคาทองคำในประเทศ ได้ปรับตัวจากระดับต่ำสุดในช่วงต้นปีไปถึงสูงสุด ถึง 41.69 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนั้นราคาได้ลดต่ำลงมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังทำให้ในภาพรวมทั้งปีราคาทองคำในประเทศยังปรับตังเพิ่มขึ้นสูงถึง 25.29 เปอร์เซ็นต์

ไปดูราคา gold spot ได้เปิดตัววันที่ 2 มกราคม ที่ระดับ 1,517 ดอลลาร์ จากนั้นได้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ระดับ 1,451 ดอลลาร์ ก่อนพุ่งไปทำสถิติใหม่ในวันที่ 7 สิงหาคมที่ระดับ 2,075 ดอลลาร์ และสุดท้ายมาปิดปีที่ระดับ 1,898 ดอลลาร์

โดยรวม gold spot  ได้ปรับตัวจากต้นไปจนถึงสูงสุดมากถึง 36.78 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะมาปิดปีโดยที่ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้ แต่ก็ยังทำให้ราคา gold spot  ในปีที่ผ่านมาโตขึ้น 25.12 เปอร์เซ็นต์ใกล้เคียงกับราคาทองคำในประเทศ

มาดูค่าเงินบาท ซึ่งมีผลต่อราคาทองคำในประเทศโดยตรง โดยเปิดปีในวันที่ 2 มกราคมที่ระดับ 30.13 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนค่าต่ำสุดที่ระดับ 33.18 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 02 เมษายน และได้แข็งค่าสุดที่ระดับ 29.75 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะปิดปีที่ระดับ 30.01 บาทต่อดอลลาร์

หากมองราคาในช่วงต้นปีกับราคาปิดปลายปีจะไม่ต่างกันมาก แต่ในช่วงระหว่างได้มีการสวิงค่อนข้างแรง ตามดัชนีดอลลาร์ และสภานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 ในประเทศ รวมถึงปริมาณเม็ดเงินจากต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

นี่คือภาพรวมๆ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศ ราคา gold spot และค่าเงินบาท ซึ่งทั้ง  3 ส่วนมีความเกี่ยวเนื่องกันกับการขยับขึ้นหรือลงของราคาทองคำในประเทศ

ส่วนในปีนี้หลายฝ่ายยังคาดว่าทองคำยังเป็นเทรนด์ขาขึ้นอยู่  แม้สถานการณ์หลายๆ อย่างได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในโอกาสต่อไป GoldAround.com จะได้นำเสนอมุมมองของผู้ประกอบการค้าทองคำ ถึงปัจจัยที่จะยังทำให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน และจะมาดูว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิมทั้งราคาในประเทศ และgold spot ไปทำสถิติใหม่ เป็นไปได้หรือไม่ต้องติดตามกัน  

ตรวจชะตาเมืองปีวัวทอง จับตาการก้าวข้ามวิกฤตไวรัสโควิด-19

ในทุกๆ ต้นปี สิ่งที่หลายคนๆ ต้องทำเป็นประจำ ก็คือการตรวจดวงชะตาของตัวเองว่าในปีนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ดวงชะชงหรือไม่ และจะต้องแก้ไขอย่างไร ราศรีไหนต้องระมัดระวังเรื่องอะไร ซึ่งก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง นอกจากดวงชะตาตัวเองแล้ว การดูชะตาดวงเมืองก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะได้รู้ถึงความเป็นไปของดวงดาว ซึ่งเรื่องนี้บางคนก็เชื่อ..บางคนก็ไม่เชื่อ..อันนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ และความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ

วันนี้จะขอหยิบหยกการตรวจสอบ ดวงชะตาเมือง โดยคุณฟองสนาน จามรจันทร์ ที่ได้โพสต์ในหัวข้อ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 357 ในเพจ “Fongsanan Chamonmorschan” เนื้อหามีดังนี้

 (อธิบายทางโหร) ลีลาเมืองเริ่มออกจากเคราะห์โควิด 19 ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และลีลาออกจากเคราะห์โควิด 19 ทักษาจรอายุเมืองย่าง 329 ปี – ตกภูมิพุธ-พระราหู(8) เป็นศรีจร-พระอังคาร(3) เป็นกาลกิณีจร พฤหัสบดีจร(5) – พระเสาร์จร(7) เดินอยู่ในราศีมังกร

พระราหูจร(8) เดินอยู่ในราศีพฤษภ พระอังคารจร(3) เดินจากมีนเข้าเมษจุดก. เริ่ม 28 ธันวาคม 2563-เดินอยู่ในเมษจุดข.เริ่ม 14 กุมภาพันธ์ 2564 และเข้าเดินในราศีพฤษภจุดค. วันที่ 24กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18.12น.

สวัสดีปีใหม่ 2564 ทุกท่านที่ช่วยเป็นแฟนคอลัมน์แม่หมอสมัครเล่น ขอให้มีความสุขตลอดปีใหม่ สุขกายและใจรวมกัน

ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2562 ต่อต้นปี 2563 ขณะที่โลก-มวลมนุษยชาติ-วิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังต่อสู้กับโควิด 19 กันจ้าละหวั่น มืดมนอนธกาล ปั่นป่วนกันไปหมด ในระดับที่ตั้งแต่เกิดมาผู้เขียนก็พบครั้งเดียว(มฤตยูจรทับลัคนาโลก-เมืองผลคือตลอดชีวิตคนมักจะเจอผลในแต่ละเรื่องเพียงครั้งเดียว)นั้น

หลังจากดูปูม-เกณฑ์โหรอย่างเคร่งเครียดและปรึกษากับโหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติเพื่อความรอบคอบแล้วครั้น เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 ผู้เขียนจึงเขียนทำนายเปรี้ยงออกไปในบทความแม่หมอสมัครเล่นที่ 319 ว่าจุดเปลี่ยนของสถานการณ์สำคัญคือการจะได้วัคซีนป้องกันโรคนี้คือประมาณ 22 กันยายน 2563

คำทำนายนี้สวนกระแสที่เป็นอยู่ในขณะนั้นทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงเพราะผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เห็นว่าการจะพัฒนาวัคซีนแต่ละตัวนั้นจะใช้เวลาประมาณสิบปี จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลาประมาณสิบเดือนพัฒนาวัคซีนโควิด 19 และโลกคงจะอยู่กับโรคนี้ไปอีกหลายปี

แม้หลายคนจะมองเป็นตัวตลก คนทำนายก็กดดันและห่อเหี่ยว ขนาดลูกสาวคนเดียวถึงกับเอ่ยปากว่า”คุณแม่ชอบสวนกระแส”แต่ไม่ว่าจะพิจารณามุมไหนเกณฑ์โหรมันชัดว่าต้องเป็นเช่นนั้น

และแล้วในที่สุดคำทำนายก็เริ่มส่อแววพัฒนาเป็นจริงช้าๆ เริ่มตั้งแต่ 5กันยายน 2563 วัคซีนสปุตนิก 5 ของรัสเซียสร้างภูมิคุ้มกัน จากนั้น 7 กันยายน 2563 จีนเริ่มเผยโฉมวัคซีนชิโนวัคไบโอเทค+ชิโนฟาร์ม พลาดจากที่คำนวณไว้ไปสิบกว่าวัน

หลังจากนั้นสถานการณ์วัคซีนก็พัฒนาสู่จุดเปลี่ยนสำคัญของโลกเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2563 คือวัคซีนของไฟเซ่อร์+ไบโอเอ็นเทคปรากฏโฉม-ตามด้วยล่าสุดที่ไทยจะได้วัคซีนที่จองไว้ 20 กว่าล้านโดสเพราะเมื่อ 30 ธันวาคม 2563 อังกฤษรับรองวัคซีนตัวนี้ของอ๊อกฟอร์ด+แอสตราเซนนิก้า ซึ่งไทยจะซื้อในราคาต้นทุน-จัดเก็บขนส่งสะดวกและสยามไบโอซายส์ บริษัทที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2552สามารถผลิตได้ในราคาที่ถูกลงด้วย

แต่ข่าวดีนี้ก็มาท่ามกลางข่าวร้ายคือบ้านเราเจอเข้ากับปรากฎการณ์ท่าขี้เหล็กเอฟเฟค-การระบาดระลอกใหม่จากตลาดกุ้งกลางเอฟเฟค-บ่อนการพนันภาคตะวันออกเอฟเฟค กระทบ-ทุกข์กันไปหมดต้องใช้ชีวิตช่วงส่งท้ายปีเก่า 2563 ต้อนรับปีใหม่ 2564 อย่างระมัดระวัง

ถ้าจะพอสร้างความหวังให้บ้างผู้เขียนขอทำนายถึงลีลาของดาวกับการจะค่อยๆ เริ่มออกจากทุกข์เพราะโควิด 19 ของเมืองรอบนี้เป็นการขยายผลจากที่ทำนายมาแล้วเป็นระยะ ๆ รวมทั้งจากที่ได้ทำนายเค้าโครงดวงเมืองโดยภาพรวมตลอดปี 2564 ที่สามารถย้อนกลับไปอ่านได้(แม่หมอสมัครเล่นตอนที่354-355-356 คือ

1. จุดก. เริ่มตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2563 เมื่อพระอังคารกาลกิณีจร(3) ย้ายจากราศีมีนเข้าไปเดินในราศีเมษ ค่อย ๆ ยุติการรับแสงจากพระเสาร์จร(7) ที่เป็นคู่ทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บไข้-ยุติการตรึงกับพระราหูในดวงเมืองเป็นคู่ธาตุลม(หายใจลำบาก)

สำคัญคือยุติการช่วยกับพระราหูจร(8) บีบเมืองลัคนาในทางราศี (ตามลูกศรีชี้)อันเป็นผลจากราหูค้นทรัพย์เมืองรอบนี้ที่เริ่มเป็นมาตั้งแต่ 10 กันยายน 2563แต่ข่าวร้ายคือยังช่วยกันบีบเมืองลัคนาในทางองศาดาว

ผลคือเราจะได้เห็นการขึ้น ๆ ลง ๆ ของตัวเลขผู้ติดเชื้อ-การตามไล่ตะครุบตัวพวกท้าทายฝ่ายฝืนมาตรการต่าง ๆ อยู่ให้อลวนต่อไป แต่จะเป็นไปแบบพัฒนาการที่ดี

2. จุดข. พระอังคารกาลกิณีจร(3)ที่ราศีเมษยุติการการบีบลัคนาเมืองทางองศาดาวเริ่มประมาณ 14 กุมภาพันธ์ 2564 คำอธิบายคือพระอังคารกาลกิณีจรเดินอยู่ในราศีเมษประมาณ 25 องศา เลยล้ำลัคนาเมืองที่อยู่ราศีเมษประมาณ23-24องศาเศษ คาดว่าสิ่งดี-ข่าวดีเริ่มไหลมาและ

3. จุดค. เริ่มตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 วันที่ผู้เขียนเรียกร้องหนักหนาขอให้คนไทยช่วยกันพาเมืองฝันฝ่าจาก 10 กันยายน 2563 ให้มาถึงวันนี้ให้ได้

ทำอธิบายทางโหรคือพระอังคารกาลิกิณีจรย้ายจากราศีเมษเข้าเดินในราศีพฤษภเริ่ม 24 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น

3.1 พระอังคารกาลกิณีจร เข้าไปเดินราศีพฤษภได้มาตรฐานปรเกษตร-แปลว่าอ่อน-ไม่มั่นคงจึงหมดพิษร้ายเพราะกาลกิณีอ่อนแอ

3.2 พระอังคารกาลกิณีจรดาวประจำชีพเมืองเข้าไปเดินในราศีพฤษภนอกจากได้มาตรฐานอ่อน(ปรเกษตร)แล้วยังได้มาตรฐานราชาโชค หรือโชคของ(จาก)พระราชาจึงนอกจากไทยจะเริ่มได้วัคซีนที่สั่งจากต่างประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2564อย่างที่ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณและคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ.บอกว่าเร็วขึ้นกว่าเดิมจากที่คาดว่าจะได้กลางปี 2564 แล้ว

คาดว่าสิ่งที่พระราชาคือในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงให้สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2552 คือบริษัทสยามไบโอซายส์คงจะเริ่มผลิตวัคซีนใช้เองด้วย

3.3 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 นี่แหละที่ทั้งพระราหูจร 8 (เชื้อโรคเทียม-มาตรฐานนิจเพราะถูกทำให้อ่อนแอ-หมดพลัง-ซึ่งคือวัคซีน) จะได้แสงจากพฤหัสบดีจร 5 (ที่เดินในราศีมังกร) และดาวประจำชีพเมือง (พระอังคารกาลกิกิณีจร3มาตรฐานประเกษตร)ยังได้แสงจากพฤหัสบดีวิทยาศาสตร์การแพทย-บุคลาการทางการแพทย์-ระบบสาธารณสุขไปด้วย

นี่คือลีลาของการเริ่มได้วัคซีนในการดูแลป้องกันคนในเมือง ส่วนผลจะออกอย่างไรเมื่องไหร่นั้นอันที่จริงสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีหรือท่านเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ ได้แย้ม ๆ ไว้ผ่านคุณวันชัย สอนศิริมาบ้างแล้ว

ตอนหน้าผู้เขียนจะได้แกะหลักโหรตามรอยคำทำนายของท่านเจ้าคุณ-อ่านทาง-นำมาเล่าให้ฟังณ.ที่นี้

ฟองสนาน จามรจันทร์

1 มกราคม 2564